งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 137
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่ 137 ก่อนงานแต่งจะเริ่ม(1)
ลู่ยู่เห็นซูซีมู่ไม่พูดอะไร พวกเขากำลังเครียดเรื่องข่าวลือ จึงพูด “หรือว่า ให้ฉันกับเหซิงโม่ไปแก้ข่าวให้แกเอง”
ซูซีมู่ไม่ทันคิดก็ส่ายหัว “ไม่ต้อง”
เมื่อได้ยินซูซีมู่บอกว่าไม่ต้อง ลู่ยู่กับเหซิงโม่ถึงกับงง “งั้นแกจะให้มันเป็นแบบนี้เหรอ”
“อืม เหตุผลไม่บอกพวกแกก็แล้วกัน” ซูซีมู่พูด
เมื่อได้ยินว่าซูซีมู่มีเหตุผล ลู่ยู่กับเหซิงโม่ก็ไม่ถามต่ออะไรอีก
พวกเขาทั้งสามนั้นมีซูซีมู่เป็นผู้นำอยู่เสมอ
ถ้าซูซีมู่พูดแล้ว นั้นแปลว่าไม่ให้สงสัย
รู้ว่าซูซีมู่กำลังยุ่ง ลู่ยู่กับเหซิงโม่ก็ไม่คิดจะอยู่นานเกินไป จึงอยู่แป๊บหนึ่งก็กลับเลย
ตอนได้ฟังข่าวที่ว่าระหว่างบริษัทซูซื่อกับบริษัทโล่ซื่อจัดงานแต่งขึ้นอีกครั้งนั้น ทุกคนต่างเชื่อว่าเป็นข่าวลือเท่านั้น
เพียงไม่ถึงวัน ทั้งในเน็ต ในหนังสือพิมพ์ และในทีวี ก็ได้ออกข่าวเรื่องทั้งสองตระกูลจะจัดงานกันทุกรูปแบบ และทั้งบริษัทซูซื่อกับบริษัทโล่ซื่อเริ่มแจกการ์ดเชิญแล้ว
แม้จะแน่ใจได้ว่านี้ไม่ใช่ข่าวลืออย่างแน่นอน แต่เพราะเรื่องการแต่งงานครั้งก่อนเป็นเรื่องปลอม ทำให้หลายคนไม่คาดหวังกับงานแต่งนี้
และในนี้มียังอะไรสนุกให้ดู ไม่ว่าจะเป็นคอมเม้นท์ ข่าวซุบซิบนินทา ที่ว่าท่านประธานบริษัทซูซื่ออายุห้าสิบกว่าเป็นโคแก่กินหญ้าแต่งงานกับบริษัทโล่ซื่อหญิงสาวที่อายุเพียงยี่สิบกว่าเท่านั้น เป็นประเด็นที่น่าตกใจพอสมควร และพอสมควรแก่การเป็นที่ซุบซิบนินทาด้วย
ทีแรกโล่เฟยเอ๋อที่ถูกขังอยู่นั้นไม่รับรู้เรื่องราวพวกนี้เลย แต่เพราะเห้อจิ้นเหยากลับจากประเทศ ได้ช่วยพูดเรื่องโล่เหยเอ๋อกับโล่ชิงไป๋หลายครั้ง และช่วยยืนยันจะช่วยดูแลโล่เฟยเอ๋อเอง โล่เฟยเอ๋อเลยได้รับอนุมัติออกจากห้อง แน่นอนเลยทำให้ได้เห็นข่าวพวกนี้จากโทรทัศน์
เพราะในข่าวกำลังนำเสนอเกี่ยวกับเรื่องที่ท่านประธานบริษัทซูซื่ออายุห้าสิบกว่าเป็นโคแก่กินหญ้าแต่งงานกับบริษัทโล่ซื่อหญิงสาวที่อายุเพียงยี่สิบกว่าเท่านั้น เห้อจิ้นเหยาที่นั่งข้างๆสีหน้าได้เปลี่ยนไป จึงเอารีโมทขึ้นมาเปลี่ยนช่องทันที
“อันนี้ไม่น่าดู เราเปลี่ยนช่องอื่นดูกันเถอะ”
โล่เฟยเอ๋อไม่พูดอะไร ได้แต่กำหมัดไว้แน่น จึงเผยความคิดภายในของเธอออกมา
เธอรู้แค่ว่าที่เจ้าบ่าวของเธอเป็นท่านประธานบริษัทซูซื่อมาตลอด แม้จะไม่เคยเจอหน้าคนฝ่ายนั้นว่าเป็นเช่นไร แต่ก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าคนฝ่ายนั้นจะอายุห้าสิบกว่าแล้ว
