คุณหนู4สตรีเปื้อนเลือด - ตอนที่ 37
ตอนที่ 37 มุ่งหมายทำลายภารกิจ
เดิมทีหน่วยที่สามแห่งกองทหารรับจ้างชื่อเหยียนเข้ามาฝึกซ้อมอยู่ภายในป่าแสงจันทร์แห่งนี้เพื่อฆ่าเวลา พวกเขากำลังรอให้ชื่อเซียวและหน่วยอื่นๆ มาสมทบ
พวกเขาเริ่มต้นจากการล่าอสูรมายาระดับต่ำจากบริเวณชายป่า ก่อนจะค่อยๆ รุกเข้าไปในส่วนลึกของป่ามากขึ้นเรื่อยๆ และในตอนที่มาจนถึงยังบริเวณนี้ จู่ๆ พวกเขาก็ได้กลิ่นหอมหวานอันแสนประหลาด
มันเป็นกลิ่นหอมเย้ายวนที่หอมเกินกว่าจะต้านทานได้ และด้วยความใคร่รู้จนอดใจไม่ไหว เหล่าทหารรับจ้างผู้เก่งกล้าจึงเดินตามกลิ่นนั้นไปยังจุดที่เป็นต้นกำเนิดของมันโดยไม่ลังเล
ในตอนแรก ไม่มีผู้ใดในกลุ่มพวกเขารู้จักกลิ่นนั้นเลยและทุกคนก็ไม่ได้คาดคิดด้วยว่าต้นกำเนิดของกลิ่นหอมนั้นจะเป็นผลหลิวหลี จนกระทั่งพวกเขาได้เห็นมันกับตาและพบว่ากลิ่นนั้นมาจากผลหลิวหลีโตเต็มที่ลูกหนึ่ง
พวกเขาตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างมากที่ได้พบสถานที่ที่มีผลไม้วิเศษชนิดนี้ขึ้นอยู่ ทว่าในเวลานั้นผลไม้วิเศษลูกโตยังไม่สุกอย่างเต็มที่จึงยังไม่เหมาะสมที่จะเด็ดดึงมาจากขั้ว
และเมื่อกวาดตามองโดยรอบ พวกเขาทั้งหมดก็พบว่า ณ บริเวณที่มีผลหลิวหลีอยู่นั้น มีอสูรมายาระดับต่ำอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก…ดูเหมือนพวกมันกำลังเฝ้ารอให้ผลหลิวหลีสุกและร่วงลงมา ดังนั้นหน่วยที่สามแห่งกองทหารชื่อเหยียนจึงพยายามกำจัดอสูรมายาเหล่านั้นออกไปให้มากที่สุดในขณะที่รอคอยเวลาที่ผลไม้จะสุกงอม
ไม่คิดเลยว่าจู่ๆ จะมีคนจากกลุ่มทหารรับจ้างหมาป่าปีศาจที่นำโดยหลี่เปียวเดินทางมาที่นี่
พวกเขาพบเสี้ยวฮังและสมาชิกหน่วยที่สามของกองทหารรับจ้างชื่อเหยียนที่เหมือนกำลังเฝ้ารอและคุ้มกันบางอย่างอยู่ หลี่เปียวที่พาคนมาเป็นจำนวนมากจึงเลือกที่จะซุ่มสังเกตการณ์อยู่ในมุมหนึ่ง
….จนในที่สุดเขาก็ได้รู้ หลี่เปียวไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะบังเอิญมาเจอผลหลิวหลีอย่างง่ายดายเช่นนี้…
ทว่าหลี่เปียวและกลุ่มทหารรับจ้างหมาป่าปีศาจของเขาเป็นพวกต่ำช้าไร้ยางอายอย่างที่สุด จากคำบอกเล่าของเสี้ยวฮัง กลุ่มทหารรับจ้างหมาป่าปีศาจกำลังปฏิบัติภารกิจตามหาผลหลิวหลี และถ้าหากพวกเขาทำงานนี้ได้สำเร็จ กลุ่มทหารรับจ้างของพวกเขาจะเลื่อนขึ้นไปเป็นกลุ่มทหารรับจ้างระดับหนึ่งทันที…
