คุณหนูโลลิคลั่งเนีย ลิสตัน - ตอนที่ 55 กลับมาถ่ายทำต่อ และบาร์น้องหมาโลลิ
55 กลับมาถ่ายทำต่อ และบาร์น้องหมา
หลังจากใช้ชีวิตในสถาบันได้สองสัปดาห์ การถ่ายทำในดินแดนลิสตัน และซิลเวอร์ ก็เริ่มต้นขึ้นตามที่ได้พูดคุยไปก่อนหน้านี้
ที่สถาบันจะมีวันหยุดเพียงหนึ่งวันต่อสัปดาห์ และเราจะถ่ายทำในวันว่างนั้น ――ก็เป็นเรื่องที่คาดเอาไว้แล้ว
“ตอนนี้เรากำลังอยู่ในระหว่างเจรจากับสถานีออกอากาศของเมืองหลวงอยู่น่ะ ถึงความเป็นไปได้ที่จะเช่าห้องสำหรับทีมงานถ่ายทำจากลิสตัน และซิลเวอร์ในสถานีออกอากาศของเมืองหลวง
พูดโดยสรุปก็คือ อาจเป็นไปได้ที่จะสร้างสถานีออกอากาศที่สะดวกสำหรับแต่ละดินแดนในเมืองหลวงถึงแม้ว่าจะมีขนาดเล็กก็ตาม นั่นคือสิ่งที่ผมพูดถึง”
เห็นได้ชัดว่ามีเรื่องอื่นเกิดขึ้นโดยที่ฉันไม่รู้เรื่องเลย
สถานีออกอากาศที่สะดวกสินะ
……ถึงเขาจะบอกแบบนั้น ฉันก็ไม่เข้าใจอยู่ดี
ครั้งนี้ เนื่องจากเป็นการถ่ายทำครั้งแรกตั้งแต่เริ่มชีวิตในสถาบัน เบนเดริโอที่มีใบหน้าฉูดฉาดเช่นเคยจึงมาด้วยตัวเอง
เขาเป็นผู้รับผิดชอบทีมงานถ่ายทำหลักจึงไม่ค่อยได้มาที่กองถ่ายของฉันที่คุ้นเคยกับการถ่ายทำแล้ว
“ก็คิดไว้แล้ว ระยะเวลาเดินทางเป็นปัญหาสินะคะ”
ใช้เวลามากกว่าครึ่งวันในการเดินทางจากเมืองหลวงไปยังดินแดนลิสตันโดยเรือเหาะ
ตามที่คาดไว้ การเดินทางไปกลับดินแดนลิสตันสัปดาห์ละครั้ง ถ่ายทำ แล้วกลับเมืองหลวง เป็นตารางเวลาที่ค่อนข้างหนัก
ถ้าต้องใช้เวลาทั้งวันในการเดินทางไปมา ฉันคิดว่าเป็นการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพเอาซะเลย
“หากทีมงานถ่ายทำต้องเดินทางจากดินแดนลิสตันมายังเมืองหลวงเป็นช่วง ๆ แบบนี้ก็จะรบกวนการถ่ายทำในดินแดนด้วย ซึ่งต่างจากการไปเยี่ยมชมธุรกิจช่วงสั้น ๆ
แต่ถ้าสามารถสร้างสถานีออกอากาศที่เมืองหลวงได้ เราสามารถมีทีมงานถ่ายทำถาวรได้ และการไปถ่ายทำบนเกาะลอยฟ้านอกอาณาเขตดินลิสตันก็จะทำได้ง่ายขึ้น”
ใช่แล้ว
เป็นเรื่องยุ่งยากที่จะไปกลับจากดินแดนลิสตัน แต่ถ้าอยู่ในเมืองหลวงก็จะใช้เวลาเดินทางไม่นานนัก
――นอกจากนี้ ในอนาคตอันใกล้นี้ ดูเหมือนว่าพวกเขาวางแผนที่จะถ่ายทำทั้งในและรอบ ๆ เมืองหลวง
