คุณหนูใบ้หัวใจแกร่ง - ตอนที่ 5 เรียกท่านป้า
ตอนที่ 5 เรียกท่านป้า
เยียนอวิ๋นเพ่ยแห่งบ้านรองแย่งว่าที่สามีของเยียนอวิ๋นเฟย คุณหนูใหญ่แห่งจวนท่านโหว เรื่องนี้คงจะปิดบังเอาไว้ไม่ได้แล้ว
คู่สามีภรรยาแห่งบ้านรับมือด้วยยาก พวกเขาเฝ้าอยู่ในจวนท่านโหวทุกวัน ถามหาคนจากท่านโหวกว่างหนิง เยียนโส่วจ้าน
พวกเขาไม่สนว่าเยียนอวิ๋นเพ่ยกระทำผิดเรื่องใด แต่จะให้นางเป็นหรือตายย่อมต้องบอกกล่าว
จับคนขังเอาไว้ แต่ไม่มีท่าทีชัดเจนอย่างนี้ไม่ได้
เมื่อเห็นกำหนดการงานแต่งของเยียนอวิ๋นเฟยใกล้เข้ามาแล้ว หากเรื่องนี้ยืดเยื้อต่อไป ชีวิตของเยียนอวิ๋นเพ่ยต้องจบสิ้นอย่างแน่นอน
ส่วนเยียนอวิ๋นเฟยจะเป็นอย่างไร สองสามีภรรยาไม่สนใจแม้แต่น้อย
พวกเขาสนใจเพียงอนาคตของเยียนอวิ๋นเพ่ยบุตรสาวตนเอง
เยียนโส่วจ้านเงียบอยู่สองวัน จากนั้นสั่งให้คนส่งตัวเยียนอวิ๋นเพ่ยกลับบ้านรองไปอย่างเงียบๆ แต่ยังไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจน
บ้านรองร้อนใจจนแทบบ้าคลั่ง!
เยียนอวิ๋นเพ่ยร้องไห้อยู่ในห้องทุกวัน
ซุนฮูหยินแห่งบ้านรองได้ยินเสียงร้องไห้ของเยียนอวิ๋นเพ่ย ไฟโกรธในใจของนางก็ปะทุขึ้น นางเอานิ้วจิ้มลงบนหน้าผากของอีกฝ่าย “ร้องๆๆ รู้แต่ร้องไห้ ดูเรื่องดีๆ ที่เจ้าทำ เจ้าทำให้คนบ้านรองเสียหน้า บ้านใหญ่ต้องโกรธแค้นพวกเราอย่างแน่นอน”
เยียนอวิ๋นเพ่ยสะอึกสะอื้น “เหตุใดท่านแม่ต้องเกรงกลัวบ้านใหญ่ เพียงแค่สานสัมพันธ์อันดีกับจวนโหวตะวันตก บ้านใหญ่ก็ไม่อาจทำอันใดพวกเราได้”
เนื่องจากเฉินฮูหยินพักอยู่ทางตะวันตกของจวนโหว ดังนั้นเมื่อทุกคนเอ่ยถึงจวนโหวตะวันตกจึงหมายถึงเฉินฮูหยินแม่ลูก
จวนโหวตะวันตกไม่ถูกกับเซียวฮูหยินบ้านใหญ่ เรื่องนี้เป็นความจริงที่ทุกคนรับรู้
ท่านโหวกว่างหนิง เยียนโส่วจ้านให้ความโปรดปรานแก่แม่ลูกทางจวนตะวันตกมากกว่า เรื่องนี้ก็เป็นความจริงที่ทุกคนรับรู้
ดังนั้นการประจบจวนตะวันตก ได้รับการสนับสนุนจากจวนตะวันตกย่อมเท่ากับมีต้นทุนในการต่อต้านกับเซียวฮูหยิน
