คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ - บทที่ 1647
คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1647
ผู้ติดตามก้าวถอยหลังออกมาและพึมพำ “ผมคิดว่าเธอไม่หายใจแล้ว!”
สีหน้าของผู้ติดตามซีดเผือดเมื่อเขาพูดเช่นนั้น
‘อะไรนะ? ตายงั้นเหรอ ?’
ฮันต์ตกตะลึง พร้อมกับรีบเดินเข้าไป แล้วก็พบว่าลิลี่ไม่ขยับและหน้าอกของเธอก็ไม่กระเพื่อมด้วย
ฮันต์ตวาดเสียงดังในวินาทีต่อมา “เวรเอ๊ย ฉันบอกให้แกสั่งสอนบทเรียนให้มัน แล้วแกฆ่ามันทำไม?”
ผู้ติดตามรู้สึกแย่มาก “ใครจะไปรู้ว่าเธอจะดื้อขนาดนี้?”
ทำไมเธอถึงได้ใจแข็งขนาดยอมโดนฟาดจนตายแทนที่จะใช้หนี้คืนขนาดนี้นะ?
ฮันต์รู้สึกสับสน พร้อมกับตะคอกด่าเสียงดังก่อนจะโบกมือ “บัดซบเอ๊ย! รีบขึ้นรถเดี๋ยวนี้เลย!”
ฮันต์ก้าวขึ้นไปในรถก่อนผู้ติดตามของเขาทันทีที่เขาพูดจบ
ฮันต์รู้สึกหวาดกลัวมากในตอนนั้น
มีคนตายก่อนที่เขาจะได้เงินกลับคืนมา ช่างสูญเปล่าเสียจริง!
แต่อย่างไรก็ตาม ในเมื่อพื้นที่อันปลีกวิเวกนี้ไม่ค่อยมีผู้คนมากนัก มันจึงเป็นการกระทำที่ฉลาดมากที่เขาจะรีบออกไปจากที่นี่ในขณะที่ยังมืดอยู่!
ผู้ติดตามคนอื่น ๆ ไม่มัวแต่โอ้เอ้ ขึ้นรถและขับลงเขาไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อฮันต์และคนอื่น ๆ จากไป ก็ได้มีเสียงฝีเท้าดังมาจากป่าที่อยู่ใกล้ ๆ !
ผู้คนหลายสิบคนเดินมุ่งไปทางลิลี่ พวกเขาสวมใส่เสื้อผ้ารัดรูปสีเข้ม ถือพลั่วและค้อนหลากหลายรูปแบบ ในแวบแรกพวกเขาดูเหมือนทีมนักผจญภัย แต่ใบหน้าของพวกเขาดูผิดปกติและเหมือนจะไม่ใช่คนดีสักเท่าไหร่
พวกเขาเป็นผู้บ่มเพาะ แต่พวกเขาไม่มีพลังมากมายนัก พวกเขาส่วนใหญ่อยู่ในระดับปรมาจารย์ยุทธ์l
คนที่เดินนำพวกเขาอยู่เป็นชายสวมหมวกแก๊ปที่ดูมีอายุมากกว่า 30 ปี ดวงตาของเขาเป็นประกายราวกับนกอินทรี และเป็นที่ชัดเจนว่าเขาคือหัวหน้า
ในขณะนั้นเอง ชายที่สวมหมวกก็โบกมือขึ้น “ทุกคนไปพักผ่อนก่อน เราจะตามหาสุสานโบราณกันต่อทีหลัง!”
เขาดูเป็นคนเด็ดเดี่ยวแม้ว่าเสียงของเขาจะไม่ได้ดังมากนัก
“ครับ เจ้าสำนัก” คนที่อยู่ข้างหลังเขาตอบเป็นเสียงเดียวกัน
คนกลุ่มนี้เป็นโจรปล้นสุสาน แต่พวกเขาไม่ใช่โจรปล้นสุสานธรรมดา คนเหล่านี้มีสำนักของตนเองที่มีชื่อว่า สำนักมุสิก
สำนักมุสิกมีประวัติศาสตร์ไม่กี่ร้อยปีในจักรวาลโลก แม้ว่าพวกเขาจะเป็นผู้บ่มเพาะ แต่พวกเขาก็ถูกดูหมิ่นจากสังคมเนื่องจากการกระทำของพวกเขาที่ปล้นสุสาน อิทธิพลของพวกเขาไม่ได้แข็งแกร่ง แล้วก็ไม่ได้เป็นที่รู้จักดีในโลกจอมยุทธ์
ถึงแม้ว่าสำนักมุสิกจะไม่มีอำนาจมากนัก แต่สำนักของพวกเขาก็เข้มงวด หัวหน้าของสำนักคือเจ้าสำนักและมีฮอลล์มาสเตอร์สองสามคนที่อยู่ภายใต้บังคับบัญชาของเขา ชายที่สวมหมวกคือ เวสต์ลีย์ เต็นท์ ซึ่งเป็นหนึ่งในฮอลล์มาสเตอร์ของสำนักมุสิก
พวกเขาได้ยินมาว่ามีสุสานโบราณอยู่ที่เนินเขารกร้างใกล้ทางเหนือของเมืองหยุนโจว เวสต์ลีย์จึงได้นำกลุ่มของลูกศิษย์จำนวนหนึ่งไปที่นั่น ก่อนหน้านี้พวกเขาได้ทำการค้นหารอบ ๆ เนินเขาแล้ว แต่ก็ไม่พบอะไร ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจที่จะหยุดพักก่อน
ในขณะที่ทุกคนกำลังพักอยู่ พวกเขาอดไม่ได้ที่จะเริ่มพูดคุยกัน
“พวกเรายังไม่เจอเบาะแสอะไรเลยหลังจากที่ค้นหามาแล้วครึ่งวัน เป็นไปได้ไหมว่าจะไม่มีสุสานโบราณอยู่น่ะ?”
“ใครจะไปรู้ บางทีมันอาจจะเป็นเพียงแค่ตำนาน…”
เวสต์ลีย์ตวาดอย่างรำคาญเมื่อได้ยินเช่นนั้น “พักผ่อนไปเท่าที่นายจะพักได้เถอะ ทำไมพวกนายถึงได้ส่งเสียงดังกันนัก”
การปล้นสุสานนั้นไม่ใช่สิ่งที่ดีเท่าไหร่ มันคงจะน่าอับอายยิ่งกว่านี้ถ้าหากพวกเขาต้องกลับไปมือเปล่า
ลูกศิษย์หลายสิบคนก็ปิดปากลงทันทีเมื่อเขาพูดออกมาเช่นนั้น
ในตอนนั้นเอง ก็มีคนสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง เขาอดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าและตะโกนว่า “ฮอลล์มาสเตอร์ ตรงนี้มีคนตายอยู่ครับ!”
เวสต์ลีย์และคนอื่น ๆ ตกตะลึงเมื่อได้ยินเช่นนั้นและรีบแห่กันเข้าไปอย่างรวดเร็ว
พวกเขาเห็นร่างผอมบางนอนอยู่ที่นั่น และร่างกายก็เต็มไปด้วยบาดแผลจากการถูกฟาดตี ร่างนั้นเต็มไปด้วยเลือดและไม่ขยับเขยื้อนใด ๆ
เธอคือ ลิลี่