งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 224
บทที่ 224 ทำไมถึงอ้วกล่ะ?
หลังจากทานอาหารค่ำเสร็จ ซูซีมู่ก็กลับไปยังห้องอ่านหนังสือชั้นบนแล้ว
ผ่านไปไม่นาน เขาก็ถือหนังสือเรียนภาษาฝรั่งเศสพื้นฐาน ลงมาจากชั้นบน แต่กลับไม่เห็นโล่เฟยเอ๋อ
หลังจากถามคนใช้ ถึงรู้ว่าโล่เฟยเอ๋อกลับไปในห้องแล้ว ซูซีมู่จึงถือหนังสือ ไปหาโล่เฟยเอ๋อที่ห้องของเธอ
การเคาะประตูห้อง ด้านในไม่มีเสียงตอบรับใดๆทั้งสิ้น
ซูซีมู่ขมวดคิ้วขึ้น แล้วก็บิดลูกบิดเปิดประตู เข้าไปข้างใน
ด้านในห้องไม่มีใคร ตาได้ยินเสียงน้ำที่ดังมาจากในห้องน้ำ
ถึงว่า ไม่มีเสียงตอบรับ ที่แท้ก็อยู่ในห้องน้ำนี่เอง ซูซีมู่เม้มปาก แล้วนั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะ รอโล่เฟยเอ๋อออกมา
ผ่านไปไม่นาน ก็มีเสียงเปิดประตูดังมาจากทางห้องน้ำ
ซูซีมู่หันหน้าไปมองโดยอัตโนมัติของเขา ก็ได้เห็นโล่เฟยเอ๋อสวมเสื้อเชิ้ตยาวประมาณถึงสะโพกได้เดินออกมาจากห้องน้ำ เสื้อยืดถูกดึงขึ้นขึ้นเป็นช่วงๆ ทำให้เห็นสะโพกได้ไม่ค่อยชัดเจน มันดูเซ็กซี่และเร้าใจมาก
โล่โฟยเอ๋อสบตากับซูซีมู่ เธอเงิบก่อนเลย จากนั้นก็เหมือนนึกอะไรขึ้นได้แก้มทั้งสองข้างก็เริ่มแดงทันที เธอรีบหันหลังแล้ววิ่งเข้าไปในห้องอาบน้ำอย่างว่องไว
ตาดำๆคู่นั้นบ่งบอกถึงท่าทีของเธอ ที่วิ่งหนีไปอย่างกระเจิดกระเจิง เหมือนสัตว์ตัวน้อยเลย ซูซีมู่เพิ่งจะดึงสติกลับมาได้เมื่อกี้ตนได้จ้องโล่เฟยเอ๋ออยู่ตั้งนาน ใบหน้าที่ขาวเนียนก็เริ่มแดงตาม
เขารีบวางหนังสือไว้บนโต๊ะ แล้วออกไปจากห้องของโล่เฟยเอ๋อ
ตลอดทางที่ซูซีมู่เมื่อกลับไปยังห้อง ในสมองของเขาก็มีแต่ภาพที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
มันทำให้เกิดแรงกระตุ้นและความรู้สึกร้อนวูบวาบอย่างบอกไม่ถูก มันลุกลนไปทั่วทั้งตัวของเขา สุดท้ายแล้วเมื่อเขากลับไปถึงห้อง ก็เดินเข้าไปในห้องน้ำโดยตรง…..
โล่เฟยเอ๋ออยู่ในห้องน้ำ แต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ก็เดินออกมา แต่กลับไม่เห็นซูซีมู่ เห็นแต่หนังสือหลายเล่มที่วางไว้บนโต๊ะ
เขายักคิ้วขึ้นอย่างประหลาดใจ แล้วถือหนังสือขึ้นมาพลิกดู พบว่าเป็นภาษาฝรั่งเศสหมดเลย
หนังสือยังใหม่อยู่ ด้านในยังมีสัญลักษณ์ที่ใช้ปากกาแดงจดบันทึกไว้
โล่เฟยเอ๋อดูออกตั้งแต่เห็นครั้งแรก ว่าตัวหนังสือลายมือพลิ้วไหวแบบนี้ต้องเป็นลายมือของซูซีมู่แน่นอน
เธอจำได้ว่าตอนที่เธอออกมาจากห้องน้ำ ในมือของซูซีมู่กำลังถืออะไรอยู่ ต้องเป็นหนังสือพวกนี้แน่ๆ
หนังสือเรียนภาษาฝรั่งเศสพวกนี้ เขาเป็นคนหามาให้เธอเองสินะ
โล่เฟยเอ๋อจ้องหนังสือในมืออยู่พักนึง ก็สุดท้ายก็ตัดสินใจไปขอบคุณซูซีมู่ต่อหน้าด้วยตนเอง
ซูซีมู่ไปเปิดประตูห้องด้วยใบหน้าที่เปียกน้ำ เสื้อเชิ้ตก็เปียกไปเกือบหมดแล้ว พอเห็นโล่เฟยเอ๋อก็ถึงกับตะลึงก่อน แล้วก็หลบสายตาไป ไม่กล้ามองเธอ “คุณมีธุระอะไรหรือเปล่า?”
