งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 154
เนื่องจาก ACC Google Drive บินไปหลาย Email
เราจะทยอยไล่แก้ให้ยามว่างอยากให้แก้เรื่องไหนคอมเมนต์ไว้นะคะ
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่ 154 แสดงละครต่อหน้าคุณปู่
“เข้าไปกันเถอะ คุณปู่รอพวกเราอยู่” เสียงของซูซีมู่เย็นชาเหมือนในอดีตที่ผ่านมา แต่มีความอบอุ่นและอ่อนโยนอยู่ภายใน
นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้ยินเขาพูดกับเธอแบบนี้คง ตั้งแต่ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาห่างไกลกัน
แล้ววันนี้เพียงเพื่อออกมาแสดงละครต่อหน้าคุณปู่ของเค้า
โล่เฟยเอ๋อลดสายตาลงปิดบังความขมขื่นในดวงตา จากนั้นโล่เฟยเอ๋อก็เงยหน้าแล้วยิ้มอย่างน่ารัก “ค่ะ”
ซูซีมู่กระพริบตา จากนั้นกุมมือของโล่เฟยเอ๋อเดินเข้าไปข้างในลานบ้าน
พอโล่เฟยเอ๋อกับซูซีโม่เดินเข้ามาในลานบ้าน คนรับใช้ก็ทำความเคารพทักทายอย่างเป็นระเบียบ “คุณชายและคุณนายน้อยกลับมาแล้ว”
ดูแล้วคนในลานบ้านคงถูกบอกให้ทราบถึงฐานะของโล่เฟยเอ๋อ
ครั้งนี้ซูซีมู่พอใจมาก ไม่เพียงแต่พยักหน้าตอบกลับ ยังเอ่ยสอบถาม ”คุณปู่ล่ะ?”
“คุณท่านอยู่ที่สวนเหมยรอคุณชายและคุณนายน้อยค่ะ” พอคนรับใช้ตอบเสร็จก็วิ่งไปสวนไห่ถังแจ้งให้ทราบ
โล่เฟยเอ๋อรู้สึกประหลาดใจที่ได้ยินคนรับใช้พูดว่า ‘สวนเหมย’ ฟังดูแล้วเหมือนสวนโบราณ
หลังจากเดินตามซูซีมู่ผ่านสวนนี้เพื่อเข้าไปข้างใน เธอสังเกตเห็นว่าการออกแบบเลียนแบบสวนโบราณตรงลานของบ้านซู ช่างคุ้นตามาก
พอเดินไปถึงสวนเหมยเธอจึงนึกขึ้นได้ว่าทำไมคฤหาสน์ตระกูลซูพวกนี้ถึงดูคุ้นตา
ครั้งก่อนไปคลับส่วนตัวที่เมืองหลวงกับซูซีมู่ก็มีการตกแต่งแบบนี้
บางทีคลับส่วนตัวที่เมืองหลวงนั้นอาจจะเป็นของบ้านซู
โล่เฟยเอ๋อเม้มมุมปากเบา ๆ สายตาตกอยู่ในสวนเหมยอันกว้างขวางแห่งนี้……..
