คุณหนูโลลิคลั่งเนีย ลิสตัน - ตอนที่ 17 ครั้งแรก เตรียมแจกเศษเสี้ยวโลลิ
17 งานแรก และเศษเสี้ยวแผ่นดิน
ระหว่างขั้นตอนการจำกัดรายละเอียดให้แคบลง ในที่สุดก็สามารถตัดสิยใจได้แล้วว่าเมจิกวิชั่นแบบไหรที่ฉันจะไปปรากฎตัวอีกครั้ง……เป็นรายการที่จะถ่ายทำกันหลายครั้ง
ชื่อว่า 「การเยี่ยมชมธุรกิจของเนีย・ลิสตัน」
นี่คือโปรเจคที่ฉัน เนีย・ลิสตันจะได้รับประสบการณ์และทำการแนะนำอาชีพต่าง ๆในแต่ละรอบ
มีข้อเสนอมากมายจาผู้สมัครโปรเจค แต่สิ่งที่พวกเขามีเหมือนกันคือจุดมุ่งหมายที่ว่า「มีอาชีพพิเศษที่อยากให้ฉันลองทำ」
ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจหาประสบการณ์การทำงานด้วยการฝึกงานครึ่งวันกับมืออาชีพในสาขานั้น โดยพยายามถ่ายทำเอาไว้
เนื้อหาจะเป็นแบบนั้น
ในรูปแบบนี้ จะสามารถรับช่วงวัตถุประสงค์ของการ「ทำสิ่งต่าง ๆ」ทุกครั้ง และสามารถดำเนินการโปรเจคต่าง ๆ ได้
โดยพื้นฐานแล้วยังมีรายการที่ถ่ายทำอยู่น้อยมาก
หากคุณดูเมจิกวิชั่นทั้งวัน ก็จะเกิดปรากฎการณ์วนซ้ำที่รายการที่ออกอากาศไปแล้วกลับมาฉายซ้ำหลายต่อหลายครั้ง
ด้วยเหตุนี้ ระยะเวลาตั้งแต่การวางแผนไปจนถึงวันถ่ายทำนั้น ฉันคิดว่าค่อนข้างสั้น
“ซ้า คุณหนู ส่งมือให้ฉันสิ”
“อาร๊า ขอบคุณมากค่ะ”
ที่มารับเราคือเรือเหาะลำเล็กรุ่นใหม่ล่าสุดที่ผิวสีเทาเข้มสะท้อนแสงระยิบระยับ
เมื่อฉันพยายามปีนขึ้นทางลาดที่วางพาดใว้ด้วยเท้าของตัวเอง ก็ได้รับการเอสคอร์ทด้วยใบหน้าฉูดฉาดของเบนเดริโอ้ที่ลงมาทักทาย
ทุกสิ่งทุกอย่างได้รับการตัดสินใจในพริบตาและพวกเรากำลังมุ่งหน้าไปยังสถานที่การถ่ายทำครั้งแรก
…….ถึงอย่างนั้น เรือเหาะรุ่นล่าสุด……
พูดตามตรง ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าก้อนโลหะที่ให้ความรู้สึกเหมือนโลหะเปลือยจะสามารถบินขึ้นไปบนท้องฟ้าได้…… ฉันไม่อยากขึ้นเลย แต่ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะโต้เถียงกันในเรื่องแบบนี้ ดังนั้นมีแต่ต้องขึ้นไป
――ที่จริง ถึงจะพึ่งผ่านไปกี่วันหลังจากที่มีการพูดคุยเรื่องการปรากฎตัวอีกครั้ง
พี่นีลยังไม่ยอมกลับไปสถาบันการศึกษาอาร์ตัวร์ และยังคงอยู่กับตระกูลลิสตัน
และเขากำลังเดิมตามมาจากทางด้านหลังฉัน
เขาบอกว่า เพราะนี่เป็นการถ่ายทำครั้งแรกของน้องสาว ดังนั้นเขาจะไปด้วย อาจเป็นเพราะเขารู้ว่าพ่อแม่จะไม่ได้ไปด้วย เพราะติดงาน จึงกังวลเรื่องฉัน น่ารักมากเลย
