คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ - บทที่ 656
คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 656
”ที่พระราชวังฟูเหยามีแค่ผู้หญิงเท่านั้นเหรอ?” ลิเดียกล่าวถามอย่างสงสัย
ลีรอยพยักหน้า “ใช่แล้ว พระราชวังฟูเหยาไม่เคยแทรกแซงอะไรกับยุทธจักร แต่พวกเขาทรงพลังมาก มากกว่าทั้งหกสำนักหลัก เราแค่ต้องไปให้ถึงพระราชวังฟูเหยาแล้วเราจะปลอดภัย”
ลีรอยไม่มีทีท่าว่าจะช้าลง แต่เขารีบวิ่งไปต่อขณะเขากล่าว
ลิเดียกล่าวถามอีกครั้ง “ท่านพ่อ เล่าเรื่องเกี่ยวกับพระราชวังฟูเหยาให้ฟังอีกหน่อยได้ไหม พวกเขาทรงพลังกว่าหกสำนักหลักได้ยังไง? แล้วพวกเขาจะยินดีต้อนรับเราไหม?”
ลีรอยฉีกยิ้ม “ไม่ต้องห่วง พวกเขายินดีต้อนรับเราแน่นอน”
พระราชวังฟูเหยารับเพียงแค่ผู้หญิงเป็นสาวกผู้ติดตามเท่านั้นและพวกเขามีสาวกเป็นหมื่น ๆคน
มีผู้ชายอยู่บ้างในพระราชวังฟูเหยาแต่ส่วนใหญ่แล้วมีสถานะเป็นทาสรับใช้ หน้าที่ของพวกเขาคือคอยรับใช้บรรดาสาวกหญิงและพวกเขาไม่มีสิทธิ์ไม่มีเสียงอันใด
พระราชวังฟูเหยามีเจ้าพระราชวังถึงเจ็ดคนและพวกเธอทั้งหมดเป็นที่รู้จักกันในนามเจ็ดเทพธิดา
เมื่อไม่กี่ปีก่อน สำนักคุนหลุนได้ผลิตศัสตราวุธชนิดพิเศษที่ขนานนามว่า ตะเกียงไร้มลทิน
เจ้าพระราชวังเห็นตะเกียงไร้มลทินตอนที่เธอเดินทางผ่านภูเขาคุนหลุนและเธอก็ฉวยโอกาสครอบครองตะเกียงไร้มลทินไปเป็นของตัวเอง
เจ้าสำนักลีรอยรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากกับการกระทำนั้น อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่สามารถจะห้ามเธอได้ เพราะว่าเขาไม่อยากจะสร้างความร้าวฉาน
เจ้าพระราชวังมอบหยกชิ้นหนึ่งให้กับลีรอยเพื่อเป็นการตอบแทนแลกเปลี่ยนและบอกเขาไว้ว่า เขาสามารถนำหยกชิ้นนี้ไปแสดงให้เธอดูได้ถ้าหากเขาประสบกับปัญหาใด ๆ
ลีรอยไม่มีทางเลือกที่จะต้องยอมรับกับข้อเสนอของเธอ
หลังจากล่วงเลยผ่านไปหลายปี เส้นลมปราณหัวใจของเขาถูกทำลายและเขาก็ไม่สามารถบ่มเพาะวิชาได้อีกต่อไป เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องขอลี้ภัยกับพระราชวังฟูเหยา
ลิเดียมีสีหน้าซีดขาว เธอหยุดวิ่งและกล่าว “ท่านพ่อ หนูเหนื่อยเกินกว่าที่จะขยับตัวได้แล้ว”
“ไม่เป็นไร พ่อแบกหนูขึ้นหลังได้” ลีรอยกล่าวขณะย่อตัวลงให้กับลูกสาวของเขา
ปกติลีรอยจะเป็นคนที่เหี้ยมโหดกับทุกคน แต่เขาเป็นพ่อที่ใจดีกับลูกสาวของเขา