ผลหลิวหลีนั้นเติบโตอยู่ติดกับเพดานถ้ำแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ตรงส่วนไหล่เขาของทิวเขาที่อยู่เบื้องหน้า พวกเขามองเห็นมันได้รางๆ จากเชิงเขาจุดที่ตรงกับปากถ้ำ และยังไม่แน่ใจนักว่าภายในถ้ำแห่งนั้นมีผลไม้วิเศษอยู่มากเพียงใด
แน่นอนว่ากลุ่มอันธพาลในคราบทหารรับจ้างของหลี่เปียวก็ใช้กำลังขับไล่คนของกองทหารรับจ้างชื่อเหยียนเพื่อที่จะชิงเอาผลหลิวหลีไปเป็นของตน
และก็แน่นอนเช่นกันว่า เหล่าทหารหาญแห่งกองทหารรับจ้างชื่อเหยียนไม่ยอมพวกเขาง่ายๆ ทว่าชื่อเหยียนหน่วยที่สามนั้นมีคนน้อยกว่า พวกเขาจึงไม่สามารถสู้กับทหารอันธพาลของหลี่เปียวได้ อีกทั้งด้วยความที่หลี่เปียวโหดเหี้ยมอำมหิตเป็นอย่างมาก เขาลงมืออย่างป่าเถื่อนและหมายจะเอาชีวิต!! เสี้ยวฮังจึงไม่เหลือทางเลือกอื่นนอกจากต้องนำคนของเขาถอยออกมา
อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ยังไม่ได้ถอดใจออกไปจากป่าแห่งนี้เสียทีเดียว หน่วยที่สามแห่งกองทหารรับจ้างชื่อเหยียนยังคงรั้งรออยู่เพราะต้องการจะดูว่าพอมีโอกาสอื่นอยู่อีกหรือไม่
พวกเขารู้ดีว่าผลหลิวหลีเป็นผลไม้ที่หายากมากและยังล้ำค่าอย่างไร้สิ่งทัดเทียม ไม่เพียงแต่มนุษย์เท่านั้นที่ต้องการมัน แม้แต่อสูรมายาเองก็หมายตามันด้วยเช่นกัน ดังนั้นเสี้ยวฮังและพวกพ้องจึงหมายใจจะรอดูว่าจะมีอสูรมายาบุกเข้าไปชิงมันบ้างหรือไม่
และต่อให้พวกเขาไม่ได้ผลหลิวหลีมาครอบครอง พวกเขาก็จะไม่ยอมให้กลุ่มทหารรับจ้างน่ารังเกียจนั่นได้มันไปแล้วใช้เป็นความดีความชอบเพื่อเลื่อนขึ้นเป็นกลุ่มทหารรับจ้างระดับหนึ่งเป็นแน่
ตอนนี้ผลหลิวหลียังไม่สุกเต็มที่ พวกเขาจึงใช้เวลาในช่วงนี้ประชุมปรึกษาหารือและเตรียมการกันอย่างเคร่งเครียด และก็เป็นตอนนี้เองที่พวกเขาได้พบกับฉินอวี้โม่และสหายทั้งสอง
หลังจากได้ฟังคำบอกเล่าของเสี้ยวฮัง ฉินอวี้โม่ก็พยักหน้าอย่างนุ่มนวล
กลุ่มทหารรับจ้างหมาป่าปีศาจเป็นกลุ่มทหารรับจ้างที่โสมมอย่างแท้จริง ก่อนหน้านี้ที่สมาคมทหารรับจ้างในเมืองเยว่กวาง ฉินอวี้โม่ก็เพิ่งจะมีเรื่องกับคนพวกนี้มา ดังนั้นแล้วหากภารกิจของพวกเขาในครั้งนี้ล้มเหลว…อดีตสาวนักฆ่าผู้ถูกหาเรื่องก็จะมีความสุขเป็นอย่างมาก
“ข้าเองก็มีความแค้นบางอย่างกับกลุ่มทหารรับจ้างหมาป่าปีศาจ ทำไมพวกเราไม่มาร่วมมือกันทำลายภารกิจของพวกเขาเลยล่ะ?”
