งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 176
บทที่ 176 สายจากคนแปลกหน้า
แต่อย่างไร ปาฏิหาริย์ก็เป็นได้แค่ปาฏิหาริย์ ไม่สามารถกลายเป็นจริงขึ้นมาได้
หลังจากที่ตรวจดูกล้องวงจรปิดแล้ว ผลที่ได้ก็คือ โล่เฟยเอ๋อออกจากบริษัทซูซื่อไปแล้วจริงๆ
แล้วหลังจากที่เธอออกจากบริษัทซูซื่อไป เธอไปไหนต่อกันล่ะเนี่ย
เมืองหลวงเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทซูซื่อ ถึงแม้ว่าบ้านซูจะมีอำนาจอิทธิพลมากที่นี่ แต่เนื่องจากตระกูลใหญ่มากมายในเมืองหลวง อิทธิพลอำนาจซับซ้อน จึงไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่มีอิทธิพลสูงสุดเหมือนกับที่เมือง A
เวลาค่อยๆผ่านไปจากวินาทีเป็นนาที ผลลัพธ์ที่ได้ล้วนเป็นแบบเดียวกันหมด ก็คือ “หาไม่เจอ”
ค่ำคืนยิ่งดึกมากขึ้นไปทุกที สีหน้าของซูซีมู่ก็ยิ่งดูไม่ได้
โจวเฉิงโทรศัพท์จัดการให้ค้นหาโล่เฟยเอ๋อ พลางมองร่างของซูซีมู่ที่เดินไปเดินมาด้วยความกังวล
เขารู้ดีว่าคุณนายของตัวเองมีความสำคัญต่อประธานซูมากแค่ไหน ถ้าเกิดอะไรกับโล่เฟยเอ๋อขึ้นมาล่ะก็ เกรงว่า…….
โจวเฉิงทำได้แต่ถอนหายใจข้างใน ก่อนจะถามออกไปด้วยความระมัดระวัง “ประธานซู ท่านลองโทรศัพท์หาคุณชายลู่ดูดีไหมครับ บ้านลู่เป็นถึงหนึ่งในสิบตระกูลใหญ่ของเมืองหลวง ถ้าได้ความช่วยเหลือในการตามหาคุณนายจากบ้านลู่ล่ะก็ เรื่องอาจจะง่ายขึ้นเยอะ”
ซูซีมู่ไม่ได้ตอบกลับคำพูดของโจวเฉิง แต่กลับควักโทรศัพท์ออกมาต่อสายหาลู่ยู่
ครั้งแรกที่โทรไปไม่มีคนรับสาย ลู่ยู่คงจะนอนแล้ว ในเมื่อตอนนี้ก็ปาเข้าไปเที่ยงคืนกว่า
ซูซีมู่ไม่ยอมแพ้เพียงเพราะไม่มีคนรับสาย เขากดโทรซ้ำอีกครั้ง จนครั้งที่สาม ทางฝั่งลู่ยู่ก็รับสาย
ทันทีที่ลู่ยู่รับสาย ก็โพล่งคำถามแรกออกมา “ซูซีมู่ ดึกขนาดนี้ นายโทรมารบกวนคนกำลังนอนฝันดีทำไมกัน”
ซูซีมู่พูดจุดประสงค์ของตัวเองออกไป “จะให้นายช่วยตามหาเฟยเอ๋อ”
ได้ยินซูซีมู่พูดว่า หาเฟยเอ๋อ อยู่ๆความไม่แคร์โลกในน้ำเสียงตามปกติของลู่ยู่ก็หายไปอย่างกะทันหัน “หาเฟยเอ๋อหรอ เกิดอะไรขึ้นกับเฟยเอ๋อกัน!”
