คุณหนูโลลิคลั่งเนีย ลิสตัน - ตอนที่ 112 สลับฉาก หมีเครียด และมุ่งสู่แว็ง เดอ ครุช
- Home
- คุณหนูโลลิคลั่งเนีย ลิสตัน
- ตอนที่ 112 สลับฉาก หมีเครียด และมุ่งสู่แว็ง เดอ ครุช
112 สลับฉาก และมุ่งสู่แว็ง เดอ ครุช
ในตอนแรกเป็นเหมือนเรื่องไร้สาระ
ต่อมากลับกลายเป็นปัญหา
และตอนนี้ กลายเป็นลูกค้าอันดับสูงสุดที่เขย่าจิตวิญญาณการค้าอย่างไร้ที่สิ้นสุด
มาร์จู・เซโดนี เป็นประธานสมาคมบริษัทเซโดนี เขากลืนเสียงในคออย่างยากลำบาก ขณะกำลังมองมัดหนังสือสัญญาที่ก่อนที่เขาจะรู้ตัวก็กองพะเนินอยู่ในลิ้นชักของชั้นวางของในห้องทำงานของเขาแล้ว
ข้อตกลงกับเนีย・ลิสตันเริ่มต้นขึ้นในฤดูร้อน
ทุกครั้งที่เขามองหนังสือสัญญา เขาก็จะจำได้ และเมื่อจำได้ เหงื่อก็ไหลออกมา
หลังจบการศึกษาจากระดับชั้นประถมศึกษาจากสถาบัน มาร์จูก็เริ่มทำงานเป็นลูกจ้างในสังกัดของบริษัทเซโดนีทันทีเพื่อช่วยเหลือพ่อแม่
สี่สิบผ่านไป
ร้านค้าระดับกลางเติบโตขึ้นทีละเล็กทีละน้อย และตอนนี้ได้กลายเป็นหนึ่งในบริษัทการค้าขนาดใหญ่ที่แย่งชิงอันดับหนึ่งหรือสองของอาณาจักรอาร์ตัวร์
พี่ชายและน้องสาวที่เป็นผู้สืบทอดความคาดหวังต่างได้รับอนุญาตให้ไปเรียนระดับชั้นมัธยมต้นได้ ซึ่งในตอนนั้นต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก
แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ลูกชายคนสุดท้องซึ่งไม่ถูกคาดหวังว่าจะประสบความสำเร็จได้เข้ารับสืบทอดร้าน และยังคงดำเนินงานจนถึงทุกวันนี้
สี่สิบปี
มีทั้งเรื่องดีเรื่องร้าย ถูกหลอกลวง ถูกมองทะลุปรุโปร่ง ได้กำไรแบบคาดไม่ถึง หรือขาดทุนก้อนโตจากอุบัติเหตุ
หลายอย่างเกิดขึ้น
เขาไม่ได้หลงตัวเองว่าตนเองมีความเฉียบแหลมทางธุรกิจที่หายาก
เขาเชื่อว่าบริษัทเติบโตได้เพราะผู้ใต้บังคับบัญชาที่เขาไว้ใจได้ ครอบครัวของเขาที่คอยสนับสนุนเขาในยามที่เขาตกต่ำ และโชคดีที่อยู่ในความเมตตาของโชคชะตา
ยังไงก็ตาม ในช่วงสิบปีที่ผ่านมาเขาไม่ได้ทำผิดพลาดอะไรเป็นพิเศษ และคิดว่าสามารถยืนหยัดอย่างแน่วแน่ และทำกำไรได้อย่างมั่นคง
การเจรจากับเนีย・ลิสตันนั้น เกือบจะก่อให้เกิดความผิดพลาดที่ไม่ได้เกิดขึ้นมากว่าสิบปีขึ้นมา
และนี่คือผลลัพท์
กำไรดีมาก
แต่เหนืออื่นใด จะเกิดอะไรขึ้นถ้าในตอนนั้น เขาได้ปฎิเสธข้อเสนอของเนีย・ลิสตัน
แน่ใจเลยว่าเขาจะอยู่มาไม่ถึงตอนนี้
บริษัทจะขาดทุนอย่างหนัก และแตกกระจายไปทุกที่ทุกทาง
” ―― ฮ้า……ฟู๊ว”
