งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 103
บทที่103 ตหายไปอย่างเงียบๆ
เมื่อได้ยินซูซีมู่พูดว่าให้ตรวจทั้งร่างกายไปเลย โล่เฟยเอ๋อก็ต่อต้านขึ้นมาทันที “ฉันแค่เท้าแพลง ไม่ต้องตรวจทั้งตัวก็ได้”
ซูซีมู่ตอบแบบไม่ขยับคิ้วไปว่า” ก่อนหน้านี้เธอได้รับสารพิษอีเทอร์เข้าไป วันนี้เลยตรวจอีกครั้งให้ละเอียด”
โล่โฟยเอ๋อยังมีอะไรอยากพูดต่อ แต่ซูซีมู่ได้บอกให้หมอเฉิงเริ่มตรวจเลย เธอไม่มีทางเลือก จึงได้ให้หมอเฉิงตรวจทั้งร่างกายตามสบายไปเลย
เพราะมีประสบการณ์ครั้งก่อน หมอเฉิงไม่รอให้ซูซีมู่เตือนอะไร ก็เริ่มตรวจแบบละเอียดให้โล่เฟยเอ๋อเลย
ซูซีมู่มองยืนดูข้างๆตลอด ประมาณสิบนาทีผ่านไป หมอเฉิงก็ได้เสียบอุปกรณ์ทางแพทย์ให้โล่เฟยเอ๋อ พร้อมกับพูดไปด้วย”ประธานซูครับ คุณโล่นอกจากข้อเท้าแพลงแล้ว อย่างอื่นก็ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนเรื่องที่ข้อเท้าแพลงนั้น ใช้ยาเหล้าสมุนไพรนวดๆ ประมาณสองวัน ก็น่าจะหายแล้วครับ”
ซูซีมู่พยักหน้ารับรู้ แล้วให้หมอเฉิงนวดแผนจีนให้ข้อเท้าโล่เฟยเอ๋อหายจากอาการบวมแดง
เมื่อหมอเฉิงได้รับคำสั่งจากซูซีมู่แล้วก็รีบเอายาเหล้าสมุนไพรออกมาจากกระเป๋ายาเท่ลงที่ฝ่ามือขวา จากนั้นก็เอามือซ้ายประคองข้อเท้าโล่เฟยเอ๋อไว้ แล้วใช้มือขวานวดแรงๆลงไปที่ข้อเท้าบวม
จากนั้นก็ได้ยินเสียงร้องตะโกนดังขึ้นมาก” โอ๊ยยยย เจ็บ”
โล่เฟยเอ๋อปิดตาที่กำลังจะร้องไห้ลง แต่น้ำตาก็ไหลออกมาจากขนตาจนเต็มไปหมด ช่างดูน่าสงสารยิ่งนัก ช่างทำให้คนไม่เป็นห่วงเลย ใช่แล้ว คงมีแค่บ้านซูคนใดคนหนึ่งที่ไม่เป็นห่วงอะไรเลย
“คุณทำอะไร ทำไมเธอถึงเจ็บจนเป็นแบบนี้ ” ซูซีมู่ขมวดคิ้ว แล้วมองอย่างเยือกเย็นมาทางหมอเฉิง
ซูซีมู่จ้องมองแบบสั้นๆ เพราะไม่ได้หยุดมองหน้าหมอเฉิงมากนักก็หันออกไปเลย แต่หมอเฉิงรับรู้ถึงเสียงร้องไห้ในขณะที่ซูซีมู่จ้องมาแค่แป๊บเดียว ทำให้เขารู้สึกเสียววูบหลังอย่างมาก เขาเลยรีบพูดว่า”ประธานซู ที่ใช้แรงมากแบบนี้เพราะต้องการกำจัดความบวม ไม่งั้นก็จะบวมไปนานเลยครับ”
ซูซีมู่มองดูโล่เฟยเอ๋อที่น่าสงสารเป็นอย่างมาก แล้วเม้มปากอย่างแน่น จากนั้นก็เอ่ยอย่างเย็นชาว่า”หลบไป ผมทำเอง”
เมื่อได้ยินที่ซูซีมู่พูด หมอเฉิงก็ดีใจขึ้นมาก
ล้อเล่นน่ะ คนแบบประธานซูช่างดูน่ากลัวไม่น่ารับใช้อะไรด้วย ใช้แรงมากไป คนร้องเจ็บ เขาก็ไม่รอด ถ้าไม่ใช้แรง แล้วรักษาไม่หายอีก เขาก็ยิ่งไม่รอดไปอีก
