คุณหนูใบ้หัวใจแกร่ง - ตอนที่ 85 จับแกะ ดึงขนแกะ
ตอนที่ 85 จับแกะ ดึงขนแกะ
ร้านผ้าสี่ฤดูจัดการซื้อแบบกลุ่มภายใต้การชี้แนะของเยียนอวิ๋นเกอผู้เป็นเถ้าแก่
ซื้อมากกว่าสองร้อยชุด ขายผ้านุ่นจากทางตะวันตกเฉียงเหนือหลายสิบผืนในคราวเดียว
อย่างไรก็ตาม มีคนเสียดายค่าตัดเย็บไม่กี่เหวิน ยอมตัดเย็บเองในเรือน ก็ไม่ยอมให้ผู้อื่นได้เงิน
ชุดแต่ละชุดที่ซื้อแบบกลุ่มล้วนตัดเย็บตามขนาดตัว ฝีมือดีมาก
ย่อมมีขนาดเหมาะสม แนบตัวกว่าที่เหล่าหญิงสาวตัดเอง อีกทั้งยังไม่สิ้นเปลืองเนื้อผ้า
ตัดเย็บเสื้อผ้า ขั้นตอนที่ยากที่สุดคือการตัด
เมื่อตัดลงไปแล้ว ไม่อาจเสียใจทีหลังได้
ตัดมากไป ตัดน้อยไป ทำได้เพียงยอมรับความโชคร้าย
มีเจ้าสาวใหม่ที่ตัดเย็บเสื้อผ้าเองเสียใจในภายหลัง
ไม่ควรเสียดายเงินเพียงเล็กน้อย ผ้าดีๆ ผืนหนึ่ง สิ้นเปลืองไปมาก เจ็บใจยิ่งนัก
หลังจากร้านผ้าสี่ฤดูสร้างชื่อเสียงการตัดเย็บชุดแบบกลุ่มแล้ว การค้าขายประเภทนี้ก็ดำเนินขึ้นมา
ต่อมา แม้กระทั่งคนในแคว้นซี แคว้นหยวนไม่สนใจระยะทางอันยาวไกล วิ่งมาที่ร้านผ้าสี่ฤดูเพื่อตัดเย็บชุดกับอาจารย์จากเมืองหลวงโดยเฉพาะ
ทุกครั้ง อย่างน้อยหลายสิบชุด
…
เยียนอวิ๋นเกอกำลังสำรวจเพิงอุ่น
ช่างฝีมือใช้เวลานับเดือน ทดลองหลากหลายรูปแบบ สุดท้ายแก้ไขปัญหาด้านแสงได้
ทำหลังคาแบบขยับได้
นำแผ่นไม้ไผ่ผูกเอาไว้ กลายเป็นแพไม้ไผ่
จากนั้นตากแห้ง สางฟางให้เป็นระเบียบ มัดไว้บนแพไม้ไผ่
วางแพไม้ไผ่ไว้บนคานอย่างเป็นระเบียบ จึงกลายเป็นหลังคา
เมื่อแดดออก หยิบแพไม้ไผ่ลง ย่อมสามารถรับแสงได้อย่างเต็มที่
วิธีนี้มีประโยชน์มากเพียงใด เมื่อถึงฤดูหนาวจะสามารถปลูกผักสีเขียวกับผลไม้ได้หรือไม่ ช่างฝีมือก็ไม่กล้ารับปาก
ทำได้เพียงบอกว่าพวกเขาพยายามแล้ว
เยียนอวิ๋นเกอปีนขึ้นบนหลังคาด้วยตนเอง ดูไม่ออกว่าหลังคาของเรือนฟางนี้ขยับได้
นางเปิดแพไม้ไผ่ขึ้น แสงอาทิตย์สาดผ่านหลังคาเข้าไปในเพิงอุ่น
นางพยักหน้า “บางทีอาจได้ เวลานี้อากาศหนาวลงแล้ว ทดลองปลูกในเพิงสองหลังก่อน หากปลูกได้ รอกระทั่งฤดูหนาว ค่อยปลูกในเพิงสักสิบกว่ายี่สิบหลัง เมื่อถึงเวลา พวกเราจะหาเงินจากการขายผักผลไม้สดใหม่”
เสบียงที่เก็บเกี่ยวได้ในปีนี้ บอกได้เพียงพอกิน
หากคาดหวังขายเสบียงหาเงิน ไม่ต้องคิด
ถึงแม้นางจะมีเงินมาก แต่ก็ไม่อาจสิ้นเปลืองแบบนี้ได้!