เขาหายใจเข้าลึก ๆ และปิดลิ้นชักซึ่งเต็มไปด้วยหนังสือสัญญา
ไม่ใช่แค่น้ำหนักทางกายเท่านั้นที่ทำให้รู้สึกหนัก
เอาจริง ๆ นึกถึงกี่ครั้งก็ยังสยอง
――「คุณหนู ที่นี่ไม่ใช่สถานที่สำหรับฟังจินตนาการของเด็…… 」
ถึงตอนนี้เขาก็ยังรู้สึกตัวสั่นด้วยความเสียใจกับคำพูดที่ออกจากปากของตัวเองในตอนนั้น
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาพูดออกไปจนหมด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดเกี่ยวกับเรื่องนั้น
เด็กหญิงชื่อเนีย・ลิสตันมาขอพบกับเขาโดยนำจดหมายจากเจ้าหญิงลำดับที่สาม ฮิลเดโทร่าซึ่งเป็นลูกค้าประจำมาด้วย ดังนั้นเขาจึงไปพบกับเธอ
ตามความเข้าใจของเขา เธอคือบุตรีของตระกูลลิสตันที่มักจะปรากฎตัวบนเมจิกวิชั่น เขาเองก็มีความประทับใจและสนใจอย่างมากต่อสิ่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเมจิกวิชั่น ถึงขนาดที่มีความคิดที่ต้องการนำเสนอผลิตภัณฑ์บางอย่างของทางเขาออกสู่ตลาดนี้
ผมสีขาวที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอจะเป็นประโยชน์ในการดึงดูดลูกค้า
และจากนั้น เนื้อหาของการพูดคุยที่เด็กคนนั้นพูดออกมาก็ช่างห่างไกลฟังดูแทบไม่เชื่อหูตัวเอง เป็นเรื่องที่อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกจมูก
――ฉันต้องการเงินหนึ่งพันล้านครัมภายในสองปี
――ฉันต้องการให้คุณช่วยฉันในเรื่องนั้น
หากถูกเด็กอายุหกขวบมายื่นคำขอเช่นนี้ เขาก็คิดว่าเป็นเรื่องปกติที่ผู้ใหญ่จะหัวเราะเยาะ ไม่ใช่ในฐานะพ่อค้า
ถ้าบอกว่าจริงจัง เขาก็อดไม่ได้ที่จะคิดว่าเธอเป็นเด็กที่น่าผิดหวัง
นั่นเป็นเหตุผลที่เขารับมือไปในทางนั้น
ในระหว่างทาง เขาก็นึกได้ว่าฮิลเดโทร่าเขียนจดหมายไว้อย่างมีนัยยะ ――เหนืออื่นใด เขาสังเกตเห็นว่าสาวใช้ที่ยืนอยู่ด้านหลังเนีย・ลิสตันกำลังมองมาร์จูด้วยสายตาที่ผิดปกติ เขาจึงตัดสินใจปิดปาก
สายตาของหญิงสาวในเวลานั้น มีพลังประหลาดราวกับลูกหนี้ที่เตรียมใจจะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นนักต้มตุ๋น หลังจากสูญเสียทุกอย่างจากการหลอกลวง
แม้แต่มาร์จูที่มีประสบการณ์ถูกข่มขู่และข่มขู่จนโชกโชนในธรรมชาติของธุรกิจ ก็ยังรู้สึกถึงความหนักหนาสาหัสจนต้องถอยหนี
ราวกับเขาจะถูกฆ่าอย่างแน่นอน
การตัดสินใจที่จะปิดปาก และรับฟังในสิ่งที่เธอพูด อาจเป็นการตัดสินใจที่โชคดีที่สุดที่เขาเคยทำมาในช่วงสี่สิบปีในฐานะพ่อค้า เทพเจ้าแห่งธุรกิจอาจกำลังนำทางเขา เขาไม่เชื่อในพระเจ้า แต่เหตุการณ์นี้ทำให้เขาอยากจะเชื่อ
