คุณหนูโลลิคลั่งเนีย ลิสตัน - ตอนที่ 42 หน้าประตูโลลิยูริ
42 หน้าประตูใหญ่
เมื่อจู่ ๆ ก็ถูกถามว่า 「ไม่มีวิธีเพิ่มอัตราการแพร่กระจายของเมจิกวิชั่นเลยงั้นเหรอ」ฉันก็ไม่สามารถคิดแผนที่เป็นรูปธรรมได้
ยังไงก็แล้วแต่ การพบปะวันนี้ก็ยังเป็นเพียงแค่การทักทายแนะนำตัวเท่านั้น
หลังจากที่จัดการชา และสโคนจนหมด ในระหว่างการพูดคุยที่ไม่เกี่ยวข้องกับเมจิกวิชั่น พวกเราก็ออกจากร้านน้ำชา
และจากนั้น พี่นีล และ ฮิลเดโทร่า ก็เป็นผู้นำทาง จนในที่สุดพวกเราก็มาถึงพื้นที่แผนกประถามของสถาบันการศึกษาอาร์ตัวร์
ที่ตั้งอยู่ค่อนข้างไกลจากถนนสายหลัก
กำแพงสูงปรากฎขึ้นก่อนที่ฉันจะทันรู้ตัว พวกเราเดินตามกำแพงที่มองแล้วทอดยาวไปราวกับไม่มีที่สิ้นสุดมาเรื่อย ๆ ในที่สุดฉันก็เห็นประตูบานใหญ่
นี่คือประตูหลักของแผนกประถม สถาบันการศึกษาอาร์ตัวร์
ประตูเปิดอยู่ และสามารถมองเห็นเหล่าเด็ก ๆ พร้อมผู้ใหญ่อยู่ทั้งที่นี่และที่นั่น ทั่งข้างในและข้างนอก
“――จากนี้เราจะเดินทางกลับปราสาทก่อน ไว้พบกันใหม่ในวันเปิดภาคเรียนนะคะ ทุกท่าน”
ฮิลเดโทร่าซึ่งกลายเป็นเพื่อนร่วมชั้นของพี่ชายกล่าวออกมาเช่นนั้นระหว่างการคุยเรื่องสัพเพเหระ แล้วมุ่งหน้าไปยังรถม้าที่รออยู่บนถนนสายหลักที่แบ่งพื้นที่ภายในและภายนอกของสถาบัน และขึ้นไปทันที
“――โกกิเกงโยะ”
เมื่อเจ้าหญิงโบกมือผ่านหน้าต่าง รถม้าก็เริ่มวิ่งอย่างช้า ๆ
……ยาเร๊ะยาเร๊ะ ไปซะที
เป็นการโจมตีจากเจ้าหญิงทันทีที่มาถึงเมืองหลวง ทำให้ฉันเหนื่อยเหมือนกัน
จากนี้ไป ฉันกับเธอคงได้มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งและยาวนานต่อกัน
ฉันต้องทำตัวให้คุ้นชินโดยเร็วที่สุด ยิ่งไปกว่านั้น ฉันก็อยากแผนการกลยุทธ์ธุรกิจออกมาโดยเร็ว
――จริงสิ
“ตระกูลของคุณเป็นยังไงบ้าง?”
“……ฮะ? ห๊า?”
เรเลียเรดซึ่งกำลังถอนหายใจเงียบ ๆ เช่นเดียวกับฉัน เมื่อเห็นรถม้าของฮิลเดโทร่าเคลื่อนออกไป หันกลับมามองฉันด้วยสายตาที่อันตราย
ด้วยเหตุผลบางอย่าง ทั้งน่าจะเป็นการได้เจอเธอเป็นครั้งแรก……แต่นับตั้งแต่วินาทีแรกที่เธอเรียกหาฉัน ฉันก็สัมผัสได้ถึงความเป็นศัตรูอย่างรุนแรง
หากคุณมีข้อตำหนิอะไรก็สามารถบอกฉันได้ตลอดเวลา ฉันคิดว่าแบบนั้นจะเป็นการดีกว่า แต่ฉันคิดว่าเธอคงจะไม่ทำอย่างงั้น ถึงถ้าทำจะดีกว่า ฉันหมายถึงอยากให้เธอทำ เพราะฉันจะได้แก้แค้นอย่างไร้ความปราณีแม้แต่กับเด็ก ๆ
“การก่อสร้างสถานีออกอากาศจำเป็นต้องลงทุนเป็นเงินจำนวนมหาศาลมาก ๆ แม้แต่ตระกูลลิสตันยังค่อนข้างมีปัญหาติดขัดเลย เพราะแบบนั้น ที่นั่นไม่เป็นไรใช่ไหม?”
“ห๊า? เธอกำลังล้อเลียนอำนาจทางการเงินของตระกูลซิลเวอร์ ระดับขั้นที่ห้าอยู่หรือไง? กำลังดูถูกกันอยู่ใช่ไหม?”
