งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 151
บทที่ 151 เพียงเพื่อระบายความโกรธให้เธอ
สิบนาทีหลังจากนั้น โจวเฉิงก็กลับมา “ประทานซูรับเงินมาแล้วครับ”
ซูซีมู่ตอบ ‘อืม’ เรียบ ๆ คำหนึ่ง หลังจากนั้นก็พุ่งไปที่ชายอ้วนเตี้ย: “ไปนับเงิน”
พอชายอ้วนเตี้ยได้ยินคำพูดของซูซีมู่ ก็สั่นสะท้านไปทั่วร่าง “อย่าเสแสร้งเลย นายสามารถนำเงินมากมายขนาดนั้นออกมาได้?”
ซูซีมู่ไม่พูดอะไร เพียงแค่สายตาที่สื่อเป็นนัยมองโจวเฉิงแวบหนึ่ง
ทันใดนั้นโจวเฉิงก็ยื่นมือมาดึงคอเสื้อของชายอ้วนเตี้ยขึ้น ชายอ้วนเตี้ยที่เพิ่งจะอวดดี ก็ถูกหิ้วมาที่ฝูงชนเหมือนลูกเจี๊ยบตัวหนึ่ง
“แกจะทำอะไร? แกคิดจะทำอะไร…” ชายอ้วนเตี้ยทั้งต่อสู้ดิ้นรนพร้อมทั้งตะโกนเสียงดังด้วยความตื่นตระหนก
โจวเฉิงไม่สนใจใยดีเขาสักนิด แล้วหิ้วเขามาที่หน้ารถต่อ หลังจากนั้นเปิดท้ายรถ “ยี่สิบล้าน นับเงินซะ”
ชายอ้วนเตี้ยไม่คิดเลยจริง ๆ ว่าเขาจะนำเงินออกมาได้ เขาจ้องเงินสดที่วางอย่างเป็นระเบียบอยู่ในท้ายรถกองนั้น จ้องจนลูกตาแทบจะถลนออกมา
ฝูงชนที่จับจ้องอยู่รอบ ๆ พอเห็นเงินที่อยู่ในรถคันนั้น ก็แตกตื่นทันที
“คุณพระช่วย ยี่สิบล้านจริงหรอ!”
“ฉันขยี้ตาก่อน ในชีวิตนี้ตาแก่อย่างฉันยังไม่เคยเห็นเงินมากมายขนาดนี้เลย”
“ชายคนนี้มีฐานะอะไรกันเนี่ย? ใช้เวลาสิบนาทีก็เสกเงินยี่สิบล้านออกมาได้”
……
โจวเฉิงเตือนสติชายอ้วนเตี้ยที่จ้องจนตาแทบถลน “รีบนับเงิน ประธานซูของพวกเรารออยู่”
“ยี่สิบล้านนี่ชดใช้ให้ฉันจริงหรอ?” ชายอ้วนเตี้ยกลืนน้ำลาย
โจวเฉิงบอกกับเขาอย่างเรียบ ๆ ว่า: “ประธานซูของพวกเราพูดคำไหนคำนั้น” แน่นอนว่าโจวเฉิงไม่ได้นำประโยคเดิมบอกแก่ร่างอ้วนเตี้ย
ประธานซูของพวกเราพูดคำไหนคำนั้น แต่ประธานซูของเขาก็ไม่เคยขาดทุนมาก่อน
“งันเงินเป็นของฉันแล้ว ส่วนรถเป็นของพวกนาย” ชายอ้วนเตี้ยกล่าวอย่างมีความสุข
โจวเฉิงเค้นเสียงเย็นชาออกมาคำหนึ่ง ก่อนจะหมุนกายเดินไปทางซูซีมู่
“ประธานซู เขานับเงินเสร็จแล้ว ตอนนี้รถเป็นของพวกเราแล้ว”
ซูซีมู่พยักหน้าแล้วตอบรับเสียงหนึ่ง ‘อืม’ แล้วเอ่ยเสียงเรียบว่า: “ทุบเลย!”
ทุบเลย! ทุบอะไร?
