คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ - บทที่ 546
คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 546
ขณะแดร์ริลกล่าว เขาก็คุกเข่าลงและโขกหน้าผากลงกับพื้นซ้ำไปซ้ำมา ในชั่วพริบตาหน้าผากของเขาก็เริ่มมีเลือดไหล แต่เขากลับไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดใด ๆ
โซรันรู้สึกสงสารแดร์ริลและรีบรั้งเขาไว้ เขาหันกลับไปมองที่อีวอนและห้ามตัวเองไม่ได้ที่จะงวยงง
โซรันมองไปที่อีวอนด้วยความตกใจและไม่เชื่อสายตา “พลังจิตวิญญาณของสาวน้อยคนนี้ถูกดูดออกไปใช่ไหม?”
“พ่อทูนหัว มันพอจะมีทางช่วยชีวิตเธอไว้ได้ไหมครับ?” แดร์ริลวิตกกังวลขณะเขากล่าวถามในท่าทีมีความหวัง!
สีหน้าของโซรันไม่สบายใจขณะเขากล่าวอย่างเคร่งขรึม “มีข่าวลือเกี่ยวกับวิชามารเมื่อหลายศตวรรษก่อนเรียกว่าวิถีแห่งด้านมืด หลังจากบรรลุการบ่มเพาะแล้วผู้ที่ฝึกวิชานี้จำเป็นจะต้องดูดซับพลังจิตวิญญาณของใครอีกคนหนึ่ง หรือว่าสาวน้อยคนนี้ได้รับบาดเจ็บจากวิชามาร?”
โซรันอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจและกล่าวต่อ “วิชามารนี้ร้ายกาจมาก เมื่อพลังจิตวิญญาณของใครก็ตามถูกดูดซับไป พวกเขาจะหมดเรี่ยวแรงและขยับเข้าใกล้ความตายอย่างรวดเร็ว ไม่มีใครสามารถจะช่วยพวกเขาได้”
อะไร?
แดร์ริลตัวสั่นสะเทือน ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงในทันทีขณะที่เขาร้องไห้และคุกเข่าลงกับพื้น “ได้โปรดพ่อทูนหัว คุณต้องหาวิธีให้ได้ ผมขอร้อง…”
โซรันรู้สึกหมดหนทางขณะเขาพยุงตัวแดร์ริลลุกขึ้น “แดร์ริลฉันไม่มีอะไรที่จะช่วยเหลือนายได้ มันไม่มีทางที่จะมีชีวิตรอด หลังจากโดนดูดซับพลังจิตวิญญาณออกไปหมด ดูจากสภาพของสาวน้อยคนนี้ฉันคาดคะเนได้แค่ว่าเธอจะอยู่ไม่ถึงคืนนี้ ฉันคิดว่า… นายควรเตรียมใจให้พร้อมในตอนที่เธอจากไป”
ตุ้บ!