“ฉันแค่กังวลเรื่องการเงินของ ――อะแฮ่ม! โกะโฮ่ง โกะโฮ่ง! อือ! อืออออ! อืออือ! มากไปแล้ว อะแฮ่มโกะโฮ่ง!”
อันตราย ริโนกิสที่ยืนอยู่ข้างหลังฉันตอนนี้เดาะลิ้นอยู่แน่นอน และเธอทำอย่างต่อเนื่องห้าหรือหกครั้ง เห็นได้ชัดว่ามีเจตนาที่จะแสดงความเป็นศัตรูกับอีกฝ่ายหนึ่ง
“มะ มากไปแล้ว……? จู่ ๆ ก็เป็นอะไรไปกัน……”
ฉันพยายามตบตาแบบปัจจุบันทันด่วย แต่ดูเหมือนว่าจะประสบความสำเร็จ
เรเลียเรดแสดงสีหน้าสงสัย แต่ไม่รู้ตัวถึงท่าทีเป็นปรปักษ์ของสาวใช้ของฉัน ……ริโนกิส อย่าเลือกการต่อสู้ที่เห็นผลลัทพ์ชัด ๆ อยู่แล้วสิ ยั่วได้แต่ห้ามเปิด
“ที่จริง ผมเองก็มีความกังวลอยู่เล็กน้อยเหมือนกัน”
ฉันไม่รู้ว่าพี่ชายคิดยังไงกับการเดาะลิ้น แต่ฉันก็ได้รับการสนับสนุนจากเขา
“ให้ผมออกความเห็นในฐานะของคนที่มีส่วนร่วมมาก่อน แม้แต่ตระกูลลิสตันที่เป็นระดับขั้นที่สี่ก็ยังมีช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นกัน ดังนั้นผมไม่คิดว่าตระกูลซิลเวอร์ที่มีตำแหน่งใกล้เคียงกันก็ไม่น่าจะมีกำลังมากขนาดนั้น”
“อะ……ค่ะ ใช่ค่ะ……”
แม้ว่าเธอจะมีใบหน้าที่ไม่เป็นมิตรจนถึงกระทั่งเมื่อสักครู่ การแสดงออกของเธอก็เปลี่ยนเป็นสาวน้อยทันทีที่หันไปทางพี่ชาย เป็นเรื่องที่เข้าใจง่าย และชัดเจนดี
“อาโน…… ――เอซูเอลา ได้ยินแล้วใช่ไหม?”
สาวใช้ของเรเลียเรดที่ถูกเรียกตอบกลับมาเรียบ ๆ
“――นั่นสินะคะ ตามที่ดิฉันทราบมาจนถึงตอนนี้ ทางเราได้รับเงินลงทุนจำนวนมากจากบริษัทที่ก่อตั้งโดยคุณหนูใหญ่ และการขายเกาะลอยฟ้าบางส่วนในบริเวณใกล้เคียงค่ะ นอกเหนือจากนี้ดิฉันก็ไม่ทราบแล้วค่ะ”
ตอนแรกฉันไม่ได้คาดหวังว่าจะได้ยินเรื่องราวโดยละเอียด เพียงเพราะอยู่ในตำแหน่งขุนนาง
แต่กลับได้ยินคำอธิบายที่ละเอียดกว่าที่ฉันคาดไว้มาก
ยังไงก็ตาม ฉันก็สงสัยว่าบอกรายละเอียดมามากขนาดนั้นจะดีเหรอ
ถึงบางครั้งฉันเองก็ชอบเผลอโพล่งออกไปเล็กน้อยเมื่อพูดถึงตระกูลลิสตัน
“ถ้างั้น ก็เป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องทำให้ธุรกิจเมจิกวิชั่นเป็นไปตามเป้าหมายโดยเร็วที่สุดล่ะ”
“……ค่ะ ใช่แล้ว แต่ว่า――”
แล้วเรเลียเรดก็เข้ามาใกล้ฉันอย่างรวดเร็ว
ดวงตาสีเทาที่มีแสงแรงกล้าจ้องมองตรงมาที่ฉัน
“ฉันจะร่วมมือกับเธอเพื่อทำให้ชื่อเสียงของฮิลเดโทร่าซามะโด่งดังขึ้น แต่ว่าฉันจะไม่แพ้เธอเด็ดขาด”
……?