ต้องหาวิธีเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย
เรือนพักร่ำรวยประกาศต่อผู้อพยพ รับสมัครชายหนุ่มที่แข็งแรงขึ้นเขาตัดไม้ รับสมัครช่างเผาถ่านไม้
ฤดูหนาวในเมืองหลวงมาเยือนเร็ว เยียนอวิ๋นเกอตัดสินใจเปิดเตาเผาถ่านไม้ อีกทั้งสร้างเพิงอุ่นขึ้นมา
เมื่ออากาศหนาว ก็เริ่มขายถ่านไม้หาเงิน
ป่าไม้เขียวชอุ่ม ล้วนเป็นอุตสาหกรรมของนาง เยียนอวิ๋นเกอ
ฉลาดเสียจริงที่ซื้อป่าไม้บริเวณใกล้เคียงจนหมดตั้งแต่แรก
เพื่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นางไม่เพียงกำหนดพื้นที่ตัดไม้ ยังมีเงื่อนไขให้ตัดหนึ่งต้นเหลือสองต้น
ไม่อาจตัดหมดทั้งเขาในคราวเดียว
สมัยนี้ นางไม่มีที่ให้ซื้อต้นอ่อนนับแสนต้นไปเพาะปลูกเป็นป่าไม้
ดังนั้น การตัดย่อมต้องมีวิธีการ ต้องประหยัด
เมื่อเตรียมการเรื่องเหล่านี้เสร็จสิ้น เยียนอวิ๋นเกอนำคนขึ้นเขา
หลายเดือนก่อน นางให้เยียนสุยเลือกสถานที่อับชื้นตัดต้นไม้ เพาะเลี้ยงเห็ดหูหนู
หลังจากทดลองหลายครั้ง ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น ในที่สุดก็มีพื้นที่ต้นไม้แห้งผืนหนึ่งปลูกเห็ดหูหนูดำออกมาได้
“คุณหนู ตรงนี้มีเห็ดหูหนูขาวเจ้าค่ะ!”
อาเป่ยตะโกน เยียนอวิ๋นเกอวิ่งไปตามเสียง
เห็ดหูหนูขาวจริงด้วย
นางหัวเราะร่า
“อีกไม่กี่วัน เด็ดเห็ดหูหนูขาวแล้วส่งไปให้ท่านแม่กับพี่สอง”
เห็ดหูหนูขาวมีน้อยจึงล้ำค่า
เยียนอวิ๋นเกอไม่คิดจะขายเป็นเงิน หากแต่ส่งให้คนในตระกูลก่อน
เห็ดหูหนูดำสามารถขายเป็นเงินได้
รอฤดูใบไม้ผลิปีหน้า สามารถเพาะปลูกเห็ดหูหนูดำมากขึ้น
เชื่อว่าเห็ดหูหนูดำสามารถนำรายได้ที่ไม่น้อยมาให้นาง ดีใจเหลือเกิน
ยืนอยู่ท่ามกลางป่าไม้ มองไม่เห็นเชิงเขา
แต่ภายในใจของนางยังคงตื้นตัน
นางพูดกับอาเป่ย “ฤดูหนาวปีนี้หาเงิน ยังคงต้องคาดหวังกับเห็ดในเพิงอุ่น ร้านของชำหนานเป่ยสามารถเปิดสาขาขึ้นในเมืองหลวง ต่อจากนี้ขายสินค้าที่ผลิตจากเรือนพักโดยเฉพาะ อีกไม่นาน ลองปลูกข้าวสาลีในฤดูหนาว หากสำเร็จ ต่อจากนี้ก็สามารถเพาะปลูกข้าวสาลีฤดูหนาวได้”
ข้าวสาลีฤดูใบไม้ผลิไม่มีผลผลิตสูงเหมือนข้าวสาลีฤดูหนาว รสชาติก็ไม่อาจเทียบกับข้าวสาลีฤดูหนาวได้
หากสามารถปลูกข้าวสาลีฤดูหนาวในพื้นที่ของเมืองหลวงได้ เยียนอวิ๋นเกอย่อมไม่สนใจข้าวสาลีฤดูใบไม้ผลิ
เมืองหลวงอากาศหนาว แต่เยียนอวิ๋นเกอรู้สึกว่าไม่หนาวเท่าภาคตะวันออกเฉียงเหนือเมื่อชาติก่อน
บางทีอาจปลูกข้าวสาลีฤดูหนาวได้จริง
เสียดายที่ผลผลิตทางการเกษตรที่ทนต่อความแห้งแล้ง อีกทั้งมีผลผลิตมากอย่างมันฝรั่ง มันหวาน และข้าวโพด ไม่มี
เสียดาย!