ลินเนตต์สาวใช้ส่วนตัวของพี่ชายกับริโนกิสสาวใช้ส่วนตัวของฉันช่วยกันยกรถเข็นตามขึ้นมาติด ๆ เมื่อตระกูลลิสตันขึ้นมากันพร้อม เรือเหาะก็เพิ่มระดับความสูงอย่างรวดเร็ว
พ่อบ้านเฒ่าเจย์ เหล่าเมดและคนสวนที่มายืนส่งต่างโบกมือมาให้พวกเราที่ค่อยๆ ลอยห่างออกไป
เกาะลอยฟ้า
ว่ากันว่าเดิมทีมันเป็นแผ่นดินขนาดใหญ่ชิ้นเดียวที่หยั่งรากลึกยิ่งกว่าทะเล กล่าวคือเป็นชิ้นส่วนของแผ่นดินที่ลอยอยู่ผิวน้ำ
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว 「วิคลันด้า ผู้ผ่าแผ่นดิน」…… สัตว์อสูรระดับพิเศษที่เรียกกันในชื่อสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ ฉีกแยกทวีปออกจากกัน และเศษเสี้ยวแผ่นดินก็ลอยอยู่บนฟ้านับจากนั้น
นั่นคือเรื่องเล่าปรากฏการณ์เกาะลอยฟ้า
แผ่นดินแตกราวกับตอไม้ถูกทุบด้วยค้อน
เกาะลอยฟ้าเป็นเศษชิ้นส่วนของแผ่นดินที่แตกออกมา
ว่ากันว่ายังมีแผ่นดินบางส่วนที่ยังคงหยั่งรากอยู่ในทะเล แต่ว่ากว่าครึ่งได้กลายเป็นเศษเล็กเศษน้อย
ว่ากันว่าเกิดขึ้นเมื่อหลายร้อยปีก่อน
ในตอนนั้นปรากฏการณ์เกาะลอยจฟ้าสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงและมหาศาล แต่――
สิ่งมีชีวิตบนเกาะลอยฟ้าแต่ละแห่งซึ่งเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมอย่างรวดเร็ว ได้มีวิวัฒนาการเป็นของตัวเอง
สิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม…หรือไม่ก็จะสูญพันธุ์ และสิ่งมีชีวิตใหม่จะถือกำเนิดขึ้นมาแทนที่
จึงกล่าวได้ว่าระบบนิเวศของเกาะลอยฟ้านั้นกระจัดกระจายโดยสิ้นเชิง
และไม่ใช่แค่เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตเท่านั้น
แม้ว่าจะยังไม่สามารถหาคำอธิบายที่แน่ชัดได้ แต่เกาะลอยฟ้ามักจะมีเขาวงกตที่เรียกว่าดันเจี้ยน
แม้จะยังไม่ทราบสาเหตุ ――แต่ว่ากันว่าก็เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมด้วยเช่นกัน
ด้วยการประดิษฐ์เรือเหาะ ในที่สุดก็มีวิธีการสามารถไปถึงเกาะลอยฟ้าได้อย่างปลอดภัย การค้นหาและสำรวจเกาะลอยฟ้าที่ยังไม่ได้สำรวจ และยังไม่ได้ค้นพบ จึงได้เริ่มขึ้น
ยังไงก็ตามในอาณาจักรอาร์ตัวร์ ขุนนางเช่นตระกูลลิสตันได้รับความไว้วางใจให้จัดการเกาะลอยฟ้าขนาดใหญ่และเกาะเล็ก ๆ ที่อยู่รายรอบ
ทรัพยากรที่สามารถหาได้ถูกใช้ในการวิจัยและพัฒนา และว่ากันว่าการสำรวจเกาะลอยฟ้าของดินแดนนี้กำลังก้าวหน้าอย่างมาก
