คุณหนูโลลิคลั่งเนีย ลิสตัน - ตอนที่ 92 กล่าวอีกนัยหนึ่งคือเรื่องราวโลลิที่พ่ายแพ้โลลิอย่างย่อยยับ
- Home
- คุณหนูโลลิคลั่งเนีย ลิสตัน
- ตอนที่ 92 กล่าวอีกนัยหนึ่งคือเรื่องราวโลลิที่พ่ายแพ้โลลิอย่างย่อยยับ
92 กล่าวอีกนัยหนึ่งคือเรื่องราวความพ่ายแพ้อย่างย่อยยับ
“เนีย! ทำอะไรเนี๊ย!”
“ดูมือนี่สิคะ โอนี่ซามะ ไม่คิดว่าเป็นมือที่น่ารักเหรอ?”
“เจ็บๆๆๆๆๆ”
ฉันยื่นมือของเรเลียเรดให้กับพี่ชาย ในขณะที่บีบจนสุดแรงบิดข้อต่อจากข้อศอกถึงข้อมือ จากข้อมือถึงข้อมือจนสุด แต่ฉันไม่ได้เล่นโกงหรอกนะ
“หยุดน๊า! มันเจ็บไม่ใช่รึไง! ปล่อย ปล่อยสิ……นะ นี่มันอาร๊ายก๊าน!? พลังรุนแรงอะไรกัน……ฉันรับไม่ไหวหรอกน๊า!”
ในที่สุดพี่ชายก็โกรธฉัน
“――โห๊? การแสดงนิทานภาพบนเมจิกวิชั่นงั้นเหรอ?”
ยิ่งไปกว่านั้น แรงบันดาลใจยังถูกพรากไป
“――นั่นฟังดูน่าสนใจ ผมกำลังคิดว่าจะเป็นไปได้ไหมที่จะสร้างภาพที่เห็นได้ชัดของเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของนักผจญภัยและเรื่องราวการผจญภัย แต่ ใช่แล้ว ถ้าเป็นรูปวาด ถ้าเป็นรูปวาดก็ไม่จำเป็นต้องลงมือทำจริง”
ในเวลาไม่นาน เขาก็เกิดไอเดียที่จะนำไปใช้งานได้จริง
“――คิดว่าไง ริเคล อยากลองดูไหม? ไม่ใช่รูปวาดสำหรับขายให้กับราชวงศ์หรือขุนนาง แต่เป็นรูปงาดสำหรับสามัญชน เป็นโอกาสที่ดีที่จะทำให้ชื่อของเธอเป็นที่รู้จักในวงกว้างเลยนะ”
“――อืม ฉันชอบวาดรูป อีกอย่าง……”
ในที่สุด ก็ได้รับการยืนยันจากริเคลวิต้า
รุ่งเช้าหลังจากเยี่ยมชมสตูดิโอ
ที่โต๊ะอาหารเช้า เรเลียเรดพูดคุยกับวิกซอน・ซิลเวอร์อย่างภาคภูมิ และการสนทนาก็จบลงในเวลาไม่นาน
ถ้าให้ตัวอย่าง ก็เหมือนกับในการแข่งขันแบบทีมที่ผู้เล่นแนวหน้าห้าคนถูกไล่ออกไป ไม่มีอะไรน่าภาคภูมิใจ และเป็นความพ่ายแพ้อย่างยับเยิน
รับไม่ได้จริง ๆ
ถ้ามีพลังกายแม้กับร่างกายนี้ ฉันก็ไม่คิดที่จะพ่ายแพ้อย่างง่ายดาย แต่พอเป็นอย่างอื่นกลับสูญเสียมากมาย
นี่หมายความว่าโลกนี้ไม่ได้เรียบง่ายจนสามารถยุติทุกอย่างได้ด้วยกำปั้นเดียวสินะ
ในชีวิตที่แล้ว ฉันรู้สึกว่าโลกช่างเรียบง่ายมาก แค่นิดหน่อย แต่……ม๊า ไม่เป็นไร
เมื่อมองย้อนกลับไป ฉันไม่คิดว่าฉันมีโอกาสที่จะชนะตั้งแต่แรก
จังหวะของความคิดนั้นไม่ดี และเนื่องจากริเคลวิต้าเป็นสมาชิกของตระกูลซิลเวอร์ การขอคำรับประกันเองก็เป็นเรื่องยาก
และในดินแดนซิลเวอร์เองก็ได้เข้าสู่อุตสาหกรรมเมจิกวิชั่นอย่างเต็มตัว สถานการณ์ปัจจุบันคือลงทุนเงินลงไปเป็นจำนวนมาก
หากคิดโครงการใหม่ขึ้นมาได้ เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องการรีบทำให้เป็นจริง
……อุมุม
ไหน ๆ ก็เกิดเรื่องไปแล้ว เรามาเปลี่ยนวิธีคิดกันใหม่ดีกว่า
สำหรับตอนนี้ รอสำรวจผลลัพธ์ และแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นของการแสดงนิทานภาพผ่านเมจิกวิชั่นโดยช่องซิลเวอร์――หรือก็คือ ไว้ค่อยเริ่มหลังจากมีผู้บุกเบิกพื้นที่ใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้วก็ไม่เลวเหมือนกัน
