คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ - บทที่ 901
คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 901
แดร์ริลดีใจสุดขีดเมื่อคิดเช่นนั้น เขาจ้องมองผางถ่งอย่างจริงจังและกล่าว “บอกผมที มีคนแบบไหนบ้างที่ติดอยู่ในเจดีย์ชั้นอื่น?”
สีหน้าของแดร์ริลเปี่ยมไปด้วยความหวังในตอนที่เขาซักถาม ขนาดหงส์ดรุณผู้โด่งดังในประวัติศาสตร์ยังมาปรากฏตัวที่ชั้นแรกของเจดีย์ เขาจึงสงสัยว่าจะมีผู้ทรงพลังมากมายอีกกี่คนที่ติดอยู่ในชั้นอื่น ๆ
ผางถ่งฉีกยิ้มทันทีขณะเขากล่าวตอบ “นายท่าน แน่นอนที่ว่าผู้ทรงพลังมากมายจะต้องสถิตอยู่ในชั้นเจดีย์ที่สูงยิ่งขึ้นไป แต่กระนั้นทุก ๆ ชั้นก็แยกขาดออกจากกันด้วยม่านมนตรา ข้าจึงไม่มั่นใจว่าใครบ้างที่อยู่ชั้นเหนือตัวข้า”
“ฮึบ!” แดร์ริลตกตะลึงขนหัวลุกเมื่อได้ยินเช่นนั้น คนที่ติดอยู่ในชั้นสองมีพลังมากกว่าคนที่ติดอยู่ในชั้นแรก? เพียงแค่ชั้นแรกเองก็มีจอมยุทธระดับจักรพรรดิยุทธถึง 10 คนแล้ว! ผู้ทรงพลังที่ติดอยู่ในชั้นสองจะมีพลังมหาศาลขนาดไหน?!
แดร์ริลสงสัยใคร่รู้เป็นอยากมาก แต่ช่างน่าเสียดายที่เขายังไม่สามารถที่จะปลดปล่อยคนในเจดีย์ชั้นสองได้ เพราะเขายังไม่มีศิลาบูรณะสวรรค์ก้อนที่สอง ซึ่งมันเป็นของที่หายากมาก
เขากวาดสายตามองไปรอบ ๆ อีกครั้งเมื่อเขาคิดถึงเรื่องนี้
ชายหญิงคู่หนึ่งที่ดูสะดุดตา ก็ยืนอย่างเงียบสงัดอยู่ข้างผางถ่ง
ชายหญิงสองคนนี้ดูเหมือนจะเป็นคู่รักกัน
ชายผู้นี้มีเสน่ห์ของความเป็นวายร้าย ด้วยดวงตาสีแดงฉาน พร้อมกับรอยสักรูปหมีตัวใหญ่บนแผ่นหลัง
ผู้หญิงที่ยืนเคียงข้างเขาก็สวยสดงดงามมีเสน่ห์เช่นเดียวกัน พร้อมกับรอยสักรูปงูสีแดงสดที่สะโพกของเธอ
พวกเขาทั้งคู่อยู่ในระดับจักรพรรดิยุทธ เป็นผู้ที่ทรงพลังที่สุดในเจดีย์ชั้นนี้
“พวกท่านสองคน พวกท่านมีนามว่าอะไร?” แดร์ริลเดินไปยืนข้างหน้าจ้องมองชายคนนั้นแล้วกล่าวถาม
“นายท่าน พวกเราทั้งสองคนไม่มีชื่อ” ชายคนนั้นกล่าวตอบด้วยความเคารพพร้อมกับก้มโค้งคำนับ “บรรดาผู้คนในยุทธภพเรียกข้าว่า ขุนศึกเนตรโรหิต”
ขุนศึกเนตรโรหิตก็ผายมือไปที่ผู้หญิงซึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ เขา “นี่คือภรรยาของข้าที่ผู้คนเรียกนางว่าพญานาคพิโรธ”
“ขุนศึกเนตรโรหิตและพญานาคพิโรธ” แดร์ริลพยักหน้า จากนั้นเขาก็บ่นพึมพัมอยู่ในใจก่อนที่จะเก็บคน 500 คนกลับเข้าไปในเจดีย์
