คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ - บทที่ 1615
คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1615
แอมโบรสสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วอธิบายอย่างช้า ๆ ว่า “ฝ่ายาท กระหม่อ มเข้าใจดีว่าความปรารถนาของพระองค์คือการยึดครองเก้าแผ่นดินใหญ่ แต่อย่างไรก็ตาม พระองค์เพิ่งขึ้นครองราชย์ได้ไม่นานนัก เรื่องที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการซื้อใจประชาชน กระหม่อมเกรงว่าคนอื่นจะกล่าวหาว่าพระองค์นั้นโหดเหี้ยมอำมหิตเกินไป หากเราทำลายล้างสำนักของจักรวาลโลกลง”
แอมโบรสมองดูปฏิกิริยาของเจ้าศักดินาเคนนี่ก่อนจะพูดต่อ “กระหม่อมปล่อยพวกเขาเพื่อที่จะได้มอบชื่อเสียงที่ดีงามและเมตตากับพระองค์ ยิ่งไปกว่านั้น สำนักเหล่านี้เป็นเพียงแค่กลุ่มมือใหม่ มันจะเป็นงานหมู ๆ ถ้าเราต้องการจะกำจัดพวกมันในอนาคต”
แม้ว่าเขาจะปฏิบัติต่อเจ้าศักดินาเคนนี่เหมือนพ่อแท้ ๆ ของเขาก็ตาม แต่เขาก็ยังไม่สามารถบอกความจริงออกไปได้ว่าเขาสมคบคิดกับเมแกน
สีหน้าของเจ้าศักดินาเคนนี่เปลี่ยนไปหลายครั้งเมื่อได้ยินสิ่งนี้ ก่อนจะพยักหน้าและพูดว่า “หืม… แสดงว่านี่คือสิ่งที่เจ้าคิดอยู่หัวสินะ ไม่เลว ไม่เลวเลย แอมโบรส ใครจะไปคิดว่าเจ้าจะเป็นคนรอบคอบทั้ง ๆ ที่อายุยังน้อยได้ขนาดนี้? ความพยายามของข้าจะไม่สูญเปล่าสินะ”
แล้วเจ้าศักดินาเคนนี่ก็มองอย่างทระนงและพูดว่า “เจ้าพูดถูก ถ้าเราอยากที่จะกำจัดกลุ่มมือใหม่เหล่านี้ เพียงแค่คิดเราก็ทำได้แล้ว”
ภายในจิตใจของเจ้าศักดินาเคนนี่ แดร์ริลคือศัตรูตัวหลัก ส่วนสำนักบู๊ตึ๊ง สำนักเส้าหลิน และสำนักอื่น ๆ พวกเขาเป็นแค่รองลงมาเท่านั้น
“องค์จักรพรรดิทรงหลักแหลม!” แอมโบรสยิ้มอย่างปิติ และถวายบังคมไปพร้อม ๆ กัน
เจ้าศักดินาเคนนี่โบกมือ ก่อนจะยิ้มให้กับแอมโบรส แล้วพูดว่า “เอาล่ะ อย่าพูดถึงเรื่องนี้ดีกว่า! ข้าเพิ่งจะทำงานเสร็จ แล้วก็หิวนิดหน่อยแล้วด้วยตอนนี้ แอมโบรส ทำไมเจ้าถึงไม่ร่วมทานมื้อเย็นกับข้าล่ะ?”
เจ้าศักดินาเคนนี่หันไปมองเอร่า “สาวน้อยผู้นี้ก็ร่วมด้วยได้นะ!”
เธอได้ถูกนับว่าเป็นพวกเดียวกับพวกเขาแล้ว ในเมื่อเธอเป็นเพื่อนกับแอมโบรส
‘อะไรนะ จักรพรรดิชวนฉันร่วมทานมื้อเย็นด้วยงั้นเหรอ?’
