คู่ชะตาบันดาลรัก - บทที่ 101 ตัดสินใจเด็ดขาด
บทที่ 101 ตัดสินใจเด็ดขาด
Ink Stone_Romance
“พี่สี่ๆ!” หมิงเฉิงที่ตกใจได้สติขึ้นเพราะเสียงของน้องสาวตน
หมิงเซียงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นพลางร้องไห้สะอึกสะอื้น นางขอความช่วยเหลือจากพี่ชายที่ใกล้ชิดกันมาตลอด
“พี่สี่ น้องได้ยินชัดเจนว่าคนผู้นั้นต้องการฆ่าคุณชายหยางกับพี่เจ็ด พวกเขาจงใจผลักให้หินตกลงไปแล้ววางเพลิงด้วย ตอนนี้ทำอย่างไรดี จริงสิ! พวกเราไปบอกจวิ้นอ๋อง…”
“ไม่ได้!” หมิงเฉิงโพล่งออกไป
หมิงเซียงไม่เข้าใจ “ทำไมกันล่ะเจ้าคะ”
หมิงเฉิงไม่สามารถบอกนางได้เพราะเขาเองก็ยังสงสัยฉีตงจวิ้นอ๋องอยู่
เขาศึกษาเล่าเรียนที่กั๋วจื่อเจียน เพื่อนร่วมชั้นมักจะพูดถึงเรื่องนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้ เขาจึงคุ้นเคยกับเรื่องการเมืองดี
เจี่ยงเหวินเฟิงได้รับคำสั่งให้มาตรวจสอบแต่ละเมืองซึ่งนั้นไม่แปลกอันใด แต่คุณชายหยางที่มีตำแหน่งในหวงเฉิงซือร่วมเดินทางมาด้วย คงเพราะต้องการตรวจสอบประวัติของฉีตงจวิ้นอ๋อง
ในสถานการณ์เช่นนี้เห็นได้ชัดว่ามีคนต้องการฆ่าคุณชายหยาง แล้วทั้งตงหนิงนี้ผู้ใดจะน่าสงสัยที่สุดกัน
แน่นอนว่าต้องเป็นฉีตงจวิ้นอ๋อง
นอกจากนี้เขาเพิ่งเห็นฉีตงจวิ้นอ๋องคุยกับเสนาธิการของเขาแล้วส่งองครักษ์สองคนแอบขึ้นไปบนเขา หากไม่ใช่เพราะเขารีบพูดโพล่งออกไปก่อนไม่รู้ว่าองครักษ์ทั้งสองจะลงมือกับหมิงเซียงหรือไม่
ตอนนี้หมิงเฉิงไม่ไว้ใจฉีตงจวิ้นอ๋องแล้วจะไปขอความช่วยเหลือจากเขาได้อย่างไร
“อาเซียง!” หมิงเฉิงจ้องน้องสาวแล้วพูดว่า “น้องบอกว่าน้องเห็นคนที่หน้าเหมือนท่านพ่ออย่างกับแกะใช่หรือไม่”
หมิงเซียงพยักหน้า “เสื้อผ้าที่เขาสวมเป็นชุดที่ท่านพ่อสวมใส่วันนี้ น้องเคยคิดว่าเขาคือท่านพ่อ ผู้ใดจะรู้ว่าคนพวกนั้นเรียกเขาว่านายท่านสาม แล้วความรู้สึกที่มีต่อคนผู้นั้นต่างกับท่านพ่อโดยสิ้นเชิงเจ้าค่ะ”
นางลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “พี่สี่เขาคือท่านพ่อในวันนี้ พี่สี่…ท่านพ่อไม่ได้ถูกเปลี่ยนตัวหรอกใช่หรือไม่เจ้าคะ ได้ยินว่ามีวิชาหนึ่งที่สามารถปลอมตัวเป็นผู้อื่นได้…”
“ไม่จำเป็นต้องใช้วิชาหรอก” หมิงเฉิงกระซิบ “บนโลกนี้เดิมทีมีอีกคนหนึ่งที่เหมือนท่านพ่อราวกับแกะ”
หมิงเซียงตกตะลึง
“น้องรู้หรือไม่ว่าท่านพ่อมีฝาแฝด” พอหมิงเซียงได้ยินที่เขาพูด ดวงตาของนางเบิกกว้าง “ท่าน…ท่านลุงสาม”
“ใช่” หมิงเซียงไม่เคยเจอท่านลุงสามมาก่อน สิบปีก่อนนางเพิ่งจะสามขวบ ถึงเคยเข้าเมืองหลวง แต่ผู้ใดจะจำได้กัน
แต่หมิงเฉิงจำได้ ตอนที่เขายังเด็กผู้คนมักจะยกย่องเขาว่าเหมือนท่านลุงมากกว่าท่านพ่อของเขาเสียอีก
เขาพอจำได้ว่าท่านลุงกับท่านพ่อหน้าตาเหมือนกันมาก นิสัยก็ดีมากเช่นกัน ทั้งอ่อนโยนและยิ้มแย้ม