ผู้เริ่มทีหลังก็มีวิธีสำหรับผู้เริ่มทีหลังเช่นกัน
ถ้าเขาล้มเหลวก็มีแค่เขาที่ล้มเหลว เราก็แค่มองหาทางอื่นแทน แต่ถ้าเขาสำเร็จ เราก็จะขอเดินตามเส้นทางแห่งความสำเร็จที่ผู้บุกเบิกสร้างขึ้น
ขั้นแรก ต้องรายงานให้เบนเดริโอ้ บอกเขาเกี่ยวกับแนวโน้มในอนาคตของดินแดนซิลเวอร์ และให้รีบมองหาจิตรกรเอาไว้ภายในตอนนี้
ด้วยแนวคิดใหม่นี้ ทั้งตระกูลซิลเวอร์และดินแดนซิลเวอร์จึงเริ่มวุ่นวาย
“ขอโทษนะ ทุกคนมีงานยุ่งกันหมด……”
ในขณะเดียวกัน ฉันก็ทำงานตามแผนที่วางไว้จนเสร็จสิ้น และเมื่อถึงเวลาต้องออกเดินทาง…… ถึงแม้จะได้คำบอกลาจากคนในครอบครัวซิลเวอร์ทั้งหมด แต่ทุกคนก็แยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากพวกเราออกไปแล้ว พวกเขาก็กระโดดขึ้นเรือเหาะของตัวเองที่จอดอยู่ใกล้ ๆ แล้วไปทำงาน
คร่าว ๆ คือ พวกเขามาส่งพวกเราที่ท่าเทียบเรือเหาะ
นั่นก็เป็นเพราะ พวกเขามีธุระที่นั่นเช่นเดียวกัน
เหลือแต่เรเลียเรด และสาวใช้ของเธอที่มีใบหน้าค่อนข้างอึดอัด
“ได้โปรดบอกวิกซอนซามะด้วยนะครับ ว่าไม่ต้องกังวล”
แค่มองด้วยสายตา ใคร ๆ ก็รู้ได้ทันทีว่าพวกเขากำลังยุ่งมาก พี่ชายก็เลยตอบกลับแบบนั้น
ในนาทีนี้ วิกซอน・ซิลเวอร์ต้องรีบสร้างโครงการสำหรับการแสดงนิทานภาพ
อย่างเร็วที่สุด เราอาจได้ดูการแสดงนิทานภาพบนเมจิกวิชั่นเมื่อสิ้นสุดวันหยุดฤดูร้อน
“แล้วเจอกัน เรเลีย”
และเมื่อรู้ว่าเรเลียเรดกำลังยุ่ง พวกเราจึงควรรีบไป
“อืม ไว้เจอกันที่เกาะของฮิลเด้ซามะ ……หลังว่าจะได้เจอกัน”
ตอนแรกก็มีการคุยกันว่าอาจจะให้เรเลียเรดไปที่เมืองหลวงด้วยกัน แต่ก็ถูกยกเลิกโดยสิ้นเชิง เมื่อแผนการสำหรับการแสดงนิทานภาพเริ่มต้นขึ้นอย่างฉับพลัน
พวกเราวางแผนที่จะทำงานด้วยกันที่เมืองหลวง และเข้าร่วมวันหยุดห้าวันสุดท้ายพร้อมกัน แต่……แน่นอนว่านั้นเพราะ เราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในเวลานี้
――ด้วยเหตุนี้ พวกเราจึงขึ้นเรือเหาะเรโทร และทิ้งดินแดนซิลเวอร์ที่วุ่นวายไว้เบื้องหลัง
“――มารับแล้วนะคะ เนียซัง”
และในเช้าตรู่ของวันถัดมา พวกเราก็มาถึงเมืองหลวงอาร์ตัวร์
ทีมถ่ายทำของเมืองหลวงมารอรับพวกเราที่มาถึงตามวันและเวลาที่กำหนด
ชุดสูทกางเกงสีดำ แว่นขอบดำ ผมสีดำ และดวงตาสีครามเข้ม ผู้หญิงรูปร่างผอมสูงวัยยี่สิบปลาย ๆ ที่ดูไร้ที่ติ และมีบุคลิกเคร่งขรึม
เธอคือ เมียร์โก・ไทล์ ตัวแทนทีมถ่ายทำของเมืองหลวง
ก่อนวันหยุดฤดูร้อน ฉันก็ไปที่สถานีวิออกอากาศของเมืองหลวงเพื่อทักทายและเข้าพบอย่างเป็นทางการ
ตัวแทน……หรือเรียกอีกอย่างว่า ผู้ดูแลภาคสนาม
นี่คือตำแหน่งเดียวกันกับเบนเดริโอ้ที่ดินแดนลิสตัน
ฉันเคยทำงานให้กับสถานีออกอากาศของเมืองหลวง แต่ครั้งแรกที่ฉันได้เจอเธอคือ ตอนที่ฉันเข้าไปทักทาย
ฉันไม่รู้ว่าเธอไม่ค่อยได้เข้าไปกองถ่ายบ่อยนัก หรือว่าเธออาจจะแค่ไม่มีเวลาตอนที่ฉันเข้าร่วมการถ่ายทำแค่นั้น
――ยังไงก็ตาม เธอได้รับการแนะนำมาจากฮิลเดโทร่า ถ้าเธอเชื่อใจฉัน ฉันก็จะเชื่อใจเธอเช่นกัน
“ถึงจะเร็วไปสักหน่อย แต่ขอเริ่มทำการถ่ายทำเลยได้ไหมคะ?”
