คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ - บทที่ 52
บทที่ 52
แดร์ริลมุ่งหน้ามาที่ตำหนักไข่มุกหลังจากได้วางสาย
ทันทีที่เขาลงมาจากรถ ภาพที่เขาเห็นคือฝูงชนจำนวนมากด้านหน้าตำหันกไข่มุก คนที่ผ่านไปมาก็ดูจะให้ความสาใจเช่นกัน
เมื่อแดร์ริลเดินเข้าไป เขาก็เห็นเจ้าของร้านวัตถุโบราณร้านข้างเคียงกำลังพูดคุยด้วยความดุเดือด
“นี่มันต้องเป็นของปลอมแน่!”
“ใช่ มันดูเหมือนของปลอมเลย!”
เมื่อแดร์ริลเดินผ่านฝูงชนเข้ามาในร้าน เขาก็เห็นชายหัวล้านยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์โดยมีแจกันดินเผาในอ้อมแขน เขาดูเหมือนว่าจะต้องการขายแจกัน ในขณะที่คนรอบตัวของเขาต่างตั้งข้อสงสัยว่าของชิ้นนี้เป็นของจริงหรือไม่
คนตรงหน้าของชายหัวล้านคืออีวอน ยัง, ปีเตอร์ วิลเลียม และชายวันกลางคนอีกคนหนึ่ง
ชายวัยกลางคนนั้นสวมชุดจีนดั้งเดิมพร้อมแว่นตาหนึ่งคู่ ดูไปแล้วมีรูปลักษณ์คล้ายปรมาจารย์ เขาคือพ่อของอีวอน คิงส์ตัน ยัง เขาคือหัวหน้าของตระกูลยัง เป็นผู้ค้าวัตถุโบราณที่โด่งดังที่สุดในเมืองตงไห่! คิงส์ตันจ้องไปที่แจกัน
และยังมีอีกคนที่ดูคุ้นตาในฝูงชน
เธอคือเอลซ่า ลินดัน!
“ทำไมเธอมาอยู่ที่นี่ด้วยล่ะเนี่ย?”
แดร์ริลกำลังสงสัยในเรื่องนั้น แต่เมื่อคิดได้ว่า ตระกูลลินดันและตระกูลยังนั้นสนิทชิดเชื้อกัน เพราะฉะนั้นเอลซ่าจึงอาจจะมาที่นี่เพื่อไปเที่ยวกับอีวอน
ในขณะที่แดร์ริลคิด เขาก็แอบมองเอลซ่าด้วย
เอลซ่านั้นเป็นหญิงสาวที่งดงาม
และด้วยความงดงามนั้น เธอจึงยังคงงดงามไม่ว่าจะสวมใส่อะไร! เอลซ่าใส่ชุดเดรสสีไวน์แดงที่มีสายถักคล้องคอและทำผมถักเปีย เธอไม่ใช่แค่เพียงเซ็กซี่และมีเสน่ห์ แต่เธอยังสง่าและมีระดับ
เอลซ่าเองก็ประหลาดใจที่พบแดร์ริลเช่นกัน
“ทำไมเขามาอยู่ทีนี่?”
‘เขามาที่นี่เพื่อหาเรื่องสนุกดูเหรอ?’
เอลซ่าพลันนึกไปถึงตอนที่แดร์ริลกล่าวถึงกำไลที่เธอให้คุณย่าตอนวันเกิดของเธอ โดยอะไรบางอย่างนั้น จึงทำให้เธอสนใจแดร์ริล
อย่างไรตาม แม้ทั้งสองจะเคยพบกัน แต่ก็ไม่ได้สนิทกันนัก ดังนั้น เอลซ่าจึงเพียงแค่คิด แต่ไม่ได้เข้าไปทักทายแดร์ริล
คิงส์ตันประเมินดูแจกันในมือของชายหัวล้าน ทุกคนรอบ ๆ ชูคอของตัวเองเพื่อดูมัน ทุกคนเงียบลงเพราะกำลังให้ความสนใจกับมันมาก บรรยากาศเริ่มเข้มข้นขึ้น
แม้แต่เจ้าของร้านวัตถุโบราณคนอื่นยังต้องกลั้นหายใจ
ในฐานะของหัวหน้าตระกูลยัง คิงส์ตันนั้นเป็นบัณฑิตที่ประสบความสำเร็จในวงการวัตถุโบราณ เขาอยู่ในระดับปรมาจารย์ ใครจะกล้าไปอวดดีใส่เขากัน?