ฉันไม่รู้ว่า「จะไม่แพ้เธอเด็ดขาด」หมายถึงอะไร แต่เรเลียเรดพูดเพียงแค่นั้น และมุ่งหน้าเข้าไปในสถาบัน
“――ขออนุญาตค่ะ”
จากนั้นสาวใช้ที่ยังอยู่ของเธอก็ก้มศีรษะจนร่างสูงเหมือนพับงอ
“เรเลียเรดซามะได้รับแรงบันดาลใจจากการได้เห็นเนียซามะในเมจิกวิชั่นค่ะ
และด้วยความที่อายุเท่ากัน จึงดูเหมือนว่าคุณหนูจะมองท่านเป็นคู่แข่งเพียงเพียงฝ่ายเดียวค่ะ ยังไงก็ตามก็ดูเหมือนว่าคุณหนูจะมีความรู้สึกต่อต้านที่รุนแรงอยู่ด้วยเช่นกันค่ะ”
――อ้า เธอคิดว่าฉันเป็นคู่แข่งในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเมจิกวิชั่นสินะ
ฉันมั่นใจว่าการได้เห็นคนในรุ่นคราววัยเดียวกันสร้างผลงานโดดเด่น ในบางครั้งก็คงจะรู้สึกว่าจิตวิญญาณสูญเสียอะไรบ้างอย่างไป ……อะไรกัน ไม่ใช่ศิลปะการต่อสู้หรอกเหรอ ไม่มีหมายความถ้าไม่ได้แพ้ด้วยศิลปะการต่อสู้ไม่ใช่เหรอ เป็นการประกาศว่าสักวันฉันจะทุบเธอให้แหลกคามือไม่ใช่เหรอ
“นี่อาจเป็นการออกความเห็นที่อวดดีเกินไป แต่ดิฉันจะขอขอบพระคุณเป็นอย่างมากหากท่านจะอ่อนโยนกับคุณหนูด้วยค่ะ
แต่แน่นอนว่าหากท่านไม่สามารถระงับความโกรธได้ กรุณาบอกดิฉันได้เลยค่ะ ดิฉันจะเป็นผู้ที่ยอมรับการลงโทษทั้งหมด แล้วได้โปรดยกโทษให้คุณหนูด้วยเถอะนะคะ”
ฟู๊ว……ม๊า ฉันไม่รังเกียจหรอกนะ ถ้าไม่รบกวนการทำงานของฉันล่ะก็นะ
“เธอเองก็ลำบากน่าดูเลยนะ”
“ขอบพระคุณสำหรับคำพูดที่ห่วงใยเป็นอย่างสูงเลยค่ะ――ขออนุญาตนะคะ”
หลังจากก้มศีรษะอีกครั้ง สาวใช้ก็รีบเดินตามเรเลียเรดไปพร้อมกับสัมภาระของเธอ
“――ยัยบุตรีแก่แดดของตระกูลซิลเวอร์นั่นหมายความว่ายังไงกันค่ะ คุณหนู มาจัดยัยเด็กนั่นกันเถอะ”
” ―― หยุดเลยนะ”
ริโนกิส อย่ามาพึมพำเรื่องอันตรายข้างหูของงฉันสิ ――เมื่อไม่นานมานี้ หากมีบางอย่างที่เธอไม่ชอบใจ เธอก็จะมากระซิบข้างหูของฉัน แม้แต่ในระหว่างการถ่ายทำ เป็นช่วงวัยต่อต้านหรือไงกัน
“ไม่ดีหรือไง คุณหนูเรเลียเรด ดูจะเป็นเพื่อนที่ดีของเนียได้แน่ ๆ “
ไม่รู้ว่าเขารู้หรือเปล่าว่ามีสาวใช้กำลังพูดอะไรบ้างอย่างที่อันตรายอยู่ข้าง ๆ พี่ชายจึงค่อนข้างจะทำตัวสบาย ๆ ไม่ทุกข์ร้อน
“คะ?”
คำพูดของพี่ชายเหมือนจะเข้าเป้า ส่วนฉันจะทางไหนก็ได้
แต่ว่าฉันไม่รู้ว่าพวกเราจะสามารถเป็นเพื่อนกันได้ไหม แต่ตัวปัญหาที่แท้จริงคือ ริโนกิส ฉันหวังว่าเธอจะไม่ทำอะไรโดยที่ฉันไม่รู้
” ――จะไม่เป็นเพื่อนกับยัยเด็กนั่นใช่ไหมคะ?”
” ―― ก็บอกว่าให้หยุดไง”
ฉันรู้ว่ายังไงก็จะอยู่ข้างฉัน แต่ยังไงก็ช่วยหยุดพูดจาหัวรุนแรงได้แล้ว
……ม๊า แต่ฉันซึ่งกำลังคิดอะไรสุดโต่งยิ่งกว่าริโนกิสพูดแบบนั้นได้ด้วยเหรอ
อะーอา
อยากตบตีกับนักสู้เก่ง ๆ ไว ๆ จังเลย
ปล.โดนต่อต่อยเท้าจนไปไหนไม่ได้ เลยมานั่งแปลแทน เจ็บสุดๆดีที่ไม่แพ้ แต่ปวดหัวยาวจากตอนนั้น ไม่รู้เกี่ยวไหม ฮา