คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ - บทที่ 1808
คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1808
’ถึงจักรพรรดิโฮ่วอี้จะเสด็จมาที่นี่แล้ว แต่ข้าก็มาพร้อมทหารของเมืองหลวงทั้งหมด ข้าตกอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่แล้ว’ หยางเจียนคิด
เมื่อได้เห็นหยางเจียนคุกเข่าต่อหน้าอยากนอบน้อม แดร์ริลก็รู้สึกสุขใจมาก
‘ฮ่าฮ่า สุดยอดปรมาจารย์เอ้อหลางคุกเข่าให้ฉัน ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้’ แดร์ริลคิด
แดร์ริลกระแอมเพื่อซ่อนความตื่นเต้นก่อนพูดกับหยางเจียนด้วยสีหน้าจริงจังว่า “หยางเจียน กลับไปที่พระราชวังเดี๋ยวนี้ แล้วรอฟังคำสั่งจากข้า”
ขณะที่พูด แดร์ริลก็วางท่าเหมือนพวกราชวงศ์และโบกมือสั่งพวกทหารของโมอาน่าเหนือทั้ง 100,000 นาย “ทหารทั้งหลาย พวกเจ้าต้องเหนื่อยแล้ว จงแยกย้ายและกลับค่ายของพวกเจ้าไปซะ”
เมื่อพูดจบ ทุกคนต่างก็ตกตะลึง โดยเฉพาะพวกจอมยุทธ์ของจักรวาลโลก ทุกคนต่างก็มองหน้ากันอย่างแปลกใจ
‘นี่มันเกิดอะไรขึ้น? เราบุกรุกพระราชวังของโมอาน่าเหนือ แต่จีกรพรรดิโฮ่วอี้กลับไม่โมโห แถมเขายังสั่งให้ทหารถอยทัพ…’
แฟนนี่กัดริมฝีปากขณะมองโฮ่วอี้ที่ลอยอยู่กลางอากาศ ดวงตาของเธอเปล่งประกายและเธอรู้สึกงุนงง
‘จักรพรรดิโฮ่วอี้ไม่โมโหเหรอ? ฉันไม่เคยได้ยินว่ามีความสัมพันธ์ใดระหว่างจักรพรรดิโฮ่วอี้กับจักรวาลโลกเลยนะ นี่มันยากเกินจะเข้าใจแล้ว’
ตอนนั้นแฟนนี่ไม่รู้ว่าคนที่อยู่กลางอากาศไม่ใช่จักรพรรดิโฮ่วอี้แต่เป็นแดร์ริลที่ปลอมตัวมา
เวลาเดียวกันหยางเจียนที่คุกเข่าอยู่ก็กังวลและบอกว่า “ฝ่าบาท คนพวกนี้ยกโขยงกันมาจากจักรวาลโลก พวกเขาไม่ให้เกียรติทวีปโมอาน่าเหนือเลย เราไม่อาจปล่อยพวกเขาไปได้ง่าย ๆ เราถอยไม่ได้พะย่ะค่ะ”
เมื่อเขาพูดจบ บรรดานายพลของทัพโมอาน่าเหนือก็เริ่มพูดบ้าง
“พะย่ะค่ะ ฝ่าบาท เราต้องไม่ยอมอภัยให้พวกคนเถื่อนเหล่านี้”
“เราต้องฆ่าพวกมันเพื่อรักษาชื่อเสียงของโมอาน่าเหนือ”
“พวกกระหม่อมขอร้องพระองค์สั่งให้เราทำลายพวกคนไม่รู้ความนี้ให้สิ้น”
แม่ทัพทั้งหลายต่างก็เริ่มพูดและร้องขอ แดร์ริลแอบนิ่วหน้า ‘คนของทวีปโมอาน่าเหนือนี่จงรักภักดีต่อตักรพรรดิโฮ่วอี้จริง ๆ’
