คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ - บทที่ 1784
คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1784
เจ้าศักดินาเคนนี่รู้สึกหงุดหงิดเมื่อได้เห็นเช่นนั้น เขาฟาดมือลงบนบัลลังก์มังกรก่อนที่จะพูดอย่างเย็นชาว่า “เอาล่ะ ทุกคนเงียบ มีแผนไหนที่ได้ผลบ้างไหม?”
พอเขาพูดจบห้องโถงนั้นก็เงียบสงัดลงทันใด
บรรดาเสนาบดีต่างก็ก้มหัวต่ำเมื่อรับรู้ได้ถึงโทสะของเจ้าศักดินาเคนนี่ภและไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ
ตอนนั้นเองแอมโบรสก็เดินเข้ามาหาเจ้าศักดินาเคนนี่ช้า ๆ และประสานมือคำนับเขา “เสด็จพ่อ ลูกมีคำแนะนำ”
“บอกมาเร็ว ๆ แอมโบรส” เจ้าศักดินาเคนนี่ยิ้มและเร่งให้เขาพูด พร้อมกันนั้นก็ไม่ลืมส่งสายตาจ้องเขม็งใส่พวกเสนาบดี
คนพวกนี้ได้รับเงินมาทำงานและมักจะแสดงความจงรักภักดีให้เห็น แต่แม้คำพูดของพวกเขาจะหวานหูและน่าประทับใจ แต่ยามหน้าสิ่วหน้าขวานก็ไม่มีใครสามารถพึ่งพาได้ สุดท้ายก็ต้องลงเอยที่แอมโบรส
แอมโบรสถอนใจและพูดเบา ๆ “ไหน ๆ แดร์ริลก็ไม่มา ทำไมเราไม่เริ่มโจมตีก่อนล่ะ?”
ขณะที่พูดออกมานั้นดวงตาแอมโบรสเต็มไปด้วยแววชั่วร้ายและมืดมน เขาพูดต่อ “ลูกได้ยินมาเมื่อไม่กี่วันก่อนว่ามีปรากฏการณ์ประหลาดเกิดขึ้นในดินแดนมัชฌิม สัตว์เทพกิเลนของสำนักหยาดน้ำฟ้าตื่นขึ้น ตอนนั้นหลายสำนักจากทั้งเก้าทวีปต่างก็ไปรวมตัวกัน และแดร์ริลก็ไปอยู่ที่นั่นด้วย แต่เราไม่มีเบาะแสของเขาหลังจากนั้น”
“จากการคาดเดาของลูก แดร์ริลจะต้องกลับไปที่จักรวาลโลกแน่นอน ดังนั้นลูกจึงอยากขอประทานอนุญาตจากเสด็จพ่อเพื่อไปที่จักรวาลโลกแล้วตามรอยเขา เมื่อลูกหาเขาพบแล้วก็จะพยายามเต็มที่เพื่อที่จะหาทางจับเขากลับมาที่นี่”
แอมโบรสดูมุ่งมั่นมาก
แม้ว่าแดร์ริลนั้นจะเป็นพ่อที่แท้จริงของเขา แต่ว่าชายคนนั้นก็ได้ทอดทิ้งตัวเขาและมารดาไปอย่างไม่ไยดี แดร์ริลถึงกับทำให้แอมโบรสต้องแยกจากมารดาหลายปี ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลใดที่เขาต้องปรานีแดร์ริล
เมื่อทุกคนได้ยินดังนั้นต่อก็ถอนหายใจและมองแอมโบรสอย่างรู้สึกสับสน
‘องค์ชายอยากไปตามล่าแดร์ริลด้วยตัวเองเหรอ?’
‘แดร์ริลเป็นพ่อแท้ ๆ ของเขานะ’
พวกเสนาบดีพากันคิดแต่ไม่มีใครกล้าที่จะเอ่ยปากพูดอะไรออกมาต่อหน้าเจ้าศักดินาเคนนี่
เจ้าศักดินาเคนนี่พยักหน้าและมองแอมโบรสก่อนชื่นชมเขา “ได้สิ ทำอย่างที่เจ้าต้องการเถอะ”
ยามที่พูดเช่นนี้เจ้าศักดินาเคนนี่ก็รู้สึกภาคภูมิใจมาก ‘แม้ว่าแอมโบรสจะไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของเรา แต่เขาก็เป็นเด็กรู้ความ เขานั้นสมควรที่จะได้รับความรักจากเราแล้ว’
เจ้าศักดินาเคนนี่คิดอย่างยินดี ‘แดร์ริล เจ้าอาจจะดีต่อโลกนี้ แต่ว่าไม่มีใครสักคนที่จะยอมสละตัวเองเพื่อเจ้า แล้วเจ้าจะทำอะไรได้? แม้แต่ลูกชายแท้ ๆ ยังตั้งตัวเป็นศัตรูเลย’
เจ้าศักดินาเคนนี่ยิ้มและมองแอมโบรสก่อนโบกมือ “ถ้างั้นก็ไปเถอะ ระวังตัวด้วย”
“พะยะค่ะ เสด็จพ่อ” แอมโบรสตอบและหันหลังออกจากห้องโถงไป
เมื่อการเตรียมการเรียบร้อย แอมโบรสก็นำทหารหลวง 10,000 นายไปจักรวาลโลก ตอนแรกเขาอยากจะไปเพียงลำพังแต่ว่าเจ้าศักดินาเคนนี่นั้นเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของเขา ดังนั้นจึงสั่งให้ทหารติดตามไปด้วย
หลังจากการเดินทางแสนยาวนาน แอมโบรสก็มาถึงชายแดนของจักรวาลโลก จังหวะที่เขาย่างเท้าเข้าไปในดินแดนจักรวาลโลกเขาก็รู้สึกถึงอารมณ์หลากหลาย
ตามหลักการแล้วจักรวาลโลกนั้นคือบ้านเกิดของเขา แต่ดินแดนนี้ช่างดูไม่คุ้นเคยสำหรับเขาเลยสักนิด
แอมโบรสเกาหัวและคิดว่า ‘การนำทหาร 10,000 นายตามเข้าไปน่าจะดึงดูดความสนใจสำหรับฉันเกินไปที่จะทำการสืบสวนในจักรวาลโลก ฉันต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษ ฉันน่าจะไปหาเมแกนก่อน เธอเป็นประมุขสำนักง้อไบ๊และเป็นหัวหน้าพันธมิตรของจักรวาลโลก ที่สำคัญเธอต้องการจะกำจัดแดร์ริลด้วยเหมือนกัน เธอต้องเต็มใจช่วยเหลือแน่’
เมื่อเขาตัดสินใจแผนโจมตีได้แล้ว แอมโบรสก็ให้ทหารของเขาพักผ่อนก่อนที่พวกเขาจะมุ่งไปที่สำนักง้อไบ๊
แอมโบรสนั้นเป็นเด็กที่คิดมากมาตั้งแต่ยังเล็กแล้ว ยิ่งตอนนี้เขาได้ขึ้นเป็นรัชทายาทของเจ้าศักดินาเคนนี่ ความคิดความอ่านของเขาก็พัฒนาจนเป็นผู้ใหญ่มากกว่าคนอายุรุ่นเดียวกันมาก
แอมโบรสและกองทหารหลวงทะยานไปต่ออีกสี่ชั่วโมงก่อนที่จะมาถึงภูเขาของสำนักง้อไบ๊