คุณหนูใบ้หัวใจแกร่ง - ตอนที่ 99 แลกเปลี่ยน
ตอนที่ 99 แลกเปลี่ยน
เยียนอวิ๋นเกอแจกจ่ายเงินรางวัล ให้รางวัลเหล่าองครักษ์ที่เล่นละครได้สมบทบาท
ใช่
คนชุดดำ มือสังหารล้วนเป็นองครักษ์มากฝีมือ
การลอบสังหารเกิดขึ้นเพื่อบีบเค้นปากคำ
การซักถามก่อนหน้านี้ เพื่อมั่นใจว่าสามารถเปิดปากของเชลยคนใดในสามคนง่ายที่สุด
จากนั้นการลอบสังหารที่สมจริงทำให้เชลยคนที่สามคิดว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังต้องการฆ่าเขาปิดปาก
ความตื่นตระหนก บวกกับการพังทลายกำแพงในใจ ทำให้เยียนอวิ๋นเกอได้คำสารภาพมาอย่างราบรื่น
หลังจากที่แจกจ่ายเงินรางวัลแล้ว นางเดินทางไปพบเซียวฮูหยิน
“ได้คำสารภาพมาเร็วเพียงนี้หรือ” เซียวฮูหยินประหลาดใจ
เยียนอวิ๋นเกอยิ้มอย่างได้ใจ “ข้าลงมือเอง เพียงแค่สอบปากคำ ง่ายกว่าใช้มือหยิบ ข้าให้เหล่าองครักษ์ปลอมตัวเป็นมือสังหาร เพียงแค่ไม่กี่ทีก็ได้คำสารภาพมา ท่านแม่ลองคาดเดา ผู้ใดส่งคนมาลอบสังหารข้า”
“ผู้ใด” เซียวฮูหยินสงสัยอย่างมาก
เยียนอวิ๋นเกอพูด “คนโง่เขลาอย่างองค์หญิงติ้งเถา”
เซียวฮูหยินตกตะลึงเป็นอันดับแรก ก่อนจะดีใจ “ติ้งเถาหรือ วันหลังพวกเราต้องใช้เรื่องนี้ พบกับเถาฮองเฮาเสียหน่อย”
“ท่านแม่จะทำอย่างไร”
“เหล่าท่านอ๋องภายใต้แผ่นดินกำลังเรียกร้องให้กำจัดขุนนางชั่วข้างกายฝ่าบาท คนที่ต้องการกำจัดก็คือตระกูลเถา เวลานี้องค์หญิงติ้งเถาส่งคนมาลอบสังหารเจ้า หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไปจะเกิดผลอย่างไร ตระกูลเถาจะตกอยู่ในอันตราย!”
เซียวฮูหยินเกือบหลุดหัวเราะเสียงดังออกมา องค์หญิงติ้งเถาส่งคนมาลอบสังหารเท่ากับนำจุดอ่อนมาส่งให้พวกนางแม่ลูกกับมือ
เซียวฮูหยินครุ่นคิด ต้องใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้ให้ดี
จากนั้นนางก็ชื่นชมเยียนอวิ๋นเกอ “องครักษ์จินอู่เพิ่งมาถึง เจ้าก็ได้คำสารภาพมา ไม่เลว! เชลยทั้งสามตายหมดแล้วหรือ”
“ยังไม่ตาย เพียงแค่ได้รับบาดเจ็บ”
เซียวฮูหยินพูดด้วยรอยยิ้ม “ไม่คิดว่าเจ้าจะคิดวิธีปลอมตัวเป็นมือสังหารออกมาได้ ทั้งหลอกล่อทั้งเกลี้ยกล่อมก็นำคำสารภาพมาได้ เจ้าคิดได้อย่างไร”
เยียนอวิ๋นเกอแนบชิดเซียวฮูหยินเพื่อออดอ้อน “ข้าฉลาดหรือไม่! ไม่ถึงสองชั่วยามก็นำคำสารภาพมาได้ องครักษ์จินอู่ต้องการตัวคน ให้พวกเขานำไปได้เลย จวนองค์หญิงของพวกเราไม่เลี้ยงคนไร้ประโยชน์!”
