คุณหนูโลลิคลั่งเนีย ลิสตัน - ตอนที่ 51 จุดเริ่มต้นโลลิคิดลึก
51 จุดเริ่มต้น
“――ถ้าเช่นนั้น เรามาเริ่มการประชุมครั้งแรกสำหรับกิจกรรมเผยแพร่เมจิกวิชั่นกันเถอะค่ะ”
เมื่อเจ้าหญิงลำดับที่สาม ฮิลเดโทน่า ประกาศด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจนเช่นนั้น ฉันก็รู้สึกว่าบรรยากาศที่ผ่อนคลาย ตึงเครียดขึ้นเล็กน้อย
งานเลี้ยงน้ำชาจบลงแล้ว
จากนี้ไปจะเป็นสถานที่สำหรับการสนทนาอย่างจริงจัง
“และก่อนอื่น มีเรื่องที่เราอยากจะบอก
โปรดเรียกเราว่าฮิลเด้ ไม่ต้องเรียกเราด้วยยศศักดิ์และไม่จำเป็นต้องสุภาพด้วย
อาจจะมีบางสถานการณ์ในที่สาธารณะที่ทำได้ยาก แต่จากนี้ไปหากความสัมพันธ์ของพวกเราไม่เท่าเทียมกัน ก็ยากที่จะสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้อย่างน่าพอใจ
ไม่ต้องเกรงใจเรา การประชุมที่ไม่สามารถพูดในสิ่งที่ต้องพูดได้นั้นเป็นการเสียเวลาเปล่า
――จะฐานันดรศักดิ์ของราชวงศ์ หรือของขุนนางนั้นก็ตกต่ำมานานแล้ว ดังนั้นถึงขั้นนี้แล้วไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับตัวตนของเราไปหรอก”
ฟุมุ……ถ้าอย่างงั้นก็ขอทำตามใจชอบเลยแล้วกัน
“ไม่สิเพคะ จะให้เรียกองค์หญิงเช่นนั้น――”
“ฮิลเด้กำลังบอกว่าการที่มัวแต่พูดแบบนั้นทำให้เสียเวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์ใช่ไหม? เป็นอย่างงั้นใช่ไหม ฮิลเด้?”
“ถูกต้องแล้ว”
ฉันเข้าใจปฏิกิริยาที่สับสนของเรเลียเรดดี ในฐานะบุตรีขุนนาง ความคิดของเธอนั้นถูกต้อง
ยังไงก็ตาม เวลาเป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุดในตอนนี้
เพื่อผลประโยชน์ทางการเงินของตระกูลลิสตัน จำเป็นต้องเผยแพร่เมจิกวิชั่นโดยเร็วที่สุด
แม้นี่จะเป็นวันที่สามของชีวิตในรั้วสถาบันแล้วก็ตาม แต่ความร้อนแรงของพิธีเปิดภาคการศึกษารวมถึงการถ่ายทำก็ยังไม่ลดลง
พวกเรามารวมตัวกันที่ห้องของเรเลียเรดเพื่อตอบสนองต่อเสียงเรียกร้องของฮิลเดโทร่า เนื่องจากฮิลเดโทร่าเดินมาสถาบันจากที่บ้านทำให้เธอไม่มีห้องพักอยู่ในหอพัก
ส่วนห้องของฉันนั้น ฉันมีแต่สิ่งที่จำเป็นโดยให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายเป็นอันดับแรก ดังนั้นจึงค่อนข้างจืดชืด
ในเรื่องนั้น ห้องของเรเลียเรดเป็นห้องของคุณหนูผู้สูงศักดิ์อย่างสมบูรณ์แบบ มีของประดับตกแต่ง เช่น เครื่องประดับติดผนัง ดอกไม้จัดแจกันที่มีสีสันสว่างตา
สำหรับฮิลเดโทร่าแล้ว ห้องนี้น่าจะสะดวกสบายมากกว่าห้องของฉัน และเพราะเหตุผลเดียวกันนี้เองที่ทำให้ห้องนี้ถูกเลือกตอนถ่ายทำ
――และหลังเลิกเรียนพวกเราจึงไปรวมกันในห้องของเรเลียเรด ตามที่นัดหมายไว้
เพลิดเพลินกับชากับเค้กที่ฮิลเดโทร่านำมา――หลังจากผ่อนคลายกันช่วงครู่ เราก็เข้าสู่หัวข้อหลักกัน
“ก่อนอื่น เราไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวในสาขาเฉพาะทางได้
ตัวเราไม่ทราบรายละเอียดมากนัก แต่ทว่าเราถูกห้ามมิให้สัมผัสในส่วนที่เงินจำนวนมากกำลังเคลื่อนไหว”
นั่นก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ล่ะนะ
ไม่ว่าเธอจะบอกว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงมากแค่ไหน ยังไงฮิลเดโทร่าก็ยังอายุเพียงแปดขวบ ไม่มีทางที่จะสามารถแตะต้องส่วนที่มีการดำเนินงานและการจัดการโดยผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องอยู่แล้วได้
เงินที่ต้องจัดการก็คืองบประมาณ ไม่ใช่เงินค่าขนมของลูก
“เอ๊ะโตะ สาขาเฉพาะทางที่พูดถึง นั่น เช่นอะไร……คะ?”
