คุณหนูโลลิคลั่งเนีย ลิสตัน - ตอนที่ 136 การประชุมกับหมีหลังจากมาถึง
136 การประชุมหลังจากมาถึง
“ขอโทษด้วย ดูเหมือนว่าเราจะเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว”
เมื่อฉันตื่นขึ้นมา พวกเราก็มาถึงแว็ง เดอ ครุช แล้ว
ทั้งฉัน ทั้งฮิเอโร่ต่างก็ได้หลับสบาย ๆ ฉันหลับสนิทเลยล่ะ
นี่คือผลลัพท์
“ไม่เลยเพคะ เรื่องนั้น ไม่จำเป็นต้องขอโทษเลย…… !”
ทีมงานถ่ายทำของเมืองหลวงจะเป็นผู้รับผิดชอบการถ่ายทำในครั้งนี้
นอกจากนี้ หัวหน้าทีมงานถ่ายทำเมียร์โก・ไทล์ที่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ออกงานภาคสนามนักก็อยู่ที่นั่นด้วย
ตามปกติแล้วเธอเป็นผู้หญิงที่ดูสมบูรณ์แบบ สวมชุดสูทสีดำ และแว่นตา
ทว่า สมแล้ว ดูเหมือนว่าเมียร์โกจะสามารถทำงานนี้ได้ แต่ก็ใช้ว่าจะสงบสติอารมณ์กับทุกความเคลื่อนไหวของราชวงศ์ได้
เธอและทีมงานถ่ายทำคนอื่น ๆ ที่พบกับฉันหลายครั้งในกองถ่ายก็ค่อนข้างตื่นตระหนกเช่นกัน
……หรือต้องบอกว่า เป็นเรื่องตรงกันข้ามต่างหาก เป็นฉันต่างหากที่ไม่ควรสงบสติอารมณ์ได้เท่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ เพราะฝ่ายตรงข้ามเป็นราชวงศ์ไงล่ะ
ฮิเอโร่ หลังจากที่ฉันส่งเขาเข้านอนบนเรือความเร็วสูง ก็ดูเหมือนจะหลับสบายโดยไม่ตื่นเลยจนกระทั่งพวกเรามาถึงแว็ง เดอ ครุช
เดิมที เขาวางแผนที่จะจัดประชุมกับทีมงานรวมทั้งฉันด้วย ในขณะที่กำลังเดินทาง แต่……
“ม๊าม๊า ไม่ใช่แค่เจ้าชายฮิเอโร่คนเดียวหรอกเพคะที่หลับ แต่หม่อมฉันก็เช่นกัน ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้น ตอนนี้มาเดินหน้าตามแผนกันเถอะเพคะ”
――อาจจะเป็นความผิดของฉันเก้าในสิบส่วน ดังนั้นสำหรับตอนนี้ ฉันจะยอมเป็นผู้ตาม
แต่อีกหนึ่งส่วนที่เหลือนั้นเป็นความผิดของฮิเอโร่
สาเหตุที่ฉันไม่ตื่นขึ้นมาเลย ก็เพราะการนอนไม่พออย่างแน่นอน ไม่มีทางที่จะสามารถทำงานได้ดีภายใต้สภาพแบบนั้น
ยังไงก็ตาม แต่แรกแล้ว เป็นการเสียเวลาที่จะโทษกันแบบนั้นในตอนนี้
นี่ไม่ใช่เวลามาเกรงใจหรือแลกเปลี่ยนคำขอโทษกัน
“……นั่นสินะ กำหนดผิดพลายไปนิดหน่อย แต่มาชดเชยความผิดพลาดนี้กันดีกว่า”
ใช่ใช่ ไม่มีเวลาให้เสียจริง ๆ
งานแต่งงานของ ซัคเฟิร์ด・ฮาสกิตัน กับ ฟิเลเดีย・คอร์คูลิส จะมีขึ้นในอีกสองวัน
ทั้งฉัน ทั้งฮิเอโร่ต่างก็มีงานที่ต้องทำในอาร์ตัวร์ ดังนั้นจึงลงเอยด้วยตารางงานที่แน่นขนาดนี้
เวลาว่างของฉันที่สามารถใช้ได้อย่างอิสระมีเหลือเพียงสองวันเท่านั้น คือวันนี้ซึ่งยังเที่ยงอยู่ จนถึงวันพรุ่งนี้เท่านั้น
และวันนี้จะใช้เวลาไปกับการจัดประชุม และเตรียมความพร้อมสำหรับการดำเนินการในวันพรุ่งนี้
ในทางตรงกันข้าม วันแต่งงาน กำหนดการของงานได้ถูกกำหนดไว้แล้ว ดังนั้นการเตรียมการจึงง่ายกว่ามาก
ไม่สิ เวลางานของพวกเราคือจนถึงวันแต่งงานเสียมากกว่า……หรืออีกนัยหนึ่งคือขึ้นอยู่กับวันนี้และวันพรุ่งนี้
” ――โอ้~ย!”