“น่าทึ่งมากเลยนะครับ นักผจญภัยริโนะกับพรรคพวกของเธอ”
ดารอนซึ่งเป็นมือขวาของเขานำหนังสือสัญญามาให้ เมื่อมีเสียงดังมาจากด้านหลัง เขาก็หยุดมือที่กำลังปิดลิ้นชักที่เปิดไว้
จากนั้น มาร์จูซึ่งติดอยู่ในอดีตที่จำเธอได้ติดตาก็เริ่มกลับมาเคลื่อนไหว
――เมื่อกี้ สหายอีกคนของนักผจญภัยริโนะนำสัตว์อสูรที่สังหารได้มาแลกเป็นเงิน และนำใบรับรองติดตัวไปด้วย
“นี่ก็มากกว่ายี่สิบล้านแล้ว”
มาร์จูกลับไปที่โต๊ะทำงานจองตัวเองซึ่งมีเอกสารกองพะเนินเล็กน้อย
“เร็วจังน๊า ตั้งแต่ตอนนั้นมาก็แค่สามเดือนเท่านั้นเอง”
เนียลิสตันพูดอย่างจริงจัง เมื่อเธอบอกว่าจะสะสมเงินให้ได้หนึ่งพันล้านครัมภายในสองปี
งานที่บริษัทเซโดนีทำสัญญาด้วยคือการจัดเตรียมเรือเหาะให้นักผจญภัยริโนะและพรรคพวกสำหรับเดินทางไปยังเกาะลอยฟ้าต่าง ๆ แลกกับสัตว์อสูร หินเวทมนตร์ และอื่น ๆ ที่รวบรวมมาได้
จากนั้นจะรับฝากและจัดการเงินที่แลกเปลี่ยนมาแล้ว
บริษัทซิโดนีจะไม่เสียเปรียบใด ๆ ทั้งยังได้เป็นผู้เจรจาวัตถุดิบมอนสเตอร์กับกิลด์นักผจญภัย และได้รับค่าธรรมเนียมเล็กน้อยสำหรับค่าเตรียมเรือเหาะ ฯลฯ หรือพูดได้ว่าค่อนข้างมีแต่กำไร
“บอกไปแล้วไม่ใช่รึไงครับ? ว่าเด็กนั้นต้องทำได้”
มาร์จูเคยคิดว่าเป็นแค่เรื่องไร้สาระของเด็ก
แต่ หลังจากที่ได้ยินเรื่องจากมาร์จูแล้ว ดารอนก็พูดว่า「ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีไปเลยไม่ใช่เหรอครับที่ตอบตกลงไปนะ」
เป็นลูกน้องที่ไว้ใจได้ที่เลือกจะอยู่เคียงข้างมาร์จู แม้ว่าเขาจะพยายามเปิดร้านใหม่ให้ก็ตาม
ดารอน เป็นทั้งลูกน้องและเพื่อนเก่าแก่ที่อยู่ด้วยการมานาน นับตั้งแต่สมัยที่เขายังเป็นลูกจ้าง ทั้งยังเป็นเพื่อนสูงวัยที่อายุพอ ๆ กับตัวเขาด้วย
พอนึกดูเขาพูดแบบนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย――ตอนนี้ก็รู้แล้วว่าเขาพูดถูกต้อง
“ถ้าหากพวกเขาไปทำสัญญากับบริษัทอื่นที่ไม่ใช่ของพวกเรา เราอาจจบไปแล้วก็ได้”
พวกเขาทำรายได้ยี่สิบล้านได้ในสามเดือน
พวกเขากำลังแสดงให้เห็นว่าทำได้จริง
บางทีแบบนี้ อาจจะไม่มีปัญหา
ความเป็นไปได้ในการสร้างรายได้หนึ่งพันล้านครัมในสองปี ความเป็นไปไม่ได้ที่เป็นไปได้กำลังเห็นชัดขึ้นเรื่อย ๆ
ไม่มีทางที่เขาจะปล่อยลูกค้าชั้นดีที่สร้างรายได้มหาศาลเช่นนี้หนีไปได้
กำไรมหาศาล ไม่อยากจะคิดถึงความเสียหายหากพลาดโอกาสไป