เพราะแบบนี้ทำให้หมอเฉิงรีบสอนซูซีมู่ใช้ยาเหล้าสมุนไพรนวดข้อเท้าโล่เฟยยังไง จากนั้นก็ไสหัวออกไปอย่างรวดเร็ว
ซูซีมู่เท่ยาเหล้าสมุนไพรลงบนฝ่ามือ พร้อมกับเอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า”เวลานวดอาจจะเจ็บ เธอต้องทนหน่อย จะได้ดีขึ้น”
“ได้……”โล่เฟยเอ๋อรับปากอย่างแผ่วเบา
มือซ้ายซูซีมู่จับข้อเท้าโล่เฟยเอ๋อไว้ มือขวาที่มียาเหล้าสมุนไพรอยู่นั้นได้มานวดข้อเท้าที่บวมแดง
“เจ็บ…โอ๊ย”โล่เฟยเอ๋อตะโกนร้องเสียงดัง และพร้อมกับจับมือซูซีมู่ไว้ เพื่อจะแกะมือเขาให้ออกไป
แต่มือของซูซีมู่มีแรงเป็นอย่างมาก เหมือนราวกับเกิดติดมากับข้อเท้าเธอเลย ไม่ว่าเธอจะดึงออก และหลบยังไง ก็หลบไม่พ้น
“ซูซีมู่ ฉันเจ็บโอ๊ยยยย”
“อย่าเพิ่งขยับ เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว”หน้าผากซูซีมู่มีเหงื่อซึมเล็กน้อย เขาก็ไม่อย่าทรมานโล่เฟยเอ๋อแบบนี้ แต่หมอเฉิงพูดแล้ว ว่าถ้ามาใช้แรงนวด ก็จะหายยาก
เสียดายที่โล่เฟยเอ๋อไม่ใช้ผู้หญิงเชื่อฟังอะไร เธอไม่เพียงร้องเจ็บโวยวาย ยังดิ้นไปดิ้นมาเพื่อจะหนีอีกต่างหาก
ซูซีมู่ไม่ทนอีกต่อไป จึงได้อุ้มตัวเธอมาไว้ที่ต้นขาตัวเอง แล้วใช้แรงขาทั้งคู่กดทับไม่ให้เธอดิ้นอีก เขาจะได้ทำได้อย่างง่ายดาย
“โอ๊ยเจ็บ ฉันไม่นวดแล้ว”โล่เฟยเอ๋อร้องไห้ออกมา และยังคงดิ้นหนีไปด้วย
โล่เฟยเอ๋อใกล้ชิดซูซีมู่เป็นอย่างมาก แต่เธอก็อย่างคงดิ้นตัวไปมา กลิ่นหอมอ่อนที่คุ้นเคยได้ลอยข้าจมูกเขาได้สร้างความวุ่นวายให้เป็นอย่างมาก เสียงอ่อนโยนที่ค่อยอ้อนได้รบกวนใบหูเขา ร่างที่นุ่มนิ่มนั้นเหมือนค่อยทรมานเขาอย่างเป็นที่สุด ทำให้เขาร้อนวูบไปทั้งตัว เขาจึงรีบปล่อยเธอ แล้วรีบลุกตัวขึ้น เดินออกจากห้องไป
โล่เฟยเอ๋อแปลกใจกับการเดินจากไปของซูซีมู่ แต่ว่า เธออยากให้ซูซีมู่ไปอยู่แล้วนี่ เพราะตอนซูซีมู่นวดนั้น เจ็บชะมัดเลย
หลังจากที่ซูซีมู่ออกจากห้องแล้ว ได้ยืนอยู่ทางเดินโดยใบหน้าอย่างคงร้อนวูบ
เขารู้สึกผู้หญิงเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ารำคาญมาตลอด จึงได้อยู่ห่างจากผู้หญิงมาโดยตลอดเช่นนี้
สำหรับผู้หญิงนั้น เขาไม่เคยมีความรู้สึกด้านนั้นอยู่แล้ว แต่เมื่อกี้ที่อยู่กับโล่เฟยเอ๋อนั้น……
ซูซีมู่สะบัดความคิดที่อยู่บนสมองออกอย่างแรง
พวกเขาเป็นเพื่อนกัน เขาคิดกับเธอแค่เพื่อน และเธอก็คิดกับเขาเป็นเพื่อนเช่นกัน……
