คุณหนูโลลิคลั่งเนีย ลิสตัน - ตอนที่ 64 โน้มน้าวตัวแทนว่าที่คุณพ่อหมี
64 โน้มน้าวตัวแทนผู้ช่วยอาจารย์
“――อะไรนะ!? เมื่อกี้อะไรกันน่ะ!?”
เรเลียเรดที่ถูกดึงมาจนถึงหน้าโรงฝึก ในที่สุดก็ตั้งสติและย่อยเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ได้แล้ว
“โกกิเกงโยะ”
“อย่าเมินฉันสิย๊า!”
ฟุ ขอบคุณสำหรับการนำทางนะ เรเลียเรด
ฉันมาไกลถึงที่นี่ก็เพื่อสิ่งนี้
โดยไม่สนใจเรเลียเรดที่เริ่มเอะอะ ฉันมองเข้าไปในโรงฝึกพลางกล่าวทักทาย……ฉันเห็นเหล่าลูกศิษย์กำลังเตรียมตัวฝึกซ้อม และผู้ช่วยอาจารย์ที่เหมือนหินกำลังนั่งนิ่งจนดูเหมือนรูปปั้นหิน
ดูเหมือนว่าลิลิมิ พี่สาวของเรเลียเรดจะยังมาไม่ถึง
ม๊า ไม่เป็นไร
คนที่ฉันต้องการจริง ๆ ก็คือ มนุษย์หินนั้น
“ตัวแทนผู้ช่วยอาจารย์ ไม่ได้พบกันเสียนานเลยนะคะ”
เมื่อฉันส่งเสียงที่ดังขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย เหล่าลูกศิษย์ที่ไม่ได้สังเกตเห็นฉันในตอนแรกต่างก็เหลียวหลังมามอง แต่ ――
” ――เนีย・ลิสตัน!?”
เหนือสิ่งอื่นใด ปฏิกิริยาของตัวแทนผู้ช่วยอาจารย์นั้นใหญ่และรุนแรง
“แม่สาวใช้อยู่ด้วยไหม!? ข้าต้องการแก้มือ!”
เขารีบวิ่งมาทางฉันด้วยฝีเท้าหนัก ๆ ตึกๆๆๆๆ ก่อนเดินผ่านฉันไปและมองไปรอบ ๆ
อย่างที่จินตนาการได้ ดูเหมือนว่าการประลองในช่วงชักชวนเข้าคลับในวันวัดร่างกายนั้นยังคงฝังอยู่ในใจเขา
――อุมุ ถ้ายังมีใจนักสู้อยู่ก็ถือว่าไม่เป็นไรแล้ว แม้จะแพ้สักครั้งเดียว สองครั้ง หรือร้อยครั้ง ก็ยังสามารถสู้ต่อไปได้จนกว่าจะยอมรับ
การต่อสู้ก็จะยังดำเนินต่อไป ตราบใดที่จิตวิญญาณการต่อสู้ของคุณยังไม่หมดสิ้น
ในยามที่หัวใจของคุณแตกสลายต่างหาก ที่คุณจะพบความพ่ายแพ้อย่างแท้จริง
“วันนี้ฉันไม่ได้พาเธอมาด้วยค่ะ”
“อะ เหรอ……………อะไรกัน งั้นเหรอ”
ไม่เป็นใบหน้าที่ผิดหวังมากไปหน่อยเหรอ เข็มแข็งไว้ ตัวแทนผู่ช่วยอาจารย์ อย่าแสดงสีหน้าอย่างเปิดเผยต่อหน้าเหล่าลูกศิษย์ของตัวเองสิ อย่าทำตัวห่อเหี่ยวไหล่ตกแบบนั้นสิ พวกลูกศิษย์พากันมองมาเต็มแล้วนั่น
น่าจะเป็นการดีและเร็วกว่าหากฉันเปลี่ยนเรื่อง โดยเริ่มพูดถึงเรื่องที่ต้องการ เพราะเรื่องยุ่ง ๆ ก่อนหน้าทำให้ฉันไม่เหลือเวลาแล้วจริง ๆ
“ฉันมาที่นี่ เพราะมีเรื่องที่อยากจะขอร้องอยู่ค่ะ หากไม่ว่าอะไรอยากจะขอเวลาสักครู่ได้หรือไม่คะ?”
“ฮ๊า……ขอร้อง”
ช่วยเข็มแข็งไว้หน่อยเถอะ ฉันอยากขอร้องจริง ๆ เพราะมีเรื่องการไปสังเวียนใต้ดินเป็นเดิมพัน
” ――ไปได้ยินชื่อนั้นมาจากไหน?”
