คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ - บทที่ 909
คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 909
เมื่ออีเว็ตต์และแม่ทัพสโลนปรากฏตัว ฝูงชนก็ต่างส่งเสียงอึกทึกครึกโครม!
“ขนาดเจ้าหญิงและท่านแม่ทัพก็มาร่วมงานด้วย! แสดงว่าสำนักประกายแสงมีอิทธิพลมาก!”
“แน่นอนที่สุด! สำนักประกายแสงคือสำนักแห่งแรกของโลกใหม่ พวกเขาจะต้องมีความสำคัญมากกับยุทธภพ แม้แต่ราชวงศ์ก็ยังไม่กล้าที่มองข้ามพวกเขา”
มัตเตโอรวบรวมสติตัวเองกลับมาและรีบเข้าไปทักทายพวกเธอทั้งสองคน เขาฉีกยิ้มและกล่าว “เจ้าหญิงอีเว็ตต์ ท่านเทพธิดาสงครามสโลน”
อีเว็ตต์ยิ้มรับและกล่าวตอบ “มาสเตอร์แฮนสัน ท่านและพี่สาวของท่านคือฮีโร่ของพวกเราทุกคน และยุทธภพก็เคารพพวกท่านทั้งสองอย่างยิ่ง ฉันมาที่นี่เพื่อขออวยพรให้พวกท่านมีความสุข และเจริญรุ่งโรจน์ไปชั่วกาลปาวสาน!”
มัตเตโอหัวเราะร่า ในขณะที่เขากล่าวเสียงอ่อน “เจ้าหญิงอีเว็ตต์ ท่านแม่ทัพสโลน เป็นเกียรติมากที่พวกท่านทั้งสองมาร่วมงานในวันนี้ ข้าต้องขอสารภาพว่าข้ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่น่าสลดกับเจ้าศักดินาเคนนี่ เบรด ข้าทำร้ายภรรยาและลูกชายของเขา…”
“มาสเตอร์แฮนสัน” อีเว็ตต์โบกมืออย่างไม่ถือสา “ท่านไม่จำเป็นต้องพูดถึงเหตุการณ์นี้อีกต่อไป เราไม่ได้สนใจกับเหตุการณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นนั้น”
มัตเตโอหัวเราะออกมาเสียงดังสนั่น “เยี่ยม! ดีเลย! มาเถอะ! เจ้าหญิงอีเว็ตต์ ท่านแม่ทัพสโลน เชิญนั่งลงก่อน!”
มัตเตโอแอบรู้สึกดีใจอย่างลับ ๆ
เขาอยากจะหัวเราะออกมาดัง ๆ
แม้แต่เจ้าหญิงและท่านแม่ทัพสโลนก็มาร่วมงานเพื่อมอบคำอวยพรให้ทั้งสองพี่น้อง จะมีใครอีกในเก้าแผ่นดินใหญ่ที่จะได้รับเกียรติเช่นนี้?
บรรดาแขกจำนวนมากเริ่มเข้ามารุมล้อมอีเว็ตต์และสโลนทันทีที่พวกเธอเข้ามาในห้องโถงอาภาอลังการ
มัตเตโอหุบยิ้มบนมุมปากไม่ได้ เขาใช้กำลังภายในจากสนามพลังจากนั้นก็เปล่งเสียงออกมาก้องกังวาล “ทุกท่าน! ข้าขอขอบคุณพวกท่านที่มาร่วมงานวันเกิดของเราในวันนี้ และข้ามีบางอย่างที่อยากจะกล่าว”
ทั่วทั้งห้องโถงเงียบสงัดลง ฝูงชนหันไปมองดูเขาอย่างกระตือรือร้น
แขกผู้ร่วมงานส่วนใหญ่ก็เดินทางมาถึงแล้ว และพี่น้องแฮนสันอยากจะกล่าวเปิดงานสักสองสามคำก่อนจะเริ่มงานเลี้ยงฉลอง
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะได้กล่าวอะไรออกมา ลูกศิษย์คนหนึ่งก็รีบวิ่งเข้ามาภายในห้องโถงและคุกเข่าลงต่อหน้ามัตเตโอ “รายงาน! ท่านประมุขแห่งสำนักประตูสุราลัย ท่านประมุขแห่งนิกายตำหนักอมตะ และเจ้าสำนักภูเขาบุปผามาร่วมงานเพื่อกล่าวทักทายท่าน!”