เซียวฮูหยินยิ้มตาหยี ยื่นนิ้วมือจิ้มลงบนหน้าผากของนาง “ชมเจ้าแค่สองคำ หางก็ชี้ขึ้นฟ้าเสียแล้ว”
เยียนอวิ๋นเกอทำหน้าได้ใจ “ข้าจะส่งมอบคนให้องครักษ์จินอู่บัดนี้ เยียนอวิ๋นฉวนไปแล้วหรือ”
“ยัง ข้าให้เขาไปรับมือกับองครักษ์จินอู่ เขากลัวแทบตายแล้ว”
เยียนอวิ๋นเกอเม้มปากยิ้ม “ไม่คิดว่าเขาจะกลัวองครักษ์จินอู่”
…
เมื่อเยียนอวิ๋นเกอส่งตัวเชลยทั้งสามไปให้องครักษ์จินอู่ องครักษ์จินอู่จากไป เยียนอวิ๋นฉวนทำหน้าโล่งใจ
เยียนอวิ๋นเกอถามเขา “พี่ใหญ่กลัวองครักษ์จินอู่หรือ? ท่านไม่ได้กระทำความผิด กลัวอันใด”
เยียนอวิ๋นฉวนเหนื่อยใจอย่างมาก “ไม่ใช่ทุกคนจะเหมือนน้องสี่ เจ้าออกไปถาม ผู้ใดไม่กลัวองครักษ์จินอู่ ข้ายังต้องดื่มชากับพวกเขา เจ้าว่าเป็นข้ามันง่ายหรือ”
“เหตุใดเป็นท่านจึงไม่ง่าย ท่านคอยรายงานท่านพ่อทุกวัน ใช้เงินราวกับสายน้ำ ทุกครั้งที่ท่านพ่อเขียนจดหมายให้ท่านล้วนมีเงินติดมาด้วยใช่หรือไม่ ท่านมีเงินมากกว่าข้าเสียอีก ชีวิตของท่านสุขสบาย ท่านยังบ่นอีก”
เยียนอวิ๋นฉวนรู้ว่าเยียนอวิ๋นเกอไม่มีทางปล่อยเขาไปอย่างง่ายดาย
นับแต่รู้ว่าตู้ซินแสจะมาเมืองหลวง เขาก็รู้ว่าเรื่องกำลังจะแย่
เยียนอวิ๋นเกอเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น
เวลานี้ เขาทำหน้าเหมือนไม่ได้รับความเป็นธรรม สีหน้าขมขื่น “ข้าไม่อาจเทียบน้องสี่ เจ้ามีฮูหยินเป็นที่พึ่ง ข้าไร้ที่พึ่งในเมืองหลวง หากข้าไม่เชื่อฟังคำสั่งของท่านพ่อ ท่านพ่อย่อมไม่พอใจต่อข้า อีกทั้งยังจะลงโทษข้า น้องสี่ ทุกคนล้วนมีเหตุจำเป็น หวังว่าเจ้าจะให้อภัย”
เยียนอวิ๋นเกอพยักหน้า “ท่านพูดถูก ทุกคนล้วนไม่ง่าย แต่ไม่ใช่เหตุผลที่ท่านทำร้ายข้า”
“น้องสี่ต้องการสิ่งใด”
“อยากให้ข้าให้อภัยท่าน ง่ายมาก พบหน้าย่อมแบ่งครึ่ง”
ภายในใจของเยียนอวิ๋นฉวนขมขื่นอย่างมาก!
วันนี้เขาขาดทุนย่อยยับ!
ตกใจกับองครักษ์จินอู่ยังไม่พอ ยังต้องถูกน้องสี่หลอกเอาเงินอีก
“น้องสี่ เจ้าไม่ขาดแคลนเงิน! เวลานี้เจ้ามีเงินมากกว่าข้าเสียอีก”
“ข้ามีเงินก็จริง แต่ข้ามีเรื่องที่ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก หรือว่าท่านไม่รู้ ข้าติดหนี้สินก้อนใหญ่อยู่ด้านนอก หากท่านไม่ให้เงิน ท่านจะให้ข้าให้อภัยท่านได้อย่างไร”
มุมปากของเยียนอวิ๋นฉวนกระตุก เถียงข้างๆ คูๆ
มีการใช้เงินเพื่อซื้อการให้อภัยที่ใดกัน
แต่เยียนอวิ๋นเกอจะเอาเงิน เยียนอวิ๋นฉวนย่อมไร้หนทาง
สุดท้ายเขาให้เงินห้าพันก้วน เพื่อแลกเปลี่ยนกับการให้อภัยของเยียนอวิ๋นเกอ
เขาเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก “การให้อภัยของน้องสาว แพงเหลือเกิน!”