โอะ จู่ ๆ ก็เริ่มเลย
พวกเรานัดหมายมาเจอกันที่นี่ ฉันเลยปรับเวลามาถึงให้เหมาะสม แต่ไม่ได้คิดเลยว่าฉันจะต้องไปทำงานทันที
“เข้าใจแล้วค่ะ ไปกันเถอะ”
แน่นอน คำตอบไม่เปลี่ยนแปลง
” ――ได้โปรดดูแลน้องสาวของผมด้วยนะครับ”
” ――ค่ะ การทักทายอย่างเป็นทางการจะเป็นในภายหลังเมื่อดิฉันมีเวลาให้ค่ะ”
หลังจากพูดคุยกับพี่ชายเล็กน้อย เมียร์โกก็ลักพาตัวฉันขึ้นเรือเหาะขนาดเล็กที่จอดอยู่ใกล้ ๆ
จากนี้ไปฉันต้องแยกตัวจากพวกพี่ชาย และพาไปได้แค่ริโนกิสเท่านั้น
“ต้องขอโทษสำหรับการเร่งรีบด้วยนะคะ เพราะหากรีบสักหน่อย อาจจะทันได้เข้าร่วมการถ่ายทำของฮิลเด้ซามะก็ได้ค่ะ”
ในขณะที่เมียร์โกกำลังพูด เรือเหาะก็เริ่มเคลื่อนที่
“หนูมาที่นี่เพื่อทำงานตั้งแต่แรกอยู่แล้วค่ะ ดังนั้นไม่มีปัญหาหรอกค่ะ”
เมื่อนึกถึงนรกที่ถูกใช้แรงงานตอนอยู่ในดินแดนลิสตันแล้ว ระดับนี้แทบไม่มีผลอะไรเลย
ฉันโบกมือให้พี่ชายที่กำลังโบกมืออยู่ที่ท่าเรือ แล้วหันกลับมา
“แล้ว? หนูจะได้ทำอะไรที่กองถ่ายเหรอคะ?”
“สุนัขค่ะ”
……อะ เหรอ
เล่นไล่จับกับสุนัข เป็นที่นิยมจริง ๆ เลยน้า แค่ฤดูร้อนนี้ รวมแล้วฉันน่าจะถ่ายทำไปมากกว่าสิบงานแล้วแน่ ๆ ทั้งดินแดนลิสตัน ทั้งดินแดนซิลเวอร์
” ――ถ่ายทำสองงานกับสุนัข ถ้าเป็นไปได้ก็ถ่ายทำสี่งานค่ะ”
……เอ๊ะ? พึ่งมาก็จะเอาสี่งานเลยเรอะ?
หากว่าเบนเดลิโอ้มีตารางงานที่แย่มากแล้ว แต่เมียร์โกเองก็มีตารางงานที่แย่มากเหมือนกันเลยไม่ใช่หรือง๊าย?
แปลตอนนี้แล้ว ถ้าอีกหน่อยมีชุดหูหางหมามาให้โลลิแต่งคอสเพลย์เป็นโลลิไซบีเรียนจะไม่แปลกใจเลย ฮา
ส่วนคนแปลเจ็บคออีกแล้ว ฮา สงสัยดื่มน้ำเร็วไปจนจุกคอแล้วยังไปฝืนดิ่มต่อเลยเจ็บคอเข้าซะ ฮา