――เมื่อได้มองลงมาจากท้องฟ้าครั้งแรก・・・・หากเคลื่อนสายตาออกจากเกาะลอยฟ้าซึ่งเป็นที่ตั้งของคฤหาสน์ตระกูลลิสตัน จะสามารถมองเห็นเกาะลอยฟ้าขนาดใหญ่ที่มีสิ่งก่อสร้างมากมายในระยะไกล
เกาะที่ใหญ่ที่สุดในอาณาเขตลิสตัน เรียกว่าเขตปกครองหลักลิสตัน หรือเกาะหลัก
สถานีออกอากาศที่เป็นหัวใจสำคัญก็อยู่ที่นั่น เป็นที่ที่พ่อแม่ไปทำงานทุกวัน
ยังสามารถเห็นเกาะลอยฟ้าบางส่วนได้ด้วย แต่ก็อยู่ไกลเกินกว่าจะมองเห็นได้อย่างชัดเจน
ฉันได้ยินมาว่าคุณปู่ของฉันซึ่งส่งมอบการดูแลดินแดนค่อนข้างเร็ว อาศัยอยู่บนเกาะลอยฟ้าเล็ก ๆ ที่ไหนสักแห่ง แต่อันไหนล่ะ
“――ท่านปู่อาศัยอยู่เกาะตรงนั้นน่ะ ดูเหมือนจะเป็นกังวลเกี่ยวกับเนียมากเหมือนกัน ถ้ามีโอกาสก็ควรไปให้ท่านเห็นหน้าสักครั้งก็ยังดี”
เมื่อฉันถามกับพี่ชายที่อยู่ข้าง ๆ เขาก็ชี้นิ้วไปที่เกาะหนึ่งและบอกให้ เข้าใจล่ะ ยังไงก็ตามดูเหมือนว่าหอพักของสถาบันการศึกษาอาร์ตัวร์ที่พี่ชายอยู่จะตั้งอยู่ที่เมืองหลวงอาร์ตัวร์
…………
เกาะลอยฟ้านั้นน่าทึ่ง แต่ทะเลเบื้องล่างก็น่าทึ่งเช่นกัน
ว่ากันว่าเมืองหลวงไม่ได้ตั้งอยู่บนเศษเสี้ยวแผ่นดิน แต่อยู่บนแผ่นดินที่ยังฝังรากลึกในทะเล…….ดินแดนลิสตันก็ว่าใหญ่แล้ว แต่มีทวีปที่ใหญ่ยิ่งกว่านั้นงั้นเหรอ
“เนียจัง ขอคุยด้วยสักเดี๋ยวได้ไหม”
เบนเดริโอ้เรียกพวกเราที่กำลังชมทิวทัศน์โดยไม่ต้องเข้าไปด้านใน
ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากลมมากนัก เนื่องจากมีอุปกรณ์ต้านลมด้วยหินเวทมนตร์
โดยปกติบนท้องฟ้าจะมีลมแรงตามธรรมชาติ แต่ต้องขอบคุณสิ่งนั้น ที่ทำให้แม้จะอยู่บนดาดฟ้าเรือเหาะก็ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกลมแรงพัดไป หรือถูกขัดขวางด้วยลมจนเสียงไม่สามารถไปถึงกันได้ และแน่นอนว่าการบินของเรือเหาะแทบไม่สั่นเลย
ดูเหมือนว่าจะมีใช้กับเกาะซึ่งเป็นที่ตั้งของคฤหาสน์ตระกูลลิสตันด้วย
……ม๊า เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน พวกเราสามารถคุยกันด้วยเสียงปกติได้ที่นี่ คุยกันที่นี่ไปเลยก็ดีเหมือนกัน
“เนียจังฉลาดกว่าที่ฉันคิดไว้มากเลย ดูเหมือนจะอยากรู้สถานการณ์อื่น ๆ ด้วยสินะ ฉันเลยคิดว่าจะขอพูดเรื่องที่ลงลึกไปกว่านี้อีกหน่อย
ฉันจะไม่ขอพูดด้วยถ้าเธอเป็นแค่เด็กทั่ว ๆ ไป แต่ถ้าเป็นเธอ ฉันคิดว่าไม่มีปัญหาแน่นอน”
ฮา เรื่องราวเชิงลึก
“เบนเดริโอ้ซัง เรื่องนั้นได้ขออนุญาตจากท่านพ่อท่านแม่แล้วงั้นหรือครับ?”