ซูซีมู่ลงไปข้างล่าง แล้วไปห้องน้ำล้างมือที่มียาเหล้าสมุนไพรออกก่อน จากนั้นก็เอารองเท้าแตะคู่หนึ่งออกจากตู้ จากนั้นก็ทำท่าทีเย็นชาแล้วเดินเข้าไปห้อง
เมื่อเห็นซูซีมู่เดินเข้ามาในห้อง โล่เฟยเอ๋อก็หดตัวอยู่ที่พื้นย่างหวาดกลัว “ไม่ต้องนวดแผนจีนแล้วนะ”
“ไม่ต้องแล้ว” ซูซีมู่วางรองเท้าไว้ที่ข้างเตียงแล้ว จึงตอบช้าๆ
โล่เฟยเอ๋อรับรู้ถึงความเปลี่ยนไปของซูซีมู่ แต่ก็ไม่รู้ว่าเปลี่ยนไปตรงไหน
เธอจึงได้มองสังเกตในทั่วร่างของเขาให้รอบๆ จากนั้นจึงได้เอ่ยถามสงสัยว่า”เป็นอะไรไป”
ซูซีมู่ไม่ได้ตอบ แต่กลับไปถือรองเท้าที่เธอเคยถอดเอาไว้ก่อนหน้านั้น แล้วเดินจากห้องออกไป ทำเหมือนว่าถ้าอยู่นานไปจะกังวล จนรับไม่ได้อย่างไงอย่างงั้น
โล่เฟยเอ๋อยิ้มค้างไว้อยู่อย่างนั้น เมื่อผ่านมาครู่หนึ่ง ถึงได้สติกลับมา
กลิ่นยาเหล้าสมุนไพรได้ลอยฟุ้งอยู่ในอากาศ มีความแสบจมูกเล็กน้อย
คนที่รักสะอาดอย่างเขา จะรับได้ไง
ออกไปนะดีแล้ว โล่เฟยเอ๋อถอนหายใจเบาๆ
จากนั้นก็เอามือถือออกมาจากกระเป๋า แล้วเรียกรถบนโทรศัพท์
เมื่อเรียกรถเสร็จ เธอก็ลุกจากเตียง แล้วเปิดประตูหน้าต่าง ให้กลิ่นยาลอยออกไปจากห้อง
จากนั้นถึงได้เก็บข้าวของตัวเอง รวมไปถึงขวดยาเหล้าสมุนไพรด้วย
เมื่อเก็บของเสร็จ มือหนึ่งเธอได้ถือของเอาไว้ อีกมือก็จับกำแพงเอาไว้ แล้วลงไปชั้นล่าง
ซูซีมู่กำลังนั่งดูทีวีอยู่ที่โซฟาห้องรับแขก ก็เห็นโล่เฟยเอ๋อลงมาจากชั้นบน เขามองออกถึงความเปลี่ยนไป แต่ก็ไม่พูดอะไรออกมา
“เอ่อคือ ฉันไปก่อนนะ วันนี้ขอบคุณคุณมากเลย”
เมื่อได้ยินว่าโล่เฟยเอ๋อจะไป ซูซีมู่ก็ลุกจากโซฟาขึ้นมา หลังจากลุกยืนขึ้นนั้น ทว่ากลับไม่บอกว่าจะไปส่งเธอเหมือนแต่ก่อน เพียงจ้องมองเธอเท่านั้น
ในเวลานั้นเอง เสียงมือถือโล่เฟยเอ๋อก็ได้ดังขึ้นมา
เธอมองดูมือถือแป๊บหนึ่ง แล้วรีบเงยหน้ามาพูดกับซูซีมู่”รถที่ฉันเรียกไว้มาแล้ว ไปก่อนนะ”
ซูซีมู่เหมือนอยากพูดอะไร แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดออกไป
“ใช่แล้ว……”โล่เฟยเอ๋อเดินได้สองก้าว จู่ๆก็นึกอะไรออกจึงหยุดก้าวเดิน
ซูซีมู่เงยหน้าไปมองโล่เฟยเอ๋อ “หือ”
โล่เฟยเอ๋อยิ้มจางๆแล้วเอ่ย”ยาเหล้าสมุนไพรฉันเอาไปแล้วนะ ขี้เกียจไปซื้ออีก”
ซูซีมู่พยักหน้าแล้วเอ่ยคำว่าได้
โล่เฟยเอ๋อโบกมือลาเขา จากนั้นก็เดินออกไปจากบ้านพักเลย
ซูซีมู่มองดูประตูที่เปิดอยู่ แล้วมองเธอเดินออกไปจากบ้านพัก ไม่รู้เป็นเพราะอะไร เขารู้สึกเหมือนมีของอะไรบางอย่างได้สูญหายจากไปแล้ว..