ในขณะนั้น แดร์ริลรู้สึกราวกับว่าเขาสูญเสียเรี่ยวแรงทั้งหมดของเขาไปและฟุบลงกับพื้นอย่างหดหู่
แม้กระทั่งพ่อทูนหัวของเขาก็ไม่สามารถช่วยชีวิตอีวอนได้ ถ้าถึงอย่างนั้นมันก็ไม่มีทางแก้ไขอะไรได้จริง ๆ
ในขณะนั้น อีวอนแทบจะขยับปากไม่ได้แต่เธอก็พยายามฉีกยิ้ม “แดร์ริล… ฉันรู้สึกเหนื่อยนิดหน่อย ฉันอยากจะพักสักเดี๋ยว”
แดร์ริลรู้สึกมีอะไรมาติดอยู่ในลำคอและพยักหน้ากล่าว “โอเค ผมจะพาคุณไปที่ห้องเพื่อพักผ่อน” จากนั้นเขาก็อุ้มอีวอนไปหลังจากกล่าวจบประโยค
โซรันก็ร้องเรียกแดร์ริลในทันที เมื่อเขาเดินไปใกล้ทางเข้าของห้องโถง “แดร์ริล อยู่เป็นเพื่อนเธอ ถามเธอว่ามีความปรารถนาอะไรที่ยังไม่สำเร็จรึเปล่า…”
โซรันรู้สึกเสียใจก่อนจะกล่าวจบประโยคและทำได้เพียงแค่ถอนหายใจ
แดร์ริลพยักหน้าอย่างเงียบ ๆ และอุ้มอีวอนขึ้นไปที่ห้องของเขา
เมื่ออยู่ในห้อง แดร์ริลวางตัวอีวอนลงบนเตียงอย่างนุ่มนวลและห่มผ้านวมให้เธออย่างระมัดระวัง
มีรอยยิ้มปรากฏอยู่บนใบหน้าอันซีดเซียวของอีวอนขณะที่เธอจับมือแดร์ริล
“แดร์ริล คุณยังจำตอนที่เราไปเที่ยวกันได้ไหม?” อีวอนกล่าวถามเบา ๆ เธออ่อนแอมาก แต่ใบหน้าของเธอเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน
“คุณจัดการกับฉลามได้ด้วยตัวคนเดียวในตอนที่เราไปเที่ยวกันครั้งนั้น คุณเท่มาก ๆ” อีวอนกล่าวเบา ๆ
อีวอนรู้ดีว่าเธอจะอยู่บนโลกใบนี้ได้อีกไม่นานและไม่อยากที่จะเห็นแดร์ริลทุกข์ทรมาน เธอจึงยกหัวข้อสนทนาที่ผ่อนคลายมากขึ้น
แดร์ริลยังคงนิ่งเงียบและจ้องไปที่อีวอนอย่างลึกซึ้ง
อีวอนหมกมุ่นอยู่กับความทรงจำอันแสนหวานของเธอและกล่าวต่อเบา ๆ “ภรรยาของแด๊กซ์ก็โดนยาพิษในตอนที่เราไปเที่ยวกันครั้งนั้นด้วย และทุกคนก็วิตกกังวลมาก คุณทปรุงโอสถได้ในทันทีถึงแม้ว่าทุกคนจะหัวเราะเยาะนาย แต่ทุกคนก็ต้องตกตะลึงเมื่อนายกลั่นโอสถออกมาได้จริง ๆ”
ในขณะนั้น อีวอนจ้องมองไปที่แดร์ริลด้วยความรักจากหัวใจ ความรู้สึกที่ท่วมท้นมาบดบังใบหน้าอันซีดเสียวของเธอ “คุณรู้ไหมตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา คุณคือผู้ชายที่ยิ่งใหญ่และเป็นฮีโร่ของฉัน? ไม่มีลูกคุณหนูคนไหนจะมาเทียบกับคุณได้”
ลมหายใจของอีวอนก็กระชั้นขึ้นอย่างรวดเร็วจากความตื่นเต้น
แดร์ริลรู้สึกขวัญเสียในทันทีและรีบกล่าวกับอีวอน “ไม่ต้องพูดแล้ว พักผ่อนก่อน”
แดร์ริลรู้สึกว่าหัวใจของเขาถูกบีบรัดขณะกล่าว
‘อีวอนมีเวลาเหลืออีกแค่สิบกว่าชั่วโมงเท่านั้น และฉันก็ช่วยอะไรเธอไม่ได้ด้วยซ้ำ ฉันเป็นผู้ชายแบบไหนกัน? ฉันเป็นฮีโร่แบบไหนกัน?’ แดร์ริลคิด
อีวอนส่ายหัวกับแสงที่เปล่งประกายอยู่ในดวงตาของเธอ “ฉันยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่อยากจะบอกกับคุณ ต่อให้ใช้เวลาทั้งชีวิตก็ยังไม่พอที่จะพูดออกมาหมด ถ้าฉันไม่พูดตอนนี้ ฉันก็คงจะไม่มีโอกาสอีกแล้ว”