ฮูหยินแห่งบ้านรองค้อนใส่เยียนอวิ๋นเพ่ย “ถึงแม้ได้รับการสนับสนุนจากจวนตะวันตก แต่ก็ต้องป้องกันเยียนอวิ๋นเกอแห่งบ้านใหญ่ เยียนอวิ๋นเกอนั้นเป็นผู้ที่มีอารมณ์ร้าย เจ้าต้องหลีกเลี่ยงการปะทะกับนาง ระวังนางทำร้ายเจ้า แม้เจ้าจะถูกนางตีก็ต้องอดทนเอาไว้ เพราะเจ้าไม่มีแม้แต่ที่ร้องทุกข์ หากไม่มีผู้ใดตาย ท่านโหวย่อมไม่สนใจเรื่องที่เยียนอวิ๋นเกอตีคนแม้แต่น้อย”
เมื่อได้ยินชื่อของเยียนอวิ๋นเกอ เยียนอวิ๋นเพ่ยก็ตัวสั่นเทา
หากไม่ใช่เพราะเยียนอวิ๋นเกอ เรื่องของนางกับหลิงฉางเฟิงคงไม่ถูกพบ
นางกัดฟันกรอด “เยียนอวิ๋นเกอ ไม่มีผู้ใดจัดการนางได้เลยหรือ”
“นางกล้าลงมือกับเฉินฮูหยินแม้อยู่ต่อหน้าท่านโหว นอกจากท่านโหวแล้ว เจ้าลองคิดดูว่าผู้ใดจะจัดการนางได้”
เยียนอวิ๋นเพ่ยได้ยินดังนั้นสีหน้าจึงซีดเผือด
เมื่อคิดได้ว่าเยียนอวิ๋นเกออาจจะบุกมาตีนาง นางก็หวาดกลัวอย่างมาก
“ท่านแม่ เราต้องเพิ่มจำนวนองครักษ์เฝ้าระวังอยู่นอกประตู”
อย่าให้เยียนอวิ๋นเกอมีโอกาสเข้าใกล้ตัวนางแม้แต่น้อย
ซุนฮูหยินปลอบนาง “วางใจ ท่านพ่อเจ้าเตรียมการไว้แล้ว เยียนอวิ๋นเกอไม่มาก็แล้วไป หากนางกล้ามาย่อมต้องได้รับบทเรียน เวลานี้เรื่องที่สำคัญไม่ใช่เยียนอวิ๋นเกอ หากแต่เป็นเรื่องงานแต่งของเจ้า”
“งานแต่งของข้า?” เยียนอวิ๋นเพ่ยฉงนเล็กน้อย เรื่องมาถึงเวลานี้ นางจะมีงานแต่งได้อย่างไร
ซุนฮูหยินพูดอย่างจริงจัง “เจ้าไม่อยากแต่งกับหลิงฉางเฟิงหรือ”
เยียนอวิ๋นเพ่ยหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย “ลูกย่อมอยากแต่งกับนายน้อยหลิง แต่ทางจวนโหวจะยอมหรือ เยียนอวิ๋นเฟยจะยอมหรือ”
“เจ้าบอกแม่ เจ้ากับหลิงฉางเฟิง…”
เยียนอวิ๋นเพ่ยใบหน้าแดงก่ำ ไม่พูดสิ่งใด
ซุนฮูหยินกระจ่างอยู่ในใจ “ในเมื่อเจ้าเป็นคนของหลิงฉางเฟิงแล้ว ไม่ว่าอย่างไรหลิงฉางเฟิงย่อมต้องรับผิดชอบ”
…
ซุนฮูหยินนำของขวัญมูลค่ามากชิ้นหนึ่งมาพบเฉินฮูหยินที่จวนโหว
ลมข้างหมอนของเฉินฮูหยินมีพลังมาก
หากเฉินฮูหยินช่วยเหลือ เรื่องของเยียนอวิ๋นเพ่ยกับหลิงฉางเฟิงย่อมประสบความสำเร็จ
เมื่องานแต่งของเยียนอวิ๋นเฟยใกล้เข้ามาแล้ว จวนโหวก็เริ่มวุ่นวายกับงานเลี้ยง
เยียนอวิ๋นเฟยจะแต่งกับหลิงฉางเฟิงได้หรือไม่เป็นเรื่องที่ยังไม่แน่นอน