เรเลียเรดยังคงลังเลเกี่ยวกับข้อเสนอของฮิลเดโทร่า แต่ทว่าในท้ายที่สุดเดี๋ยวเธอก็จะชินไปเอง
“นั่นสินะ……ถ้าอย่างงั้น ให้ยกตัวอย่างก็คง แผ่นคริสตัลเวทมนตร์ที่ใช้สำหรับสะท้อนเมจิกวิชั่นออกมาน่ะ”
อ้า แผ่นคริสตัลที่ลอยอยู่ในอากาศได้นั่นสินะ
“สิ่งนั้น ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา เราทดลองกับคริสตัลธรรมชาติ แต่เมื่อการวิจัยก้าวหน้าและเทคโนโลยีพัฒนาขึ้น เราก็สามารถสร้างมันขึ้นมาได้ด้วยเวทมนตร์
ทว่า นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ เพราะท้ายที่สุด เราก็ต้องใช้ทั้งเวลาและเงินจำนวนมากในการสร้างขึ้นมา”
ในปัจจุบัน ฉันได้ยินมาว่าแผ่นคริสตัลเวทมนตร์เพียงหนึ่งแผ่นก็เพียงพอให้ชาวบ้านทั่ว ๆ ไปสามารถใช้ชีวิตได้หลายปีทีเดียว
“ไหน ๆ แล้ว เราขอถือโอกาสเล่าประวัติของเมจิกวิชั่นให้ฟังสักเล็กน้อย
ในตอนที่มีความเป็นไปได้ที่จะสร้างแผ่นคริสตัลเวทมนตร์ด้วยมือได้แล้วนั้น――นั่นคือตอนที่แผนการเมจิกวชั่นได้เริ่มต้นขึ้นล่ะ
เดิมทีถือเป็นเครื่องมือสื่อสารที่มีแต่ราชวงศ์ ชนชั้นสูง และผู้มีอันจะกินเท่านั้นที่ถือครอง แต่ว่ากันว่ามีบุคคลหนึ่งเข้ามากุมบังเหียนและเปลี่ยนมาใช้นโยบายปัจจุบันคือ 『การเผยแพร่ภาพสะท้อนในวงกว้าง』
คริสตัลธรรมชาติเป็นทรัพยากรที่มีจำกัด แต่ถ้ามนุษย์สามารถสร้างขึ้นมาได้ด้วยเวทมนตร์ได้ นั่นก็จะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
มีการประกาศแผนการเมจิกวิชั่นในหมู่ขุนนางและกลุ่มคนร่ำรวย ด้วยข้อสมมุติล่วงหน้าที่ว่าภายใต้การสนับสนุนระยะยาวที่กล่าวเมื่อเวลาผ่านไปนานพอการแพร่กระจายในวงกว้างก็จะเกิดขึ้นเองในอนาคต
การวิจัยและพัฒนาเมจิกวิชั่นนั้นมีค่าใช้จ่ายสูง แม้แต่อำนาจทางการเงินของประเทศเองก็ยังติดขัด
เมื่อแผนการถูกประกาศออกไป และมีการเชิญให้คนมาร่วมลงทุนการผลิต――ผู้แรกที่ส่งเสียงตอบรับเป็นคนแรกคือตระกูลลิสตัน ทว่าก็ไม่มีผู้ใดตามมาอีก
หลังจากนั้นหลายปีผ่านไป ในที่สุด ก็มีผู้ร่วมผลิตรายที่สอง ตระกูลซิลเวอร์ยื่นมือของตนเข้ามา นั่นคือสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้”
……ฟุอืม ม๊า นั่นก็ประวัติศาสตร์ด้านหนึ่งล่ะนะ
“สิ่งแรกที่ฉันนึกถึงก็คือ เรื่องการลดราคาของแผ่นคริสตัลเวทมนตร์ลงให้ได้มากกว่านี้ค่ะ”
เมื่อฉันพูดแบบนั้น ฮิลเดโทร่าก็พยักหน้า「นั่นสินะคะ」
ยังไงก็ตาม นี่เป็นจำนวนเงินที่คนธรรมดาสามารถใช้ชีวิตได้หลายปีจากของเพียงชิ้นเดียว แม้ว่าจะเป็นเงินเล็กน้อยสำหรับราชวงศ์และขุนนาง แต่ก็แพงเกินไปสำหรับคนธรรมดา
อย่างไรก็ตาม คนทที่เราต้องการเผยแพร่ให้ก็คือประชาชนทั่วไป
พูดตามตรง หากบังคับให้ซื้อก็จะกลายเป็นการสร้างหนี้ขึ้นมา แต่ต่อให้อยากซื้อก็ไม่มีทางซื้อได้
“ราคายังคงเป็นปัญหาอยู่จริง ๆ นะคะ ในตอนนี้ราคาก็ถือว่าถูกลงมากแล้วหากเทียบกับตอนเริ่มต้น แต่……”
นี่คือถูกลงแล้วเหรอ สมแล้วที่ทำไมถึงยังไม่แพร่หลายเท่าที่ควร
“ละ แล้วสร้างขึ้นมายังไงเหรอคะ……อึก ผลิตเองได้ไหมคะ?”