เมื่อถึงเวลาใกล้ลงจอด บนดาดฟ้า ฮิเอโร่ขอโทษสำหรับความผิดพลาด และเนื่องจากความสับสน ผู้คนที่เบื่อหน่ายกับการรอคอยจึงส่งเสียงเอะอะ
“ทีนี้ก่อนอื่นเลย”
ราวกับเพื่อจะหนีการสนทนาที่ไร้จุดหมายนี้ ฉันรีบเดินลงตามทางลาด และได้พบกับคู่พี่ชายน้องสาวผมสีดำกำลังรอฉันอยู่
” ――ยินดีต้อนรับ เนีย・ลิสตัน ครั้งนี้พวกเราได้เจอกันในฐานะคนทำงานสินะ”
” ――ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ถ้ามีเวลาว่างเมื่อไหร่มาแข่งกันเถอะ”
คริสโต・วอลท์・แว็ง เดอ ครุช เจ้าชายลำดับที่สี่แห่งจักรวรรดิการบินแว็ง เดอ ครุช กับโครเวน น้องสาวของเขา
ครั้งนี้ เนื่องจากเหลือเวลาไม่มากจริง ๆ ดังนั้นราชวงศ์จึงมารับพวกเราที่ท่าเรือเป็นการส่วนตัว
เมื่อพิจารณาจากสถานะของทั้งสองคนแล้วพวกเขาก็มีคนคุ้มกันอยู่ด้วย แต่ก็ถูกวางตำแหน่งให้อยู่ห่างออกไปเล็กน้อยเพื่อไม่ให้เกะกะ …….อื~ม ดูเหมือนไม่ค่อยมีฝีมือเท่าไหร่
“ไว้ค่อยทักทายทีหลังแล้วกัน”
ขณะที่ฮิเอโร่ เมียร์โก และทีมงานตากล้องลงมาที่ท่าเรือ คริสโตก็พูดแบบนั้นก่อนที่ใครจะพูดอะไรต่อ
“ก่อนอื่น ข้าจะพาไปที่โรงแรมที่เธอจะได้พัก แล้วเราจะทำการประชุมกันที่นั่น นั่นคือเวลาที่จะพูดคุยกัน ตามข้ามากันเลย”
ถือว่าหลักแหลม และการที่พวกเรามายืนคุยกันในที่แบบนี้ ก็มีแต่จะเป็นเพียงการสร้างอุปสรรคให้กับคนที่ทำงานอยู่ที่ท่าเรือเท่านั้น อีกทั้งยังมีสิ่งต่าง ๆ ที่ไม่สามารถคุยกันอย่างเปิดเผยได้
ในเวลาไม่นานฉันก็คิดถึงการมาแว็ง เดอ ครุชเป็นครั้งที่สองแล้ว
พวกเราแยกย้ายกันขึ้นเรือเหาะขนาดเล็กสามลำที่พวกคริสโตเตรียมไว้ให้ จากนั้นก็มุ่งหน้าสู่โรงแรม
“――ก่อนอื่นข้าต้องขอกล่าวว่า ข้ารู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่งที่ทุกท่านมาร่วมงานแต่งงานของเพื่อนข้าในครั้งนี้”
คริสโตเริ่มต้นพูด ขณะที่พวกเรารวมตัวกันอยู่ในห้องพิเศษที่ใหญ่ที่สุดในโรงแรมสุดหรูที่ได้รับการนำทางมา ที่ฉันเคยพักในฤดูหนาวก่อนหน้า ……ใหญ่กว่าและหรูหรากว่าห้องที่ฉันกับริโนกิสเคยพักอีก ดูเหมือนจะยังมีชั้นบนอยู่ด้วยล่ะ ไม่อยากถามเรื่องราคาต่อคืนเลย
