คุณหนูโลลิคลั่งเนีย ลิสตัน - ตอนที่ 281 ปฏิบัติการแทรกซึมหมู่เกาะหมีอากาศ 7 การประชุมหมีสลัดจานใหญ่
- Home
- คุณหนูโลลิคลั่งเนีย ลิสตัน
- ตอนที่ 281 ปฏิบัติการแทรกซึมหมู่เกาะหมีอากาศ 7 การประชุมหมีสลัดจานใหญ่
281 ปฏิบัติการแทรกซึมหมู่เกาะโจรสลัดอากาศ 7
“――นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกัน!!”
ผู้ที่กำลังตะโกนอยู่คือ กัปตันอากันเต้แห่งกลุ่มโจรสลัดอากาศ หอยแห่งการทำลายล้างสีชาด(เรดเชลล์)
เขาเป็นชายร่างใหญ่ที่มีลำตัวใหญ่โตจนต้องแหงนหน้ามองขึ้นไปจนรู้สึกเหมือนเป็นครึ่งยักษ์ได้เลย และร่างกายที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีก็มีรอยแผลเป็นมากมายที่พิสูจน์ให้เห็นถึงประวัติศาสตร์การต่อสู้อันยาวนาน
เขาเป็นหนึ่งในผู้นำระดับสูงภายใต้ร่มเงาของ แฟรกไจล์ ราชาแห่งการหลบหนี หากนับอย่างเป็นรูปธรรมเขาจะเป็น หมายเลขสอง
“ทำไมถึงไม่มีใครเห็น『ไอ้หัวขโมย』นี้ทั้ง ๆ ที่มันทำเรื่องอลังการขนาดนั้นลงไปกันห๊า!”
ในตอนเช้าก่อนที่ร้านจะเปิด ในบาร์ที่ไม่มีลูกค้าหรือพนักงานคนอื่น ๆ กัปตันของกลุ่มโจรสลัดอากาศต่าง ๆ ก็มารวมตัวกันตามคำเรียกของอากันเต้
กัปตัน・อากันเต้ แห่ง หอยแห่งการทำลายล้างสีชาด(เรดเชลล์)。
กัปตัน・ชูรัต แห่ง ดาบหนามนับพัน(เธาเซินด์)。
กัปตัน・ไนน์ แห่ง มังกรทะเลเปื้อนเลือด(บลัดซี)
กัปตัน・ซาเรีย แห่ง เทพธิดาหัวงู(เดรดก็อดเดส)
และ กัปตัน・จินมอร์นิ่ง แห่ง เรือรบยุงสงคราม(มอสคิวโต้) ซึ่งมีอาการบาดเจ็บทั่วร่างกาย รวมถึงแขนขวา ขาขวา และซี่โครงหักหลายซี่
พูดง่าย ๆ ก็คือทั้งห้าคนที่นี่เป็นผู้บริหารภายใต้แฟรกไจล์
นอกจากนี้ยังมีกลุ่มโจรสลัดอากาศขนาดเล็กและอ่อนแออีกจำนวนหนึ่งที่ปรากฏตัวขึ้นมา แต่จากมุมมองของพวกเขา คนเหล่านี้ไม่มีความแข็งแกร่งมากพอที่จะถูกนับเข้ามาว่าเป็นหนึ่งในพวกเขา
“เอ๊ย จินมอร์นิ่ง! พูดอะไรหน่อยเซ๊!”