“อะ แน่นอนว่าสภาพร่างกายของเนียจังต้องมาก่อน การเดินทางเต็มวันเป็นเรื่องยากแม้แต่สำหรับผู้ใหญ่ ผมคิดว่าภาระที่เด็กต้องเจอจะรุนแรงยิ่งกว่า”
ไม่เลย ฉันสบายดี แต่ ม๊า ฉันคิดว่าทำตามที่อีกฝ่ายต้องการจะเป็นการดีกว่า
ฉันขึ้นเรือเหาะที่คุ้นเคยสำหรับทีมงานถ่ายทำดินแดนลิสตัน และพูดคุยเรื่องต่าง ๆ กับเบนเดริโอ้ระหว่างทาง
พวกเราไม่ได้เจอกันมานาน ดังนั้นจึงมีเรื่องที่ต้องคุยกันหลายเรื่อง
“ขอโทษด้วยนะที่ไม่ใช่คุณพ่อคุณแม่ ที่เรื่องเป็นแบบนี้ เธอน่าจะได้ไปอยู่กับครอบครัว มากกว่าจะอยู่กับคนแก่แบบผม”
แน่นอน ชีวิตในสถาบันเป็นยังไงบ้าง ล่ะ
ทั้งเรื่องได้คบหากับเจ้าหญิงบ้างล่ะ ทั้งเรื่องมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับลูกสาวคนสุดท้องของตระกูลซิลเวอร์บ้างล่ะ
แม้ว่าจะรบกวนการทำงานของฉัน แต่ถ้ามีอะไรได้รายงานในชีวิตประจำวันก็อาจเป็นเรื่องราวที่ทำให้ได้พูดคุยกับพ่อแม่กับครอบครัว
“ม๊า อาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้ค่ะ แต่ก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลยค่ะ หนูไม่ได้รู้สึกว่าเบนเดริโอ้ซามะเป็นคนแปลกหน้าอีกต่อไปแล้ว”
ถึงจะดูเหมือนว่าฉันอยู่กับพ่อแม่มานาน แต่ที่จริงสำหรับฉันแล้ว ฉันพึ่งรู้จักพวกเขามาแค่ปีกว่า ๆ เท่านั้น
แต่ ยังไงก็ตาม ฉันคิดว่าก็ได้ใช้เวลาด้วยกันไปนานพอสมควร หากเทียบกับอายุของเนียแล้ว พวกเราก็ใช้ร่วมกันประมาณหนึ่งในหกของชีวิต
แม้ตอนนี้ฉันจะไม่ได้มาที่กองถ่ายแล้ว แต่ในช่วงเริ่มต้นของการถ่ายทำ ฉันได้รับการดูแลเป็นอย่างดี
ในฐานะบุคคลที่เป็นผู้บุกเบิกที่ได้ปรากฎตัวบนเมจิกวิชั่น ฉันมาไกลได้ถึงเพียงนี้ เพราะได้เรียนรู้ภายใต้การแนะนำของเขา ในทางใดทางหนึ่ง ฉันคิดว่าฉันสามารถเรียกตัวเองได้ว่าเป็นศิษย์ของเขา
ภายใต้ใบหน้าที่ดูขี้เล่นและฉูดฉาด เขาเป็นคนที่เอาใจใส่ในรายละเอียดต่าง ๆ
ความเป็นนี้ช่วนฉันเอาไว้หลายครั้ง
แค่ความแข็งแกร่งนั้นใช้ไม่ได้――ไม่ใช่ ในวงการเมจิกวิชั่นมีหลายสถานการณ์ที่ความแข็งแกร่งนั้นไร้ค่า สำหรับฉัน นั่นเป็นเรื่องที่ลำบากพอ ๆ กับศัตรูที่น่าสะพรึงกลัว
“ฮ่าๆๆๆๆ อย่างงั้นเหรอ? ถ้าอย่างงั้นจะเรียกว่าปะป๊าก็ได้นะ?”
“เช่นนั้น ไม่เกรงใจแล้วนะคะ ช่วงนี้ปะป๊าเป็นยังไงบ้างคะ? ราบรื่นดีไหมคะ?”