เรเลียเรดที่ไม่ว่ายังไงก็อยากที่จะอยู่กับฉัน ถูกไล่ให้ไปยืนคุยกับผู้ช่วยอาจารย์คนอื่น ๆ อยู่ที่อีกมุมของโรงฝึกด้วยคำสัญญาที่ว่า「เดี๋ยวฉันจะสอนวิธีทำสิ่งนั้นก่อนหน้านี้ให้」
ฉันถูกบอกให้ขึ้นไปบนโรงฝึก เนื่องจากข้อจำกัดของเวลา ฉันจึงตัดสินใจเข้าประเด็นที่นี่ทันที
จากนั้น เมื่อได้ยินชื่อของ「สังเวียนใต้ดิน」จากฉัน ผู้ช่วยอาจารย์ก็ทำสีหน้าผิดหวังอย่างเปิดเผย
ฉันยิ้มกว้างให้กับผู้ช่วยอาจารย์ที่มีสีหน้าจริงจัง
อย่างที่คาดไว้
คุณรู้อะไรบางอย่างอย่างที่ฉันคาดหวังไว้สินะ
“คุณเคยโดนสเก๊าใช่ไหมคะ?”
ถ้าคุณเป็นนักศิลปะการต่อสู้ที่มีทักษะพอสมควร คุณน่าจะเคยได้รับคำเชิญจากโลกใต้ดิน
นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันมาหาคุณ แต่จากการคาดคะเนดูเหมือนจะเข้าตรงเป้า
“ตอบคำถามของข้ามาก่อน เจ้าไปได้ยินชื่อสังเวียนใต้ดินมาจากที่ไหน? นั่นไม่ใช่สิ่งที่เด็กควรรู้”
“ที่บาร์แห่งหนึ่ง”
และยังบอกให้ฉันรู้ด้วยว่าจะไปที่นั่นได้ยังไง
คำตอบคือผู้ชายคนนี้
“บะ บาร์……? เจ้าเข้า ๆ ออก ๆ บาร์ด้วยอายุหกขวบเนี่ยนะ……?”
…………
เมื่อฉันมองไปที่อารมณ์ที่วาดอยู่บนใบหน้าของชายร่างใหญ่แล้วก็ทำให้ฉันตระหนักได้ว่าการทำอะไรแบบนี้ในร่างกายอายุหกขวบเป็นเรื่องที่ขาดสามัญสำนึกเอามาก ๆ ก็กะไว้แล้ว
แต่ ตอนนี้จะยังไงก็ได้
“ฉันมีสถานการณ์ของตัวเอง……ไม่สิ ฉันก็มีความรู้สึกเช่นเดียวกับคุณค่ะ”
“ความรู้สึกเช่นเดียวกัน?”
“――ฉันอยากเจอคนที่แข็งแกร่ง ถ้าเป็นไปได้ก็ขอให้เป็นคนที่แข็งแกร่งกว่าฉัน”
เหมือนกับที่เมื่อกี้ผู้ช่วยอาจารย์มองหาริโนกิส เป็นผลจากการแสวงหาผู้แข็งแกร่งเช่นกัน
ฉันไม่คิดว่าความปรารถนาของฉันจะแตกต่างจากของเขาเมื่อกี้
ทว่า ในกรณีของฉันจะมีเพียงไม่กี่คนที่แข็งแกร่งกว่าฉัน
นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมฉันถึงอยากไปงานอีเวนต์ของสังเวียนใต้ดินที่กำลังจะจัดในครั้งต่อไปจริง ๆ
“พวกเขากำลังจะจัดงานประลองทัวร์นาเมนต์ที่สังเวียนใต้ดินในรอบถัดไป มีโอกาสสูงที่จะมีผู้แข็งแกร่งเข้าร่วม ฉันอยากเห็นคนนั้นให้ได้ คุณเองก็รู้สึกแบบเดียวกันใช่ไหมคะ?”