ลิเดียรู้สึกดีใจ เธอปีนขึ้นไปเกาะอยู่บนหลังพ่อของเธอ
ตัวลีรอยเองก็แทบจะฝืนต่อไปอีกไม่ไหวเหมือนกัน แต่เขาต้องไปต่อถ้าหากเขาต้องการจะมีชีวิตรอด
หลังจากวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนข้ามวันข้ามคืน ในที่สุดลีรอยก็เดินทางมาถึงที่ภูเขาลูกหนึ่ง
ภูเขาลูกนี้มียอดที่สูงมาก สูงถึงขั้นมีก้อนเมฆมาปกคลุมอยู่รอบ ๆ
มีพระราชวังตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขา
มันคือพระราชวังฟูเหยา
ลีรอยปลาบปลื้มใจที่ได้เห็นพระราชวัง เขาเดินไต่ตามทางขึ้นไปบนเนินเขา
หลังจากที่เขาเดินไต่ไปหลายสิบก้าวเขาก็มาถึงประตูทางเข้า มีป้ายตั้งอยู่เหนือประตู ‘สาวกฟูเหยาจะไม่ถูกสังหารเมื่อเดินทางเข้ามา’
มันถูกเขียนไว้ด้วยน้ำหมึกสีแดง ดูน่าทึ่งเป็นอย่างมาก!
“ท่านพ่อ มันบอกว่าผู้บุกรุกจะถูกฆ่า” ลิเดียกล่าวขณะจับแขนของลีรอย
ลีรอยปลอบใจเธอ “ไม่ต้องห่วง ลิเดีย”
มันคือความจริง ที่ผู้บุกรุกทุกคนจะถูกสังหารถ้าพวกเขาจะเข้าไปในบริเวณพระราชวัง อย่างไรก็ตาม เขามีหยกที่ได้รับมาจากเจ้าพระราชวัง เขาสามารถจะเข้าไปในพระราชวังพร้อมกับมันได้
…
ในห้องโถงบุบผาหลวงที่พระราชวังฟูเหยา
ห้องโถงบุบผาหลวงคือห้องที่ไว้จัดการประชุม ห้องโถงมีลักษณะรูปร่างเหมือนกับดอกลิลลี่และดูน่าประทับใจ
มีเก้าอี้นกฟีนิกซ์ทองคำเจ็ดตัวอยู่ในห้องโถง พร้อมกับหญิงสาวหน้าตางดงามนั่งอยู่บนเก้าอี้แต่ละตัว พวกเธอทุกคนดูน่าหลงใหลเป็นอย่างมากและพวกเธอก็ยังมีลักษณะเด่นสวยงามเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง
ผู้หญิงทั้งเจ็ดคนคือเจ้าพระราชวังและพวกเธอก็คือเจ็ดเทพธิดา
พวกเธอทั้งหมดยังเป็นหญิงสาว เจ้าพระราชวังผู้อาวุโสที่สุดมีนามว่าซินดี้ ไวท์และเธออายุเพียงแค่สามสิบกว่า ๆเท่านั้น ในขณะที่เทพธิดาที่อายุน้อยที่สุดคือ ไอรีน ซึ่งมีอายุเพียงยี่สิบปีเท่านั้น
ถึงแม้ว่าพวกเธอจะอายุยังน้อย แต่พวกเธอทุกคนต่างอยู่ในระดับปราชญ์ยุทธ เจ้าพระราชวังผู้อาวุโสที่สุดนั้นอยู่ในระดับสูงสุดของระดับปราชญ์ยุทธ คือระดับปราชญ์ยุทธขั้นห้า อีกเพียงแค่ระดับเดียวเท่านั้นเธอก็ได้บรรลุเป็น จักรพรรดิยุทธ
พระราชวังฟูเหยามีขุมพลังอันน่าเหลือเชื่อ พวกเธอสามารถที่จะทำลายสำนักใดก็ได้ที่พวกเธอต้องการ
เจ็ดเทพธิดาได้มารวมตัวกันเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ของพวกเธอในการบ่มเพาะวิชา