หากยังไม่สู่ขอ ผู้ใดก็ไม่อาจบอกได้ว่าคนที่แต่งกับหลิงฉางเฟิงจะเป็นเยียนอวิ๋นเฟยหรือเยียนอวิ๋นเพ่ย
ในเมื่อตัดสินใจจะแย่งว่าที่สามีของเยียนอวิ๋นเฟย ย่อมไม่มีเหตุผลที่จะต้องล้มเลิกกลางคัน
ผู้ใดให้เซียวฮูหยินบ้านใหญ่มีอำนาจน้อย ไม่แย่งได้อย่างไร
…
ในเวลาเดียวกัน ซื่อจื่อแห่งแคว้นอวี้โจว ท่านแม่ทัพชือฉี ท่านโหวผิงอู่ สืออุนกำลังมุ่งหน้าเดินทางไปพบกับหลิงฉางเฟิงที่ห้องรับรองในหอฮุ่ยปิง
หลิงฉางเฟิงถูกขังไว้ในห้องหลายวัน แต่เขาอยู่อย่างสุขสบาย ไม่มีผู้ใดด่าทอหรือทุบตี ไม่ลำบาก หนึ่งวันมีอาหารสามมื้อ แต่ละมื้อล้วนอุดมสมบูรณ์
มีเพียงอย่างเดียวคือไม่สามารถออกจากห้องได้
เขาถูกจำกัดอิสรภาพอย่างสิ้นเชิง
เขารู้ว่าตนเองกระทำความผิดอันใหญ่หลวง กระทำสิ่งที่เป็นข้อต้องห้าม จวนโหวกว่างหนิงไม่ได้ฉีกหน้าในทันทีถือว่าเห็นแก่ตระกูลหลิงมากแล้ว
เขาอยากคุยกับท่านโหวกว่างหนิง เยียนโส่วจ้านซึ่งหน้าจึงเรียกองครักษ์ที่เฝ้าประตูให้ไปรายงานให้
แต่หลายวันผ่านไปยังไม่มีผู้ใดมาพบเขา
ราวกับว่าเขาถูกจวนโหวหลงลืมเอาไว้ตรงนี้
เขาคำนวณเวลา ห่างจากงานแต่งอีกเพียงไม่กี่วัน ท่านโหวกว่างหนิง เยียนโส่วจ้านไม่มาพบเขา หรือจะต้องการให้เขาถอนหมั้น?
หากถอนหมั้น…
เขาก็ไม่เกรงกลัว
การสานสัมพันธ์ในครานี้เป็นความต้องการของตระกูลเยียน
เมื่อคิดได้เช่นนี้ หลิงฉางเฟิงก็ใจเย็นลง
เขาจิบสุรา ร้องเพลงอย่างสบายใจ
เขามีรูปลักษณ์ที่ดี ดวงตาหวานเยิ้มแพรวพราวไปด้วยเสน่ห์
มิน่าเยียนอวิ๋นเพ่ยจึงตกหลุมรักเขาทันทีเมื่อพบหน้า จนละทิ้งความอับอายเสนอตัวให้อีกฝ่าย
ประตูถูกผลักออกจากด้านนอก
หลิงฉางเฟิงเลิกคิ้วด้วยความได้ใจ ในที่สุดเยียนโส่วจ้านก็อดทนไม่ไหวจนยอมมาพบเขา
แต่เมื่อเห็นคนเดินเข้ามา ใบหน้าได้ใจของหลิงฉางเฟิงก็แปรเปลี่ยนเป็นซีดเผือดด้วยความตกใจกลัว
เขาโยนจอกสุราทิ้งไป พลันผุดลุกขึ้นด้วยท่าทีกล้าๆ กลัวๆ “ท่านลุง ท่านมาได้อย่างไรขอรับ”
“เจ้ามาตระกูลเยียนได้ ข้ามาไม่ได้หรือ” ท่านโหวผิงอู่ สืออุน มีความน่าเกรงขามแม้ไม่โกรธ ความน่าเกรงขามของเขาทำให้หลิงฉางเฟิงหายใจไม่ออก
