คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ - บทที่ 222
“นายตั้งราคาสูงเกินไปเพียงเพราะผู้หญิงคนนั้นยังอายุน้อยไม่ได้หรอกนะ”
มิจฉาชีพทั้งสองไม่ได้กังวลกับการพูดคุยกันของฝูงชนเลย
พวกเขาเป็นโจรมืออาชีพ พวกเขาเตรียมทุกอย่างไว้อย่างดี ใบรับรองนั่นอาจเป็นของปลอม แต่แจกันนั่นเป็นวัตถุโบราณจากราชวงศ์หยวนจริง ถึงแม้พวกเขาจะจ่ายไปแค่พันเหรียญเพื่อซื้อมันตามที
ทั้งสองจงใจเลือกจะลงมือกับคนที่มีรถหรู พวกเขาวางกระเป๋าไว้ข้างหลังของรถแล้วรอให้คนขับมาชนมันเข้าตอนที่พวกเขาถอยรถ จากนั้นพวกเขาก็จะปรากฏตัวแล้วกล่าวหาว่าคนขับรถชนแจกันของพวกเขา
คนขับรถคงขมขื่นใจหากรู้เรื่องนี้
“เธอไม่เชื่อว่ามันมีมูลค่าสองล้านเหรียญจริง? มีใครในวงการวัตถุโบราณที่นี่บ้าง? เข้ามาตัดสินใจได้เลยว่าพวกเราโกหกหรือเปล่า” ชายร่างผอมมองผ่านกลุ่มคนแล้วกล่าวอย่างมั่นใจ
“ฉันทำงานในพิพิธภัณฑ์เมืองตงไห่ ฉันดูมันได้”
ชายวัยกลางคนสวมแว่นกรอบทองเข้าไปหาพวกเขาแล้วแสดงบัตรพนักงานให้ดู
ฝูงชนพลันเงียบลงทนัที
ชายวัยกลางคนหยิบเศษเครื่องดินเผาขึ้นมาแล้วพิจารณามัน จากนั้นเขาก็หันไปหาชายร่างอ้วนแล้วกล่าว “คุณรู้ไหมว่าแจกันนี้มาจากสมัยราชวงศ์ไหน?”
“แน่นอน มันเป็นเครื่องชามในพระราชวังจากสมัยราชวงศ์หยวน” ชายร่างอ้วนกล่าวโดยไร้ซึ่งความลังเล
ชายวัยกลางคนพยักหน้า “ถูกต้อง มันเป็นเครื่องชามหลวงจริง ๆ แจกันหลวงนี้มาจากสมัยราชวงศ์หยวนจากร่องรอยของอายุมัน รูปแบบของแจกันนี้ก็ดูลักษณะสำคัญ องค์ประกอบมีความสมบูรณ์และเป็นชั้น แต่ไม่ยุ่งเหยิง มันเรียบง่ายและสง่างามกว่าเครื่องชามจากราชวงศ์ถังและซ่งมาก”
เขายกเศษเครื่องดินเผาขึ้นด้วยมือเพื่อให้กลุ่มคนตรวจดูมันในขณะที่เขากล่าวต่อ “นี่ ดูนี่สิ รูปแบบหนา ๆ นี่ ที่แสดงบนเครื่องชามหลวงนั้นเกิดจากการลากเส้นที่แข็งแรงแต่ลื่นไหล ผมกล้ายืนยันเลยว่าเครื่องชามดินเผานี้มาจากสมัยราชวงศ์หยวน และมันควรมีมูลค่าสองล้านเหรียญ!