พี่ชายจ้องด้วยสายตาจริงจัง น่ารักจัง พี่ชายที่ปรากฎตัวเพื่อปกป้องน้องสาวถือเป็นภาพที่ดูดีเลยล่ะ …….ฉันไม่ได้ตั้งใจล้อเลียนเขาหรอกนะ แต่เขาน่ารักจริง ๆ
“ไม่ ฉันไม่ได้ขอ แต่ฉันคิดว่าเนียจังจะเคลื่อนไหวได้ง่ายกว่า ถ้าเธอได้รู้จุดประสงค์ที่แท้จริง
――เธอไม่ใช่เด็กที่จะเอาแต่ทำตามสิ่งที่โดนบอกให้ทำใช่ไหมล่ะ? เธอมีความคิดเห็นของตัวเอง และเป็นเด็กที่กล้าแสดงความคิดเห็นของตัวเองออกมา ไม่ใช่เด็กที่ดูอ่อนแอเหมือนกับที่เห็นภายนอก และเพราะมีหลายสิ่งที่ถึงอยากจะพูดก็พูดไม่ได้หากโตเป็นผู้ใหญ่ไปแล้ว”
พูดโดยทั่วไปก็ถูกต้องตามนั้น และฉันก็สนใจในสิ่งที่เบนเดริโอ้ต้องการจะพูดด้วย
“โอนี่ซามะ ลองฟังกันดูเถอะค่ะ”
แต่แรกแล้วนี่ไม่ใช่เรื่องที่เบนเดริโอ้ต้องขอร้อง และให้ยอมรับได้โดยเต็มใจ
หากคิดอย่างจริงจัง เรื่องของตระกูลลิสตันก็ต้องเป็นคนในตระกูลลิสตันที่ต้องพยายามอย่างเต็มที่
ฉันคิดว่าเบนเดริโอ้ซึ่งปฏิบัติแม้แต่กับเด็ก ๆ ด้วยความเคารพ ควรได้รับความไว้วางใจในฐานะผู้ทำงานร่วมกัน ถึงหน้าเขาจะฉูดฉาดมากก็ตาม
เมื่อพี่ชายเงียบลงด้วยสีหน้าไม่เต็มใจ ฉันก็พยักหน้าให้เบนเดลิโอ้
และเขาก็เริ่มพูด
“ก่อนอื่นเลย เรามาคุยเรื่องตัวเลยที่จำเป็นกันก่อน ฉันอยากให้ออกอากาศซ้ำวันเว้นวันเป็นอย่างน้อย เพราะแบบนั้น ตารางงานอาจจะยุ่งนิดหน่อย”
อ้า เป็นเพราะว่าตอนนี้ทำอะไรไม่ได้มากนอกจากต้องอากาศซ้ำ ๆ เท่านั้น
แน่นอนว่ามาจากการที่ยังมีรายการที่สามารถออกอากาศได้น้อย
“ถ้าหากรู้สึกไม่สบายขึ้นมา อย่าลังเลที่จะบอกฉัน เพราะความเหนื่อยล้าสามารถปรากฏขึ้นบนใบหน้าได้เสมอ เราไม่สามารถออกอากาศใบหน้าแบบนั้นได้ แม้เธอจะฝืนถ่ายทำจนเสร็จก็ตาม”
เข้าใจล่ะ
พูดอีกอย่างก็คืออย่าพยายามมากเกินไป ให้ระวังเรื่องจิตใจด้วย
“ต่อไป ถึงเราจะมีตัวแทนของดินแดนลิสตันแล้ว ยังไงก็ตามฉันคิดว่าเรายังจำเป็นต้องหาใครสักคนที่เป็นที่นิยมของผู้คนจำนวนมากมาช่วยพูดถึงดินแดนลิสตันด้วย
ตัวอย่างเช่น ถ้าคน ๆ นี้มาปรากฏตัว ฉันจะดูเมจิกวิชั่นนี้แน่นอน ทำให้อยากดู เป็นต้น ต้องมีคนดังที่จะทำให้ผู้คนคิดแบบนั้น”
“เหมือนเบนเดริโอ้ซามะเหรอคะ?”
“ฉันไม่ใช่หรอก แต่แรกแล้วฉันทำหน้าที่คุมทีมถ่ายทำมาน่ะ และตอนนี้ฉันก็ยังไม่มีความตั้งใจที่จะลงจากตำแหน่งด้วย นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันอยู่ที่นี่ตอนนี้
ที่ฉันต้องไปลงมือเอง ก็เพราะไม่มีคนที่เหมาะสมเท่านั้นเอง……ใช่แล้ว ถ้านีลคุงโตขึ้นอีกหน่อย ช่วยมาทำ『สารคดีท่องเที่ยวดินแดนลิสตัน』แทนฉันได้ไหม?”