“ก็ค่อนข้างดีอยู่ ไหน ๆ ก็กลายเป็นปะป๊าของเนียจังแล้ว ปะป๊าจะให้เงินค่าขนมเอง”
“ขออะไรก็ได้เหรอคะ? ถ้าอย่างงั้นขอเป็นเกาะลอยฟ้าที่ยังไม่ได้สำรวจนะคะ ได้โปรดน๊า ปะป๊า”
“……สมแล้ว เนียจัง จำนวนเงินค่าขนมที่ต้องการนี่อยู่คนละโลกเลยน๊า”
ไม่ว่านั่นจะเป็นการพูดเล่นหรือไม่ก็ตาม ฉันก็แค่ใช้โอกาสนี้ในการบอกถึงสิ่งที่ฉันต้องการ
และฉันได้ยินมาจากเรเลียเรดแล้วว่าจะมีการติดต่อมาจากรายการของดินแดนลิสตัน
ยังไงก็ตาม ฉันพร้อมจะทำอะไรก็ได้ ถ้าหากสิ่งนั้นเป็นประโยชน์ต่อดินแดนลิสตัน ฉันขอให้คุณยอมรับคำขอ และบอกมาได้เลย
นอกจากนี้ ฉันก็อยากถ่ายทอดแนวคิดของ「รายการที่ผู้ชมสามารถมีส่วนร่วม」ที่ฮิลเดโทร่าพูดถึง แม้จะยังมีความไม่แน่นอนอยู่มากก็ตาม
“――ให้ผู้ชมสามารถมีส่วนร่วมได้……เข้าใจล่ะ เป็นแผนการดึงดูดความสนใจในเมจิกวิชั่นสินะ”
สมกับที่เป็นผู้บุกเบิกในวงการเมจิกวิชั่น สามารถคาดการณ์ถึงเป้าหมายได้ในทันทีเลย
“ถ้าหากว่าสนใจล่ะก็ ลองไปคุยกับสถานีออกอากาศของเมืองหลวงได้เลยนะคะ”
“อืม มาทำกันเถอะ แผนการที่น่าสนใจ”
ไม่ใช่ว่าฉันไม่เชื่อในฮิลเดโทร่าที่พยายามจนยุ่งวุ่นวายไปหมด แต่พอพูดถึงเมจิกวิชั่นทีไร ฉันก็นึกถึงใบหน้าฉูดฉาดของเบนเดริโอเสมอ
หากเขาสนใจ ก็แปลว่าแนวคิดนี้อาจจะมีประโยชน์จริง ๆ
ฉันจะรอดูว่าแผนงานจะออกมาเป็นแบบไหร……แต่อีกมุมหนึ่งก็แอบหวั่น ๆ อยู่เหมือนกัน
แม้แผนการจะดีแค่ไหน แต่หากไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ก็ไม่มีความหมาย
แน่นอนว่าในเรื่องนี้ ฉัน ฮิลเดโทร่า และเรเลียเรดจะต้องเป็นผู้นำที่มีอำนาจในการเคลื่อนไหว
ทั้งความสำเร็จและความล้มเหลวอยู่บนบ่าของพวกเรา
――โลกที่ความแข็งแกร่งเพียงอย่างเดียวไม่มากพอที่จะอยู่รอด นั้นช่างน่าสะพรึงกลัว
การถ่ายทำจบลงโดยไม่เกิดเหตุใด ๆ และฉันสามารถกลับมาถึงเมืองหลวงได้ในช่วงบ่าย
ยังไงก็ตาม วันนี้ฉันได้ไปเยี่ยมชมฟาร์มปศุสัตว์บนเกาะลอยฟ้าที่ลอยอยู่เหนือท้องฟ้าที่ห่างจากเมืองหลวงซึ่งหยั่งรากอยู่บนผืนดินไปเพียงเล็กน้อย
เป็นเกาะที่เลี้ยงเนื้อมูอามูระซึ่งมีชื่อเสียงในด้านเนื้อคุณภาพสูง และกล่าวกันว่าเป็นผู้จัดส่งให้กับราชวงศ์
ไม่รู้ว่าเป็นอิทธิพลจากการทำลายล้างหรือไม่ แต่ทุ่งหญ้าที่แผ่กระจายไปทั่วบนแผ่นดินเกาะนี้ดูเหมือนจะดีมาก ว่ากันว่าทุ่งหญ้านี่คือเคล็ดลับความอร่อยของเนื้อมูอามูระ