แม้กระทั่งสวนไห่ถังก็ยังปลูกต้นเหมยจริง ๆ เต็มไปหมด ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีดอกตูมบนกิ่งไม้ขึ้นเป็นช่อ ๆ ช่างสวยงามจริง ๆ
เขาสังเกตเห็นถึงสายตาของโล่เฟยเอ๋อ ซูซีมู่มีรอยยิ้มอยู่ในดวงตา เขารู้ว่าโล่เฟยเอ๋อจะต้องชอบที่นี่ เขารู้จากครั้งก่อนตอนที่อยู่เมืองหลวงโล่เฟยเอ๋อยังอาลัยอาวรณ์ทิวทัศน์ของคลับส่วนตัวของบ้านซู
“ถ้าหากเธอชอบจะอยู่ที่นี่นานหน่อยก็ได้”
แต่น่าเสียดายที่เสียงของซูซีมู่เบามาก โล่เฟยเอ๋อที่กำลังมองต้นดอกเหมยที่สวนอย่างเหม่อลอย จึงได้ยินไม่ชัด
“อะไรหรอ?” โล่เฟยเอ๋อมองไปที่ซูซีมู่อย่างมึนงง
สายตาที่มึนงงของโล่เฟยเอ๋อ ทำให้ซูซีมู่ได้สติกลับมา เขาลืมไปได้อย่างไรว่าเธอไม่ได้อยากจะแต่งงานกับเขาจริง ๆ ถึงแม้ว่าเธอจะชอบที่นี่ แต่เธอก็คงไม่อยากอยู่ที่นี่
ดวงตาของซูซีมู่หม่นหมองลง หลังจากนั้นทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แล้วหันไปจ้องที่ต้นเหมยในลานบ้าน สีหน้าของเขาไม่แยแสราวกับหมอกในตอนกลางคืน “ไม่มีอะไร”
ถึงแม้ว่าซูซีมู่จะพูดว่า ‘ไม่มีอะไร’ แต่โล่เฟยเอ๋อก็มักจะคิดว่าตนเองทำอะไรผิดไป เธอคิดที่จะเอ่ยปากถาม แต่คุณท่านก็ออกมาขัดจังหวะเธอพอดี
“พวกเธอสองคนมาแล้วหรอ ยังยืนทำอะไรอยู่ในลานบ้าน?” คุณท่านได้ยินคนรับใช้บอกว่าซูซีมู่กับโล่เฟยเอ๋อมาถึงแล้วนานแล้ว แต่ผลคือเขารอแล้วรอเล่าก็ยังไม่เห็นซูซีมู่กับโล่เฟยเอ๋อเข้ามา เลยออกมาตามหาด้วยตนเอง
“ไม่มีอะไรครับ” ซูซีมู่ตอบเรียบ ๆ
“ไม่ได้ถามนาย” คุณท่านส่งเสียงไม่พอใจในลำคอไปทางซูซีมู่ แล้วหันไปยิ้มแล้วจับมือโล่เฟยเอ๋อ “เฟยเอ๋อ รีบเข้ามาเถอะ ข้างนอกหนาว”
“ค่ะ คุณปู่” โล่เฟยเอ๋อ เดินตามคุณปู่เข้าไปอย่างว่านอนสอนง่าย
คุณท่านพูดกับโล่เฟยเอ๋อไปด้วยพร้อมเรียกให้คนรับใช้ให้มาชงชา ส่วนหลานของเขาอย่างซูซีมู่ ก็ถูกเขาลืมไปแล้ว
“เฟยเอ๋อ ไปฮันนีมูนมาเหนื่อยหรือเปล่า?”
โล่เฟยเอ๋อดึงมุมปากแล้วส่ายหน้า “ไม่เหนื่อยค่ะ”
“ไม่เหนื่อยก็ดีแล้ว” คุณท่านหยุดไปสักพัก แล้วเอ่ย: “ฮันนีมูนเสร็จแล้ว ซีมู่ก็ควรกลับไปทำงานที่บริษัท งันเฟยเอ๋ออยู่คฤหาสน์บ้านซูเป็นเพื่อนปู่ดีไหม?
เมื่อเทียบกับวิลล่าในครั้งก่อนแล้ว โล่เฟยเอ๋อชอบคฤหาสน์บ้านซูนี้มาก แต่มันไม่เหมาะกับสถานะของเธอ แล้วเธอยังต้องไปทำงาน โล่เฟยเอ๋อจึงปฏิเสธชายชราคนนั้นว่า “คุณปู่คะ ฉันต้องทำงาน อยู่ที่นี่คง…ไม่สะดวก”
คุณห้ามกวาดสายตามองไปที่ซูซีมู่ “นี่นายให้ภรรยานายไปทำงาน?”