ขณะที่คิดแบบนี้ สีหน้าแดร์ริลก็เปลี่ยนเป็นดำคล้ำ เขาตวาดหยางเจียน “หยางเจียน บังอาจนัก ข้าเป็นจักรพรรดิ ต้องให้เจ้ามาสอนเหรอว่าข้าควรทำเยี่ยงไร? จงไปเดี๋ยวนี้”
แม้ว่าเสียงเขาจะไม่ได้ดัง แต่ก็จริงจังและข่มขวัญ แดร์ริลดูมุ่งมั่นแต่ในใจเขาวิตกมาก คนที่อยู่ตรงหน้าเขาคือสุดยอดปรมาจารย์เอ้อหลางและทุกคนในเก้าทวีปต่างก็รู้ถึงชื่อเสียงเขาเป็นอย่างดี
“พะย่ะค่ะ ฝ่าบาท” หยางเจียนตอบเบา ๆ และล่าถอยไปอย่างไม่เต็มใจ
แม้ว่าหยางเจียนจะยังไม่รู้ว่าเป็นแดร์ริล แต่ตอนนั้นเขาก็รู้สึกได้ว่า ‘จักรพรรดิโฮ่วอี้’ ตรงหน้าเขานี้มีบางอย่างที่ต่างออกไปจากก่อนหน้า
‘เกิดอะไรขึ้น? ด้วยนิสัยของฝ่าบาทหากว่ามีทวีปอื่นมาต่อสู้ด้วย เขาก็จะต้องสั่งให้โจมตีทันที แต่นี่ฝ่าบาทสั่งให้กองทัพถอยและกลับไปที่ค่าย นี่ไม่ใช่แนวทางของพระองค์เลย เป็นไปได้ไหมว่าสมองของพระองค์เสียหายเพราะการแกล้งตายนั่น?’ เขาสงสัย
เมื่อเห็นว่าหยางเจียนก้าวหลบออกไป ใจแดร์ริลก็รู้สึกยินดี ใบหน้าเขาปรากฏรอยยิ้ม
สุดยอดปรมาจารย์เอ้อหลางที่โด่งดังถูกเขาปั่นหัวเล่นเหมือนเด็ก ความรู้สึกนี้มันช่างดีจริง ๆ
แดร์ริลยังคงรู้สึกตื่นเต้น เขามองไปรอบ ๆ และตวาดพวกทหาร “ทำไมพวกเจ้ายังไม่ถอยแล้วกลับค่ายไปอีก? ไม่ฟังคำสั่งข้าอย่างนันรึ?”
ปัง
เมื่อพูดจบ ก็มีพลังแกร่งกล้าระเบิดออกจากร่างแดร์ริลและพุ่งเข้าหาทุกคน
ปัง ปัง
เมื่อรู้สึกได้ถึงโทสะของฝ่าบาท บรรดาทหารต่างก็คุกเข่าอย่างเงียบงัน พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะหายใจดัง
เวลาเดียวกันแม่ทัพทั้งสิบต่างก็ปาดเหงื่อเย็นออกจากหน้าผากและตอบพร้อมเพรียงกัน “พะย่ะค่ะ ฝ่าบาท”
เมื่อพูดจบ บรรดาแม่ทัพต่างก็รีบลุกขึ้นและนำทหารกลับไปค่าย ไม่นานพวกเขาก็จากไปโดยไม่เหลือหทารเหลืออยู่เลยสักนาย
หยางเจียนเมื่อได้เห็นเช่นนี้ก็รู้สึกวิตกกังวล แต่พอเห็นสีหน้าเย็นชาและเคร่งขรึมของแดร์ริลเขาก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก แต่ว่าความสงสัยในใจกลับแรงกล้าขึ้นเรื่อย ๆ
‘ฝ่าบาทมีแผนการอะไรกัน? เราสามารถฆ่าพวกคนจากจักรวาลโลกนี้ได้ง่าย ๆ แต่เขากลับทิ้งโอกาสนี้ไป…’ เขาคิด