หมิงเฉิงในวัยเด็กมีความคิดที่ไม่สามารถบรรยายได้
ท่านลุงกับท่านพ่อเป็นฝาแฝดกัน พูดถึงท่านลุงผู้คนต่างยกย่องเขาบอกว่าเขามีความสามารถ อ่อนน้อมถ่อมตน เป็นสุภาพบุรุษ แล้วยังเหมือนกับบรรพบุรุษของเขาอีก
แต่ท่านพ่อเป็นคนอารมณ์ร้ายทำหน้างออยู่ตลอด หมิงเฉิงเคยแอบคิดว่า หากตนเองเป็นลูกของท่านลุงก็คงจะดี แต่เมื่อเติบใหญ่ ความคิดนี้ก็หายไปโดยธรรมชาติ
ถึงท่านพ่อจะอารมณ์ร้าย แต่อย่างไรเขาก็เป็นท่านพ่อ พวกเขาไม่สามารถพูดได้ว่าไม่ดี เพียงแค่วิธีที่ดีนั้นแตกต่างกัน
แต่การตายของท่านลุงสามเป็นเรื่องที่น่าเสียใจสำหรับตระกูลของเขา เขาเคยได้ยินคนพูดมากกว่าหนึ่งครั้งว่าถ้าท่านลุงสามยังอยู่ตระกูลหมิงคงไม่เป็นเช่นนี้แน่
หมิงเฉิงไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นจริงเข้าสักวันหนึ่ง
เขาคิดอย่างละเอียด เหตุการณ์ในวันนี้ที่เขาร่วมเดินทางมากับท่านพ่อ
คิดอย่างไรก็เหมือนไม่มีอะไรผิดปกติ หากการคาดเดานี้เป็นจริง ถ้าอย่างนั้น ท่านลุงสามกับท่านพ่อเปลี่ยนตัวกันมานานเพียงใดแล้ว
หรือว่าท่านพ่อที่เขาเห็นอยู่ทุกวันนี้คือท่านลุงสาม
ไม่ๆๆ เขายังจำวันที่ท่านแม่กับท่านพ่อทะเลาะกันได้อยู่ นั่นไม่ใช่ท่านลุงสามแน่ๆ
หรือท่านลุงสามจะใช้ฐานะของท่านพ่อปรากฏตัวเป็นครั้งคราว พวกเขาคิดจะทำอันใดกันแน่ หากท่านลุงสามยังไม่ตายท่านพ่อจะต้องทราบเรื่องนี้ด้วยแน่ แล้วท่านลุงสองล่ะ ท่านลุงใหญ่และท่านอาห้าที่อยู่ในเมืองหลวงล่ะ
หมิงเฉิงยกมือกุมศีรษะเขารู้สึกเหมือนโลกพังทลาย
ช่วยฉีตงจวิ้นอ๋องฆ่าคุณชายหยาง…พวกท่านลุงคิดจะทำอะไรกันแน่!
“พี่สี่…”
น้ำเสียงหวาดกลัวของหมิงเซียงทำให้สติของเขากลับมา
หมิงเฉิงเมื่อเห็นว่านางกลัวมากเพียงใดจึงบังคับตัวเองให้ร่าเริงขึ้นเพื่อปลอบโยนนาง “ไม่มีอันใด ให้พี่สี่ครุ่นคิดเรื่องนี้อีกสักพักเถอะ”
“อืม…” หมิงเซียงคิดแล้วพูดว่า “พี่สี่ น้องคิดว่าพี่เจ็ดกับคุณชายหยางไม่ได้เป็นอย่างที่พวกเขาพูดกัน”
“อย่างใดหรือ”
“พวกเขาพูดว่าพี่เจ็ดกับคุณชายหยางมีความสัมพันธ์ลับ…” หมิงเซียงชะงัก
“น้องคิดว่าพี่เจ็ดไม่ใช่คนเช่นนั้น”
หมิงเฉิงสะดุ้ง หมิงเซียงได้เตือนสติเขาอีกอย่าง
“หากไม่ใช่มีความสัมพันธ์ลับกัน เสี่ยวชีกับคุณชายหยางอยู่ด้วยกันงั้นก็หมายความว่า…”
หมิงเฉิงหลับตาลงเขารู้สึกจิตใจไม่สงบ ท่านป้าสามตายแล้ว..
เสี่ยวชีกับท่านลุงสองอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน ท่านลุงสามยังไม่ตายมีโอกาสสูงที่เขาจะทำงานให้ฉีตงจวิ้นอ๋อง
ตระกูลหมิงกับจวนจวิ้นอ๋องดูเหมือนจะมีความสัมพันธ์บางอย่างต่อกัน
คุณชายหยางมาตงหนิงมีความเป็นไปได้สูงว่ามาตรวจสอบฉีตงจวิ้นอ๋อง…
“พี่สี่ แต่น้องว่าเป็นไปไม่ได้ หากเป็นท่านลุงสามจริงๆ เหตุใดต้องลงมือกับพี่เจ็ดด้วย พี่เจ็ดเป็นบุตรสาวแท้ๆ ของเขาไม่ใช่หรือเจ้าคะ!”