“ข้าคือ คริสโต・วอลท์・แว็ง เดอ ครุช เจ้าชายลำดับที่สี่แห่งจักรวรรดิแว็ง เดอ ครุช ในฐานะลำดับที่สี่ ข้าไม่ได้มีอำนาจใด ๆ เป็นพิเศษ และไม่น่าจะกลายเป็นคนใหญ่คนโตในอนาคตด้วย ข้าไม่มีความตั้งใจที่จะทำตัววางอำนาจ ดังนั้นจงอย่าลังเลที่จะเข้าหาข้าเมื่อยามจำเป็น”
โดยปกติแล้ว ฮิเอโร่มักจะทำตัวตามสบาย แต่เมื่อพิจารณาจากสถานะแล้ว ถึงคริสโตจะเป็นคนง่าย ๆ เหมือนกันก็ยากที่จะเข้าหาอยู่ดี ในความเป็นจริง ทีมงานถ่ายทำซึ่งส่วนใหญ่ประกอบด้วยสามัญชนกำลังนั่งหดตัวกันอยู่ พวกเขานั่งอย่างเชื่อฟังที่โต๊ะโดยแทบไม่เงยหน้าขึ้นมอง
“ส่วนฉันคือน้องสาวของคริสโต โครเวน・วอลท์・แว็ง เดอ ครุช ฉันมาที่นี่ด้วยความตั้งใจที่จะช่วยเหลือพี่ชายของฉัน หากคุณต้องการให้งานเบ็ดเตล็ดใด ๆ โปรดบอกฉันได้เลย”
ถึงจะพูดแบบนั้น แต่โครเวนก็เป็นเชื้อพระวงศ์อยู่ดี ดังนั้นจึงไม่มีใครที่กล้าจะขอให้เธอทำงานเบ็ดเตล็ดให้แน่นอน
“จ๊า ถ้าอย่างนั้นช่วยชงชาให้หนูหน่อยค่ะ”
ม๊า ฉันไม่สนใจ
ทีมงานถ่ายทำหันมามองที่ฉันด้วยความตกตะลึงราวกับกำลังพูดว่า「ยัยเด็กบ้านี่พูดบ้าอะไรกัน」 แต่ฉันไม่สนใจเรื่องนั้นเช่นกัน
โครเวนพยักหน้าส่งเสียง「อืม」และเริ่มชงชาให้กับทุกคน ดี ดี แบบนี้ไม่มีปัญหา
เราไม่ต้องการคนที่「ไม่ทำอะไรเลย」ที่นี่และเดี๋ยวนี้
มีเพียงคริสโตและโครเวนที่อยู่ที่นี่เท่านั้นที่รู้ข้อมูลฝั่งแว็ง เดอ ครุช เช่นนั้นแล้ว ถึงฉันจะแน่ใจว่าพวกเขาสามารถเปิดใจได้ในระหว่างการประชุม……อาจจะไม่จำเป็นก็ได้ แต่ประสิทธิภาพจะลดลง หากคุณไม่สามารถเริ่มต้นการสนทนาได้
หากฉันสามารถแสดงให้เห็นได้ว่า「คุณสามารถปฏิบัติกับคนพวกนี้ได้โดยไม่ต้องทุกข์ร้อน」เพื่อเป็นข้อพิสูจน์ว่าไม่มีปัญหาต้องกังวล การเริ่มต้นก็น่าจะง่ายขึ้นนิดหน่อย
ในขณะที่ฉันมองไปที่เจ้าหญิงที่ถูกยัดเยียดให้ทำงานเบ็ดเตล็ด และกำลังทำอย่างเคร่งขรึม คริสโตก็ส่งเสียงดัง
“โอ้ยๆๆๆ เอาจริงดิ ประชุมของทางนั้นยังไม่เสร็จอีกเรอะ?”