เยียนอวิ๋นเกอหลอกเงินก้อนหนึ่งมาสำเร็จ นางอารมณ์ดีอย่างมาก “ยุ่งมาทั้งวัน ท่านอยู่กินข้าวเย็นก่อนค่อยไปเถิด”
ครั้งแรก!
ห้าพันก้วนราวกับใช้ไปได้อย่างคุ้มค่า
เขาพึมพำ “อยากกินข้าวเย็นของน้องสี่มื้อหนึ่ง ไม่ง่ายเสียเลย”
เยียนอวิ๋นเกอกลอกตาใส่เขา “เยียนอวิ๋นเพ่ยอยากมากินอาหารเย็นที่จวนท่านหญิงจู้หยางยังเป็นไปไม่ได้ รั้งท่านกินมื้อหนึ่ง ท่านพูดมากเสียจริง”
เยียนอวิ๋นฉวนได้ยินดังนี้จึงดีใจ
อย่างไรก็ตาม เขาได้รับการปฏิบัติที่ดีกว่าเยียนอวิ๋นเพ่ย
เวลานี้ เขาลืมไปแล้ว สิ่งที่เขาได้รับนั้นล้วนใช้เงินห้าพันก้วนซื้อมา
เขาติดตามอยู่ข้างกายเยียนอวิ๋นเกอ ถามถึงเรื่องอื่นๆ
“ท่านอาสองกับท่านอาสะใภ้สองกำลังจะเดินทางมาถึงเมืองหลวง ไม่รู้ฮูหยินจะรับรองพวกเขาอย่างไร”
เยียนอวิ๋นเกอหันกลับไปมองเขา “พี่สามอวิ๋นจือก็กำลังจะเดินทางมาถึงเมืองหลวง นางเป็นน้องสาวของพี่ใหญ่ เหตุใดจึงไม่เป็นห่วงนางบ้าง”
เยียนอวิ๋นฉวนฉวยโอกาสพูด “อวิ๋นจือมาเมืองหลวง หากน้องสี่ไม่รังเกียจ ให้นางอยู่กับเจ้าดีหรือไม่ จวนของข้ามีแต่ชายหนุ่ม นางเป็นหญิงสาวเพียงคนเดียว มีเรื่องไม่สะดวกมากมาย”
เยียนอวิ๋นเกอพูด “พี่ใหญ่ดีต่อพี่สามเสียจริง!”
เยียนอวิ๋นฉวนพูดอย่างหนักแน่น “ข้าก็ดีกับน้องสี่เช่นเดียวกัน”
ถุย!