ฉินอวี้โม่เอ่ยกับเสี้ยวฮังด้วยรอยยิ้มมาดหมาย
“หากเป็นเช่นนั้นได้ก็จะวิเศษไปเลย”
เสี้ยวฮังพยักหน้าและกล่าวต่อ “เอ่อ พวกข้าจะเรียกพวกท่านทั้งสามอย่างไรดี?”
“ข้าชื่อฉินอวี้โม่ คนนี้เสี่ยวโร่ว ส่วนคนผู้นั้นคือลั่วอวิ๋น พวกท่านไม่ต้องเกรงใจถึงเพียงนั้นหรอก ระดับพลังของพวกเราก็ไม่ได้สูงส่งไปกว่าพวกท่านมากนัก”
ฉินอวี้โม่ยิ้มพลางแนะนำตัว
“แม่นางช่างถ่อมตัวยิ่งนัก ที่ท่านกล่าวนั้นเพียงระดับพลังภายนอก ข้ารู้ดี แท้จริงแล้วพวกท่านทั้งสามแข็งแกร่งกว่ากองทหารของพวกเรามาก”
เสี้ยวฮังพูดจากใจจริง เขามองเห็นเสี่ยวเฮยที่เกาะอยู่บนไหล่ของฉินอวี้โม่อย่างชัดเจน
“แม่นางฉินอวี้โม่ พวกเขาไม่แน่ใจว่าพวกมันมีคนอยู่เท่าไหร่ กองทหารของเราเป็นผู้พบผลหลิวหลีก่อน ทว่าพวกมันกลับลอบโจมตีเรา คิดจะปล้นผลไม้วิเศษไปหน้าด้านๆ ตอนนี้พวกเราไม่สนใจจะครอบครองผลหลิวหลีอีกแล้ว ขอเพียงแม่นางสามารถทำลายภารกิจของพวกมันได้ ผลไม้วิเศษนั้นจะเป็นของแม่นางทันที!”
เวลานี้เสี้ยวฮังและเหล่าทหารรับจ้างแห่งกองทหารชื่อเหยียนหน่วยสามดูสงบเยือกเย็นกันมากขึ้นแล้ว อันที่จริงเวลาพวกเขาไม่ได้อยากได้ผลหลิวหลีอีกต่อไป แต่ด้วยเลือดแห่งชายชาตินักรบในกายที่กำลังเดือดพล่านเพราะไม่ยินยอมให้ผู้ใดมาหยามเกียรติ ทำให้พวกเขาไม่อาจทนดูกลุ่มทหารต่ำช้าที่ใช้กำลังขับไล่พวกเขาอย่างป่าเถื่อนได้ผลไม้วิเศษไปครอบครอง ขอเพียงทำให้คนเหล่านั้นไม่ได้ผลหลิวหลีไปและทำให้ภารกิจของพวกมันต้องล้มเหลวได้ คนของกองทหารรับจ้างชื่อเหยียนก็พอใจมากแล้ว
“ขอบคุณพวกท่านมาก แต่ข้าคงรับน้ำใจทั้งหมดของพวกท่านไม่ได้”
ฉินอวี้โม่ค้อมศีรษะแสดงความขอบคุณ นางเองก็ต้องการผลหลิวหลีเช่นกัน เมื่อได้เห็นทัศนคิตของกองทหารรับจ้างชื่อเหยียนก็ทำให้นางสบายใจและเตรียมจะทุ่มเทพลังทั้งหมดชิงมันมาให้ได้ ทว่าหากจะให้นางรับของล้ำค่าเช่นนั้นไว้ฝ่ายเดียวทั้งๆ ที่อีกฝ่ายก็ยากลำบากต่อสู้มาด้วยกัน ฉินอวี้โม่ก็รู้สึกละอายใจเกินไป
“มิได้แม่นาง ผลหลิวหลีจะมีประโยชน์ต่อตัวแม่นางและสหายมาก”
