คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ - บทที่ 1649
คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1649
‘นั่นก็เป็นอีกสำนักหนึ่งของผู้บ่มเพาะงั้นเหรอ? ทำไมชื่อฟังดูเพี้ยน ๆ จัง’
ลิลี่ขมวดคิ้วและผงกศีรษะ พร้อมกับพูดว่า “เข้าใจแล้ว!”
จริง ๆ แล้วเธอไม่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของสำนักมุสิก แต่เธอก็เห็นได้ว่าคนเหล่านี้ไม่ใช่คนที่เธอควรจะไปยั่วโมโหสักเท่าไหร่ มันจะเป็นผลดีกับเธอมากกว่าถ้าเธอมีไหวพริบกับเรื่องนี้
เธอเชื่อว่าพวกเขาจะต้องฆ่าเธอถ้าหากเธอปฏิเสธพวกเขา เธออยู่ในที่เปลี่ยวที่ห่างไกลออกไป และถ้าเธอตายไปก็คงไม่มีใครรับรู้ด้วยซ้ำ
เวสต์ลีย์พยักหน้าอย่างพอใจเมื่อเห็นลิลี่เชื่อฟัง เขามองไปรอบ ๆ “เอาล่ะ ฉันว่าพวกเราพักกันพอแล้ว ตามฉันไปดูรอบ ๆ กันอีกครั้งเถอะ”
เมื่อเขาพูดเช่นนั้น เวสต์ลีย์ก็พาทุกคนเดินไปที่ไหนสักแห่งที่อยู่ไม่ไกล
เมื่อตอนที่ลิลี่ฟื้นขึ้นมา ร่างกายของเธอปวดร้าวไปทั้งตัว แต่เธอก็ไม่กล้าพูดอะไรสักคำ เธอทำได้เพียงแค่กัดฟันแล้วเดินตามไปอย่างเงียบ ๆ
ในขณะเดียวกัน ณ ทวีปโมอาน่าตอนเหนือของนิกายเมธาสวรรค์ ทีน่านั่งอยู่ในห้องโถงหลักดินแดนมัจฉาเหมอย่างเงียบ ๆ เธอดูอับอายและคับข้องใจ
ลูกศิษย์ของดินแดนมัจฉาเหมหลายสิบคนที่ยืนอยู่ข้างเธอเองก็ดูไม่พอใจเช่นกัน
แล้วทันใดนั้นเอง ศิษย์ชายคนหนึ่งก็ลุกขึ้นยืนและไม่อาจซ่อนความโมโหที่อยู่ในใจของเขาได้ “ศิษย์พี่ใหญ่! เราอยู่ต่อไปแบบนี้ไม่ได้อีกแล้วนะ นี่ก็สองวันแล้วที่ศิษย์พี่สามคนโดนสั่งให้ไปติดตามจูปาเจี๋ย นี่มันช่างน่าอับอายเสียจริง”
“จูปาเจี๋ยเป็นเพื่อนของท่านประมุข มันจะดีสำหรับพวกเราที่คอยดูแลเขาในฐานะที่พวกเราเป็นลูกศิษย์ ประเด็นหลักอยู่ที่ศิษย์หญิงของนิกายเมธาสวรรค์จะสร้างความบันเทิงให้กับผู้ชายได้ยังไง?”
“ดินแดนอื่น ๆ ทั้งหมดต่างก็หัวเราะเยาะพวกเรา ศิษย์พี่ใหญ่ คุณต้องแก้ไขเรื่องนี้นะ’
ในขณะที่เขาพูดเช่นนั้น คนอื่น ๆ ต่างก็พยักหน้า ทุกคนโมโหอย่างมาก
จูปาเจี๋ยมาอยู่ที่นิกายเมธาสวรรค์ได้สองวันแล้ว
ในช่วงสองวันนี้ ทีน่าจะจัดศิษย์หญิงสามคนให้ไปเฝ้าจูปาเจี๋ยในทุก ๆ วัน ข่าวนั้นได้แพร่กระจายไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่ภายในดินแดนมัจฉาเหมทั้งหมดเท่านั้น แต่ยังแพร่ไปทั่วทั้งนิกายเมธาสวรรค์ด้วย
เฮ้อ!