“……จะ จะคิดดู”
พี่ชายกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับพวกแฟน ๆ จนทำให้เขาลังเลที่จะเข้าร่วมปรากฎตัวบนเมจิกวิชั่น ม๊า ก็เป็นเรื่องธรรมดาล่ะนะ
กลับเข้าประเด็นกันต่อ ในตอนนี้มีคน ๆ เดียวที่สามารถเรียกได้ว่าเป็นคนดังที่ได้รับความนิยมบนเมจิกวิชั่น มีเพียง ฮิลเดโทร่าซามะ เจ้าหญิงลำดับที่สามแห่งอาณาจักรอาร์ตัวร์เท่านั้น”
เห๊ มีคนแบบนั้นด้วยเหรอ
“หนูไม่เคยได้ยินหรือเห็นฮิลเดโทร่าซามะมาก่อนเลยค่ะ เพราะมีหลายรายการที่หนูถูกห้ามดูเอาไว้”
“เอ๊ะ อะ อะไรก๊านนนน!?”
เบนเดริโอ้ซังถึงกลับหลุดอาการตกใจออกมา เจ้าหญิงฮิลเดโทร่าคนนั้นต้องโด่งดังมากแน่ ๆ
“ม๊า งั้นฉันคิดว่าเราค่อย ๆ ไปเป็นขั้นเป็นตอนก่อนแล้วกัน……เรื่องนั้นไว้ค่อยทำความเข้าใจทีหลัง ตอนนี้เก็บเรื่องที่คุยกันเอาไว้ก่อน
――อีกอย่าง เธอกำลังกังวลว่าต้องแสดงการพูดจาเอาอกเอาใจเพื่อให้ได้รับความนิยมจากผู้ใหญ่นั้นจำเป็นต้องทำหรือไม่ อยู่ใช่ไหม”
อ้า ใช่ ถูกต้องเลย
เมื่อฉันถามคำถามนี้ไป เขาก็พูดว่า 「ขอฉันคิดก่อน」ด้วยใบหน้าที่ครุ่นคิดเล็กน้อย พี่ชายเองก็ครุ่นคิดเช่นกัน
“ฉันคิดว่าเสน่ห์ของเธออยู่ที่ท่าทางสุขุม เยือกเย็น และกล้าหาญไม่เกรงกลัวใคร แทนที่จะฝืนสร้างคาแรคเตอร์ที่สดใส ฉันคิดว่าปล่อยไว้อย่างนั้นดีกว่า”
งั้นเหรอ
แปลว่าฉันไม่ต้องแสดงการประจบประแจงก็ได้ ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอย่าง「ในอนาคตพอหนูโตขึ้นได้โปรดแต่งงานกับหนูด้วยนะคะ」ก็ได้สินะ
“เข้าใจแล้วค่ะ หนูจะเข้าท้าทายด้วยท่าทางตามธรรมชาติ ……แต่ถ้าหากว่ามีเรื่องไหนที่หนูบกพร่องก็ได้โปรดบอกกันตรง ๆ ได้เลยนะคะ หนูจะปรับปรุงอย่างสุดความสามารถเลยค่ะ”
“――อ้า ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉันเอง ฉันจะไม่มีวันสร้างรายการที่จะทำให้ชื่อของลิสตันต้องเสื่อมเสียแน่นอน”
ช่วงขำขันกับคนแปลที่คุณพี่ชายไม่น่าจะขำ
ตอนที่แล้ว คนแปลเข้าใจบริบทคำตอนที่คุณพี่ชายจะหาแฟนคลับสักคนแล้วแต่งเข้าบ้านของสาวคนนั้นผิดไป
ตอนแรกไปแปลว่าคุณพี่ชายจะหาแฟนคลับมาแต่งเข้าบ้านเป็นสามีของตัวเอง ฮา
ดีที่ได้เนียจังช่วยเอาไว้ เพราะคำแปลของเนียจังขัดกันเองจนต้องกลับไปไล่ตรวจอ่านใหม่ เลยเข้าใจบริบทคุณพี่ชายจริงๆ
ถ้าไม่อย่างงั้นตอนที่แล้ว คงลงไปทั้งๆแบบนั้น คุณพี่ชายนีลคงจะโดนเข้าใจผิดว่าจะเป็นสามีหรือเป็นภรรยาก็ได้ไปแล้ว ฮา
ถึงจริงๆจะคิดว่าคุณพี่ชายใส่ชุดเจ้าสาวขึ้นกว่าเนียจังแน่นอนก็ตาม ฮา