――เหตุการณ์เมื่อคืนเป็นสิ่งที่ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถมองข้ามได้
โดยพื้นฐานแล้ว โจรสลัดอากาศเป็นพวกที่จะไม่ให้ความร่วมมือโดยไม่จำเป็น
พวกคนที่มารวมตัวที่นี่เช่นกัน มีทั้งผู้ที่มาเพราะหลงใหลในพลังของแฟรกไจล์ มีทั้งผู้ที่มาเพื่อต้องการการปกป้องอยู่เบื้องหลังโล่ของผู้แข็งแกร่ง มีทั้งผู้ที่แอบวางแผนจะปลิดชีพและเข้าแทนที่แฟรกไจล์ ผู้มีชื่อเสียงในฐานะโจรสลัดแห่งท้องฟ้า
ดังนั้นแม้อาจกล่าวได้ว่าทุกคนอยู่「ใต้ร่มเงาของราชาแห่งการหลบหนี」แต่ความจริงก็ถือว่าห่างไกลจากความเป็นหนึ่งเดียว
ยังไงก็ตาม เกี่ยวกับเหตุการณ์ล่าสุด……โดยเฉพาะเรื่องเมื่อคืนนี้ ที่ทำให้ทุกคนก็รู้สึกแบบเดียวกัน
――นั่นคือการถูกดูถูกโดยสมบูรณ์แบบ
โจรที่ตามล่าโจรสลัดอากาศ
ปัญหาอยู่ที่การลงมือลับ ๆ ของเจ้าคนไร้ยางอายที่แอบลอบโจมตีทุกผู้ทุกคนที่ดูเหมือนโจรสลัดอากาศ และขโมยสิ่งของมีค่าไป
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ สถานะปัจจุบันมีคนลักลอบเข้ามาภายในหมู่เกาะโจรสลัดอากาศ แต่กลับเลือกที่จะต่อสู้กับโจรสลัดอากาศจากใจกลางดินแดนศัตรู
นอกจากนั้น ยังเป็นบนเกาะที่ปกครองโดยแฟรกไจล์ ราชาแห่งการหลบหนี หนึ่งในสี่ราชาแห่งท้องฟ้า แห่งนี้ด้วย
เหล่าโจรสลัดอากาศจะไม่มีความร่วมมือกัน เว้นแต่――คนที่คุ้นเคยกับการเสี่ยงชีวิตมาจนถึงตอนนี้เท่านั้นที่จะเข้าใจดีว่า หากปล่อยให้โลกของตนถูกดูถูกก็เท่ากับจบสิ้น
แม้แต่เหล่าร้ายนอกกฎหมายก็ยังมีเจตจำนงและความภาคภูมิใจของตัวเอง
และนั่นสำคัญกว่าชีวิตของคุณเอง
ทว่า――
“ข้า……ไม่สิ、พวกข้า ทำต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว”
เสียงเศร้าหมองที่อ่อนแอมากจนแทบไม่น่าเชื่อว่ามาจากจินมอร์นิ่งศัตรูที่คู่ควรที่ไม่สามารถลดความระมัดระวังลงได้
จากเหตุการณ์เมื่อคืนนี้、จินมอร์นิ่ง และกองเรือ เรือรบยุงสงคราม(มอสคิวโต้)ที่เขาเป็นผู้นำถูกทำลายลงจนสิ้น
ใช่ ความจริงคือ ทุกอย่างถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง
จากเรือเจ็ดลำที่เขาเป็นเจ้าของ เรือสองลำล่มเมื่อคืนก่อน และอีกห้าลำล่มเมื่อคืนนี้ พวกมักถูกทำลายต่อหน้าต่อของจินมอร์นิ่ง เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย ไม่อาจต้านทานได้ และเขาก็สูญเสียเรือที่สำคัญยิ่งมากกว่าชีวิตไป
“เชื่อได้ไหมสินะ? ไม่สิ ลูกน้องของพวกแกก็จับตาดูอยู่จากที่ไหนสักแห่งอยู่แล้วจริงไหม? ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่เชื่อจริงไหม? หรือแค่ไม่อยากจะเชื่อใช่ไหมล่ะ?”