ทีน่าขมวดคิ้วแน่นและรู้สึกรำคาญอย่างมาก เธอส่ายหัวและพูดว่า “ฉันจะทำยังไงดี? จูปาเจี๋ยเป็นเพื่อนของท่านประมุข พวกเราดินแดนมัจฉาเหมจะไปทำให้เขาโกรธไม่ได้นี่สิ”
เมื่อเธอพูดเช่นนั้น ทีน่าก็รู้สึกหดหู่ใจอย่างมาก
เมื่อไม่กี่วันที่แล้ว พวกเขากำลังฝึกฝนกันบนเกาะต่างแดนอันแสนห่างไกล ท่านปรมาจารย์ถูกวางยาพิษเข้า แม้ว่าแดร์ริลจะช่วยเขาไว้ได้ แต่ท่านปรมาจารย์ก็ยังคงฝึกฝนอยู่คนเดียว เขายังคงไม่รู้สถานการณ์ในตอนนี้ ถ้าเขารู้เข้าเขาคงโกรธมาก
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ เหล่าศิษย์ดินแดนมัจฉาเหมทั้งหมดได้กลายเป็นตัวตลกของนิกายเมธาสวรรค์ ทุกคนพูดถูก จะให้สิ่งนี้ดำเนินต่อไปไม่ได้อีกแล้ว
ในขณะนั้นเอง จู่ ๆ ศิษย์น้องคนหนึ่งก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขาก้าวออกมาข้างหน้าและพูดว่า “ศิษย์พี่ใหญ่! เราทำให้จูปาเจี๋ยขุ่นเคืองไม่ได้ แต่ดาร์เรนเป็นต้นเหตุของเหตุการณ์ครั้งนี้ เราแค่ต้องจัดการเขา”
ทีน่าพยักหน้าเบา ๆ เมื่อได้ยินเช่นนั้น เธอถามว่า “นายกำลังคิดอะไรอยู่?”
ศิษย์น้องถอนหายใจและคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็พูดขึ้นมาอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า “มีทางเดียวที่จะแก้ไขสถานการณ์นี้ได้ เราต้องทำให้ดาร์เรนหายสาบสูญไปตลอดกาล”
‘อะไรนะ? หายสาบสูญไปตลอดกาล?’
ร่างของทีน่าสั่นสะท้านเมื่อได้ยินเช่นนั้น เธอตกใจอย่างมาก เธอจ้องไปที่ศิษย์น้องด้วยสายตาที่ว่างเปล่า “ศิษย์น้อง ความคิดของนายมันชั่วร้ายเกินไป ดาร์เรนเป็นหนึ่งในพวกเราที่อยู่ในนิกายเมธาสวรรค์ ถ้าทำอย่างนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับการฆ่ากันเอง แล้วก็นอกจากนี้เขายังมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับจูปาเจี๋ยด้วย!”
ในตอนนั้นลูกศิษย์คนอื่น ๆ ต่างก็มองหน้ากันและรู้สึกเป็นกังวลใจ
มันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลยหากพวกเขาฆ่าคนในนิกายเดียวกัน
ศิษย์น้องยิ้มออกมาเมื่อเห็นทีน่ารู้สึกเสียขวัญ เขาพูดว่า “ศิษย์พี่ นี่เป็นเพียงวิธีเดียว คุณยังอยากที่จะคุกเข่าและคารวะเขาในฐานะ ‘พ่อ’ ต่อไปอีกเหรอ? แม้ว่าเขาจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับแขกผู้มีเกียรติแค่ไหน เราเพียงแค่ต้องหลีกเลี่ยงแขกผู้มีเกียรติภายหลังจากที่เราจัดการเรียบร้อยแล้ว ตราบใดที่เราวางแผนอย่างรอบคอบ ก็จะไม่มีใครรู้ว่าเรานี่แหละที่เป็นสาเหตุการตายของดาร์เรน”
ใครจะไปยืนเพื่อคุกเข่าและคารวะเขาทุกวันที่เจอหน้าได้กันเล่า?
ทีน่ากัดริมฝีปากของเธอเมื่อได้ยินเช่นนั้น หลังจากที่เธอได้ชั่งใจ ในที่สุดเธอก็พยักหน้า “งั้นก็ตามนี้!”
แล้วทีน่าก็พูดกับคนของเธอว่า “ในเมื่อเราตัดสินใจกำจัดดาร์เรนแล้ว เรามาเริ่มเตรียมตัวกันเลยดีกว่า!”