และ――ยังเหลือคำถามใหญ่อีกสองข้อ
“แล้วได้ยินอะไรมาบ้างไหม เกี่ยวกับงานที่ต้องใช้เงินมากตั้งพันล้านครัมแบบนี้”
“ไม่เลย เคยพยายามชวนคุยหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่มีการตอบสนองกลับมาเลย”
หนึ่งพันล้านครัมเป็นเงินจำนวนมหาศาล ไม่ใช่รายได้ที่ใช้ในงานธรรมดา
และหากมีข้อจำกัดที่ว่า「สะสมให้ได้ในสองปี」ก็สมเหตุสมผลที่จะคิดว่าจำเป็นต้องใช้ในงานที่ได้รับการตัดสินใจไปแล้ว
นอกจากนี้ยังมีกลิ่นของการทำเงินด้วย
และถ้าจำเป็นต้องใช้เงินถึงหนึ่งพันล้านครัมในการเคลื่อนไหว ก็เป็นกำไรก้อนโตแน่นอน
“จากมุมมองของผม คนพวกนั้นเองก็ดูจะไม่รู้เรื่องอะไรตั้งแต่แรกเลยด้วยซ้ำ”
“งั้นเหรอ……ม๊า ถ้าราชวงศ์มีส่วนเกี่ยวข้อง เดี๋ยวพวกเขาก็อาจจะมาคุยกับฉันในที่สุดนั้นแหละ”
อย่างน้อยก็ยืนยันได้ว่าเจ้าหญิงลำหดับที่สาม ฮิลเดโทร่ามีส่วนเกี่ยวข้อง
เธอยังเขียนจดหมายด้วยลายมือตัวเอง แปลว่าเธออาจจะรู้ว่าเงินหนึ่งพันล้านครัมจะถูกนำไปใช้ทำอะไร
แต่ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่คิดว่าฮิลเดโทร่าคนนั้นจะแนะนำเนีย・ลิสตันด้วยความปรารถนาดี
แม้ว่าเธอจะยังเป็นเด็ก แต่ก็เป็นเจ้าหญิงที่ฉลาดมากและมีปรัชญาใช้ชีวิตที่แรงกล้าเป็นของตัวเอง
เธอให้ความสำคัญสูงสุดกับผลประโยชน์ของราชวงศ์
เมื่อรู้เช่นนั้นก็สามารถตัดสินได้ว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ราชวงศ์จะเริ่มเคลื่อนไหวเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ในอนาคต
หากเป็นเช่นนั้น――การใช้เงินหนึ่งพันล้านครัมอาจจะดำเนินการในนามของประเทศ ก็เป็นไปได้เช่นกัน
หากสามารถรู้หนทางที่เงินจะถูกนำไปใช้ได้ได้เร็วพอ เราอาจทำกำไรจากเงินหนึ่งพันล้านครัมนั่นได้มากมาย
และ เหตุผลที่เขาคาดเดาไปทางนั้น ก็เป็นเพราะเขาได้ตอบรับข้อเสนอของเนีย・ลิสตัน
ยิ่งคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้เขาเหงื่อออกเท่านั้น
――เขาดีใจจริง ๆ ที่ไม่ได้ปฎิเสธไป
“อ้า ใช่ใช่ เจ้านาย”
เมื่อไม่นานมานี้ มาร์จูจะรู้สึกปวดท้องทุกครั้งที่นึกถึงเนีย・ลิสตัน ไม่รู้ว่าทำไมดารอนถึงสามารถพูดได้อย่างสบายอารมณ์แบบนั้น
“ผมได้รับข้อครามจากเนียซามะ บอกว่ากำหนดการได้รับการตัดสินใจแล้วครับ”
――ใช่ นั่นเป็นอีกคำถามใหญ่ในตอนนี้
“เรือเหาะด่วนพิเศษสำหรับมุ่งหน้าไปแว็ง เดอ ครุชสินะ เตรียมพร้อมไว้แล้วรึยัง?”