คำพูดของหมิงเซียงทำลายหมอกหนาในใจของเขาเป็นครั้งสุดท้าย
ใช่ แม้แต่ชีวิตของบุตรสาวแท้ๆ ของตนยังไม่สนใจ นอกจากเรื่องนี้แล้วยังจะมีเหตุผลอันใดอีก
หมิงเฉิงลืมตาขึ้น ใจของเขาราวกับกระจกไปชั่วขณะ
ตระกูลหมิงกำลังมุ่งหน้าไปสู่ทางตัน เสี่ยวชียืนอยู่ฝั่งตรงข้ามของตระกูลหมิง
พวกเขาไม่ได้พบกันเป็นการส่วนตัวเพราะความสัมพันธ์ลับนั่น มีเหตุผลลับที่เดินทางมายังวัดเป่าหลิง เพราะฉะนั้นท่านลุงสามจึงต้องฆ่าคุณชายหยางแล้วต้องฆ่านางด้วย
“อาเซียง…”
หมิงเซียงเงยหน้าขึ้นพบว่าดวงตาของพี่ชายแดงก่ำ และร่างของเขาสั่นเล็กน้อย
“พี่สี่มีเรื่องที่ต้องไปทำ”
“อา…” หมิงเซียงใจหายวาบ
หมิงเฉิงเช็ดหน้าอย่างแรง “พี่ไม่รู้ว่าถ้าทำเรื่องนี้ไปจะเป็นการดีหรือไม่ดีกับตระกูลหมิง แต่พี่ไม่สามารถเฝ้าดูตระกูลของเราตกลงไปในเหวเช่นนี้ได้ พี่ไม่สามารถเพิกเฉยได้”
“พี่สี่…”
“พี่เองก็ไม่รู้ว่ามันถูกหรือไม่ เพียงแค่เชื่อฟังเสียงในใจ”
หมิงเซียงมองพี่ชาย ท่าทางของเขาดูเจ็บปวดอย่างมาก แต่สิ่งที่เขาพูดนั้นหนักแน่น
“น้องกลับไปปกป้องท่านแม่แล้วทำเหมือนว่าไม่มีอันใดเกิดขึ้นนะ”
“พี่สี่!” หมิงเซียงรู้สึกกลัวมาก พี่ชายในตอนนี้ดูแปลกเกินไป ราวกับว่าเขากำลังจะเดินไปแท่นประหารด้วยความมุ่งมั่นอย่างไรอย่างนั้น
“เด็กดี ฝากที่เหลือด้วยนะ” หมิงเฉิงพูดอย่างอ่อนโยน
……….
ภายในห้องโถงนั้นเงียบจนน่ากลัว
เจ้าหน้าที่และชนชั้นสูงทั้งหลายนั้นต่างดื่มชาอย่างเหม่อลอย จิตใจไม่อยู่กับตัว สาวใช้ที่จวิ้นหวังเฟยส่งไปรายงานไม่จำเป็นต้องหลบเลี่ยงผู้อื่น เพราะเรื่องคุณชายหยางถูกขังอยู่ในยอดเขาชุ่ยมู่ ทุกคนรู้กันหมดแล้ว
เขากับคุณหนูเจ็ดแห่งตระกูลหมิงอยู่ด้วยกันเป็นการนัดพบกันงั้นหรือ
เลือกที่ใดไม่เลือก กลับเลือกที่จะไปที่หุบเขาที่ยอดเขาชุ่ยมู่!
หินถล่ม ตามด้วยไฟไหม้ แค่ฟังดูก็รู้แล้วว่าไม่ถูกต้อง
นี่เป็นการฆ่าโดยเจตนา!
แต่ไม่รู้ว่าเป็นฝีมือของผู้ใดกัน ฉีตงจวิ้นอ๋องงั้นหรือ…เรื่องนี้แพร่กระจายออกไปแล้ว แน่นอนว่าเจี่ยงเหวินเฟิงไม่ปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปแน่
เมื่อต้องเผชิญกับสายตาที่มองมาเป็นครั้งคราว เจี่ยงเหวินเฟิงกลับสงบนิ่งมาก
ทำให้ผู้คนต่างสงสัยว่าเจี่ยงเหวินเฟิงผู้นี้กำลังคิดอันอยู่กันแน่
เขาจะอาศัยโอกาสนี้ประท้วงหรือว่า…แสร้งทำเป็นว่ามันไม่เกิดขึ้น
อย่างไรเขาและคุณชายหยางดูเหมือนจะไม่ลงรอยกัน แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องจัดการยากที่อยู่นอกเหนือส่วนที่ตนรับผิดชอบ
แต่…ไม่แน่ว่าสุดท้ายแล้วก็ต้องสืบสาวราวเรื่องอยู่ดี
………………………………..