“พวกเรามาร่วมงานประจำปีที่เมืองหลวง เธอวิ่งออกไปจากบริษัทไป ฉันทางนี้หาเธอไม่เจอ” ซูซีมู่ตอบกลับแบบรวบรัด
“คนของนายหาเธอไม่เจอหรือไง” ลู่ยู่ตะโกนออกมาอย่างร้อนใจ
“ฉันก็เลยโทรหานาย ขอให้บ้านลู่ช่วย” ซูซีมู่ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะพูดต่อ “ถ้าบ้านลู่อยากได้อะไรตอบแทนล่ะก็ ฉันก็ให้…….” ซูซีมู่ยังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกฝั่งลู่ยู่แทรกขึ้นมา
“ซูซีมู่ นายพูดอะไรของนาย ลืมไปแล้วหรอว่าเราเป็นเพื่อนกัน เรื่องตามหาเฟยเอ๋อก็เป็นหน้าที่ของฉันเหมือนกัน”
ผ่านไปแค่สิบนาที ทางด้านลู่ยู่ก็ตอบรับคำขอของซูซีมู่อย่างทันท่วงที บ้านลู่ยื่นมือเข้ามาช่วยหาโล่เฟยเอ๋อ บอกเขาไม่ต้องกังวลไป
แต่ซูซีมู่จะไม่กังวลได้ยังไง ถึงจะไม่ถึงขั้นเดินไปเดินมาไม่หยุดเหมือนก่อนหน้า แต่กลับกลายเป็นนั่งบนโซฟาจ้องมือถือตาไม่กระพริบแทน
ถ้าโทรศัพท์มีเสียงเรียกเข้า เขาก็พร้อมที่จะกดรับทันที
แต่อย่างไรก็ตาม ไม่มีข่าวดีที่เขาตั้งหน้าตั้งตารอเลยสักนิด
ท้องฟ้าเริ่มสว่างขึ้นมาอย่างช้าๆ นับตั้งแต่ที่โล่เฟยเอ๋อหายออกไปก็เป็นเวลาสิบชั่วโมงแล้ว ซูซีมู่ยิ่งร้อนใจมากขึ้นทุกนาที
บ้านลู่ยื่นมือเข้ามาช่วย แต่ทำไมถึงยังไม่มีข่าวอะไรเลยล่ะ หรือว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกัน
ถึงจินดูจะเป็นเมืองหลวงของหัวเซี่ยที่ปลอดภัยมาโดยตลอด แต่ก็รับประกันไม่ได้ว่าจะไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลย……..
แค่คิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับโล่เฟยเอ๋อ ซูซีมู่ก็ทนใจเย็นไม่ได้อีกต่อไป
เขาลุกพรวดขึ้นมาจากโซฟา จากนั้นก็รีบวิ่งออกไปข้างนอก ก่อนจะชนเข้ากับโจวเฉิงที่เพิ่งเข้ามาด้านในพอดี
“ประธานซู จะไปไหนครับ” โจวเฉิงเห็นซูซีมู่ท่าทางรีบร้อนขนาดนี้ ก็ถามขึ้น
“ฉันจะไปตามหาเธอ” ซูซีมู่เดินไปข้างนอกพลางตอบ
โจวเฉิงห้ามซูซีมู่ไว้ด้วยความเป็นห่วง “ประธานซู ตอนนี้ไม่มีข่าวอะไร ท่านจะไปหาคุณนายเจอได้ยังไง”
“โจวเฉิง แกถอย…….” ซูซีมู่ยังไม่ทันพูดจบ อยู่ดีๆโทรศัพท์ที่อยู่ในมือเขาก็ร้องขึ้นมา
ซูซีมู่ไม่ดูแม้แต่หน้าจอโทรศัพท์ รีบยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู “ฮัลโหล”
ในสายมีเสียงผู้ชายแปลกหน้าคนหนึ่งดังขึ้น “ประธานซู ผมอยากจะเจอคุณมานานแล้ว”
เสียงของชายแปลกหน้า ถึงกับทำให้ซูซีมู่ขมวดคิ้ว “แกเป็นใคร มีธุระอะไรกับฉัน”
“สมแล้วที่เป็นประธานซูของบริษัทซูซื่อ ตรงจริงๆเลยนะ…..” ชายแปลกหน้าเงียบไปไม่นาน ก่อนจะพูดต่อ “ได้ยินว่าประธานซูกำลังตามหาคุณนายของเขาอยู่”