อะ เรเลียเรดพยายามเข้า พยายามเข้า
“ทุกอย่างเป็นความลับสุดยอด เราเองก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“งะ งั้นเหรอคะ……แล้วกัน”
……ในกรณีนั้น จะเป็นการดีกว่าถ้าพวกเราจะไม่ไปแตะต้องแผ่นคริสตัลเวทมนตร์
แทนที่จะบอกว่าเป็นเพราะพวกเรายังเป็นเด็ก น่าจะบอกว่า เพราะเกินขอบเขตที่คนนอกจะยื่นมือเข้าไปได้
เหตุผลที่เป็นความลับสุดยอดนั้น ก็เพื่อไม่ต้องการให้วิธีการผลิตรั่วไหลไปยังประเทศอื่น เงินจำนวนมหาศาลกำลังเคลื่อนไหวอยู่
ฉันคิดว่าพวกเราไม่ควรรู้จะเป็นการดีกว่า มีโอกาสที่จะถูกปิดปากด้วยกำลัง ――ถ้าแค่ฉันน่ะไม่เป็นไรหรอก แต่จะเป็นปัญหาถ้าโดนลงมือกับคนรอบตัวแทนที่จะเป็นตัวฉันเอง
ฉันหมดความคิดเห็นอย่างรวดเร็ว
ดูเหมือนว่าสาขาการผลิตแผ่นคริสตัลเวทมนตร์จะสร้างประโยชน์สูงสุด แต่เมื่อถูกบอกว่าเป็นความลับสุดยอดของประเทศ ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมแพ้
……แล้ว อะไรต่อไปดี มีอะไรดี ๆ หรือเปล่า
“ว่าไปแล้ว――”
หลังจากพากันเงียบจนชาเย็นชืด เรเลียเรดก็เปิดปากพูด
“ช่องของดินแดนทางนี้(ซิลเวอร์)จัดการดูแลภาพสะท้อนที่เกี่ยวข้องกับนักผจญภัยเป็นจำนวนมากอยู่ค่ะ……ทำอยู่แต่ว่า”
อืม ฟังอยู่ น่าสนใจมาก
แต่ฉันยังไม่ได้รับอนุญาตจากพ่อแม่ ดังนั้นฉันเลยยังดูไม่ได้ อยากดูเร็ว ๆ จัง
“ดูเหมือนว่าจะสามารถสร้างรายได้จากการค้นพบทรัพยากรในการสำรวจเกาะลอยฟ้า หรือการรับซากสัตว์อสูรมาค้ากำไรอยู่ค่ะ”
รายได้สินะ
เป็นวิธีที่แน่นอนในการเผยแพร่ ทั้งยังเป็นวิธีที่ช่วยพวกเราหารายได้ และจัดสรรชำระค่าแผ่นคริสตัลเวทมนตร์ได้ด้วย
ไม่รู้ว่าฉันคิดถูกหรือเปล่า
――ถ้าเป็นฉัน ฉันจะหาเงินด้วยหนทางล่าสัตว์อสูร แต่……
แต่ว่าฉันยังอายุแค่หกขวบ
การบุกกวาดล้างอันธพาลข้างถนนก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่การล่าสัตว์อสูรอย่างเปิดเผยก็ไม่ใช่เรื่องดีที่สมควรทำ
“แต่ก็ยังเป็นการยากที่จะพึ่งพาเป็นแหล่งรายได้หลักค่ะ เพราะไม่มีอะไรมารับประกันเลยว่าจะสามารถสร้างผลกำไรได้อย่างสม่ำเสมอ โดยดั้งเดิมแล้วก็ไม่คิดว่าจำนวนเงินที่ได้รับจะเพียงพอด้วยค่ะ”
อุมุ
คงเป็นเรื่องที่ต่างออกไปหากคุณสามารถหาสายแร่อัญมณีเจอได้ แต่เรื่องแบบนั้นน้อยครั้งนักที่จะเกิดขึ้น ส่วนการค้าขายวัตถุดิบจากสัตว์อสูรนั้น ยิ่งขายไปมากเท่าไหร่ มูลค่าก็จะยิ่งลดลงเท่านั้น
……เป็นเรื่องยากจังน๊า
ถ้าเป็นเรื่องที่สามารถแก้ไขได้ด้วยกำปั้นก็คงดี แต่ไหนแต่ไรแล้วฉันใช้หัวไม่เก่งเท่าไหร่……
ปล.เหมือนจะแพ้อาหาร?จนร้อนวูบวาบ ร้อนแสบเป็นย่อมๆตามมือ รู้สึกช่วงนี้ได้กินยาแก้แพ้รัวๆ ทำคอแห้งจนตื่มน้ำเป็นขวดยังรู้สึกคอแห้งอยู่เลย แถมอากาศดีได้แค่วันสองวัน หมอกดำก็ลงต่อ