เสี้ยวฮังยิ้มและกล่าวเน้นย้ำว่าพวกเขาไม่ต้องการ
“เช่นนั้นตอนนี้พวกเราก็รอคอยกันอย่างเงียบๆ ก่อน รอให้ผลหลิวหลีสุกเต็มที่ พวกเราจะร่วมกันลงมือ”
“เช่นนั้นตอนนี้พวกเราก็รอคอยกันอย่างเงียบๆ ก่อน รอให้ผลหลิวหลีสุกเต็มที่ พวกเราจะร่วมกันลงมือ”
เมื่อได้มองดูกลุ่มทหารรับจ้างหมาป่าปีศาจที่อยู่ไกลออกไปแล้ว ฉินอวี้โม่ก็มั่นใจว่าผลหลิวหลีนั้นยังไม่สุก นางเห็นพวกเขายังคงนั่งรออยู่หน้าถ้ำ อดีตคุณหนูสี่จึงหาที่ว่างๆ และนั่งรอ
ลั่วอวิ๋นและเสี่ยวโร่วเองก็นั่งลงข้างๆ ฉินอวี้โม่เงียบๆ เช่นกัน
แม้ว่าคนของกองทหารรับจ้างชื่อเหยียนจะร้อนใจกันเป็นอย่างมาก แต่ยามนี้พวกเขาก็ไม่อาจทำสิ่งใดได้นอกจากต้องเชื่อใจสตรีผู้งดงามตรงหน้าและสหายของนาง พวกเขาพากันนั่งลงบ้างเพื่อรอคอยให้นางเริ่มลงมือ
“หัวหน้าเสี้ยวฮัง พวกท่านมาที่นี่เพื่อเข้าร่วมอสูรล้อมเมืองที่จะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่วันนี้อย่างนั้นหรือ?”
ฉินอวี้โม่หันไปถามเสี้ยวฮังด้วยความสงสัย หากเป็นเช่นนั้นจริงก็หมายความว่านางอาจจะได้พบชื่อเซียวอีกครั้ง
“ไม่ใช่หรอกแม่นาง ที่จริงแล้วครั้งนี้เรามาเพื่อทำภารกิจ เมืองเยว่กวางแห่งนี้เป็นแค่ทางผ่าน แต่พอมาถึงพวกเราก็ได้ยินว่าอีกไม่กี่วันจะมีเทศกาลอสูรล้อมเมือง นายน้อยของพวกเราบอกว่าการเข้าร่วมอสูรล้อมเมืองถือเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม อีกทั้งนายน้อยเห็นว่าการเดินทางด้วยคนจำนวนมากจะทำให้ชักช้า เขาจึงบอกให้พวกเราอยู่ที่นี่รอฟังข่าวแล้วค่อยออกเดินทางถ้าหากหน่วยหน้าต้องการกำลังเสริม และเขาก็อนุญาตให้พวกเราเข้าร่วมอสูรล้อมเมืองได้เลยในกรณีที่ภารกิจล่าช้ากว่ากำหนดหรือพวกเขากลับมาสมทบไม่ทัน”
เสี้ยวฮังอธิบายให้ฉินอวี้โม่ฟังด้วยรอยยิ้ม
เมื่อได้ยินคำอธิบายของเสี้ยวฮัง ฉินอวี้โม่ก็พอจะเดาได้เลยว่าภารกิจที่พวกเขาพูดถึงกันก็คือภารกิจที่ชื่อเซียวและกองทหารรับจ้างชื่อเหยียนหน่วยที่หนึ่งไปทำที่ป่าสายหมอกในเมืองหลิงซี
“แล้วตอนนี้นายน้อยของพวกท่านอยู่ที่ใดกัน?”
