คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ - บทที่ 1753
คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1753
จูปาเจี๋ยอึ้งไปเมื่อตระหนักได้ว่าหยางเจียนนั้นโจมตีเพื่อที่จะสังหารเขา เขายกมือขึ้นมากางม่านพลังป้องกันอย่างรวดเร็ว
ปัง
วินาทีต่อมาเงาดาบของหยางเจียนก็เฉือนตัดม่านป้องกันอย่างรุนแรง เสียงนั้นดังสนั่นจนแผ่นดินสะเทือนก่อนที่ม่านพลังป้องกันจะแตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
อั่ก
จูปาเจี๋ยกระอักเลือดออกมาคำโตพร้อมกระเด็นถอยหลัง สุดท้ายเขาก็กระแทกเข้ากับกำแพงเมืองและร่วงลงมากองกับพื้น
‘เวร ทำไมพลังของหยางเจียนถึงได้น่าหวาดหวั่นขนาดนี้?’
จูปาเจี๋ยเช็ดเลือดออกจากมุมปากและยืนขึ้น เขาจ้องหยางเจียนพร้อมรู้สึกตกใจไปถึงจิตวิญญาณ
เขาเคยมั่นใจว่าสามารถป้องกันการโจมตีของหยางเจียนได้ เขานั้นเป็นจอมพลแห่งสวรรค์ ซึ่งหมายถึงทั้งตัวเขาและหยางเจียนนั้นมีพลังทัดเทียมกัน
แต่ว่าจักรพรรดิโฮ่วอี้กักขังจูปาเจี๋ยไว้นับพันปี ดังนั้นการบ่มเพาะของเขาจึงล่าถอย
เวลาพันปีผ่านไป พลังของหยางเจียนก็เหนือกว่าจูปาเจี๋ยไปแล้ว
“จูปาเจี๋ย ตายซะ”
หยางเจียนกระโดดขึ้นหลังสุนัขคำรณสวรรค์ ซึ่งดูราวกับเป็นเทพลงมาจากสรวงสวรรค์ กระบี่สองคมสามแฉกในมือหยางเจียนก็ระเบิดพลังขึ้นมาอีกครั้ง และรังสีอันน่าหวาดหวั่นก็พุ่งเข้าใส่จูปาเจี๋ย
‘เวร’
เขาไม่อยากจะสู้ต่อไปอีกแล้วเมื่อตระหนักได้ถึงความแตกต่างของพลังตนเองกับหยางเจียน เขาปล่อยพลังภายในออกมาและโจมตีกลับไปเช่นกันแต่ว่าการโจมตีนั้นใช้พลังของเขาจนหมด
ปัง
การโจมตีและแสงจากดาบนั้นปะทะกัน พลังภายในของจูปาเจี๋ยเกือบที่จะเหือดแห้งไปเพราะการโจมตีนั้น พลังของเขาก็น่ากลัวมาก อากาศรอบด้านบิดเบี้ยวและหยางเจียนเองก็จำต้องถอยหลังเพื่อหลบการโจมตี
ซูม
จูปาเจี๋ยฉวยโอกาสหยิบขวดหยกออกมาอย่างรวดเร็ว เขาปล่อยควันพิษออกมารายล้อมและหนีไป
เขาพกขวดควันพิษติดตัวมาด้วยตลอด เขานั้นมีนิสัยขี้เล่นดังนั้นจึงมักจะมีของแปลก ๆ ติดตัวอยู่ตลอดเวลา เช่นผงเปลี่ยนร่างที่เขาเคยเอาให้แดร์ริลไปใช้เปลี่ยนเป็นโฮ่วอี้ ควันพิษนี้ก็เป็นหนึ่งในบรรดาของพวกนั้น
ควันกระจายไปทุกหนแห่ง หยางเจียนและทหารคนอื่นไม่กล้าที่จะตามจูปาเจี๋ยไป พอควันจางไปแล้วพวกเขาก็ไม่เห็นชายคนนั้นอีกต่อไป
ปัง
หยางเจียนเกรี้ยวกราดมาก เขาชกกำแพงเสียงดัง จูปาเจี๋ยสามารถหนีไปต่อหน้าต่อตาเขาได้ สีหน้าของเขามืดครึ้มลง
“ตามล่าจูปาเจี๋ยซะ จับมาให้ได้ไม่ว่าเป็นหรือตายก็ตาม” หยางเจียนออกคำสั่งอย่างเย็นชา
เขากำหมัดแน่นและโมโหมากจนพูดไม่ออก
เขาเพิ่งได้ครองราชย์เป็นจักรพรรดิคนใหม่ เขานั้นมีพลังแข็งแกร่งแต่ว่าจูปาเจี๋ยก็ยังหนีพ้นเงื้อมมือเขาไปได้
‘ไม่ว่าเจ้าจะไปที่ไหน เจ้าไม่มีทางหนีพ้นข้าได้แน่’
…
ขณะเดียวกันที่คุกในเมืองหลวงของโมอาน่าเหนือ
เซลีนและควีนนี่เพิ่งตื่นขึ้น ดังนั้นฉางเอ๋อก็ไม่สามารถเสียภาพความสูงส่งไปวิ่งไล่ตามแดร์ริลได้อีก
จู่ ๆ บรรยากาศก็อึดอัดขึ้นมา
ฉางเอ๋อมองแดร์ริล เธอนั้นกำลังจะทำสมาธิและพักผ่อนเมื่อได้ยินเสียงความวุ่นวายจากภายนอก มันเอะอะมาก
ฉางเอ๋อรู้สึกรำคาญใจมาก เธอตะโกนออกไป “นี่”
ยามเฝ้าคุกรีบเข้ามาหาเธอ เขาพูดอย่างนอบน้อมว่า “พระมเหสีฉางเอ๋อ มีอะไรให้กระหม่อมรับใช้หรือพะยะค่ะ?”
ทหารยามรู้สึกสับสน
แม้ว่าเธอจะถูกคุมขังอยู่ แต่เธอก็ยังคงเป็นเทพธิดาฉางเอ๋อ เขาก็ไม่กล้าจะอวดดี
“ทำไมข้างนอกถึงได้เสียงดังวุ่นวายนัก? เกิดอะไรขึ้น?” ฉางเอ๋อเลิกคิ้วถาม ริมฝีปากแดงของเธอขยับเล็กน้อยเมื่อเธอเอ่ยถาม เธอนั้นหงุดหงิดมาก
เอ่อ…
ยามยกมือเกาหัว เขารู้สึกงุนงง “กระหม่อมเองก็ไม่ทราบเหมือนกันพะยะค่ะ กระหม่อมจะไปดูพะยะค่ะ”
จากนั้นเขาก็รีบเดินออกไปข้างนอก
ไม่นานนักยามก็วิ่งกลับเข้ามาในคุก เขาเหงื่อแตกท่วมตัว
“พระมเหสีฉางเอ๋อ” เขาปาดเหงื่อออกจากหน้าผากแล้วพูดอย่างสับสน “จูปาเจี๋ยโผล่มา ฝ่าบาทกำลังสู้กับเขาอยู่พะยะค่ะ”