คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ - บทที่ 937
คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 937
แต่อย่างไรก็ดี เดบร้ายืนดูอยู่ข้าง ๆ และจ้องเขม็งไปที่อีวอน ดูเหมือนเธอกำลังครุ่นคิดอะไรบางอยู่
เดบร้าเห็นว่าความรักที่แดร์ริลมีให้กับอีวอนนั้นลึกซึ้งมาก แต่เดบร้าก็สัมผัสได้ถึงความไม่ชอบมาพากลของผู้หญิงคนนี้
ตามหลักแล้ว เมื่อคนสองคนได้กลับมาเจอกันอีกครั้งหลังจากแยกห่างกันมาเป็นเวลานาน พวกเขาควรจะดีใจเป็นลิงโลด แต่กระนั้นอีวอนกลับทำตัวห่างเหิน
แดร์ริลดีใจมากอย่างล้นหลามที่ได้เจออีวอนอีกครั้ง ดังนั้นเขาจึงไม่ทันได้สังเกตว่ามีบางอย่างผิดปกติกับเธอ
เดบร้าเป็นถึงเจ้าสำนักพราน เธอจึงมีประสบการณ์มากมาย สัญชาตญาณของเธอกำลังบอกว่ามียางอย่างผิดปกติกับอีวอน
“บอกฉันที อีวอน ปีที่ผ่านมาเธอเป็นยังไงบ้าง?” แดร์ริลกล่าวถามอย่างอ่อนโยน ขณะที่เขากุมมือของอีวอน
เขามีเรื่องมากมายที่อยากจะเล่าให้อีวอนฟัง นับตั้งแต่ที่เขาไม่ได้เจอเธอมานานเป็นปี ต่อให้เขาเล่าสามวันสามคืนก็คงจะไม่หมด!
จากนั้นจีเวลก็ยกน้ำชามาเสิร์ฟ
“สำหรับปีที่ผ่านมา… ฉัน…” อีวอนฉีกยิ้มอ่อน ๆ “ฉันติดอยู่ที่พระราชวังโลกใหม่ จากนั้นฉันก็ถูกจับให้คลุมถุงชนกับทวีปเวสต์ริงตัน และตอนนี้ฉันก็ได้มาอยู่กับนายแล้วแค่นั้นเอง แล้วนายล่ะ? ปีที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้าง?”
“อ่อ เรื่องแรกของฉันก็คือ ฉันคิดถึงเธอทุกวันเลย” แดร์ริลจิบน้ำชาเพื่อให้ชุ่มคอ จากนั้นเขาก็เริ่มเล่าเรื่องราวในปีที่ผ่านมาให้เธอฟัง
อีวอนนั่งฟังอย่างเงียบเชียบ ใบหน้าของเธอไร้ซึ่งอารมณ์ เธอฉีกยิ้มบ้างเป็นครั้งคราว แต่มันก็ดูไม่จริงใจ
แต่กระนั้น แดร์ริลก็ไม่ได้สังเกตเลยแม้แต่น้อย เขามีความสุขมากที่ได้เจอเธออีกครั้ง แดร์ริลกุมมืออีวอนไว้แน่นขนัดขณะที่เขายังคงเล่าเรื่องราวต่อไป
…
ในระหว่างนั้น…
ตามแผนการที่แลนวินและโยเอลได้วางไว้ ก่อนที่จะปลีกตัวออกห่างเพื่อทิ้งลิลี่ พวกเขาบอกให้เธอมุ่งหน้าไปที่สำนักวายุทมิฬเพื่อไปสืบหาข่าวเกี่ยวกับแดร์ริล
ซึ่งในเวลานี้ ลิลี่ก็เดินทางใกล้จะถึงสำนักวายุทมิฬแล้ว
เจ้าสักนักวายุทมิฬ มีนามว่าทอรัส สเต๊าท์ และเขามีสาวกมากกว่าร้อยคน ซึ่งทุกคนล้วนเป็นผู้บ่มเพาะที่ทรงพลัง