ที่จริงจะมีอะไรน่าแปลก เพราะเพื่อผลประโยชน์ จะให้เธอแต่งงานกับคนอายุห้าสิบกว่า หรือจะแต่งงานกับคนเฒ่า เธอจะไม่แต่งได้ด้วยหรอ
ในขณะที่ข่าวลือกำลังแพร่ไปต่างๆนานา วันแต่งก็มาถึงแล้ว
ดูไม่เหมือนกับครั้งก่อน ที่งานแต่งงานครั้งนี้ได้จัดขึ้นที่เรือนปราสาทเมือง A
ในเรือนปราสาทสุดหรูนี้ในเมือง A มาก็นานพอสมควร กลับไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นเจ้าของเรือนปราสาทนี้เลย เพราะไม่เคยนึกถึงบริษัทซูซื่อจะเป็นเจ้าของ
โล่หยิวชิวรู้ตั้งนานแล้วว่าบริษัทซูซื่อนั้นรวยล้นฟ้า แต่เพราะไม่อยากแต่งงานกับท่านประธานบริษัทซูซื่อที่อายุห้าสิบกว่าเลยคิดแผนให้โล่เฟยเอ๋อแต่งงานแทน สำหรับเมื่อก่อนที่รู้ว่าแต่งงานจะนำพาผลประโยชน์มหาศาลมาให้บริษัทโล่ซื่อ เธอยังแอบดีใจมาก
ที่หลอกใช้บริษัทโล่ซื่อมาจัดพันธะวิวาห์ขึ้น เธอเพียงแค่นั่งรอผลประโยชน์อย่างเดียว
ตอนนี้เธอกำลังเดินเข้าเรือนสุดหรูหรา พรีเมี่ยม เจิดจรัสในปราสาทแห่งนี้ เมื่อได้รับรู้ความร่ำรวยของตระกูลซูด้วยตัวเองแล้ว ในใจเธอก็เกิดความอิจฉาริษยาเป็นอย่างมาก
โล่เฟยเอ๋อโดนเธอวางแผนให้แต่งงานกับผู้ชายแก่ กลับได้เศรษฐีร่ำรวยขนาดนี้ ทำให้เธอไม่พอใจอย่างมาก
ใบหน้าโล่หยิวชิวแสดงความร้ายกาจออกมา และกำมือจนแน่น
เห้อจิ้นเหยาที่ยืนอยู่ข้างๆรับรู้ถึงอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของโล่หยิวชิว จึงหันหน้ามองเธอ “หยิวชิว ลูกกำลังคิดอะไรอยู่”
“เปล่าค่ะ” โล่หยิวชิวซ่อนสีหน้าร้ายกาจไว้ แล้วตอบ
เห้อจิ้นเหยาจ้องโล่หยิวชิวแรงๆแล้วแวบหนึ่ง แล้วจึงพูด “หยิวชิว ลูกต้องจำไว้ ใจร้อนอดได้ของดีนะ”
โล่หยิวชิวกัดริมฝีปากล่างไว้แล้วไม่พูด
“หยิวชิว ลูก……”เห้อจิ้นเหยากำลังจะเอ่ยอะไรออกมา แต่โล่หยิวชิวก็ตัดคำพูดเธอซะก่อน
“คุณแม่คะ หนูเห็นคนรู้จัก หนูขอตัวไปทักทายแป๊บหนึ่งนะคะ”
พูดเสร็จก็ไม่ฟังเห้อจิ้นเหยาตอบ โล่หยิวชิวรีบเดินเหยียบส้นสูงออกไปทันที
เห้อจิ้นเหยามองแผ่นหลังโล่หยิวชิวแล้วพักหนึ่ง จึงจะเก็บสายตากลับมา
คนรู้จักที่โล่หยิวชิวได้เห็น คือลู่ยู่กับเหซิงโม่นั้นเอง
สำหรับคนรู้จักของซูซีมู่ เธอไม่เคยจะปล่อยโอกาสไปสักครั้ง เพราะแบบนี้เลยทำให้เธอทิ้งเห้อจิ้นเหยา แล้วรีบเดินไปหาทันที
“พวกคุณก็มาเหรอคะ”โล่หยิวชิวยิ้มแย้มพลางขวางลู่ยู่กับเหซิงโม่ไว้
ลู่ยู่กับเหซิงโม่เห็นว่าเป็นโล่หยิวชิวก็ถึงกับอึ้งไป แล้วลู่ยู่จึงจะถาม”คุณหนูโล่มาหาพวกผมมีเรื่องหรอครับ”
โล่หยิวชิวยิ้มตาหยีตอบ” ซูซีมู่มากับพวกคุณด้วยไหมคะ เมื่อคืนฉันโทรศัพท์ไปหาอยากเชิญเขาด้วย แต่เบอร์เขาโทรไม่ติดเลยค่ะ”
