คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ - บทที่ 1827
คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1827
พวกเขาสังเกตเห็นว่าหลุมโพรงที่พวกเขาตกลงมามีขนาดใหญ่มหึมาอย่างมากและวงกว้างรอบตัวพวกเขานั้นขยายกว้างออกไปราวกับว่าไม่มีที่สิ้นสุด
‘บ้าจริง ด้านล่างของภูเขากาลีนี้เป็นโพรงกลวงจริง ๆ งั้นเหรอ?’
ตอนนี้แดร์ริลและฉางเอ๋อยืนอยู่ตรงนั้นอย่างงุนงงและรู้สึกตกตะลึงอย่างมาก ในเวลาเดียวกันนั้นเอง พวกเขารู้สึกได้ว่าหลุมนี้เต็มไปด้วยพลังวิญญาณที่แข็งแกร่ง
ไม่เพียงแค่นั้น ที่นี่ยังมีเสาหินขนาดใหญ่มหึมาตั้งตระหง่านอยู่ไม่ไกลจากตรงนั้น เสาหินเหล่านั้นสูงอย่างน้อยหนึ่งร้อยเมตรและดูเหมือนจะมีอักษรเขียนไว้อยู่ แต่มันถูกกัดเซาะจากสภาพอากาศเป็นเวลานานและได้เลือนหายไปตามกาลเวลา
นี่น่าจะเป็นสุสานโบราณ
แดร์ริลคิดย้อนกลับไปเกี่ยวกับประสบการณ์ครั้งก่อนที่เขาเข้าไปในสุสานโบราณของลิโป้ในตอนที่สังเกตเห็นเช่นนั้น หลุมฝังศพโบราณของลิโป้มีความสง่างามมากประมาณหนึ่งแล้ว แต่สถานที่แห่งนี้นั้นยิ่งใหญ่กว่าของลิโป้ถึงสิบเท่า และอาจจะถึงร้อยเท่าหรือมากกว่านั้น
‘บ้าจริง’
ตอนนี้แดร์ริลรู้สึกตื่นเต้นแต่ก็ตื่นตระหนกมากเช่นกัน
แม้แต่ลายลักษณ์อักษรบนเสาหินก็ยังเลือนหายไปเช่นนี้ สุสานโบราณนี้ต้องอยู่มานานกว่า 10,000 ปีแน่ ๆ
“พระมเหสีฉางเอ๋อ!”
ตอนนี้แดร์ริลอดไม่ได้ที่จะถามว่า “พระองค์นั้นช่างเป็นผู้รอบรู้ ท่านรู้ไหมว่านี่คือสถานที่อะไร?” แดร์ริลมองไปที่เสาหินที่ใกล้ที่สุดตอนที่เขาถามออกมา ลายลักษณ์อักษรนั้นโบราณมากจนเขาไม่อาจรู้จักมันได้
ฉางเอ๋อพูดด้วยความขยะแขยง “ข้าจะไปรู้ได้อย่างไรล่ะ”
สีหน้าของเธอดูสงบนิ่งเมื่อพูดออกมาเช่นนั้น แต่ในใจของเธอกลับรู้สึกตกใจจนยากที่จะอธิบายออกมาได้
ใช่แล้ว ฉางเอ๋อจำลายลักษณ์อักษรบนเสาหินนั้นได้เพราะเธอมีชีวิตอยู่มาหลายพันปีแล้ว แต่เธอก็ไม่อาจรู้ได้อย่างแน่ชัดว่าสถานที่แห่งนี้คืออะไร
‘เฮ้อ!’