ใช้เวลากว่าหลายปี ยังคงรวบรวมเมล็ดพันธุ์ของมันฝรั่ง มันหวานและข้าวโพดไม่ได้
หากแต่เมล็ดพันธุ์ของเครื่องเทศรวบรวมจนเกือบครบแล้ว อีกทั้งยังหาเมล็ดพันธุ์ของฟักทอง มะเขือเทศเจอ…
โต๊ะอาหารปีหน้า หากไม่มีเหตุการณ์ไม่คาดคิด ย่อมอุดมสมบูรณ์อย่างมาก
“คุณหนู มันฝรั่ง มันหวาน ข้าวโพดคือสิ่งใดหรือเจ้าคะ” อาเป่ยไม่เข้าใจจึงถาม
เยียนอวิ๋นเกอพูดกับนาง “ล้วนเป็นผลผลิตทางการเกษตรที่ทนต่อความแห้งแล้ง และมีผลผลิตมาก เสียดายราชวงศ์ต้าเว่ยของพวกเราไม่มี ที่อื่นอาจพบได้”
ค่อยเป็นค่อยไปเถิด รอมีโอกาสออกทะเล นางจะส่งคนไปตามหาเมล็ดพันธุ์จากทุกหนทุกแห่ง
นางพูดกับอาเป่ย “อีกสองปี หลังจากการบุกเบิกทางนี้เสร็จสิ้น เมื่อถึงเวลานั้นเตรียมคนมุ่งหน้าไปบุกเบิกทางใต้ ปลูกอ้อย เมื่อถึงเวลาพวกเราต้มน้ำตาล ผลิตน้ำตาลขาว”
นางตั้งปณิธานจะกลายเป็นพ่อค้าใหญ่ขายน้ำตาล ผูกขาดน้ำตาล
ทางใต้ห่างไกลจากเมืองหลวง
แม้ฮ่องเต้จะเป็นโอรสสวรรค์ แต่มือก็ไม่อาจเอื้อมไปได้ไกลถึงเพียงนั้น
เมื่อถึงเวลา นางย่อมเป็นพ่อค้าใหญ่ขายน้ำตาลที่พูดคำไหนคำนั้น
ฮ่าๆๆ …
“คุณหนูอย่าเพิ่งพูดเรื่องผลิตน้ำตาล เห็ดหูหนูจะขายอย่างไร ขายให้ผู้ใด ขายปลีกหรือขายส่ง คุณหนูมีแผนการแล้วหรือไม่ นอกจากนี้ถ่านไม้จะขายอย่างไร คุณหนูคิดเห็นอย่างไรเจ้าคะ”
อาเป่ยพูดขัดเยียนอวิ๋นเกออย่างไม่เกรงใจ
เยียนอวิ๋นเกอกระแอมไอเสียงเบา กวาดตามองรอบด้าน “เรื่องเห็ดหูหนู เก็บส่วนหนึ่งเอาไว้ขายปลีก ส่วนอื่นขายให้องค์หญิงเฉิงหยาง”
อ๋า?