“เบอร์ซูซีมู่โทรไม่ติดเหรอครับ ผมลอง……”ลู่ยู่เอามือถือออกจากกระเป๋ากางเกง แล้วจะกดโทรไปหาซูซีมู่
แต่เขายังไม่ทันได้กดโทรไปหาซูซีมู่ มือถือก็โดนเหซิงโม่ที่อยู่ข้างๆแย่งไปแล้ว
“เฮ้ย เหซิงโม่ แกทำอะไรอ่ะ”ลู่ยู่ถามขึ้นทันที
เหซิงโม่ไม่ตอบคำถามเขา แต่กลับพูดกับโล่หยิวชิว ” ซูซีมู่มาแน่นอนครับ”
เมื่อได้ยินว่าซูซีมู่จะมาแน่ นัยน์ตาโล่หยิวชิวประกายขึ้นมาทันที “เขาจะมาเมื่อไหร่คะ”
“ถึงเวลา คุณก็รู้เองนะครับ” เหซิงโม่ตอบแบบคลุมเครือ
“ได้ค่ะ ขอบคุณค่ะ”โล่หยิวชิวพูดขอบคุณพลางยกมุมปากยิ้มให้อย่างแสนสวย
เหซิงโม่ตอบพลางยิ้มอย่างสุภาพ “ไม่เป็นไรครับ”
เมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว โล่หยิวชิวก็ไม่อยู่ต่ออีก
เธอ ” ฉันยังอยู่เรื่องขอตัวไปก่อนนะคะ ทั้งสองคิดว่าที่นี่คือบ้านของตัวเองได้เลย ตามสบายนะคะ”
คำพูดของโล่หยิวชิวนั้น ไม่มีความไม่คิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของที่นี่เลยสักนิด
เหซิงโม่ถึงกับชะงักไปเล็กน้อย แล้วพยักหน้า “ได้ครับ”
หลังจากโล่หยิวชิวเดินออกไป ลู่ยู่ก็เริ่มพูดโวยวายขึ้นมา “เหซิงโม่ ทำไมต้องแย่งมือถือฉันอ่ะ แล้วยังจะขัดขวางให้ฉันคุยกับคนสวยด้วย”
เหซิงโม่เอามือถือยัดในมือลู่ยู่แล้วพูด “ฉันไม่ทำไม ก็แค่จะบอกแกว่า อย่าลืมที่ซูซีมู่พูดไว้ล่ะ”
เขาไม่ใช่ลู่ยู่ไอ้บื้อนี้ ที่จะดูไม่ออกว่าผู้หญิงที่ชื่อโล่หยิวชิวได้ตามรังควาน ซูซีมู่จนขยะแขยง
เมื่อก่อนเขาคิดว่าซูซีมู่ไม่พอใจกับคู่ที่จะแต่งงานด้วยถึงเป็นแบบนี้ เมื่อกี้เขาเพิ่งเข้าใจ ผู้หญิงคนนั้นช่างทำให้คนรังเกียจจริงๆ
ยังบอกให้พวกเขาคิดว่าที่นี่คือบ้านตัวเอง ให้ตามสบายเหรอ
เธอเป็นแค่พี่สาวฝ่ายเจ้าสาวก็เท่านั้น ยังเอาบ้านเจ้าบ่าวเป็นบ้านตัวเองหรือไง
ไม่รู้จักสถานะตัวเองไม่พอ แถมแววตายังเผยถึงความโลภและความทะเยอทะยานอีกด้วย ฉันทำให้คนขยะแขยงเป็นอย่างยิ่ง
มีแต่ฟังคำพูดของเหซิงโม่ ลู่ยู่ถึงกับชะงักไป จากนั้นจึงเบ้ปากแล้วพูด “เอาหน่า ฉันแค่ลืมไปแป๊บเดียวเอง ”
“แกอย่าลืมว่าวันนี้แกมาทำอะไรก็พอ”เหซิงโม่มองบนพูด
ลู่ยู่ตอบแบบไม่คิด ” ไร้สาระ ฉันจะลืมได้ไงว่าวันนี้มาดื่มเหล้าฉลองงานแต่งให้กับซูซีมู่”
“แกไม่ลืมก็ดี” เหซิงโม่พูดเสร็จ ก็หันไปเดินทางเข้าด้านขวาเลย
ลู่ยู่ลูบจมูก แล้วเดินตามเข้าไป
ทางเข้าทั้งสองด้านมีบอดี้การ์ดเฝ้าอยู่เมื่อเห็นเหซิงโม่กับลู่ยู่เดินมา ก็รีบพูด ” คุณชายลู่ คุณชายเหซิง คุณชายรอพวกคุณอยู่ครับ”
รอพวกฉันเหรอ”เหซิงโม่กับลู่ยู่จ้องมองตันแป๊บเดียว ก็รีบเดินเข้าไปข้างในทันที