ยามค่ำคืนในฤดูใบไม้ผลิ อากาศในแคว้นซ่างกู่เย็นสดชื่น
แต่หลิงฉางเฟิงกลับมีเหงื่อผุดขึ้นเต็มหน้าผาก
“ท่านลุงเข้าใจผิดแล้ว ข้า ข้า ข้า…” หลิงฉางเฟิงตื่นตระหนกจนพูดตะกุกตะกัก
ท่านโหวผิงอู่ สืออุนยิ้มเย้ยหยัน นั่งลงบนเก้าอี้ด้วยท่าทีสง่าผ่าเผย “มาสู่ขอตระกูลเยียน แต่ก็ยังไม่เลิกนิสัยชอบแวะเวียนหาหญิงอื่น เจ้าแตะต้องผู้ใดไม่แตะ กลับไปแตะต้องบุตรสาวบ้านรองของตระกูลเยียน เจ้าคิดจะให้พี่น้องตระกูลเยียนปรนนิบัติสามีคนเดียวกันอย่างนั้นหรือ”
“หลานไม่ทันได้ไตร่ตรอง ท่านลุงไว้ชีวิตด้วย!” หลิงฉางเฟิงคุกเข่าลงทันที
“เจ้ายังรู้ตัวว่าไม่ได้ไตร่ตรอง หายากเสียจริง!” ท่านโหวผิงอู่ สืออุนหมุนแหวนที่นิ้วโป้งบนมือ น้ำเสียงไม่เป็นมิตร ราวกับหากได้ยินคำพูดไม่เข้าหู เขาพร้อมจะสังหารหลิงฉางเฟิงทันที
หลิงฉางเฟิงเหงื่อแตกพลั่ก “ท่านลุงช่วยข้าด้วย! ไม่ว่าจวนโหวมีเงื่อนไขอย่างไร เพียงแค่ข้าทำได้ ข้าย่อมรับปาก”
“หากพูดเช่นนี้ เจ้ายอมแต่งงานกับคุณหนูใหญ่แห่งจวนโหว เยียนอวิ๋นเฟย?”
“หลานยอมขอรับ!”
“ในเมื่อยอมแต่งงานกับนาง เหตุใดเจ้าจึงยังพัวพันกับเยียนอวิ๋นเพ่ยแห่งบ้านรอง”
“ข้า ข้า ข้าแค่หลงระเริงไปชั่วขณะ”
ท่านโหวผิงอู่ สืออุนหัวเราะ “เจ้าไม่ได้ผลักภาระให้แก่เยียนอวิ๋นเพ่ย กล่าวหาว่านางล่อลวงเจ้า อย่างน้อยก็ถือว่ามีความรับผิดชอบอยู่บ้าง ถึงแม้เวลานี้เจ้าจะยอมแต่ง แต่อีกฝ่ายไม่ยอมเสียแล้ว”
เอ๊ะ?
“จวนโหวจะถอนหมั้นหรือ” หลิงฉางเฟิงตกตะลึง “ท่านโหวกว่างหนิงยอมละทิ้งโอกาสที่จะสานสัมพันธ์กับตระกูลหลิงของพวกเราจริงหรือ”
ท่านโหวผิงอู่ สืออุนพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ท่านโหวกว่างหนิงยังรักษาสัญญางานแต่ง เสียดายที่เยียนอวิ๋นเฟยไม่ยอม นางไม่ได้ชื่นชอบเจ้า ไม่ยอมที่จะแต่งงานกับเจ้า เข้าใจแล้วหรือไม่”
สีหน้าของหลิงฉางเฟิงแปรเปลี่ยนไปหลากหลายอารมณ์ ภายในใจเกิดความโกรธเคือง “นางมีสิทธิ์ใดไม่ชอบข้า”
คุณหนูตระกูลเยียนไม่ชอบคุณชายตระกูลหลิง ช่างเป็นเรื่องน่าขันสิ้นดี
มีเพียงเขาที่มีสิทธิ์ไม่ชอบคุณหนูตระกูลอื่น คุณหนูตระกูลอื่นไม่มีสิทธิ์ที่จะไม่ชอบเขา
เหลวไหลสิ้นดี!
