คุณหนูโลลิคลั่งเนีย ลิสตัน - ตอนที่ 44 พี่ชาย เผชิญภัยสังคมครั้งที่สอง
44 พี่ชาย ครั้งที่สอง
“สิ่งของจำเป็นหรือคะ? หากไม่พิถีพิถันมากนัก ดิฉันคิดว่าคุณสามารถหาของส่วนใหญ่ได้จากแผนกร้านค้าของสถาบันค่ะ”
หลังจากพักผ่อนสักครู่หลังจัดของเสร็จ ฉันก็กำลังจะออกไปซื้อของตามแผนที่วางไว้
ฉันได้พบกับผู้ดูแลหอพัก คาร์เม ซึ่งยังคงอยู่ที่ล็อบบี้ชั้นหนึ่ง ฉันจึงถามเธอว่าจะสามารถซื้ออุปกรณ์เครื่องใช้สำหรับใช้ในสถานศึกษาและหอพักได้ที่ไหน และเธอก็ตอบมาแบบนั้น ――หรือว่าบางทีที่เธอยังอยู่ ก็เพราะทำหน้าแนะนำสำหรับนักเรียนใหม่
“แผนกร้านค้า งั้นเหรอ”
หากทางสถาบันเป็นผู้ดำเนินการเอง ก็แปลว่าขายสิ่งของที่จำเป็นตามข้อกำหนดของสถาบัน
ถ้าเป็นแบบนั้น ก็ดีสำหรับฉันเลย
ฉันไม่ได้มองหาสินค้าแบรนด์เนม หรือที่ออกแบบเป็นพิเศษ ฉันต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
โดยเฉพาะเครื่องแบบที่มีราคาแพงมาก แต่จำเป็นต้องสั่งตัดใหม่ทุกปี
ไม่มีข้อผูกมัดที่จะต้องตัดใหม่ทุกปี แต่หากพูดไปแล้ว ก็ดูเหมือนเรื่องนี้จะเชื่อมโยงกับสถานะและมารยาทของขุนนาง ผู้คนในแวดวงขุนนางและชนชั้นสูงต้องเสแสร้งทำภาพลักษณ์ภายนอกให้ดูดีอยู่เสมอ
ฉันไม่สนใจเกี่ยวกับการเป็นขุนนางนัก แต่ฉันไม่สามารถทำให้พ่อแม่และพี่ชายต้องอับอายได้ ดังนั้นฉันจึงคิดว่าจะพยายามทำตามแบบแผนเท่าที่ฉันจะทำได้
ม๊า เรื่องหน้าตาช่างไปก่อน
“ถ้าอย่างงั้นก็ไม่เหตุผลที่ต้องออกไปข้างนอกแล้วสินะ”
ถ้าหากสามารถซื้อทุกอย่างได้จากแผนกร้านค้า เหตุผลเดียวที่จะออกจากสถาบันก็คือ เครื่องแบบ
ในเรื่องนี้ถ้าจำไม่ผิด มีคำขอจากทางร้านมาว่า「ถ้าหากเป็นไปได้ก็ขอเชิญไปทำการลองชุดที่ร้านก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าขนาดนั้นพอดีกับรูปร่างของท่านลูกค้าก่อนที่จะทำการส่งมอบให้」ดังนั้นฉันจึงต้องไปโดยตรง
ถ้าถามว่ายุ่งยากไหม ก็ต้องบอกว่ายุ่งยากล่ะ
ถ้าแค่ให้ไปรับชุด ฉันบอกให้ริโนกิสไปรับ หรือจ้างคนส่งของก็ได้
พิจารณาแล้ว คงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องไป ทว่าในระหว่างที่กำลังคิดเรื่องนี้อยู่
“――อะ เราเจอกันอีกแล้วนะ”
ใช่ ฉันเจอเธออีกแล้ว
ในฐานะนักเรียนใหม่เหมือนกัน แถมมาถึงในเวลาเดียวกัน ตารางเวลาของฉันจึบทับซ้อนกับของเด็กสาวผมแดง――เรเลียเรด
เรเลียเรดมีสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อย แต่ยังไงก็ตาม ดูเหมือนเพราะได้พูดในสิ่งที่ต้องจะพูดกับฉันไปก่อนหน้านี้แล้ว ความเป็นปรปักษ์จึงลดน้อยลง กลายเป็นจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ที่เสียเปล่าจังน๊า
“เธอเองก็กำลังจะไปซื้อของเหมือนกันเหรอ?”