อาเป่ยพึมพำเสียงเบา “องค์หญิงเฉิงหยางจะรับหรือ คุณหนูหากจะถอนขนแกะ ไม่อาจจับแกะตัวเดียวถอน”
เยียนอวิ๋นเกอกลอกตาขาว “ข้าย่อมรู้ว่าไม่อาจจับแกะตัวเดียวถอนขนได้ แต่ตามที่ข้ารู้องค์หญิงเฉิงหยางเป็นพระบรมวงศานุวงศ์ที่มั่งคั่งที่สุด เพียงแค่เห็ดหูหนูคุณภาพดี นางย่อมไม่สนใจราคา เจ้าคอยดู รอเห็ดหูหนูตากแห้งแล้ว ให้เยียนมู่ส่งตัวอย่างให้จวนองค์หญิงเฉิงหยางลองชิมในนามของท่านแม่ เพียงแค่นางพอใจ เห็ดหูหนูชุดนี้ย่อมสามารถแลกเป็นเงินจำนวนไม่น้อย”
ฤดูหนาวขาดแคลนวัตถุดิบ องค์หญิงเฉิงหยางต้องชะลอกับการดื่มด่ำ ทนทุกข์กับฤดูหนาวอันแสนยาวนาน
เยียนอวิ๋นเกอคิดไว้ดีแล้ว เห็ดหูหนู ผลไม้และผักในเพิ่งอุ่น ล้วนส่งไปให้จวนองค์หญิงเฉิงหยาง
องค์หญิงเฉิงหยางกลายเป็นคนซื้อที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเรือนพักร่ำรวย อีกทั้งไม่มีค่าใช้จ่ายอื่น นอกจากนี้ยังต้องให้เงินนาง
เพียงแค่องค์หญิงเฉิงหยางบอกว่าดี ย่อมก่อให้เกิดกระแสในเมืองหลวง ผลผลิตจากเรือนพักร่ำรวยก็ไม่กลัวที่จะขายไม่ออก
ไม่เพียงขายออกไปได้ อีกทั้งยังขายได้ราคาดี
องค์หญิงเฉิงหยางช่างเป็นคนดี!
มุมปากของอาเป่ยกระตุก
องค์หญิงเฉิงหยางถูกคุณหนูเพ่งเล็ง ถุงเงินยังเก็บไว้ได้หรือไม่
ลงจากเขามาถึงริมบ่อน้ำ เยียนอวิ๋นเกอกลุ้มใจเล็กน้อย
“ที่ใดมีรากบัว”
หากสามารถปลูกรากบัวไว้ในบ่อน้ำ ฤดูนี้ย่อมเป็นฤดูแห่งการเก็บเกี่ยวขุดรากบัวพอดี
ดูท่าทางต้องเตรียมคนลงไปทางใต้ล่วงหน้า รวบรวมเมล็ดพันธุ์ต่างๆ ศึกษาสถานการณ์ทางใต้ก่อน
ไม่มีรากบัว เป็นไช่เท้าก็ได้
เมล็ดพันธุ์ไช่เท้าปลูกลงไปแล้ว
ฤดูหนาวคงมีไช่เท้าที่สดใหม่กิน
หวังว่าฤดูหนาวนี้อย่าหนาวเกินไป อย่าทำให้พืชผลหนาวตาย
ปีหน้าต้องปลูกถั่วเหลืองให้มาก นำถั่วเหลืองมาทอด ขายเป็นเงิน
หรือขายเต้าหู้ก็ย่อมได้
แม้จะมีเนื้อน้อยเพียงใด แต่มันก็ยังเป็นเงิน
ฤดูหนาวปีนี้ยังจะมีรายได้อีกทาง หญ้าสำหรับเลี้ยงสัตว์
เซ่าฝู่มีการจับจองล่วงหน้าแล้ว พวกเขาขอเหมาหญ้าสำหรับเลี้ยงสัตว์ มีมากเพียงใดเอาเท่านั้น
ใจปล้ำเสียจริง!
แต่เซ่าฝู่อยากใช้หญ้าสำหรับเลี้ยงสัตว์มาทดแทนหนี้สิน
เยียนอวิ๋นเกอยืนกรานคัดค้าน
เจรจากันแล้วว่าหลังเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วงปีหน้าจะคืนหนี้สินงวดแรก เหตุใดจึงใช้หญ้าสำหรับเลี้ยงสัตว์มาชำระหนี้สิน
เหตุใดหนี้สินที่ติดค้างต้องให้นางชำระก่อนกำหนด
รังเกียจที่นางไม่จ่ายเงินหรือ ดอกเบี้ยที่นางให้น้อยเกินไปหรือ
ใช้สินค้าทดแทนหนี้สิน นางจะขาดทุนมากเกินไป
หญ้าสำหรับเลี้ยงสัตว์ไม่กลัวว่าจะขายไม่ได้ เซ่าฝู่ต้องการหญ้าสำหรับเลี้ยงสัตว์ ต้องจ่ายเงินสดเท่านั้น!