“โทษที ก็ตั้งใจที่จะทำระหว่างที่กำลังเดินทางมาอยู่หรอก แต่ดันเผลอหลับไปแบบไม่รู้ตัวน่ะ”
“โฮร่า เห็นไหม ข้าบอกแล้วว่านายทำงานหนักเกินไป พักผ่อนซะบ้างเถอะ”
เห็นด้วย
อันที่จริง เห็นได้ชัดว่าคริสโตเคยบอกให้ฮิเอร่าพักผ่อนมาก่อนแล้ว ชอบทำงานก็ดีอยู่หรอก แต่ก็อยากให้ทำแบบไม่ทำลายตัวเองจะดีกว่า
“จ๊า ถ้างั้น มาเริ่มด้วยเรื่องของทางนั้นแล้วกัน หากพวกเจ้ามีคำถามหรือข้อสงสัย อย่าลังเลที่ถาม”
เนื้อหาของการประชุมที่จำเป็นนั้น ก่อนอื่นก็พูดคุยเกี่ยวกับกฎระเบียบทางฝั่งของแว็ง เดอ ครุชกันก่อน
ฮิเอโร่ได้นำเมจิกวิชั่นมาแสดงให้ราชวงศ์และขุนนางทั้งหลายได้ดูแล้วหลายครั้ง มีหลายคนได้ทดลองด้วยตัวเองแล้ว
ยังไงก็ตาม หากถามว่ารู้สภาพจริงหรือไม่ ก็ดูค่อนข้างน่าสงสัยอยู่
นี่เป็นเทคโนโลยีและวัฒนธรรมที่แว็ง เดอ ครุชไม่มี ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เข้าใจความสำคัญเมื่อถูกนำเข้ามาอย่างกะทันหัน ไม่เข้าใจว่าทำงานได้ยังไง นอกจากนี้ยังไม่เข้าใจจุดประสงค์ของเนื้อหาของรายการด้วยซ้ำ――คือไม่มีความเข้าใจอย่างแท้จริง รายการส่วนใหญ่เป็นเพื่อความบันเทิง
แต่ทว่า เมื่อมีการอธิบายกลไกเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลายคนตัดสินใจว่านี่เป็นสิ่งที่ควรระวัง
นี่เป็นเทคโนโลยีที่สามารถบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงให้เป็นภาพได้
ดังที่ซัคเฟิร์ดเคยพูดไว้ สิ่งนี้สามารถใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการทหารได้ เพียงเข้ามาถ่ายภาพสะท้อนของประเทศนี้ ก็สามารถเห็นภาพภูมิประเทศ วัฒนธรรม และแม้แต่อุปกรณ์และโครงสร้างของทหารได้ชัดเจน
ยิ่งไปกว่านั้น ประเทศนี้ยังเป็นที่รู้จักในนาม จักรวรรดิการบิน และเป็นสถานที่ที่เทคโนโลยีเรือเหาะได้รับการพัฒนาอย่างสูง นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมการถ่ายภาพสะท้อนจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการขโมยเทคโนโลยี
ดูเหมือนว่าเนื่องจากความระมัดระวังดังกล่าว จึงเป็นเรื่องยากที่จะขายให้กับแว็ง เดอ ครุช แต่ว่า――
ครั้งนี้ ภายใต้โชคดีมากมายที่มารวมกันจึงทำให้ได้รับอนุญาตให้ถ่ายทำได้เป็นกรณีพิเศษภายใต้เงื่อนไขพิเศษ……นั่นคือสถานการณ์ปัจจุบัน
ยังไงก็ตามเนื่องจากประเทศนี้ยังคงเผ้าระวัง จึงไม่ได้หมายความว่าสามารถถ่ายทำได้อย่างอิสระทุกที่
นั่นคือมีกฎระเบียบ
・สถานที่ถ่ายทำได้รับอนุญาตให้อยู่เฉพาะภายในอาคารเท่านั้น
・เมื่อจะถ่ายภาพบุคคลสำคัญ ต้องได้รับอนุญาตก่อน
・มีการตั้งเวลาในการถ่ายทำ ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
・ไม่อนุญาตให้นำภาพสะท้อนที่ถ่ายออกนอกประเทศ
・การอนุญาตหรือยกเลิกการถ่ายทำขึ้นอยู่กับคำแนะนำของเจ้าหน้าที่
――ดูเหมือนจะเป็นเงื่อนไขที่กำหนดโดยจักรวรรดิแว็ง เดอ ครุช
หากไม่สามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบข้างต้นได้ ก็จะไม่ได้รับอนุญาตให้ถ่ายทำ นอกจากนี้ สถานการณะไปทางซ้ายหรือขวาก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ผู้ดูแล
“ใครคือผู้คุม?”