“ใช่ แล้วก็จะไปรับชุดของตัวเองด้วย”
อ้า เนื้อหาของการซื้อของก็เหมือนกันเลย
ถ้าแบบนั้นบางทีร้านตัดชุดที่ไปสั่งเครื่องแบบไว้ก็คงเหมือนกัน ร้านมีไม่มากนักหรอก
“――และก็ทีมถ่ายทำจากที่บ้าน(ดินแดนซิลเวอร์)ก็อยู่ที่นี่ด้วยเหมือนกันน่ะ”
หืม?
“ทีมถ่ายทำเหรอ?”
“ใช่ พวกเขาต้องการออกอากาศการใส่เครื่องแบบชุดแรกของฉันให้ได้”
ฟุมุ……เข้าใจล่ะ นี่จะเป็นการถ่ายทำการใส่เครื่องแบบครั้งแรกสินะ
ฉันไม่ได้ตระหนักถึงเรื่องนั้นเลย
ทั้งพ่อแม่ ทั้งเบนเดริโอ้ และเหล่าทีมงานผู้กำกับหนุ่มต่างก็ไม่ทันตระหนักถึงเรื่องนี้ จึงไม่ได้ให้คำแนะนำมา
ความสำเร็จที่ผ่านมาได้รับการพิสูจน์แล้วว่าจุดเชื่อมต่อสำคัญใหญ่ ๆ งานอีเวนต์ และงานเทศกาลต่าง ๆ แม้จะปรากฏในภาพสะท้อนเพียงช่วงสั้น ๆ ก็สามารถสร้างผลกระทบได้อย่างมาก
หรือก็คือ――
“――คุณหนูค่ะ ดิฉันคิดว่าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องไปแล้วค่ะ”
“――ใช่ ฉันรู้”
ริโนกิสเข้ามากระซิบ แต่ถึงไม่พูดฉันก็ตั้งใจทำอยู่แล้ว
นี่เป็นโอกาสดีอย่างแน่นอน
การปรากฏตัวในภาพสะท้อนตอนนี้จะทำให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น และฉันจะสามารถดึงดูดนักเรียนใหม่ที่เข้ามาในปีนี้ได้ในระดับหนึ่ง
การยอมรับในหมู่ขุนนางค่อนข้างสูงพอสมควร แต่ก็ยังต่ำในหมู่สามัญชน การคว้าโอกาสนี้ไว้ก็ไม่ได้เสียหายอะไร
“ฉันไปด้วยได้ไหม?”
“ห๊า? เธอ? ทำไม?”
โอ๊ะโตะ สีหน้ารังเกียจที่ดูเหมือนจะออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ เป็นใบหน้าบูดบึ้งสำหรับเด็กเลยล่ะ
“เพื่อสร้างความร่วมมือไงล่ะ? หากแสดงให้เห็นว่าพวกเรามีความสัมพันธ์อันดีกันตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็จะทำให้อะไร ๆ ในอนาคตง่ายขึ้นไง”
“ฉันไม่ได้อยากสนิทสนมกับเธอสักหน่อย”
ม๊า ก็คงเป็นแบบนั้นแหละ
“ไม่เห็นเป็นไรเลย เพราะต่อจากนี้ไปพวกเราจะได้อยู่ด้วยกันอีกนานเลยล่ะ”
“ฉันไม่คิดอย่างนั้นหรอกย่ะ!――อะ อะไร!? มาจับแขนของฉันทำไมกัน!? ปะ ปล่อยนะ ไหงแรงเยอะกว่าที่คิดล่ะ”
“เอาล่ะไปกันเถอะ จับมือแล้วไปกันเถอะ จะเจ็บมากเลยน๊าถ้าเธอขัดขืนน่ะ”
“เจ็บๆๆๆๆๆ เข้าใจแล้ว ฉันเข้าใจแล้ว ไปด้วยกันก็ได้ อย่าบิดข้อมือสิ!”
ดีล่ะ ตกลงกันได้แล้ว ไปกันเถอะ
ทีมงานถ่ายทำของดินแดนลิสตันไม่ได้อยู่ในเมืองหลวงในตอนนี้
ยังไงก็ตาม แม้จะเป็นการถ่ายภาพสะท้อนกับทีมงานถ่ายทำของดินแดนซิลเวอร์ ผลลัพธ์ภาพสะท้อนก็จะไหลเข้าสู่ที่บ้าน(ดินแดนลิสตัน)อยู่ดี
ดูเหมือนว่าฉันจะสามารถจัดการอีเวนต์เปิดตัวชุดเครื่องแบบใหม่ได้แล้ว
ผู้ดูแลหอพักส่งยิ้มให้ และพูดว่า「สนิทสนมกันจังเลยนะคะ」ในระหว่างที่พวกเรากำลังออกจากหอพักด้วยกัน แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างเรเลียเรดกลับตอบกลับว่า「พวกเราไม่ได้สนิทกัน!」 แปลกจังเลยน๊า ทั้งที่พวกเราเดินจับมือกันแท้ ๆ
ปลายทางคือ ร้านตัดชุดเครื่องแบบ
เรื่องทีมถ่ายทำของดินแดนซิลเวอร์รออยู่ที่ไหนนั้น แค่ถามเรเลียเรดระหว่างทางก็ได้ ――ไม่ปล่อยหลุดมือหรอก แน่นอน
“――อาโน๊ เนียซามะ ขอเวลาสักครู่ได้หรือไม่คะ?”