มันเป็นขีดจำกัดของเยียนอวิ๋นเกอ
เซ่าฝู่เห็นท่าทางยืนกรานของนาง อีกทั้งพวกเขายังมีความต้องการหญ้าสำหรับเลี้ยงสัตว์อย่างมาก พวกเขาหมดหนทางจึงทำได้เพียงจำใจยอม
จ่ายสดก็จ่ายสด เซ่าฝู่ไม่ขาดแคลนเงินแค่นี้
เมื่อเจรจาเงื่อนไขและราคาเรียบร้อย รอเพียงรับซื้อหญ้าสำหรับเลี้ยงสัตว์ ตากแห้งอีกหลายวัน เมื่อตากจนกึ่งแห้งก็สามารถส่งมอบสินค้าได้
เยียนอวิ๋นเกอขี่ม้า มุ่งหน้าไปยังสนามหญ้าที่อยู่ไกลออกไปหลายสิบลี้
สนามหญ้าเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้ว
ผู้อพยพที่รับสมัครมากำลังเก็บเกี่ยวหญ้าสำหรับเลี้ยงสัตว์ด้วยความขยันขันแข็ง
นางควบม้าวิ่งรอบสนามหญ้าสองรอบ สะใจอย่างมาก!
นางถามฉางกุ้ยผู้เป็นพ่อบ้านของสนามหญ้า “ปีนี้เก็บเกี่ยวหญ้าสำหรับเลี้ยงสัตว์ได้มากน้อยเพียงใด”
ฉางกุ้ยพูดทันที “ตามสัญญากับเซ่าฝู่ หญ้าสำหรับเลี้ยงสัตว์ที่สดใหม่ต้องตากให้ครบสามวันจึงส่งมอบได้ ดังนั้นเซ่าฝู่ยังส่งคนมาควบคุมโดยเฉพาะ ทางบัญชีคาดการณ์ ปีนี้สามารถเก็บเกี่ยวหญ้าสำหรับเลี้ยงสัตว์ได้ราวหกแสนจิน”
“มากเพียงนี้?”
จำนวนนี้เกินกว่าที่เยียนอวิ๋นเกอคาดการณ์
พ่อบ้านฉางกุ้ยหัวเราะขึ้นมา “คุณหนูไม่รู้ เพาะปลูกข้าวกลัวถูกวัชพืชแย่งสารอาหาร เพาะปลูกหญ้าไม่มีความกังวลด้านนี้ หญ้าสำหรับเลี้ยงสัตว์เติบโตเร็ว ปีนี้หกแสนจินยังน้อย ปีหน้า ข้าน้อยเชื่อว่าจะสามารถเก็บเกี่ยวหญ้าสำหรับเลี้ยงสัตว์ได้หลายหมื่นหาบ หลายล้านจิน”
เยียนอวิ๋นเกอได้ยิน หัวเราะขึ้นมา การค้าหญ้าสำหรับเลี้ยงสัตว์ทำได้จริงๆ
สนามหญ้าหนึ่ง เพียงแค่ขายหญ้าสำหรับเลี้ยงสัตว์ ต้นทุนก็แทบจะไม่สนใจได้
ปีนี้ปีแรกก็มีรายได้หลายร้อยก้วน ปีหน้าย่อมต้องมีรายได้เป็นพันก้วน
หากขยายขนาดอย่างต่อเนื่อง ดูแลอย่างดี ต่อจากนี้รายได้ในแต่ละปีก็มีความเป็นไปได้ที่จะบรรลุหลายพันก้วน
อีกทั้งสนามหญ้ายังสามารถแบกรับหน้าที่เลี้ยงวัวไถนา
เยียนอวิ๋นเกอมีข้อตกลงร่วมกับเซ่าฝู่
เซ่าฝู่ให้นางยืมวัวไถนาไปผสมพันธุ์ตัวผู้และตัวเมีย
สามปีหลังจากนี้ นางต้องคืนลูกวัวในจำนวนเดียวกันให้แก่เซ่าฝู่
แม่วัวมีแรงกดดันในการตั้งท้องออกลูกอย่างมาก
หากออกลูกไม่เพียงพอ ถึงเวลาเยียนอวิ๋นเกอต้องจ่ายดอกเบี้ยวัวไถนา
นางมอบภารกิจให้พ่อบ้าน “เร่งผสมพันธุ์ให้แม่วัว”
รีบให้พวกมันออกลูก จะให้ดีต้องออกลูกหลายตัวในคราวเดียว
ทำการค้ากับสำนักเซ่าฝู่ช่างยากเสียเหลือเกิน ไม่ยอมขาดทุนแม้แต่น้อย