อะไร? สำนักประตูสุราลัย? และนิกายตำหนักอมตะ?
พวกเขาไม่ใช่สำนักนิกายที่มาจากจักรวาลโลกหรอกเหรอ?
แขกในห้องโถงอาภาอลังการกำลังรื่นเริงกับบรรยากาศครื้นเครง แต่พวกเขาก็เงียบเสียงลงทันที และหันมองหน้ากันอย่างสับสนงวยงง
โลกใหม่และจักรวาลโลกมีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีนักมาโดยตลอด ดังนั้นสำนักจากทั้งสองแผ่นดินใหญ่นี้จึงไม่ได้สนิทสนมกันหรือติดต่อกัน บรรดาแขกผู้ร่วมงานต่างก็งงงวยเมื่อได้ยินว่าทั้งสามสำนักมาถึงที่ห้องโถงอาภาอลังการแล้ว
อีเว็ตต์ที่นั่งอยู่ในส่วนของแขกผู้ทรงเกียรติถึงกับตัวสั่น เธอลุกขึ้นยืนและเดินไปที่ทางเข้าของห้องโถง เธอรู้สึกกระสับกระส่ายเมื่อมองออกไป
‘ท่านประมุขสำนักประตูสุราลัย? แดร์ริล ดาร์บี้? มันเป็นไปไม่ได้! เขาไม่ได้ตกลงไปตายในปล่องภูเขาไฟปีที่แล้วหรอกเหรอ?’ อีเว็ตต์สับสน
มัตเตโอก็งุนงงเช่นเดียวกัน ถึงแม้ว่าสำนักประกายแสงจะกว้างขวาง แต่พวกเขาก็ไม่เคยได้ยินชื่อเสียงชองสำนักประตูสุราลัย หรือ นิกายตำหนักอมตะมาก่อน
“ท่านพี่ พวกเขาเป็นสหายของท่านรึเปล่า? ไอ้พวกที่บอกว่ามาจากสำนักภูเขาบุปผากับตำหนักอมตะอะไรเถือกนั้น?” มัตเตโอหันไปถามลอร่า
“ฉันก็ไม่รู้จักพวกเขาเหมือนกัน…” ลอร่าพยายามอย่างนึกถึงชื่อเสียงของพวกเขา แต่มันก็ไม่เคยผ่านหูเธอมาก่อน
ทันใดนั้น จัสตินก็รีบวิ่งมาหาพวกเขาทั้งคู่และกล่าวอย่างกระวนกระวาย “ท่านอาจารย์ ไอ้เจ้าประมุขสำนักประตูสุราลัยคือ แดร์ริล ดาร์บี้ เขาคือคนที่มีข่าวลือว่าตกลงไปตายในปล่องภูเขาไฟเมื่อปีก่อน และอีกอย่างท่านเคยกระทืบแด๊กซ์ แซนเดอร์สและเชสเตอร์ วิลสันมาก่อนหน้านี้ ท่านถึงขนาดปล่อยให้ผมตบพวกมันสองสามทีด้วย ไม่แน่ว่าท่านอาจจะลืมเรื่องนี้ไปแล้วใช่ไหม?”
มัตเตโอยิ่งสับสนมากกว่าเดิม “นี่มันเรื่องไร้สาระอะไรกัน? ข้าลืมเรื่องนั้นไปนานแล้ว ข้าจำพวกมันไม่ได้”
มัตเตโอรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย “ต่อให้สำนักประกายแสงจะมีชื่อเสียงและมีสหายมากมาย แต่เราจะปล่อยให้ ทอม ดิก แฮรี่หรือว่าชื่ออะไรก็ตามที่ไม่รู้จักมักคุ้นมาร่วมงานฉลองวันเกิดของเราได้ยังไง?”
ปึง!
ก่อนที่มัตเตโอจะกล่าวจบประโยค ก็มีเสียงดังก้องกังวาลลั่นขึ้นมา!
มีใครบางคนถีบประตูทางเข้าห้องโถงอาภาอลังการเปิดออก!