คริสโตหัวเราะกับคำถามของฮิเอโร่
“ผู้หลักแหลมไร้ประโยชน์ ผู้บัญชาการทหารบก พลเอก ลอร์ดกวิน・การ์ด และ ผู้บัญชาการทหารอากาศ พลอากาศเอก ลอร์ดคาคานะ・เรซิจิน เธอยังเป็นบุคคลที่อายุน้อยที่สุดที่จะดำรงตำแหน่งนี้ พิจารณาจากการคัดเลือกคนแล้ว ความหวาดระแวงของตาแก่จักรพรรดิสุดยอดไปเลย”
โห๊ว ผู้บัญชาการทหารบก ……บางทีนี่อาจไม่ใช่เรื่องที่น่าพูดว่า「สุดยอดไปเลย」อย่างไม่คิดแบบนั้น
“แค่ฟังชื่อตำแหน่งงานก็ให้ความรู้สึกดูเป็นคนเคร่งครัดมากเลยนะคะ”
เมื่อฉันพูดแบบนั้น คริสโตก็หัวเราะออกมาดัง ๆ
“เคร่งครัดสินะ ถ้าได้เห็นจะรู้สึกกวินโดโนะดูเหมือนนักเลงมากกว่าคาคาโนะโดโนะที่ให้ความรู้สึกเคร่งครัด ถึงจะเห็นเหมือนเป็นคนไม่รอบคอบแต่ไม่ใช่คนที่ประมาทเลยแม้แต่น้อย”
ม๊า ก็น่าจะเป็นแบบนั้น หากผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นคนหละหลวมคงเป็นเรื่องแย่สำหรับคนรอบข้างและผู้ใต้บังคับบัญชา
“แล้ว คิดว่าไง? ทีมถ่ายทำของนายคิดแผนการที่จะถ่ายทำภายใต้การเฝ้าระวังและกฎระเบียบที่น่ารำคาญพวกนี้เอาไว้แบบไหนกันล่ะ?”
――อ้า เพราะแบบนี้เองสินะ ฮิเอโร่ถึงต้องการให้ประชุมล่วงหน้าเพื่อให้สามารถมีคำตอบสำหรับคำถามนี้ได้
แต่ก็ช่วยไม่ได้
ฉันง่วงนอนนิหน่า
นอกจากนี้ ส่วนหนึ่งก็เป็นความผิดของฮิเอโร่ที่ไม่รีบตื่นให้ไวเอง
“ก็คิดไว้สองสามทางเลือกล่ะนะ ตอนแรกไม่รู้ว่ากฎระเบียบจะเข้มงวดแค่ไหนหรือจะขยายออกไปไกลแค่ไหน ข้าเลยละไว้ก่อน
หลายรายการเองก็ติดกฎระเบียบ แต่ก็มีหลายรายการที่สามารถใช้งานได้โดยไม่มีปัญหาใด ๆ”
“โอ้ สมกับเป็นรักษาการผู้อำนวยสถานีออกอากาศ บอกให้ข้าได้ยินที”
เมื่อข้อกำหนดด้านกฎระเบียบที่สำคัญชัดเจนแล้ว จำนวนเรื่องที่ต้องพูดคุยก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก
หัวข้อหลักของการประชุมคือ จะสานช่องวานของกฎระเบียบดีไหม จะพยายามหาทางเอาชนะกฎระเบียบดีไหม
ดูเหมือนว่านี่เป็นเส้นทางที่ซ้ำรอยกับที่เคยเกิดขึ้นในอาณาจักรอาร์ตัวร์มาก่อน
แม้ในตอนนี้เมจิกวิชั่นได้รับความนิยมโดยทั่วไปแล้ว แต่ในตอนที่ถูกสร้างขึ้นครั้งแรก มีเสียงคัดค้านอย่างรุนแรงจากขุนนางผู้มีอำนาจ และขอบเขตของกิจกรรมค่อนข้างแคบ
เมีร์ยโกรู้เรื่องราวสมัยนั้นดี และฮิเอโร่ได้บอกว่า เขาได้ศึกษาความคิดเห็นและประสบการณ์ในอดีตหลังจากได้รับตำแหน่งนี้มา ในกรณีของครั้งนี้ส่วนหนึ่งก็ซ้ำรอยอย่างมาก
เมื่อถึงจุดหนึ่งสักแห่งระหว่างทาง สถานะของพวกคริสโต ในฐานะเจ้าชายและเจ้าหญิงก็ถูกลืม และการประชุมของพวกเราก็ดำเนินไปตลอดทั้งคืน