ฝูงชนอ้าปากค้างทันทีที่พวกเขาได้ยิน
มันเป็นเครื่องชามหลวงจากราชวงศ์หยวนจริง
ฝูงชนหันสายตาไปที่ดอร่าหลังจากได้ยินการเปิดเผย
‘สาวน้อยผู้เลินเล่อคนนี้ซวยแล้วที่ไปทำแจกันแตก’
ดอร่าตะลึงสุด ๆ และกำลังจะร้องไห้ “ฉันไม่มีเงินเลย ฉันเป็นแค่นักศึกษา และฉันก็ทำงานเป็นคนขับรถ นี่เป็นรถของเจ้านายของฉัน”
เธอกังวลว่าสองคนนี้จะไม่เชื่อเธอ เธอจึงนำบัตรนักษึกษาออกมาแล้วส่งให้พวกเขาดู “บางทีฉันอาจทำสัญญากู้หนี้แล้วจ่ายคืนเป็นงวดได้ไหม? ฉันสามารถนำบัตรนักศึกษาของฉันไปจำนำได้”
มิจฉาชีพทั้งสองมองหน้ากันก่อนที่จะส่ายหัวอย่างพร้อมเพรียง
สัญญากู้หนี้? ไม่มีทาง!
พวกเขาจะหนีทันทีที่ได้เงิน ไม่มีทางที่พวกเขาจะต้องการสัญญากู้หนี้!
“เราจะเอาบัตรนักศึกษาของเธอไปทำอะไรได้? เธอบอกครอบครัวของเธอให้นำเงินให้เราก็ได้ถ้าเธอไม่มี” ชายร่างผอมกล่าวอย่างไม่สนใจแล้วดันบัตรนักศึกษาออกไป
ชายอ้วนกล่าว “เราไม่ได้จะแบล็คเมลเธอหรอกนะ ทุกคนก็กำลังมองพวกเราอยู่เหมือนกัน! อย่าทำให้มันยากสำหรับพวกเราทั้งสองเลย เงินไม่ได้ออกมาจากต้นไม้นะ เราเองก็เสียใจที่แจกันของพวกเราแตก”
ดอร่าตอบไม่ถูก เธอกัดริมฝีปากของเธอในขณะที่น้ำตาเริ่มไหล
เธอจะไปนำเงินสองล้านมาจ่ายพวกเขาจากไหนกัน?
แดร์ริลทนยืนอยู่ข้าง ๆ ไม่ไหว เขาเดินออกมาสองก้าวแล้วยิ้มพร้อมกล่าว “เอาล่ะ พวกนายหยุดแสดงได้แล้ว”
พวกมิจฉาชีพนี่ไม่มีคุณธรรมเอาซะเลย
พวกเขาไม่ยอมให้เด็กสาวคนนี้ไปแม้ว่าเธอจะเป็นนักศึกษาจน ๆ
“แกเป็นใครวะ?!”
มิจฉาชีพโกรธและด่าเขา
แดร์ริลยังคงรอยยิ้มอ่อนบนใบหน้าในขณะที่ก้าวไปข้างหน้าอีก เขาเมินทั้งสองไป เขาหยิบเศษเครื่องดินเผาออกจากกระเป๋าแล้วกล่าวอย่างสุขุม “ฉันยอมรับว่าทักษะการแสดงของพวกนายไม่เลว แต่ชั้นเชิงการต้มตุ๋นของพวกนายมันน่ารังเกียจเกินไปหน่อย”
แดร์ริลเดินไปด้าหน้าชายวัยดลางคนผู้ซึ่งอ้างว่าตัวเองเป็นพนักงานของพิพิธภัณฑ์แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “คุณพูดถูก มันเป็นเครื่อชามหลวงจากสมัยราชวงศ์หยวนจริง แต่คุณเพียงแค่ดูมันจากผิวนอก คุณไม่ได้ดูมันให้ลึกไปกว่านั้น ให้ผมสอนคุณสักบทเรียนว่าต้องดูวัตถุโบราณยังไงแล้วกัน”
ชอว์น ลาร์สัน คิดว่าแดร์ริลนั้นน่าขัน มันเป็นครั้งแรกที่มีใครบางคนเสนอจะสอนวิธีดูวัตถุโบราณหลังจากที่เขาทำงานในพิพิธภัณฑ์มา 20 ปี
ภรรยาของชอว์นหัวเราะเบา ๆ แล้วกล่าว “หนุ่มน้อย นี่เธอพยายามจะสอนสามีของฉันในการตรวจดูวัตถุโบราณงั้นเหรอ?”