เจดีย์นั้นจดจำว่าแดร์ริลคือเจ้านายของมันและยอมให้เขาย่อส่วนเจดีย์ลงมาเหลือเพียงไม่กี่เซนติเมตรด้วยความนึกคิดของเขาที่สั่งการ จากนั้นแดร์ริลก็ถือมันไว้ในมืออีกครั้ง
“แดร์ริล เจดีย์นี้มันน่าทึ่งมาก!” เวนดี้กล่าวขึ้นมาอย่างนุ่มนวล
“ใช่เลย ไม่ใช่แค่มันย่อขยายตัวได้ แต่มันยังมีผู้ทรงพลังมากมายถูกเก็บไว้อยู่ในนั้นด้วย!” บรรดาเทพธิดาต่างก็สนทนากันอย่างออกรส
แดร์ริลหัวเราะชอบใจ
จากนั้นเทพธิดาตัวน้อยก็เดินเข้ามาหาเขาอย่างหน้าแดง เธอหยิบเจดีย์ไปไว้ในมือและกล่าวอย่างอ่อนโยน “แดร์ริล เจดีย์มันเล็กมากไม่กี่เซน เดี๋ยวฉันจะเอาเชือกสีแดงมาร้อยมันไว้ให้ นายจะได้สวมมันเป็นสร้อยคอ เจดีย์จะได้ไม่ต้องหายไปไหน”
เทพธิดาตัวน้อยก็ควักเชือกสีแดงออกมาและร้อยเจดีย์ในขณะที่เธอกล่าว
แดร์ริลฉีกยิ้มกว้างและรีบคว้าเจดีย์มาสวมไว้ที่คอ เขาอดไม่ได้ที่จะต้องกล่าว “มีแค่ภรรยาตัวน้อยเท่านั้น ที่รู้ใจของฉันมากที่สุด”
เทพธิดาตัวน้อยถึงกับหน้าแดงเมื่อได้ยินเขากล่าว เธอเขินอายและกล่าวตอบ “นาย… ให้มันน้อย ๆ หน่อย”
ตราบใดที่สถานการณ์ไม่เลวร้ายและจริงจัง แดร์ริลก็ยังคงเป็นคนขี้เล่นเหมือนเดิม มันช่างน่าปวดหัว!
บรรดาเทพธิดาอีกสองสามคนก็หันไปมองแดร์ริล ก่อนที่เวนดี้จะปรบมือขึ้นมา “จริงด้วย แล้วพี่สาวสองของเราอยู่ที่ไหน? ฉันไม่เห็นเธอเลย”
ในตอนที่เธอกล่าวขึ้นมา เทพธิดาสองสามคนก็ลุกลี้ลุกลนและเริ่มกระวนกระวายใจขึ้นมาทันที และก็ออกคำสั่งให้บรรดาสาวกค้นหาตัวเธอ
“ให้ตายสิ พวกเธอคิดว่าไอ้ลีรอย เฮนเดอร์สันจับตัวเธอไปไหม?”
“ก็เป็นไปได้ แต่ลีรอยก็หนีออกไปได้แล้ว ฉันว่าตัวเธอก็ควรจะถูกปล่อยให้เป็นอิสระเหมือนกัน…”
พวกเธอก็เริ่มเดินออกค้นหาไปรอบ ๆ ระหว่างที่สนทนากัน และไม่นานนักสาวกคนหนึ่งก็พบร่างที่ไหม้เกรียมของเทพธิดาสองท่ามกลางซากปรักหักพัง ร่างของเธอถูกเผาจนจำแทบไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม ซินดี้และคนอื่น ๆ ที่เหลือก็จดจำสร้อยข้อมือหยกบนตัวของเธอได้เป็นอย่างดี และมั่นใจว่านี่คือเทพธิดาลำดับที่สอง โคลอี้ เคน
“พี่สาว!”
ทันใดนั้น เทพธิดาตัวน้อยก็ร้องไห้โศกเศร้าด้วยความรู้สึกสะเทือนใจทุกข์ระทมและทรุดตัวลง เธอห้ามตัวเองไม่ได้ที่จะต้องคร่ำครวญ