ฉินอวี้โม่ถามด้วยความสงสัย ตัวนางและเสี่ยวโร่วก็เดินทางมุ่งหน้าจากเมืองหลิงซีมายังเมืองเยว่กวางเช่นกัน ซึ่งในระหว่างนั้นพวกนางยังได้แวะพักล่าอสูรมายากันอีกถึงสามวัน หากชื่อเซียวและหน่วยทหารรับจ้างของเขาออกเดินทางจากหลิงซีมาที่นี่แล้วจริงๆ พวกเขาก็ควรจะมาถึงเร็วกว่าพวกนางจึงจะถูกต้อง
“นายน้อยน่าจะมาถึงในอีกวันถึงสองวัน”
เสี้ยวฮังกล่าว และเขาเองก็ไม่ทราบเช่นกันว่าตอนนี้ชื่อเซียวอยู่ที่ใด
“นายน้อยเป็นคนบอกให้พวกเรารออยู่ที่นี่ หากไม่มีการติดต่อขอกำลังเสริมจากหน่วยหน้านั่นแสดงว่าภารกิจที่เมืองหลิงซีเสร็จสิ้นอย่างราบรื่น และพวกเขาก็จะรีบกลับมาสมทบ ข้าคิดว่าตอนนี้คงอยู่ระหว่างทางกลับ”
เสี้ยวฮังกล่าวเพิ่มอีกหนึ่งประโยค นี่เป็นทั้งหมดที่เขารู้
ฉินอวี้โม่พยักหน้าและไม่ถามอีก เหมือนว่าหลังจากเสร็จภารกิจที่เมืองหลิงซี พวกเขาอาจจะแวะทำธุระอย่างอื่นก่อนที่จะเดินทางมาที่นี่
“ดูนั่น ข้าว่าผลหลิวหลีเกือบจะสุกแล้ว!”
สมาชิกของกองทหารรับจ้างชื่อเหยียนผู้หนึ่งสังเกตเห็นความเคลื่อนไหวของกลุ่มทหารรับจ้างหมาป่าที่เปลี่ยนไป เขาคาดเดาว่าผลหลิวหลีน่าจะใกล้สุกแล้วจึงส่งเสียงร้องเตือนขึ้น
ฉินอวี้โม่ เสี่ยวโร่ว และลั่วอวิ๋นลุกขึ้นยืนและมองออกไปในทิศทางนั้นทันที
พวกนางเห็นว่าตอนนี้กลุ่มทหารรับจ้างหมาป่าปีศาจที่จากเดิมนั่งรอกันอยู่ลุกขึ้นมายืมและเดินไปรวมตัวกันด้านล่างของปากถ้ำที่มีผลหลิวหลีแล้ว
คนผู้หนึ่งในกลุ่มหมาป่าปีศาจเรียกอสูรมายาของเขาออกมา อสูรมายาของคนผู้นั้นมีรูปลักษณ์เป็นกริฟฟินขนาดใหญ่
“หัวหน้า ข้าจะเป็นคนไปเอาผลหลิวหลีนั่นมาเอง”
เมื่อกล่าวจบ ชายผู้ครอบครองกริฟฟินก็กระโดดขึ้นขี่หลังอสูรมายาของตัวเอง เขาบินตรงไปยังถ้ำไหล่เขาซึ่งเป็นจุดที่มีผลหลิวหลีอยู่
“พวกเขากำลังจะเก็บผลหลิวหลีกันแล้ว แม่นาง พวกเราควรทำอย่างไรดี?”
เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวของชายผู้นั้น เสี้ยวฮังก็หันไปมองฉินอวี้โม่พลางกล่าวอย่างร้อนใจ
“ไม่ต้องห่วง การจะเก็บผลหลิวหลีมันคงไม่ง่ายขนาดนั้น”
ฉินอวี้โม่ยิ้มบางๆ นางดูเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างสงบ โดยไม่มีท่าทีเร่งร้อนให้เห็น
ซึ่งที่เป็นเช่นนั้นเนื่องจากเสี่ยวเฮยตัวน้อยที่เกาะอยู่บนไหล่บางกระซิบบอกนางเบาๆ ว่ามันสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของอสูรมายาที่ทรงพลังอย่างไม่ได้ด้อยไปกว่ามันเลยจากภายในถ้ำไหล่เขาแห่งนั้น
ชายผู้ขี่กริฟฟินบินตรงไปยังเพดานถ้ำที่มีเถาของผลหลิวหลีขึ้นอยู่อย่างรวดเร็ว และเมื่อเห็นเถาหลิวหลีอยู่ตรงหน้าเขาก็ตะโกนเสียงดังอย่างตื่นเต้นยินดี “หัวหน้า ครั้งนี้พวกเราโชคดีจริงๆ มีผลหลิวหลีตั้งสี่ผล!”
กล่าวจบ เขาก็รีบยื่นมือออกไปหมายจะเด็ดคว้าผลหลิวหลีมาให้เร็วที่สุด
ทว่าก่อนที่มือของเขาจะได้สัมผัสกับผลหลิวหลี ใบหน้าของชายผู้นั้นก็ปรากฏแววตื่นตระหนกขึ้น!
ชั่วเวลาไม่ถึงหนึ่งลมหายใจต่อจากนั้น ทุกคนก็ได้ยินเสียงร้องที่ดูทุกข์ทรมานของเขาก่อนที่ชายผู้นั้นจะล่วงลงมาจากกลางอากาศ
— ปัง! —
ชายผู้นั้นพร้อมด้วยกริฟฟินคู่ใจตกลงมากระแทกพื้นอย่างแรง และหากไม่ใช่เพราะมีกริฟฟินเป็นเบาะรองรับ เขาก็คงจะบาดเจ็บถึงพิการได้เลย
“เจ้าสาม เกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น?!”
เมื่อเห็นลูกน้องของตนตกลงมาอย่างกะทันหัน อีกทั้งอสูรมายาคู่ใจก็มีสภาพปางตาย หลี่เปียวจึงตะโกนถามออกไป
“หัวหน้า วิ่งเร็ว!”
ชายที่ถูกเรียกว่าเจ้าสามเค้นแรงเฮือกสุดท้ายตะโกนออกมาก่อนจะหมดสติไป
กริฟฟินตัวใหญ่ อสูรมายาของเขาขาดใจตายไปแล้ว ส่วนเขาที่เป็นเจ้าของเองก็อาการสาหัสเช่นกัน
เมื่อหลี่เปียวได้ยินเช่นนั้น เขาก็เกิดความลังเล หัวหน้าทหารอันธพาลยังไม่กล้าเคลื่อนไหว แล้วก็เป็นตอนนั้นเองที่เขาได้ยินเสียงที่น่าขนลุกดังขึ้นมาจากบนฟ้าเหนือศีรษะของตน
“เจ้าพวกมนุษย์โสโครกน่ารังเกียจ กล้าดียังไงมาขโมยผลหลิวหลีของข้า!”