ฉันไม่มีความตั้งใจที่จะปล่อยมือของเรเลียเรด ทำให้สาวใช้ของเธอซึ่งไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเดินตามมาจากข้างหลังได้ส่งเสียงเรียก แต่ด้วยส่วนสูงของเธอทำให้ฉันต้องเงยหน้าขึ้นมอง
“อะไรเหรอ?”
ร้องทุกข์? ฉันสามารถจัดการเธอได้ แต่ไม่จำเป็นต้องก้าวร้าวโดยไม่จำเป็น ฉันจึงเก็บไว้ก่อน
……ยังไงก็ตาม แม้ว่าเธอควรจะทำหน้าที่เป็นผู้คุ้มกันด้วย แต่ดูจะไม่พยายามช่วยเรเลียเรดเลยสักนิด
ม๊า บางทีเธออาจจะคิดว่าไม่คุ้มค่าที่จะสร้างความขัดแย้งก็ได้
“――หากท่านไม่ว่าอะไร ดิฉันขอออกความคิดว่าเหตุใดจึงไม่ลองเชิญท่านพี่ของท่านมาด้วยล่ะคะ?
จากที่คาดเดา ดิฉันคิดว่าคงเป็นไปไม่ได้ที่จะเชิญนายท่านและนายหญิงลิสตันมาได้ในตอนนี้ แต่หากว่ามีญาติพี่น้องอยู่ใกล้ ๆ ความประทับใจของผู้รับชมที่มีต่อชีวิตส่วนตัวของท่านจะแตกต่างออกไปอย่างมากค่ะ”
โห๊……พี่ชายสินะ
พอโดนบอกแบบนั้นแล้ว การมีหรือไม่มีพี่ชาย หรือญาติทางสายเลือดอยู่ด้วย ย่อมสร้างความแตกต่างทางอารมณ์อย่างมากแน่นอน
เพราะเราสามารถเพิ่มประโยค เช่น “ภายใต้คำอวยพรของครอบครัว” หรือ “ดูแลโดยครอบครัว” เข้าไปแสดงในภาพสะท้อนของเรื่องเล่าการเข้าสถาบัน และลองสวมใส่เครื่องแบบ
แต่ พี่ชาย น๊า……
“ชะ ใช่แล้ว ช่วยไปเชิญนีลซามะมาที พวกเธอทั้งคู่เลย”
“เอ๊ะ?”
“เจ็บๆๆๆ ปล่อยมือฉันเดี๋ยวนี้นะ!ฉันไม่หนีหรอก!”
“ทำไมต้องพี่ชายด้วย?”