ทุกคนต่างก็ไม่เข้าใจคำพูดของซูซีมู่
เห็นเพียงโจวเฉิงเดินกลับไปที่หน้ารถคันนั้น เปิดประตูรถแล้วก้มตัวหยิบท่อนเหล็กแน่น ๆ ท่อนหนึ่งออกมาจากรถ ยกมือขึ้นแล้วทุ่มใส่ Maserati Tipo 151 คันนั้นของนายอ้วนเตี้ย
ลงมืออย่างดุเดือดโดยที่ดวงตาคู่นั้นไม่กระพริบ ราวกับว่านั่นไม่ใช่ Maserati Tipo 151 ที่มีมูลค่าเกือบสิบล้าน แต่เป็น Maserati แค่รุ่นหนึ่ง
นอกจากซูซีมู่แล้ว ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างโง่งมกันหมด แม้แต่โล่เฟยเอ๋อก็นิ่งอึ้งไปด้วย
ยอมจ่ายเงินยี่สิบล้านชดใช้ให้ Maserati เพื่อที่จะทุบมัน?
เพียงไม่นาน Maserati Tipo 151 รุ่นใหม่คันนั้นก็ตกอยู่ใต้มือของโจวเฉิงที่ถือท่อนเหล็กอยู่ ก็กลายเป็นขยะไปแล้ว แล้วการกระทำของเขาก็หยุดลง
“ประธานซู ทุบเสร็จแล้ว!”
แม่งเอ๊ย ทำไมฟังอย่างไรก็เหมือนยังไม่เสร็จ เป็นความเข้าใจผิดของพวกเขาใช่ไหม?
ซูซีมู่ไม่พูดอะไร เพียงแค่มองไปทางโล่เฟยเอ๋อแวบหนึ่ง หลังจากนั้นเดินอย่างสง่างามตรงไปหานายอ้วนเตี้ยที่กำลังขนเงินยี่สิบล้านจากไป
ร่างอ้วนเตี้ยเห็นกับตาว่าโจวเฉิงฟังคำสั่งของซูซีมู่ที่ให้ทุบรถ Maserati คันนั้นของตนอย่างโหดเหี้ยม ตอนนี้ยังเห็นซูซีมู่เดินมาที่เขาอีก เขาตกใจจนถอยหลังไป “แกจะทำอะไร? Maserati คันนั้นฉันขายให้พวกแกแล้ว พวกแกอยากทุบเอง ไม่เกี่ยวกับฉัน”
“รถของนายฉันชดใช้แล้ว ตอนนี้นายควรพูดว่าจะชดใช้รถของฉันอย่างไร” น้ำเสียงของซูซีมู่เหมือนมีความเย็นวาบผ่านไปแวบหนึ่ง
“อะไร?” ร่างอ้วนเตี้ยไม่ตอบสนองกับความหมายของคำที่ซูซีมู่พูดเมื่อกี้
ซูซีมู่ชี้ไปที่รอยยุบตรงประตูรถของตน แล้วถามอย่างเรียบ ๆ ว่า “นี่คือรอยถีบของนายใช่ไหม? ถ้าขอให้นายชดใช้ก็ไม่ผิดอะไรใช่ไหม?”
ร่างอ้วนเตี้ยไม่แน่ใจว่าถ้าเขาไม่ยอมชดใช้ ซูซีมู่จะให้โจวเฉิงทำอะไร เขากลืนน้ำลายแล้วถาม “รอยยุบนี้ชดใช้เท่าไหร่?”
“สี่สิบล้าน”
“อะไรนะ?” ร่างอ้วนเจี้ยนึกว่าตนเองฟังผิดไป
“รถของฉันชนรถ Maserati Tipo 151 ของนาย นายเปิดราคาที่ยี่สิบล้าน ฉันชดใช้แล้ว ตอนนี้นายถีบรถของฉัน สี่สิบล้าน”
พอซูซีมู่พูดออกไป ทุกคนต่างก็โง่งมกันหมด หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเสียยกใหญ่
ต่างคิดว่าซูซีมู่กำลังเสแสร้ง เพิ่งจะชดใช้ให้ Maserati ไปยี่สิบล้าน แล้วตอนนี้ก็ใช้รถ Mercedes Benz ที่เสียหายของตนมาเรียกให้คนชดใช้สี่สิบล้าน
โล่เฟยเอ๋อขมวดคิ้วแน่น อยากจะอ้าปากพูด แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร
นายอ้วนเตี้ยก็กระโดดขึ้นมาแล้วด่าเสียยกใหญ่ “ถีบหนึ่งทีสี่สิบล้าน แกคิดว่ารถแกทำมาจากทองรึไง?”