ไม่เพียงเนื้อวัวที่มีชื่อเสียง แต่นมซึ่งไม่ได้มีชื่อเสียงเท่าก็อร่อยมากเช่นกัน
ฉันคิดว่า――น่าจะขายดีกว่านี้ แต่ดูเหมือนพวกเขาจะใช้ทำชีส และขายส่งให้กับร้านอาหารในเมืองหลวง ดังนั้นจึงมีขายไม่มากนัก
บนเกาะแห่งนี้ ครั้งนี้ฉันได้สัมผัสกับงานในฟาร์มปศุสัตว์
ได้สวมชุดเอี้ยม ทำความสะอาดคอกวัว แปรงขนวัว
ไล่แกะด้วยสุนัขต้อนแกะและปล่อยออกไปนอกรั้ว
ฉันเอาชนะสุนัขต้อนแกะในการแข่งขันเก็บลูกบอล และทำให้โดนสุนัขเกลียด
ในตอนท้าย ทีมงานถ่ายทำ และผู้คนในฟาร์มปศุสัตว์ก็ได้ร่วมกันทานบาร์บีคิวเนื้อมูอามูระที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้ให้พวกเราเป็นพิเศษ เป็นการถ่ายทำที่สนุกจริง ๆ
“ว่าแล้ว การถ่ายทำของเนียจังน่ะง่ายที่สุดเลย”
ขณะที่พูดแบบนั้น เบนเดริโอ้รีบเก็บของข้าวเตรียมกลับดินแดนลิสตันพร้อมกับทีมงานถ่ายทำที่มีใบหน้าที่คุ้นเคยกันดี
ทีมงานถ่ายทำดูยุ่งมากตั้งแต่ก่อนฉันเข้าสถาบัน แต่ตอนนี้ก็ยังดูยุ่งเหมือนเดิม
“――คุณหนูคะ จากนี้จะทำอะไรต่อคะ? จะกลับหอพักเลยไหมคะ?”
ฉันกับริโนกิสถูกทิ้งไว้ที่จุดจอดเรือเหาะ
ริโนกิสที่ติดตามฉันเหมือนเงาตามเคย ในที่สุดฉันก็ส่งเสียง เมื่อพวกเราอยู่กันตามลำพัง
“อาหารกลางวันก็ทานกันมาแล้วด้วยสิ”
ถ้าหากยังไม่ได้ทาน ฉันก็คงพูดประมาณไปหาอะไรทานกันแล้วค่อยกลับแบบนั้น
ฉันได้กินเนื้ออร่อย ๆ ที่ฟาร์มปศุสัตว์ไปแล้ว
ฉันไม่ชอบเนื้อแดงซึ่งให้ความรู้สึกแข็งเวลาเคี้ยว แต่ความอร่อยของเนื้อวัวที่มีไขมันอยู่มากนั้น ดูจะเป็นอีกระดับหนึ่งไปเลย
หลังจากทานแบบนั่นไปแล้ว……ตอนนี้ฉันก็ไม่ต้องการอะไรอีก
ถ้าจะให้พูดจริง ๆ ล่ะก็
“ไปดื่มชาที่ไหนสักแห่งกันเถอะ”
ฉันต้องการชาหลังอาหาร
ฉันสามารถดื่มได้ในตอนที่กลับไปถึงหอพักแล้ว แต่ไหน ๆ ก็ได้ออกมานอกพื้นที่สถาบัน หาดื่มที่ด้านนอกนาน ๆ ครั้งก็ดีเหมือนกัน
“ต้องการเช่นนั้นสินะคะ เช่นนั้นแล้ว เราจะไปที่ไหนกันดีคะ?”
ฉันไม่อยากใช้จ่ายเงินจำนวนมาก ดังนั้นจึงต้องไม่ใช่ร้านหรู
ปกติฉันจะไปกับคนอื่น ๆ ไม่เคยตั้งใจที่จะไปคนเดียวแบบนี้เลย
พอเป็นแบบนี้แล้ว จริง ๆ จะเป็นที่ไหนก็ได้――อะ ใช่แล้ว
ไปที่นั่นดีกว่า ไหน ๆ ก็ใกล้ได้เวลาโผล่หน้าไปหาแล้ว
ไปที่ร้านของอันเซล――บาร์สุนัขกันเถอะ
ในกรณีนี้ ฉันต้องหาทางสลัดริโนกิสสักทางหนึ่ง
ปล.วันนี้ฝนตกด้วย แต่ตกยังกับกลัวค่าน้ำแพง แต่จู่ๆเล่นตกตอนอยู่ข้างนอกทำเกือบเปียกเหมือนกัน ฮา