“อุ เอ่อ ม๊า ข้าก็พูดไม่ได้ว่าไม่อยาก แต่……”
ใช่ไหมล่ะ
ถ้าได้ยินว่ามีผู้แข็งแกร่งระดับปรมาจารย์อยู่ในการประลองไม่มีทางที่เลือดจะไม่โห่ร้อง
“ตัวแทนผู้ช่วยอาจารย์”
“ชื่อของข้าคือ แกนดอล์ฟ”
“แกนดอล์ฟ ฉันจะพูดให้ตรงประเด็นเลยนะคะ ――กรุณาพาฉันไปที่สังเวียนใต้ดินด้วยค่ะ”
“ไม่สิ ถึงจะบอกให้ข้าพาเจ้าไป……ก็คงเป็นไปไม่ได้ ที่นั่นไม่ใช่สถานที่ที่จะสามารถพาเด็กอายุหกขวบเข้าไปด้วยได้ ยิ่งกว่านั้น เจ้าเป็นถึงบุตรีขุนนาง ดังนั้นจงอย่าเข้าไปใกล้สถานที่อันตรายแบบนั้นจะดีกว่า”
เรื่องนั้นฉันฟังมามากเกินพอแล้ว
ฉันเบื่อที่จะได้ยินไปไม่ได้ ไปไม่ได้ ของริโนกิสแล้ว
ฉันพูดความตั้งใจมาแต่ต้นแล้วน๊า จะหัวทึบอะไรขนาดนี้
“เอาเถอะน้า แค่พาฉันไป ―― ในฐานะลูกสาวของคุณก็พอ”
“ลูก……ลูกสาว!? ของข้า!?”
ใช่แล้ว นี่คือ「วิธีเข้าสู่สังเวียนใต้ดินด้วยการโจมตีตรง ๆ」ที่อันเซลบอกฉันไว้
พูดง่าย ๆ เลยคือ เป็นเรื่องธรรมดาที่แขกจะมีผู้ติดตามมาพร้อมกันอย่างเปิดเผย
“ฉันพาลูกสาวซึ่งกำลังต้องการศึกษาพิเศษสำหรับเด็กที่มีพรสวรรค์ในศิลปะการต่อสู้มาทัศนศึกษา ให้ฉันไปกับคุณอย่างนั้น”
“ไม่ ไม่ ข้าทำไม่ได้!ทุกอย่างตั้งแต่หนึ่งถึงสิบเป็นไปไม่ได้!ข้าร่วมมือกับเรื่องไร้สาระแบบนั้นไม่ได้!”
―― ม๊า ยังจะพูดแบบนั้นอีกนะ
ผู้ใหญ่จะปฏิเสธก็สมเหตุสมผล ไม่มีทางที่จะเห็นด้วย แม้แต่บาร์มาสเตอร์มือใหม่ที่ค่อนข้างขาดสามัญสำนึกก็ยังไม่เสิร์ฟเหล้าให้เด็ก เป็นคำขอที่อุปสรรค์ค่อนข้างสูงใหญ่
“ถ้าคุณพาฉันไปด้วย ฉันจะสอนวิธีทำให้แข็งแกร่งขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ดีไหมคะ”
“ไม่สิ ถึงจะพูดแบบนั้น ―― “
“ตั้งท่าซะ หากพูดเท่าไหร่ก็ไม่เชื่อกัน ฉันจะแสดงให้คุณเห็นด้วยหมัดจริงเอง”
“ก็บอกว่าเรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหาไง”
” ―― ไม่อยากแข็งแกร่งขึ้นรึไงคะ? ไม่ต้องการพลังงั้นหรือคะ?”
สำหรับนักสู้แล้ว เสียงปีศาจของคำเหล่านั้นสามารถมีค่าได้มากกว่าสิ่งล่อใจจากเพศตรงข้าม
ยิ่งอุทิศตนให้กับศิลปะการต่อสู้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีประสิทธิภาพมากเท่านั้น
――ฉันกำลังเล็งเป้าไปที่จุดอ่อนของตัวเองอย่างแม่นยำ ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลที่จะไม่ได้ผลกับผู้ที่เดินอยู่บนเส้นทางเดียวกัน ฉันหมายถึง ฉันกำลังเสนอเรื่องนี้ให้กับใครบางคนที่เหมือนฉัน「เจ้าต้องการพลังหรือไม่? 」
“………..”
ใช้กับแกนดอล์ฟได้ผลเช่นกัน
เขาพูดไม่ออกและติดอยู่ในคำพูดเวทมนตร์
“งั้นมาลองดูสักรอบไหมคะ?
รับรู้ด้วยร่างกายตนเองกับฉันจากนี้ และถ้าต้องการก็ยอมรับข้อเสนอของฉัน ถ้าไม่ต้องการจริง ๆ ฉันจะยอมแพ้ก็ได้
แบบนี้เป็นยังไงคะ?”
แกนดอล์ฟยอมรับข้อเสนอนี้
” ――ดี เอาสิ ทำสิ่งที่เจ้าต้องการ ยังไงก็ตาม ถ้าไม่ได้ผลก็ยอมแพ้ซะ นอกจากนี้ ให้ข้าได้ประลองกับสาวใช้ด้วย”
ไม่มีปัญหา ไม่มีปัญหา อะไรก็ไม่มีปัญหา
ในตอนที่เขายอมรับการเจรจา ฉันก็สามารถมองเห็นผลลัพธ์แล้ว