แอบฟ้องเรื่องของนาง ดีตรงไหน
อย่าคิดว่าให้เงินมาห้าพันก้วน นางจะลืมเรื่องนี้
นางพูดกับเยียนอวิ๋นฉวน “พี่สามอยากพักก็เข้ามาที่จวนได้ แต่ท่านอาสองกับท่านอาสะใภ้สองไม่อาจเข้ามาได้ เมื่อพวกเขาเข้าเมืองหลวงมา ท่านไปรับมือกับท่านอาสองและท่านอาสะใภ้สอง ตู้ซินแสก็พักกับท่าน”
เยียนอวิ๋นฉวนครุ่นคิด “จวนของข้าเล็ก ย่อมไม่อาจมีที่พักให้คนจำนวนมาก หากท่านอาสองกับท่านอาสะใภ้สองพักด้านนอก ทำได้เพียงซื้อจวนอีกหลัง”
เยียนอวิ๋นเกอเสนอความคิดให้เขา “ท่านไปหาเยียนอวิ๋นเพ่ย ให้เยียนอวิ๋นเพ่ยจัดเตรียมที่พักของท่านอาสองกับท่านอาสะใภ้สอง หรือให้ท่านอาสองกับท่านอาสะใภ้สองเข้าไปพักในตระกูลหลิง”
“พักที่ตระกูลหลิง ไม่เหมาะสม!” เยียนอวิ๋นฉวนปฏิเสธความคิดนี้เป็นอันดับแรก
เยียนอวิ๋นเกอพูดกับเขา “หากท่านมีวิธีทำให้เยียนอวิ๋นเพ่ยออกเงินซื้อจวนให้ท่านอาสองกับท่านอาสะใภ้สอง ข้ารับปากท่านว่าจะพาพี่สามออกไปสานสัมพันธ์ด้านนอก ให้นางมีโอกาสเปิดหูเปิดตา”
“จริงหรือ”
“จริงแน่นอน แต่ว่าจำนวนเงินที่เยียนอวิ๋นเพ่ยออกต้องไม่ต่ำกว่าห้าพันก้วน”
จิ๊ๆ …
เยียนอวิ๋นฉวนบ่นภายในใจ น้องสี่โหดเหี้ยมอย่างมาก
หลอกเยียนอวิ๋นเพ่ย คราวเดียวก็ห้าพันก้วน
เขาสงสัยว่าเยียนอวิ๋นเพ่ยจะมีเงินมากมายเพียงนั้นหรือ
เยียนอวิ๋นเกอพูด “เยียนอวิ๋นเพ่ยไม่มีเงินมากเพียงนั้น แต่หลิงฉางเฟิงย่อมมี อย่างไรก็ตาม หากท่านทำให้นางเสียเงินห้าพันก้วนได้ ข้าย่อมดีกับพี่สาม ข้าเป็นคนมีสัจจะ พูดคำไหนย่อมทำได้ แต่ว่าหากท่านปิดบังข้าหรือใช้กลอุบาย เรื่องของพี่สามท่านไปจัดการเองเถิด”
คนอื่นตายดีกว่าตัวตาย
เยียนอวิ๋นฉวนรับปากในทันที “พวกเราทำสัญญากันแล้ว ข้าไปเอาเงินจากเยียนอวิ๋นเพ่ย เจ้าต้องดีกับอวิ๋นจือ”
เยียนอวิ๋นเกอพยักหน้า
เยียนอวิ๋นจือเป็นแค่คนไร้เดียงสา นอกจากมีอารมณ์ร้อน ชอบเอาแต่ใจแล้ว เรื่องอื่นไม่ใช่ปัญหา
กล่อมเยียนอวิ๋นจือเป็นเรื่องง่ายสำหรับเยียนอวิ๋นเกอ
ให้ชุดใหม่สองชุด เครื่องประดับชุดหนึ่งกับนางก็ทำให้นางดีใจจนหลงทิศหลงทางได้แล้ว
เยียนอวิ๋นจือเป็นคนที่พึงพอใจต่อสิ่งต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย
ทั้งที่ภายในจวนไม่เคยทำให้นางขาดแคลนสิ่งใด เฉินฮูหยินก็เชิญแม่นมสั่งสอนนาง แต่ไม่รู้เหตุใด ทั้งเนื้อทั้งตัวของเยียนอวิ๋นจือล้วนแสดงออกถึงความตระหนี่
บุญคุณเพียงเล็กน้อยก็ทำให้นางหาทิศทางไม่เจอแล้ว
ดูท่าทางจะเป็นเพราะสายเลือดของเฉินฮูหยินไม่ดี ถ่ายทอดความชั่วร้ายที่สืบทอดลงมาให้เยียนอวิ๋นจือจนหมด