“เครื่องปั้นดินเผาของคุณมีความงดงามในรูปร่างของมัน รวมถึงมีเนื้องานที่ดี แต่จากรูปทรงและการออกแบบ ผมเองก็บอกไม่ได้ว่ามันเป็นสิ่งประดิษฐ์โบราณจากยุคไหน” คิงส์ตันตรวจสอบเครื่องปั้นอยู่ช่วงหนึ่งก่อนจะส่ายหัวและกล่าวกับชายหัวล้าน
สายตาของชายหัวล้านฉายแววหลักแหลม เขายิ้ม “ตระกูลยังเป็นตัวตนสำคัญของวงการวัตถุโบราณ คุณจะบอกผมว่า แม้แต่ผู้จัดการยังเองก็ยังไม่สามารถประเมินแจกันดินเผานี้ให้ผมได้? ได้โปรดอย่าหลอกผมเลย”
คิงส์ตันยิ้มจาง ๆ เครื่องปั้นดินเผานั้นเริ่มเกิดขึ้นในสมัยราชวงศ์ฮั่นและได้เติบโตผ่านยุคสมัยกว่าห้าราชวงศ์ จนมาถึงราชวงศ์ถัง มันไม่ใช่ก่อนราชวงศ์ชิงในเมื่องานฝีมือมันดูซับซ้อนขนาดนี้ ก่อนสมัยราชวงศ์ชิง งานเครื่องปั้นส่วนใหญ่ล้วนเป็นงานดั้งเดิมและเรียบง่าย จนมาถึงราชวงศ์ฉิง รูปแบบของมันจึงเรียบซับซ้อนและงดงาม”
“แจกันที่คุณมีนั้นดูเรียบง่ายและเป็นธรรมชาติ มันดูเหมือนมาจากสมัยราชวงศ์ถังและราชวงศ์ซ่ง แต่สีเคลือบนั้นดูฉูดฉาดจนเกินไป มันดูเหมือนงานของราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ฉิง และที่ก้นทรงวงรีนั้นก็ดูเหมือนงานจากตะวันตก…”
ในตอนนั้นริมฝีปากของคิงส์ตันก็เผยอยิ้มขึ้น “แม้ว่าแจกันของคุณจะงดงามและเนื้องานดีมากก็ตาม แต่กระนั้นผมก็ไม่สามารถแยกได้ว่ามันมาจากยุคไหน จากการพินิจพิเคราะห์ของผม ผมสามารถบอกได้ว่านั่นเป็นงานที่ถูกทำขึ้นใหม่ ผมต้องบอกเลยว่าช่างฝีมือที่สร้างงานนี้มีฝีมือมากเลยทีเดียว”
เมื่อคิงส์ตันกล่าวจบ ทุกคนก็มองเขาด้วยความชื่นชม
“เห็นด้วย ผู้จัดการยังช่างมีความรู้”
“ถูกต้อง! ตอนแรกฉันไม่มั่นใจ แต่พอฟังที่ผู้จัดการยังพูด ก็ต้องยอมรับว่าเป็นแบบนั้นจริง”
“ไม่ง่ายเลยที่จะได้เห็นผู้จัดการยังแสดงฝีมือ ฉันได้รับความรู้วงในมากที่เดียวในวันนี้” คิงส์ตันดีใจที่ได้รับคําชมมากมายจากเหล่าเจ้าของร้านวัตถุโบราณ อีวอนนั้นตะลึงเมื่อเธอเห็นชายหัวล้านที่นําแจกันดินเผาเข้ามาในตําหนักไข่มุก เจ้าของร้านวัตถุโบราณหลายคนนั้นไม่สามารถตัดสินได้ว่าแจกันนั้นเป็นของจริงหรือปลอม ดังนั้นอีวอนจึงรีบตัดสินใจที่จะโทรหาแดร์ริลและพ่อของเธอ ชายหัวล้านยิ้มอย่างซุกซนหลังจากได้ยินการตอบสนองของคิงส์ตัน “ในเมื่อผู้จัดการยังกล่าวว่าแจกันนี้ไม่ใช่งานยุคโบราณแต่เป็นงานสมัยใหม่ จากศตวรรษนี้ ผมขอถามได้ไหมว่าคุณรู้รึเปล่าว่าช่างปั้นดินเผาคนใดที่ทํางานศิลป์ชิ้นนี้?” “อืม…” คิงส์ตันคิ้วขมวด เขาตัดสินใจไม่ได้ จากนั้น แดร์ริลก็เดินเข้ามา “บางที ผมอาจจะดูมันได้นะ?” ทุกคนถึงกับตะลึงเมื่อได้ยินแบบนั้น “เจ้าหนุ่ม นายแค่โชคดีครั้งที่แล้ว นีนายจะมาปวนที่มีอีกแล้วเหรอ?” “ผู้จัดการยังได้บอกไปชัดเจนแล้ว ทําไมนายถึงต้องประเมินมันซ้ําอีก?” “ใช่ ออกไปซะ อย่าทําให้ตัวเองขายหน้า” เจ้าของร้านวัตถุโบราณทั้งหลายหัวเราะออกมาเสียงดัง เจ้าหนุ่มนี้เป็นอะไรของเขา? ผู้จัดการยังได้ข้อสรุปแล้ว แต่เขาดันอยากจะพูดอะไรบางอย่าง? นี้เขาตั้งคําถามกับคําตัดสินของผู้จัดการยังเหรอ?”