โล่เฟยเอ๋อรีบส่ายหัว “ไม่ใช่ค่ะ คุณปู่ ฉันอยากไปทำงานเอง”
“เฟยเอ๋ออยากทำงาน?” คุณท่านมองไปที่โล่เฟยเอ๋อ
หลังจากที่โล่เฟยเอ๋อหันไปมองซูซีมู่แวบหนึ่ง ก็พูดยังติด ๆ ขัด ๆ ว่า “ถ้าซูซีมู่…เขาไปทำงานแล้ว ในบ้านก็จะเหลือฉันแค่คนเดียว ดังนั้น…ฉันเลยรู้สึกว่าฉันไปทำงานจะดีกว่า”
“อ๋อ ที่แท้เฟยเอ๋อกลัวว่าอยู่บ้านคนเดียวจะคิดถึงซีมู่สินะ” คุณปู่แสดงสีหน้าที่เข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง
พอโล่เฟยเอ๋อได้ยินคำพูดของคุณปู่ก็หน้าแดง “คุณปู่คะ ไม่ใช่…”
“ไม่ต้องอธิบาย ปู่ก็เคยเป็นวัยรุ่นมาก่อน” คุณท่านหยุดไปสักพัก หลังจากนั้นดูเหมือนจะคิดวิธีที่ดีอะไรขึ้นได้แล้วจึงเอ่ย: “งันเอาแบบนี้…เธอไปทำงานที่สำนักงานของซีมู่ แบบนี้ก็จะได้อยู่กับซีมู่ในตอนกลางวันแล้ว”
ทำไมจู่ ๆ ถึงกลายเป็นทำงานที่สำนักงานของซูซีมู่? โล่เฟยเอ๋อรู้สึกว่าเธอตามคุณท่านไม่ทัน
“คุณปู่ แบบนั้นไม่ได้ค่ะ ฉันไม่ได้เรียนสาขานั้น”
คุณท่านพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “ไม่ใช่สาขานั้นก็ไม่เป็นไร เธอแค่นั่งให้เขามองเท่านั้นก็พอ”
“เอ่อ…” โล่เฟยเอ๋อไม่รู้จะใช้คำพูดอะไรตอบกลับคุณท่านจริง ๆ
ยังดีที่ซูซีมู่ เอ่ยปากช่วยเหลือเธอ “เธอเรียนการออกแบบอัญมณี ไปสำนักงานผมก็เหมือนเอาคนที่มีความสามารถไปทำงานที่ไม่ถนัด”
คุณท่านถามอย่างคาดไม่ถึงเล็กน้อย “เฟยเอ๋อ เธอเรียนออกแบบอัญมณีหรอ?”
“ใช่ค่ะคุณปู่ ฉันชอบออกแบบอัญมณี” โล่เฟยเอ๋อยิ้มจนตาหยีแล้วตอบ
คุณท่านก็เข้าใจ “ในเมื่อเธอชอบ อย่างนั้นก็ตามใจเธอ ”
พอได้ยินคำพูดนี้ของคุณท่าน โล่เฟยเอ๋อก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก สายตาของเธอหันไปมองซูซีมู่ อยากเอ่ยปากขอบคุณที่เขาช่วยแก้หน้าให้ แต่ซูซีมู่กำลังก้มหน้าดูโทรศัพท์จึงไม่ได้มองมาทางนี้ จึงทำให้เธอผิดหวังเล็กน้อย
แต่ก็ผิดหวังไม่นาน คุณท่านก็เรียกให้เสิร์ฟอาหาร
บนโต๊ะอาหาร คุณท่านกับโล่เฟยเอ๋อ พูดคุยกันอย่างมีความสุขแต่ซูซีมู่ไม่ได้พูดอะไร ถ้าหากพูดอะไร ก็เป็นเพราะคุณท่านเอ่ยปากถามเขา เขาก็จะพยายามที่จะตอบอย่างสุดความสามารถ
กินไปคุยไปแบบนี้ พอกินข้าวเสร็จ ก็สามทุ่มแล้ว
คุณท่านโบกมือแล้วเอ่ย: “วันนี้ดึกแล้ว พวกเธออย่ากลับเลย”
“คะ?” โล่เฟยเอ๋อส่งเสียงร้องอย่างตกใจ
คุณท่านมองไปทางโล่เฟยเอ๋อ “ทำไมหรอ?”
โล่เฟยเอ๋อกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแล้วพูด: “คือว่า…ที่นี่ไม่มีห้องของพวกเรา พวกเราพักที่นี่คงจะไม่สะดวก?”
“ไม่มีห้องของพวกเธออะไรกัน? ห้องของซีมู่ก็คือห้องของพวกเธอนิ”
“……”
โล่เฟยเอ๋อกับซูซีมู่ ก็ถูกคุณท่านยื้อไว้ที่คฤหาสน์บ้านซู