แดร์ริลถอนหายใจออกมาเบา ๆ เมื่อสัมผัสถึงความไม่ชอบใจอย่างรุนแรงของฉางเอ๋อ ในขณะที่เขายิ้มและพูดว่า “ไปสำรวจกันเถอะพะยะค่ะ ไหน ๆ ก็มาอยู่ที่นี่แล้ว”
แดร์ริลกำลังจะก้าวมุ่งหน้าออกไปก่อน
“ช้าก่อน”
เขาเพิ่งจะก้าวเดินออกไปได้สองก้าวเมื่อฉางเอ๋อตะโกนมาจากข้างหลังเขา เสียงของเธอไม่ดังมาก แต่มันคือการออกคำสั่ง
แดร์ริลหยุดเดินแล้วหันหน้ากลับมามองฉางเอ๋อ แต่ก็มองเห็นเพียงแค่เธอที่หน้าแดงก่ำพร้อมกับกัดริมฝีปากอย่างแรง เธอดูน่าดึงดูดอย่างมาก
“กระหม่อมจะช่วยพระองค์ได้อย่างไรบ้างพะยะค่ะ พระมเหสีฉางเอ๋อ?” แดร์ริลยิ้มและเปิดปากของเขา
“เจ้าไม่เห็นหรอว่าข้าเท้าแพลง” ฉางเอ๋อถามห้วน ๆ “คลายจุดสกัดของข้าเดี๋ยวนี้ และให้ข้าได้รักษาขาตัวเองก่อนที่จะไปสำรวจ”
แดร์ริลยิ้มและส่ายหัวเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ “กระหม่อมเกรงว่าจะไม่สามารถทำเช่นนั้นได้พะยะค่ะ จะเป็นอย่างไรถ้าพระองีทรงฆ่ากระหม่อมลงในทันทีหลังจากที่กระหม่อมคลายจุดสกัดของพระองค์ล่ะพะยะค่ะ? ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วกระหม่อมจะทำอย่างไร? ไม่ใช่ว่ากระหม่อมกำลังรนหาที่ตายหรอกเหรอเพราะกระหม่อมไม่ได้แข็งแกร่งเท่าพระองค์?”
ฉางเอ๋อก็กระวนกระวาย “ไม่ต้องกังวล ข้าจะซื่อสัตย์ต่อคำพูดของข้าและจะไม่ฆ่าเจ้า คลายจุดสกัดของข้าเร็วเข้า”
“พระมเหสีฉางเอ๋อ!”
แดร์ริลยิ้มและส่ายหัวก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า “ไม่ใช่ว่ากระหม่อมไม่ไว้ใจพะรองค์หรอกพะยะค่ะ แต่กระหม่อมเป็นคนที่ระแวดระวังมาตลอด ได้โปรประทานอภัยให้กระหม่อมด้วยพะยะค่ะ กระหม่อมจะช่วยพระองค์คลายจุดสกัดในตอนที่เราพบศิษย์พี่ซู่หรงและคนที่เหลือแล้ว”
‘เจ้าคนหยาบคายไร้ยางอายคนนี้’
ฉางเอ๋อหน้าซีดเผือด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เมื่อเห็นความจริงจังของแดร์ริล ในที่สุดเธอก็คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดเบา ๆ ว่า “ถ้าเป็นเช่นนั้น เจ้าช่วยพยุงข้า…”
ใบหน้าของฉางเอ๋อเปลี่ยนเป็นเย็นชาไปโดยปริยายเมื่อเธอพูดออกมาเป็นเช่นนั้น
ในใจของเธอ การที่คนหยาบคายอย่างแดร์ริลกำลังจะได้พยุงเธอถือจะเป็นเกียรติสูงสุดของเขา
แต่แดร์ริลอดไม่ได้ที่จะตำหนิในทันทีหลังจากคำพูดของเธอ “พระมเหสีฉางเอ๋อ พระองค์คงพูดเป็นเล่นสินะ สถานที่แห่งนี้ใหญ่มาก เราจะต้องใช้เวลานานแค่ไหนกันเชียวหากกระหม่อมจะต้องคอยพยุงท่านไปด้วย?”
แววตาของแดร์ริลมีความเจ้าเล่ห์อยู่เมื่อเขาพูดเช่นนั้น
ใช่แล้ว เขาพูดเช่นนั้นเพื่อจงใจกลั่นแกล้งฉางเอ๋อ มันไม่ใช่ปัญหาอะไรเลยในการที่เขาจะช่วยเธอ แต่ใครขอให้เธอดูถูกเขากันล่ะ?
“ถ้างั้น…”
ในขณะนั้นเองฉางเอ๋อรู้สึกขัดแย้งในใจพร้อมกับกัดริมฝีปากอย่างแรงอย่างกับว่ากำลังฝืนที่จะพูดอะไรบางอย่างออกมา เธอเหลือบมองแดร์ริลก่อนจะก้มหน้าลง “ถ้างั้นทำไมเจ้าไม่… อุ้มข้าล่ะ?”