เฟยเอ๋องั้นหรอ คิ้วได้รูปของซูซีมู่ขมวดเข้าหากันแน่น “แกรู้หรอว่าเฟยเอ๋ออยู่ไหน”
คนแปลกหน้าที่อยู่ในสายไม่ได้ตอบคำถามของซูซีมู่ แต่กลับย้อนถามกลับด้วยเสียงยิ้มเยาะ “ประธานซูคิดว่ายังไงล่ะ”
ทันทีได้ยินคำพูดของฝ่ายตรงข้าม สีหน้าของซูซีมู่ เพียงชั่วพริบตาก็กลับกลายเป็นเยือกเย็น กำโทรศัพท์ในมือแน่น “แกหมายความว่า…..เธออยู่ในมือแกอย่างงั้นหรอ”
“แปะๆๆ….ประธานซูสมกับที่เป็นท่านประธานของบริษัทซูซื่อ ผมพูดออกไปแค่สองประโยค ประธานซูก็รู้เรื่องหมดซะแล้ว” ฝ่ายตรงข้ามปรบมือพร้อมตอบด้วยน้ำเสียงแปลกๆ
สีหน้าของซูซีมู่ทั้งมืดทั้งเย็นยิ่งกว่าน้ำแข็งพันปี เขาส่งสัญญาณผ่านสายตาให้โจวเฉิง โจวเฉิงรีบควักมือถือออกมา ก่อนจะกดโทรออก
ซูซีมู่พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิม “แกคิดว่าฉันจะเชื่อคำพูดไม่มีมูลของแกอย่างงั้นหรอ”
“ถ้าประธานซูไม่เชื่อคำพูดของผมล่ะก็ ก็รอดูผลที่ตามมาก็แล้วกัน……” ในสายเงียบไป ก่อนที่น้ำเสียงเรียบๆก่อนหน้าจะเปลี่ยนเป็นโหดเหี้ยมอำมหิต “คุณนายทั้งสาวทั้งสวย แถมยังเป็นผู้หญิงของประธานซูอีก ประธานซูว่าจะมีคนมากแค่ไหนกันเชียวที่อยากจะหลับนอน……” เขายังพูดไม่จบ ซูซีมู่ก็แทรกขึ้นทันที “แกอยากได้อะไร”
“เหอะ เหอะ……ประธานซูรักคุณนายมากจริงๆซะด้วย!” คนในสายหัวเราะเหอะๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นจริงจัง “ประธานซู หลังจากนี้ครึ่งชั่วโมง คุณมาเจอผมที่ดาดฟ้าของคลับจิ๋วติ่ง แน่นอนว่าถ้าประธานซูเล่นตุกติกขึ้นมาล่ะก็ ผมก็คงจะต้อง…..ทำให้คุณนายเสียใจ”
ทันทีที่ฝ่ายตรงข้ามพูดจบ ซูซีมู่เปิดปากพูดอย่างไม่ช้าไม่เร็ว “ฉันจะไปเจอแกตรงเวลาแน่นอน แต่ทางที่ดีแกรับปากฉันมาว่าเธอจะไม่เป็นอะไร ไม่งั้นล่ะก็ ฉันจะทำให้แกรู้ว่าแกต้องเจอกับอะไร”
ฝั่งนั้นไม่แคร์ว่าซูซีมู่จะพูดว่าอะไรด้วยซ้ำ พลางพูดพร้อมหัวเราะเสียงดัง “งั้นผมจะรอประธานซูก็แล้วกัน” ก่อนจะตัดสายไป
ซูซีมู่วางโทรศัพท์ลงด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก สายตามองไปทางโจวเฉิง
โจวเฉิงรีบตอบ “คุณชายลู่บอกว่าเขาคือคุณชายบ้านหวัง”
บ้านหวังในจินดูอย่างงั้นหรอ นัยย์ตาของซูซีมู่เย็นลงยิ่งกว่าเดิม พูดประโยคหนึ่งว่า “ฉันรู้แล้ว” ก่อนจะเดินออกไปข้างนอก
เห็นซูซีมู่เดินออกไป โจวเฉิงก็รีบพูดอย่างร้อนรน “ประธานซู จะไปไหนน่ะครับ คุณชายลู่บอกว่าบ้านลู่จะช่วยเจรจาต่อรองกับบ้านหวังให้ท่าน แล้วพาคุณนายกลับมาให้ได้”
ฝีเท้าของซูซีมู่ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเดินออกไปทางข้างนอกพลางพูด “แกโทรหาลู่ยู่ซะ บอกว่าฉันจะจัดการบ้านหวัง บอกเขาให้บ้านลู่ช่วยเตรียมกำลังเสริม