“ปล่อยก่อนสิ……อะ ไม่ต้องปล่อย!? ไม่ต้องปล่อยก็ได้!? คู๊ว แรงเยอะอะไรแบบนี้……มะ ม๊า ยังไงก็ได้ แต่ขอล่ะอย่าบิดไปมากกว่านี้เลย …….ฉันไม่อยากร้องไห้ก่อนถ่ายทำ……”
ดูเหมือนว่าเจ็บจริง ๆ และเรเลียเรดก็ค่อนข้างอ่อนแอมาก
แต่ที่สำคัญกว่านั้น เกี่ยวกับพี่ชาย
“ก็ไม่ใช่ว่าพวกเธอมีความสัมพันธ์ที่เลวร้ายกันหรอกเหรอ? โฮระ……ก็นีลซามะไม่ปรากฎตัวอีกเลย นับตั้งแต่เมจิกวิชั่นประกาศการหายจากอาการป่วยของเธอไงล่ะ
เพราะว่าไม่ชอบหน้ากัน เลยไม่ยอมแสดงด้วยกันอะไรแบบนั้นเลย……ไม่ใช่เหรอ? แถมนีลซามะก็แค่มารับพวกเธอที่ท่าเรือเหาะเสร็จก็ดูไม่สนใจเลย”
ม๊า โดยคิดว่ามีความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่ซะแล้ว
เหตุผลที่เขาไม่ร่วมแสดงตั้งแต่แรกก็เพราะ พี่ชายพยายามหนีห่างการถ่ายทำ จากการที่เขามีแฟนคลับตัวยงสุดโต่งมากมาย
และแน่นอนว่าในความเป็นจริง พี่ชายมีเวลาว่างไม่นากนัก เพราะเขากำลังเรียนอยู่ที่สถาบันการศึกษา
แต่ความจริงที่ว่าไม่มีการออกรายการร่วมกันเลยหลังจากครั้งแรก ก็เป็นความประสงค์ของพี่ชายของฉันจริง ๆ
ยังไงก็ตาม จดหมายของแฟน ๆ ที่เป็นปัญหาก็เหลือแค่ประมาณหนึ่งหรือสองฉบับ หลังจากผ่านไปปีกว่าตอนนี้ก็แทบลืมกันไปหมดแล้ว
นั่นคือขอบเขตเท่าที่ฉันได้รู้ แต่ว่า
“ดูเหมือนโอนี่ซามะจะไม่ค่อยอยากออกสักเท่าไหร่ แต่――”
แต่ ครั้งนี้ไม่ได้
เพื่อการแพร่กระจายเมจิกวิชั่น และเพื่อตระกูลลิสตัน
ในฐานะลูกชายคนโตของตระกูลลิสตัน พี่ชายของฉันก็ควรร่วมมือด้วย เพราะเขาคือญาติทางสายเลือดคนเดียวที่ฉันสามารถเรียกหาได้ง่ายที่สุดในตอนนี้
“ริโนกิส พวกฉันจะไปร้านตัดชุดกันก่อน ไปพาพี่ชายมาซะ”
“รับทราบแล้วค่ะ”
“――ต้องพามาให้ได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เข้าใจความหมายที่ฉันพูดใช่ไหม?”
“――แน่นอนค่ะ ทั้งหมดเพื่อคุณหนู……ไม่สิ ทั้งหมดเพื่อตระกูลลิสตัน”
เรเลียเรดกำลังมองมาที่ฉันด้วยใบหน้าที่ไม่พอใจอย่างสุดจะพรรณนาที่เห็นปฏิสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยความรู้สึกถึงความสามัคคีของเจ้านายและคนรับใช้ ――ก็เธอไม่ใช่แค่สาวใช้ แต่เธอยังเป็นลูกศิษย์ด้วย จึงเป็นเช่นนี้
ด้วยเหตุนี้ เนีย・ลิสตันจึงได้สวมเครื่องแบบใหม่เข้าคู่สนิทสนมกับเรเลียเรดแห่งตระกูลซิลเวอร์
ภายใต้การดูแลอย่างใจเย็นจากพี่สาวสองคนของเรเลียเรด และพี่ชายของฉัน นีล・ลิสตัน
「ภาพการเตรียมตัวเข้าเรียนของบุตรีขุนนางทั้งสอง และสายสัมพันธ์อีนเหนียวแน่นของทั้งสองตระกูล」 นี่กลายเป็นหลักฐานที่แสดงว่าตระกูลซิลเวอร์และตระกูลลิสตันมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ภาพสะท้อนนี้สามารถถ่ายทำและออกอากาศลุล่วงด้วยดี
ถึงอย่างงั้นฉันก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับดินแดนซิลเวอร์เท่าไหร่ แต่ดูเหมือนว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในดินแดนลิสตัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ดูแลหอพัก คาร์เม พูดถึง 「บันทึกการเจริญเติบโตของเนีย・ลิสตัน ซึ่งครั้งหนึ่งเคยนอนป่วยอยู่บนเตียง」ในระยะเวลาอันสั้น ในแง่นั้นกล่าวอีกนัยหนึ่งคือได้รับคะแนนสูงเกินคาดและมีรับผลตอบรับมากมาย
และแน่นอนว่า พี่ชายเริ่มได้รับจดหมายจากแฟน ๆ เป็นจำนวนมากอีกครั้ง เขาพยายามออกห่างจากเมจิกวิชั่นมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็นั่นแหละ เขาทำได้แค่ออกห่างไปได้อีกแค่นิดเดียวเท่านั้นเอง
ปล.ที่บ้านหมอกหิมะดำ(ขี้เถ้า)ลงทั้งวันพาจิตแจ่มใส ไอไม่เว้นว่าง หน้ากากไม่ช่วย แก้แพ้เอาไม่อยู่ ฮา