พี่น้องสองคนตกลงร่วมกัน ทำให้ตอนกินอาหารเย็นเยียนอวิ๋นฉวนกินมากไปถึงสองชาม
เพราะว่าเขาดีใจ
เสียเงินห้าพันก้วนยังดีใจได้เพียงนี้ นอกจากเยียนอวิ๋นฉวนคงไม่มีผู้อื่นแล้ว
ทำได้เพียงบอกว่าเยียนอวิ๋นฉวนดีต่อน้องสาวเยียนอวิ๋นจือด้วยความจริงใจ วางแผนปูทางให้เยียนอวิ๋นจืออย่างสุดความสามารถ
…
เมื่อเยียนอวิ๋นฉวนออกจากจวนไป เซียวฮูหยินถามเยียนอวิ๋นเกอ “เจ้าจะให้เยียนอวิ๋นจือมาพักที่นี่จริงหรือ ไม่กลัวขัดแย้งกับนางหรือ”
เยียนอวิ๋นเกอพูดด้วยรอยยิ้ม “ท่านแม่วางใจ พี่สามไม่กล้าเหิมเกริมต่อหน้าข้า นางกลัวข้าตีนาง”
เซียวฮูหยินไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “ในเมื่อเจ้ารับปากเยียนอวิ๋นฉวนแล้ว เช่นนั้นก็ให้เยียนอวิ๋นจือเข้ามาพักเถิด คุณหนูเพียงคนเดียวพักด้านนอกไม่เหมาะสมนัก เพียงแต่เจ้าให้เยียนอวิ๋นฉวนออกหน้าขอเงินเยียนอวิ๋นเพ่ยซื้อจวน เวลานี้เยียนอวิ๋นเพ่ยเป็นคนของตระกูลหลิง ทำเช่นนี้จะทำให้ตระกูลหลิงมองตระกูลเยียนอย่างไร อีกอย่าง ตระกูลเยียนก็ไม่ขาดแคลนเงินซื้อจวน”
เยียนอวิ๋นเกอมีความคิดที่แตกต่างกัน “ท่านแม่ ถึงแม้ข้าไม่เอาเงินกับเยียนอวิ๋นเพ่ย ตระกูลเยียนจะมีเกียรติในสายตาของตระกูลหลิงหรือ เพียงแค่เรื่องที่เยียนอวิ๋นเพ่ยทำ เกียรติของตระกูลเยียนก็หมดไปนานแล้ว ขอเงินจากเยียนอวิ๋นเพ่ย คนที่รู้เรื่องภายในต่างรู้ดี ตระกูลเยียนกำลังสั่งสอนนาง ระบายความโกรธแทนพี่ใหญ่
หลิงฉางจื้อและหลิงฉางเฟิงจะออกหน้าแทนนางหรือไม่ มันเป็นเรื่องของตระกูลหลิง อีกทั้งฐานะของพี่ใหญ่ในเวลานี้คือท่านป้าของหลิงฉางจื้อและหลิงฉางเฟิงพี่น้อง เพียงแค่เรื่องนี้ ให้เยียนอวิ๋นเพ่ยออกเงินเพียงห้าพันก้วนยังน้อยไปสำหรับนาง หากพี่ใหญ่มาเมืองหลวงได้ อย่างน้อยก็ต้องหลอกเงินจากคนตระกูลหลิงหลายหมื่นก้วน”
เซียวฮูหยินนวดคลึงระหว่างคิ้ว “เจ้ามักหาเหตุผลมาได้ ทำเช่นนี้ เจ้าไม่กลัวทำให้ตระกูลหลิงขุ่นเคืองหรือ”
เยียนอวิ๋นเกอพูดด้วยรอยยิ้ม “ท่านแม่วางใจ รับรองว่าตระกูลหลิงจะไม่ขุ่นเคือง หลิงฉางจื้อไม่ใช่คนใจแคบ เขายังต้องการเสบียงของข้า ส่วนหลิงฉางเฟิง เขาจะขุ่นเคืองหรือไม่ ไม่แตกต่าง”
เซียวฮูหยินได้ยินจึงหัวเราะขึ้นมา
“ความคิดของเด็กๆ อย่างพวกเจ้า ข้าไม่เข้าใจ เรื่องนี้เจ้าจัดการเองเถิด อย่าได้ทำให้คนขุ่นเคือง”
“ท่านแม่วางใจ ข้ารู้ขอบเขตดี ถึงแม้ข้าจะเลยขอบเขต แต่ก็ยังมีเยียนอวิ๋นฉวน เขาเป็นคนรอบคอบ เขาย่อมต้องจัดการได้อย่างดี”
เวลาส่วนใหญ่เยียนอวิ๋นเกอรังเกียจเยียนอวิ๋นฉวนอย่างมาก
แต่นางก็ต้องยอมรับ เยียนอวิ๋นฉวนเป็นคนที่ทำงานเป็น และทำงานได้อย่างดี