“เพราะเจ้าหลงระเริงในกามารมณ์ พัวพันกับเยียนอวิ๋นเพ่ย นางก็มีสิทธิ์ไม่ชอบเจ้า หญิงสาวบริสุทธิ์คนใดจะเต็มใจแต่งกับชายหนุ่มที่มีความสัมพันธ์กับน้องสาวในตระกูลของตนเอง”
หลิงฉางเฟิงขุ่นเคือง “จวนโหวต้องการถอนหมั้นย่อมได้ ข้าไม่สนใจหรอก อย่างไรคนที่เสียเปรียบคือเยียนอวิ๋นเฟย ไม่ใช่ข้า”
ท่านโหวผิงอู่ สืออุนหัวเราะเยาะออกมา “จวนโหวกว่างหนิงจะไม่ถอนหมั้น แต่เยียนอวิ๋นเฟยก็จะไม่แต่งกับเจ้า คนที่เจ้าต้องแต่งด้วยคือเยียนอวิ๋นเพ่ย”
“อะไรนะ เยียนอวิ๋นเพ่ยเป็นบุตรสาวของบ้านรอง ไม่มีสิทธิ์แต่งเป็นภรรยาเอกของข้า หากเป็นอนุภรรยายังพอเป็นไปได้”
หลิงฉางเฟิงไม่ปิดบังความเหยียดหยามที่มีต่อเยียนอวิ๋นเพ่ยแม้แต่น้อย
สตรีที่ไร้ความรักนวลสงวนตัวยอมพลีกายตัวของตนเอง เขาแค่เล่นสนุกด้วยเท่านั้น
จะให้แต่งเป็นภรรยาเอก ช่างเป็นเรื่องน่าขันสิ้นดี
หากเขาต้องแต่งกับเยียนอวิ๋นเพ่ยจริง ท่านแม่ของเขาคงต้องตีเขาจนขาหักอย่างแน่นอน
“มันเป็นหนี้ที่เจ้าติดค้างจวนโหว เจ้าไม่เต็มใจแต่งก็ต้องแต่ง! เพื่อให้เยียนอวิ๋นเพ่ยมีฐานะที่คู่ควรกับเจ้า ท่านโหวกว่างหนิงจะรับเยียนอวิ๋นเพ่ยมาเป็นบุตรภายใต้นามของเซียวฮูหยิน ผู้เป็นภรรยาเอก”
หลิงฉางเฟิงส่ายหน้าระรัว “ข้าไม่ยอม! จวนโหวไม่มีสิทธิ์บงการงานแต่งของข้า”
“ข้ารับปากแทนเจ้าแล้วไปแล้ว เจ้ายอมแต่งก็ต้องแต่ง ไม่ยอมแต่งก็ต้องแต่ง เรื่องนี้เจ้าไม่อาจปฏิเสธได้ ทางท่านพ่อกับท่านแม่ของเจ้า ข้าเขียนจดหมายบอกเล่าเหตุการณ์ทุกอย่างให้แล้ว วันนี้มาพบเจ้าเพียงแค่มาบอกกล่าวเท่านั้น”
ท่านโหวผิงอู่ สืออุนพูดด้วยเสียงหนักแน่นจนไม่อาจปฏิเสธได้
หลิงฉางเฟิงอยากจะร้องไห้แต่ก็ไร้น้ำตา “เหตุใดท่านลุงต้องให้ข้าแต่งกับเยียนอวิ๋นเพ่ย ข้าไม่แต่งกับนาง! ข้ายอมแต่งงานกับเยียนอวิ๋นเฟย”
“บังอาจ! นับจากนี้ไปอย่าได้เรียกชื่อของเยียนอวิ๋นเฟยโดยตรง เจ้าต้องเรียกนางว่าท่านป้า”
ท่านป้า?
หลิงฉางเฟิงเสียสติไปแล้ว!