ใช่ ทุกคนได้ยินรายงานเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว
“นี่เอาเบียร์เอลแก้วใหญ่ ต้องดื่มให้หมดในรวดเดียวแล้วใช่ไหม? ――ในตอนนั้นมีคนมากกว่าร้อยคนอยู่ที่นั่น”
ลูกน้องของเขามากกว่าสิบคนถูกซัดปลิวอย่างไม่ทันตั้งตัวไปต่อหน้าต่อตา
เรื่องนี้เกิดขึ้นสามสี่ครั้งแล้วมันก็จบลง
นั่นคือทั้งหมดที่จินมอร์นิ่งเห็นเมื่อคืนนี้
“ทั้งข้า และพวกลูกน้องของข้าถูกกวาดล้างในเวลาเพียงพริบตา ข้ามองไม่เห็นเงาของมันด้วยซ้ำ มันช่างน่ากลัวจริง ๆ “
และก็ถึงคราวของเรือ
เขาได้รับบาดเจ็บโดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองด้วยซ้ำ ขยับตัวไม่ได้
แล้วทันใดนั้น ต่อหน้าต่อตาพวกเขา เรือเหาะเริ่มเอียงจากด้านหนึ่ง และคว่ำลง
ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีใครทำอะไรแบบนี้ได้
ในช่วงเวลาสั้น ๆ ของเมื่อคืน จินมอร์นิ่งก็สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง
ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ
“……เอาล่ะ สิ่งที่น่ากลัวจริง ๆ คือสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น “
เขาพูดด้วยสายตาราวกับทาสที่ถูกพาเข้ามา
“เฮ้ เชื่อไหม? ดูข้าสิ ข้าสบายดีใช่ไหม? ลูกน้องของข้าก็สบายดีเหมือนกัน
แต่――ไม่มีใครตาย ข้าได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ไม่ตาย รู้ไหมว่ามันหมายความว่ายังไง? นา มันน่ากลัวจริงไหม?”
ไม่ใช่เรื่องบังเอิญจริงไหม
มันคงจะเป็นเรื่องบังเอิญจริงไหม
มันคงจะเป็นโชคดีจริงไหม
จะคิดว่าอาจเป็นการหลอกลวงด้วยคำพูดหอมหวานเอาก็ได้――แต่อย่างน้อยก็ไม่ใช่สำหรับจินมอร์นิ่ง
ไม่มีคนตาย
หรือก็คือ――มีความเป็นไปได้สูงที่พวกเขาจะถูกออมมือให้
แม้ว่าจะเผชิญหน้ากับอันธพาลติดอาวุธร้อยคน แม้ว่าจะถึงขั้นทำให้เรือล่มได้ แปลว่ามีความเป็นไปได้สูงว่าการล่าโจรสลัดอากาศยังคงออมมือให้อยู่
เมื่อจินมอร์นิ่งนึกถึงความคิดเหล่านั้น หัวใจของเขาก็แตกสลายทันที
――เขาสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งความภาคภูมิใจ ทั้งจิตวิญญาณ ทั้งเรือ ไปในภาพอันเหลือเชื่อที่เกินกว่าจะเข้าใจได้
“ทั้งข้า รวมถึงเหล่าลูกน้องต่างสูญเสียจิตใจกัน……แทบไม่สามารถแม้แต่จะรวบรวมกำลังเพื่อเผชิญหน้ากับสิ่งนั้นได้อีกต่อไป
ข้ารู้สึกได้เลยว่าไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่สามารถเอาชนะสิ่งนั้นได้ ต่อให้ค้นหาจนเจอก็เป็นการวิ่งเข้าไปหานรกนั่นแหละ ไม่ว่าจะรวบรวมคนมาได้สักกี่พันคน……ไม่ว่าจะรวมรวบกำลังมาได้มากแค่ไหนก็ตาม ข้าก็ไม่คิดว่ามันจะสร้างความแตกต่างในเรื่องจำนวนได้จริง ๆ”