มันคืออสูรมายาที่มีรูปร่างคล้ายเหยี่ยว ทว่ากลับมีขนาดใหญ่และทรงพลังกว่าเหยี่ยวธรรมดามาก อีกทั้งขนของมันก็ยังเป็นสีทองอร่ามทั่วทั้งตัว ดูสง่างามเป็นอย่างมาก
“เจ้านี่คือเหยี่ยวปีกทอง อสูรเทวะสามดารา มันแข็งแกร่งกว่าข้าอีกนายหญิง”
เสียงของเสี่ยวเฮยดังขึ้นข้างหูของฉินอวี้โม่ มันบอกนางเกี่ยวกับชนิดของอสูรมายาตัวนี้
ฉินอวี้โม่พยักหน้า อสูรมายาตัวนี้แข็งแกร่งกว่าเสี่ยวเฮยเสียด้วยซ้ำ เห็นทีว่าคราวนี้กลุ่มทหารรับจ้างหมาป่าปีศาจจะโชคร้ายเสียแล้ว
เมื่อหลี่เปียวเห็นเหยี่ยวปีกทองปรากฏต่อหน้าและยังเปล่งวาจาด้วยน้ำเสียงอันน่าเกรงขามออกมาข่มขู่ หัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างอันธพาลก็หวาดกลัวจนขนหัวลุก
“หนี! เร็วเข้า หนี! มันคืออสูรเทวะ!”
เขาตะโกนออกมาอย่างแตกตื่น ผู้นำแสนป่าเถื่อนแห่งกลุ่มทหารรับจ้างอันธพาลหันหลังวิ่งหนีเป็นคนแรก
“เจ้าพวกมนุษย์โสโคก กล้ามาขโมยผลหลิวหลีของข้า พวกเจ้าต้องชดใช้!”
เหยี่ยวปีกทองตะโกนก้องอย่างโกรธแค้น ปีกคู่ขนาดใหญ่ของมันโบกสะบัดไปด้านหน้าอย่างต่อเนื่องและก่อให้เกิดกระแสลมแรงที่พัดเอาสมาชิกกลุ่มทหารรับจ้างหมาป่าปีศาจที่กำลังออกวิ่งล้มกลิ้งระเนระนาดไม่สามารถหนีไปได้
“เพ่ย ปากดีนักนะไอ้นกยักษ์ พวกข้าจะเด็ดปีกเจ้าเอง ข้าไม่เชื่อหรอกว่าพวกเราที่มีตั้งหลายคนจะจัดการเจ้าไม่ได้!”
เมื่อเห็นว่าพวกตนไม่มีทางหนีไปไหนได้อีก หลี่เปียวก็ชักอาวุธรวมถึงเรียกอสูรมายาของตัวเองออกมา คนของเขาเองก็พากันเรียกอสูรมายาคู่กายออกมาด้วยเช่นกัน
มุมปากของฉินอวี้โม่กระตุกเป็นรอยยิ้มแสนเย็นชาขึ้นทันทีเมื่อเห็นหลี่เปียวและลูกน้องกำลังถูกเหยี่ยวปีกทองเล่นงาน…อดีตสาวนักฆ่ารู้ว่า ในตอนนี้โอกาสได้มาถึงแล้ว
“ทุกท่านโปรดฟัง ขอให้รออยู่ที่นี่ก่อน ข้าจะเข้าไปเอาผลหลิวหลีมา”
ฉินอวี้โม่หันไปประกาศกับเหล่าทหารแห่งกองทหารรับจ้างชื่อเหยียน พร้อมกันนั้นเสี่ยวเฮยตัวน้อยก็คืนร่างกลับมาสู่รูปลักษณ์แท้จริง
ยูนิคอร์นสีนิลอันสง่างามที่ปรากฏขึ้นข้างกายสตรีผู้อาสาบุกไปชิงผลไม้วิเศษ ทำให้สมาชิกกองทหารรับจ้างชื่อเหยียนหลายคนผงะไป
“เสี่ยวเฮย พาข้าเข้าไปเอาผลหลิวหลี”
ฉินอวี้โม่กระโดดขึ้นไปบนหลังของอาชาสีดำก่อนจะชี้ออกไปที่ผลหลิวหลี
เสี่ยวเฮยพยักหน้ารับแล้วสยายปีกบินตรงไปยังจุดนั้นทันที
.
.