“โจวเฉิง นายบอกเขาสิว่าจริง ๆ แล้วรถของฉันทำมาจากทองรึเปล่า” แยกแยะได้อย่างชัดเจนว่ามุมปากของซูซีมู่แสยะยิ้มโค้งออกมาเล็กน้อยอย่างถางถาง
“ครับ ประธานซู” โจวเฉิงพยักหน้าแล้วยิ้มอย่างลึกซึ้งมองไปที่ชายอ้วนเตี้ยแล้วเอ่ย: “รถของประธานซูพวกเขาไม่ได้ทำมาจากทอง แต่ก็ไม่เชิง รถประธานซูของพวกเราเป็นรถ Mercedes Benz หรูนำเข้าที่ได้รับการดัดแปลงทั้งภายในและภายนอกด้วยอุปกรณ์ชั้นนำที่ทันสมัยและมีความปลอดภัยสูงสุดมีเพียงคันเดียวในจีน”
หยุดลงสักพัก ก่อนที่โจวเฉิงจะพูดเสริมอย่างเรียบ ๆ อีกหนึ่งประโยค “กันกระสุนทั้งคัน”
“เป็นไปไม่ได้…”ครั้งนี้ชายอ้วนเตี้ยมองจนโง่ไปแล้ว รถคันนี้ดูเป็นแค่ Mercedes Benz ธรรมดาขนาดนี้ คาดไม่ถึงว่าจะมีอุปกรณ์ชั้นนำ รวมถึงกันกระสุนทั้งคันอีก?
“เป็นไปไม่ได้? ฉันจะหาคนมานำรถไปตรวจประเมินค่า เพียงแต่ว่า…” โจวเฉิงเหมือนตั้งใจ หยักไหล่แล้วพูดต่อ: “รถคนนั้นราคารวมประมาณพันล้าน ถ้าผลวินิจฉัยออกมา แค่รอยยุบนี้รอยเดียว คงไม่หยุดอยู่ที่สี่สิบล้านแล้ว”
พอพูดเสร็จโจวเฉิงก็ไม่แม้แต่จะชายตามองชายอ้วนเตี้ย
พอฟังที่โจวเฉิงพูด ชายร่างอ้วนก็เกือบจะเลอะเลือนไปแล้ว
เดิมทีเขาจะหลอกลวงคนอื่น แต่ผลกับเตะโดนแผ่นเหล็กเสียแล้ว อยากร้องไห้ก็ไม่ที่ให้ร้องแล้ว
โจวเฉิงมองชายร่างเตี้ยอย่างเห็นใจแวบหนึ่ง ใครใช้ให้แกทำล่ะ? คิดไม่ถึงว่าจะด่าทอคุณนายของประธานซูว่าจนสุด ๆ แกหาเรื่องตายแท้ ๆ
ดูเหมือนซูซีมู่จะพอใจกับการตอบสนองแบบนี้ของชายอ้วนเตี้ย เขามีท่าทางของคนที่อยู่สูงแล้วมองดูคนที่ต่ำกว่า ใบหน้าหล่อเหลาและร่าเริงไม่มีความอบอุ่นเลยสักนิด “คิดว่าคนที่ออกรถ Maserati Tipo 151 ได้นี่รวยแล้วงันสิ? นายก็เป็นคนที่จนสุด ๆ แค่นั้นเอง ต่อให้นายขายไปแล้วก็ยังชดใช้ให้รถฉันไม่ได้”
คำพูดนี้ทำไมฟังดูคุ้นหูขนาดนี้?นี่ไม่ใช่คำพูดที่นายอ้วนเตี้ยเพิ่งจะเยาะเย้ยเธอไปไม่ใช่หรอ?
ในเวลานี้ถ้าโล่เฟยเอ๋อไม่เข้าใจว่าซูซีมู่กำลังทำอะไร ก็โง่เต็มทีแล้ว
ซูซีมู่ทำเพื่อช่วยเธอ…ระบายอารมณ์!
เขาทำมากมายขนาดนี้ ก็เพื่อระบายอารมณ์ให้เธอ!
โล่เฟยเอ๋อรู้สึกได้ชัดเจนว่าหัวใจของเธอเริ่มจะเต้นขึ้นมาอย่างรุนแรง สายตาก็มึนงงทีละนิดเหมือนมีหมอกหนึ่งชั้น..