พวกเธอจะไปทำอะไรกัน?
แน่นอนว่าก็ต้องไปหาเงินไงล่ะ
แต่ว่า เขาสงสัยว่าทำไมพวกเธอถึงได้ต้องไปหาเงินถึงในประเทศเพื่อนบ้าน
ไม่ใช่ว่ากำลังคิดที่จะไปก่อเรื่องใหญ่โตที่ไม่สามารถทำในอาร์ตัวร์ได้ใช่ไหม ไม่สิ เขาไม่สามารถคิดอย่างอื่นได้เลย
――เรื่องนี้เองก็ด้วย กลิ่นอายของเรื่องราวผลกำไรอันยิ่งใหญ่อบอวลไปทั่วห้อง
หากได้รับอนุญาต เขาก็อยากจะไปกับพวกเธอด้วย แต่……ตามที่คิดไว้ เขาไม่สามารถทิ้งร้านไปหลายวันได้
“ครับ ทุกอย่างเรียบร้อยดี เหลือแค่ใบอนุญาตเข้าเมืองและเชื้อเพลิง”
“เราจะส่งริโนะไปที่นั่นในฐานะผู้คุ้มกันของบริษัทซิโดนี ระยะเวลาในการเข้าพักยังเป็นไปตามที่วางแผนไว้อยู่ไหม? ถ้าเป็นนักผจญภัยคงไม่เป็นไร พรรคพวกของเธอจะไปด้วยกันกี่คนล่ะ? ลงทะเบียนไปว่าเป็นสมาชิกลูกเรือแล้วกัน ปล่อยให้การดำเนินงานที่เหลือตรงนั้นเป็นหน้าที่ของสาขาตรงนั้นแล้วกันเถอะ”
“เช่นนั้นจะเอาตามนั้นครับ”
ดารอนโค้งคำนับ และออกจากห้องไป
เมื่อเหลือเพียงคนเดียว ความเงียบก็เขาครอบง่ำห้องทำงาน
มาร์จูเอื้อมมือไปยังแผ่นคริสตัลเวทมนตร์ที่ลอยอยู่ข้างตัว
――「วันนี้ฉันจะแข่งกับพัคจัง สุนัขแสนรักของตระกูลทาราทารัน ขุนนางระดับขั้นที่เจ็ดค่ะ!」
“……”
มาร์จูปิดแผ่นคริสตัลเวทมนตร์เบา ๆ
เขารู้ตัวดีว่าไม่มีทางเลือกนอกจากรับผลจากการกระทำของตัวเอง แต่
แต่ถึงอย่างงั้น ขอแค่สักนิด เขาไม่อยากเห็นตัวตนของเนีย・ลิสตันไปอีกสักพัก
เขารู้สึกเหมือนปวดท้องจริง ๆ
โลลิหาย หมดแรงใจแปล ฮา แถมไปซื้อข้าวป้าก็ตักกับข้าวให้ผิดอีก หมดแรงใจคูณสอง ฮา