ไม่มีใครสามารถพูดอะไรได้เนื่องจากอดีตคู่แข่งของพวกเขาดูเหนื่อยล้าไปจนหมดสิ้น
จินมอร์นิ่งไม่ได้คาดหวังการตอบกลับใด ๆ เขาลุกขึ้นยืนลากร่างที่อ่อนแอขึ้นมา
“ข้าาา เลิกเป็นโจรสลัดอากาศแล้ว เรือก็ถูกทำลายจนหมดแล้ว โชคดีแค่ไหนที่ยังมีชีวิตอยู่ ……แต่จะขอพูดสิ่งนี้ตามที่ข้าได้เรียนรู้มาจนถึงตอนนี้ ข้าคิดว่ามันไร้ประโยชน์
หากพวกแกยังคิดที่จะเป็นโจรสลัดอากาศต่อไป ก็จงรีบหนีไปก่อนที่จะสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง
อย่างน้อยที่สุด ในฐานะที่เคยต่อสู้กับพวกเรา เหล่าเรือรบยุงสงคราม พวกแกไม่มีโอกาสชนะแม้แต่น้อย ไม่มีโอกาสที่จะชนะแม้แต่สักเสี้ยวเดียว แน่นอนแม้แต่แฟรกไจล์ก็ด้วย……
ลูกน้องของพวกแกเฝ้าดูอยู่ใช่ไหมล่ะ? คงได้ยินรายงานแล้วใช่ไหม? มันอาจจะยากที่จะเชื่อ แต่มันก็เป็นเรื่องจริงทั้งหมด
จงอย่าไปยุ่งกับสิ่งนั้นจะดีกว่า”
นั่นคือคำพูดสุดท้ายของจินมอร์นิ่ง
หลังจากที่เขาออกจากบาร์ ผู้คนที่ถูกทิ้งไว้ในบาร์ต่างก็ไม่ได้พบเห็นเขาอีกเลย
―― จินมอร์นิ่งซึ่งเลือกที่จะหนีก่อนที่ราชาแฟรกไจล์จะเข้ามาเกี่ยวข้อง เขาอาจสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไป แต่เขาอาจจะโชคดีจริง ๆ
หลังจากที่จินมอร์นิ่งจากไป กัปตันทั้งสี่ก็พูดคุยกันอีกไม่กี่คำก่อนตัดสินใจแยกย้ายเช่นกัน
คำพูดที่อดีตคู่แข่งทิ้งไว้เหมือนเป็นของที่ระลึกที่โปรยนำว่า「ข้าคิดว่ามันไร้ประโยชน์」ดังก้องอยู่ในใจพวกเขามากกว่าที่พวกเขาคาดไว้
ดังที่จินมอร์นิ่งกล่าวไว้ คนของพวกเขาเฝ้าดูเหตุการณ์ทั้งหมดที่ นักล่าโจรสลัดอากาศกับเหล่าสมาชิกของเรือรบยุงสงคราม(มอสคิวโต้เข้าปะทะ
เนื่องจากพวกเขาเป็นกลุ่มโจรสลัดอากาศที่ใหญ่ที่สุด พวกเขาจึงไล่ล่าคนที่มีลักษณะเหมือนจะใชช่ไปจนถึงที่ท่าเรือ――เหตุการณ์หลังจากนั้นก็เกิดขึ้นในพริบตา
ไม่มีโอกาสเข้าไปแทรกแซง ไม่มีเวลาให้รีบเข้าไปสนับสนุน และตั้งแต่แรก ก็ไม่มีใครที่สามารถมองเห็นสิ่งที่ดูเหมือนเป็นนักล่าโจรสลัดอากาศเลยแม้แต่น้อย
ไมว่าจะเป็นกลุ่มเรือรบยุงสงคราม(มอสคิวโต้)ที่เข้าปะทะ หรือแม้กระทั่งผู้เห็นเหตุการณ์นั้น
มันเข้าใจยากเกินไป
ไม่เพียงแต่จะไม่ทราบตัวตนที่แท้จริงของหัวขโมยที่ออกตามล่าโจรสลัดอากาศา แต่ยังไม่รู้เกี่ยวกับความแข็งแกร่งที่แท้จริงด้วยซ้ำ
――ในสถานการณ์ที่ผิดปกติที่ยากจะเข้าใจนี้ บรรดากัปตันที่เคยเอาชนะความขัดแย้งต่าง ๆ มามากมายตลอดหลายปีที่ผ่านมา ต่างประสบปัญหาและสับสน และสุดท้ายก็ไม่สามารถดำเนินการหรือหามาตรการตอบโต้ต่อไปได้
และในคืนนั้นเอง หอยแห่งการทำลายล้างสีชาดซึ่งนำโดยอากันเต้ ผู้นำระดับสูงสุดภายใต้แฟรกไจล์ก็ถูกทำลายลง