เอร่าตกตะลึงไปชั่วขณะ แล้วก็รู้สึกว่าเธอช่างโชคดีอะไรเช่นนี้
เอร่าดึงสติกลับคืนมา ก่อนจะโค้งคำนับด้วยความเคารพและเกรงกลัว “ขอบพระทัยเพคะ ฝ่าบาท…”
ในขณะเดียวกัน แอมโบรสก็รู้สึกมีความสุขมากและตื่นเต้นจนพูดไม่ออก พ่อของเขารักเขามากจริง ๆ เพราะจักรพรรดิไม่เพียงแต่ไม่ตำหนิเขาที่พาเอร่าเข้ามาในวัง แต่ยังปฏิบัติต่อเธอเหมือนเป็นพวกเดียวกับเขาด้วย
เมื่อนึกขึ้นมาได้ แอมโบรสรีบสั่งขันทีที่อยู่ข้าง ๆ ให้เตรียมอาหารเย็นทันที
เอร่าเป็นเด็กสาวที่ช่างเอาอกเอาใจและร่าเริง เธอค่อย ๆ ผ่อนคลายลงเล็กน้อยและไม่รู้สึกถูกข่มเหงเหมือนก่อนหน้านี้ เมื่อสัมผัสได้ถึงแววตาอันแสนใจดีของเจ้าศักดินาเคนนี่
ต้องบอกเลยว่าพวกราชวงศ์นั้นใช้ชีวิตแตกต่างจากขุนนางหรือเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ งานเลี้ยงพร้อมอาหารเลิศรสนานาชนิดก็มาเสิร์ฟในเวลาไม่นาน กลิ่นหอมของอาหารตลบอบอวลฟุ้งไปทั่ว
“มาสิ มา แอมโบรสและสาวน้อย ผ่อนคลายกันสักหน่อยแล้วมานั่งด้วยกัน” เจ้าศักดินาเคนนี่พูดอย่างกระตือรือร้นในขณะที่เขาก็ได้ลดกลิ่นอายอันทรงพลังของเขาลงเล็กน้อย
แอมโบรสและเอร่ามองหน้ากัน และกำลังจะนั่งลง
ปัง! ปัง!
“อ่า…”
เสียงการต่อสู้ดังมาจากข้างนอกพร้อมกับเสียงคร่ำครวญและเสียงกรีดร้อง การต่อสู้นั้นดูค่อนข้างรุนแรง
จากนั้นราชองครักษ์ก็ได้เดินเข้ามาและพูดกับเจ้าศักดินาเคนนี่ด้วยความเคารพ “ฝ่าบาท มีสตรีที่ทรงพลังมากได้บุกรุกเข้ามาในวัง…”
‘อะไรนะ?’
สีหน้าของเจ้าศักดินาเคนนี่เปลี่ยนไปเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขากำลังโกรธมาก!
ใครจะกล้าบุกเข้าไปในพระราชวังในยามดึกเช่นนี้?
พวกเขาช่างไม่มีความเคารพต่อราชวงศ์เอาเสียเลย
ท่าทีของแอมโบรสและเอร่าก็ได้เปลี่ยนไปในเวลาเดียวกัน
แล้วแอมโบรสก็รีบยืนขึ้นและพูดกับเจ้าศักดินาเคนนี่ว่า “เสด็จพ่อ พระองค์อย่าทรงกริ้วไปเลย กระหม่อมจะไปดูเอง!” แล้วเขาก็จากไปอย่างรวดเร็ว
เอร่าไม่ได้คิดอะไรเยอะ แล้วก็รีบตามติดไปเช่นกัน
ในเวลาไม่นาน พวกเขาก็มาถึงลานพระราชวัง พร้อมกับเห็นร่างที่อันทรงเสน่ห์กำลังเหวี่ยงดาบเรียวยาวอยู่กลางอากาศ ร่างกายของเธอนั้นสง่างาม แต่เธอก็มีกลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวเช่นกัน
ผู้หญิงคนนั้นอยู่ในวัยสามสิบสวมเดรสยาวสีน้ำเงินเข้มพร้อมกับบุกลิกลักษณะที่งดงามราวกับนางฟ้าจันทรา!
ผู้พิทักษ์มังกรทองสี่คน พร้อมด้วยราชองครักษ์เป็นร้อยนายกำลังล้อมนางฟ้าคนนี้ไว้เป็นชั้น ๆ แต่ต่างก็ต้องถอยกลับ เพราะการโจมตีที่น่ากลัวของเธอ โดยที่ไม่สามารถเข้าใกล้เธอได้เลย!
ช่างเป็นผู้หญิงที่น่าทึ่งเสียจริง! แม้แต่ผู้พิทักษ์มังกรทองทั้งสี่ก็ไม่ใช่คู่แข่งของเธอ
แอมโบรสแอบตกตะลึงเมื่อเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า และพยายามรับรู้พลังของผู้หญิงคนนี้ แต่ก็ทำได้แค่อ้าปากค้างอย่างช่วยไม่ได้
เธออยู่ในระดับเทพยุทธ์
“คุณแม่…”
เอร่าที่ตามมาด้วยนั้น ตัวสั่นเทาในทันที ด้วยเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้าเธอ ก่อนที่ปิดตาลงและตะโกนออกมาดัง ๆ อย่างช่วยไม่ได้
แล้วเอร่าก็พุ่งตัวไปข้างหน้าอย่างไม่สนใจสิ่งใด
ผู้หญิงที่งดงามคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกเสียจาก ออโรร่า แฮนเซ่น!