ทอรัสเป็นคนฆ่าสัตว์ขาย มีเรื่องเล่าหนาหูว่าเขาได้พบกับคัมภีร์พันวิญญาณในท้องหมูตอนที่เขาแร่เนื้อมัน เขาบ่มเพาะวรยุทธภายในคัมภีร์และวิชาของเขาก็แข็งกล้าขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เจตนารมณ์ของเขาก็เปลี่ยนไปเป็นความชั่วร้ายทันทีที่เขาได้เป็นผู้บ่มเพาะและก็เริ่มปล้นสะดมชาวบ้าน จากนั้นเขาก็มีชื่อเสียงฉาวโฉ่ขึ้นมาในยุทธจักร เขารวบรวมคัดเลือกลูกศิษย์สาวกมากกว่าร้อยคน และบุกพิชิตภูเขาวายุทมิฬเพื่อก่อตั้งสำนักวายุทมิฬ
สำนักวายุทมิฬไม่มีอะไรนอกไปเสียจากความชั่วร้าย! บรรดาสาวกของเขาจะตระเวนไปรอบ ๆ พื้นที่เพื่อปล้นสะดมตามบ้านเรือนและท้องถนน ผู้คนที่อาศัยอยู่ในละแวกนี้และพ่อค้าที่สัญจรไปมาต่างก็ได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส
มีผืนป่าอยู่ห่างจากสำนักวายุทมิฬไม่กี่สิบกิโลเมตร และในตอนนี้ ลิลี่ก็อยู่ในป่าที่ว่าแล้ว
เมื่อลิลี่รู้ตัวว่าเธอใกล้จะเดินทางมาถึงสำนักวายุทมิฬแล้ว เธอก็เหงื่อแตกไหลท่วม เธอนั้นรู้สึกวิตกกังวล
‘ศิษย์พี่แลนวินบอกให้ฉันมาหาข่าวแดร์ริลที่นี่ แต่ที่นี่มันก็เป็นป่ารกร้างไม่ใครอาศัยอยู่เลย แดร์ริลจะมาที่นี่ทำไม?’
ขณะที่ลิลี่กำลังนึกสงสัยกับเรื่องในหัว เธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้า จากนั้นชายรูปร่างกำยำกว่าสิบคนก็โผล่ออกมาจากในป่า พวกเขาถือดาบเล่มยาวอยู่ในมือ และแต่งตัวเหมือนกับโจร
หัวหน้าของชายฉกรรจ์กลุ่มนี้มีรูปร่างอ้วนท้วมและมีหนวดเคราปกปคลุมเต็มใบหน้า เขาคือเจ้าสำนักวายุทมิฬ ทอรัส!
เขาอยู่ในระดับปราชญ์ยุทธขั้นห้า!
“แกเป็นใคร? แกกล้าดียังไงถึงมาบุกรุกสำนักวายุทมิฬ” ทอรัสตวาดเสียงอย่างเย็นชา ขณะที่ก้าวเดินเข้ามาหาลิลี่พร้อมกับดาบเล่มยาวในมือ เขากวาดสายตามองลิลี่
‘หุ่นของเธอเช้งกระเด๊ะ!’
ลิลี่สวมหน้ากาก แต่ไม่ว่าใครก็ตามจะต้องรู้สึกหลงไหลเมื่อได้เห็นทรวดทรงโค้งเว้าที่งามพริ้งของเธอ
หัวใจของลิลี่บีบเกร็ง ชายฉกรรจ์พวกนี้ดูท่าทางไม่เป็นมิตรกับเธอ เธอพยายามสงบสติอารมณ์และกล่าวตอบ “ฉันแค่เดินผ่านเข้ามา”
“แค่ผ่านเข้ามา?”
ทอรัสหัวเราะอย่างเย็นชา “มีเส้นทางมากมายในโลกนี้ที่เธอจะต้องเดินผ่าน แต่ทำไมต้องมาผ่านสำนักวายุทมิฬด้วย? ทุกคนในโลกใหม่เขาก็รู้กันทั่วว่าไม่ควรผ่านมา!”
สาวกรุ่นเยาว์ที่อยู่ด้านหลังเขาก็ยิ้มอย่างมีเลศนัยและกล่าวขึ้นมา “ท่านเจ้าสำนัก ทรวดทรงของแม่นางคนนี้มันไร้ที่ติ ผมว่าหน้าตาของเธอก็คงจะสวยไม่แพ้กัน เราน่าจะลักพาตัวเธอกลับไปเพื่อให้มาเป็นนายหญิงสำนัก”
“จริงด้วย ใช่เลย! มาเป็นนายหญิงสำนักของเราเถอะ”