โล่เฟยเอ๋อตอบพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย “ฉันมาขอบคุณนายที่อุตส่าห์เอาหนังสือพวกนั้นมาส่งให้ฉันบนห้องค่ะ”
“ไม่เป็นไร” ซูซีมู่ส่ายหน้าไปเรื่อย
โล่เฟยเอ๋อ’อืม’1คํา แล้วกล่าว:”งั้นฉันขอตัวกลับห้องก่อนแล้วนะคะ”
“ครับ” ซูซีมู่พยักหน้า แล้วปิดประตูห้องทันที
จ้องมองประตูที่ซูซีมู่ปิดแน่น โล่เฟยเอ๋อก็รู้สึกแปลกเล็กน้อย
เธอจับจมูก แล้วกลับไปที่ห้องของตน
ช่วงวันหยุดในอาทิตย์นี้ โล่เฟยเอ๋อจะเรียนภาษาฝรั่งเศสด้วยตนเองในช่วงกลางวัน และช่วงกลางคืนเธอจะวิดีโอคอลล์เรียนรู้กับอาจารย์ไค่ตี้ ในทุกๆวัน
การตั้งใจฝึกฝนเรียนรู้ในทุกๆวัน กับช่วงวันหยุด1อาทิตย์ก็ได้ผ่านไป
พอถึงวันที่ต้องไปทำงานแล้ว เธอก็ไปที่ฝึกอบรมพิเศษตามเคย
พ่อเพิ่งเข้าไปจากประตู คาริน่าก็บอกกับเธอว่า เย่รู่ไป๋ต้องการพบเธอ
ในสมองโล่เฟยเอ๋อเต็มไปด้วยความสงสัย เดินไปหาเขาที่ออฟฟิศของเย่รู่ไป๋
หลังจากโล่เฟยเอ๋อเข้าไปในออฟฟิศ เย่รู่ไป๋ก็ไม่พูดอะไร ได้แต่จ้องมองเธออย่างไม่กะพริบตา
โล่เฟยเอ๋อถูกต้องจนหนังศีรษะชาไปหมด เธอจับจมูกแล้วถาม “ผู้จัดการคะ ที่คุณเรียกดิฉันมาพบมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ?”
เย่รู่ไป๋ไม่ได้ตอบอะไรโล่เฟยเอ๋อ เพียงแต่ถามว่า “ทำไมคุณไม่เข้าร่วมการประกวดละ?”
การประกวด? โล่เฟยเอ๋อเงิบไปพักนึง แล้วจึงค่อยนึกขึ้นได้ว่าการประกวดที่เย่รู่ไป๋บอกนั่นหมายถึงอะไร
“คือว่า……ผู้จัดการคะ ไม่มีชื่อของดิฉันในรายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมการประกวดค่ะ”
เย่รู่ไป๋ไถ่ถามโล่เฟยเอ๋อย่างอารมณ์ร้อน “ผมรู้ว่ารายชื่อของคุณถูกผมคัดออกแล้ว แต่ว่าผู้ช่วยโจวได้เตรียมโควต้าที่สำหรับสิทธิ์เข้าร่วมการประกวดให้คุณแล้ว ทำไมคุณถึงไม่ไปล่ะ?”
โล่เฟยเอ๋องงกับการไถ่ถามของเย่รู่ไป๋มาก สีหน้าประหลาดใจมาก “เอิ่ม…..ผู้ช่วยโจวไม่ได้เตรียมโควต้าการเข้าประกวดให้ดิฉันนิคะ?”
เย่รู่ไป๋ได้ยินที่โล่เฟยเอ๋อพูด ถึงรู้ว่า โล่เฟยเอ๋อไม่ได้ขอโควต้าการประกวดกับผู้ช่วยโจว ตนเป็นคนคิดมากไปเอง
“ในเมื่อผู้ช่วยโจวก็ไม่ได้เตรียมโควต้าการประกวดให้คุณ แล้วตอนนั้นทำไมคุณต้องปฏิเสธที่จะให้ผมไปยื่นขอโควต้าการประกวดให้คุณน่ะ?”คำพูดนี้ของเย่รู่ไป๋เขาพูดออกมาแบบกัดฟันพูดเลยทีเดียว
โล่เฟยเอ๋อนึกแล้วตอบว่า “ฉันรู้สึกว่าฝีมือของฉันยังไม่ดีพอที่จะเข้าร่วมการประกวดค่ะ”
คำพูดนี้ทำไมมันคุ้นหูจัง ใช่แล้ว ก่อนหน้านี้ที่เขาคัดรายชื่อผู้เข้าประกวดของโล่เฟยเอ๋อออก ได้บอกว่าเธอยังไม่มีคุณสมบัติที่ดีพอสำหรับการเข้าร่วมการประกวด
ณ เวลานี้เย่รู่ไป๋รู้สึกเหมือนยกก้อนหินมากระแทกเท้าตนเอง
โล่เฟยเอ๋อ นี่คุณกำลังประท้วงเรื่องที่ผมคัดรายชื่อผู้เข้าประกวดของคุณออกนั่นหรอ
“โล่เฟยเอ๋อส่ายหน้าด้วยสีหน้าปกติ” ไม่เลยค่ะ”
เห็นโล่เฟยเอ๋อทำท่าทีปกติแบบนี้ เย่รู่ไป๋รู้สึกอยากจะอ้วกมาก
เขาก็รู้สึกเสียใจไม่น้อย ที่ตอนนั้นได้คัดรายชื่อผู้เข้าร่วมการประกวดของโล่เฟยเอ๋อออก ทำให้เธอไม่สามารถเข้าร่วมการประกวดได้ เขาคิดในใจว่า ต่อไปต้องหาโอกาสชดเชยให้โล่เฟยเอ๋อซะแล้ว
นักออกแบบของทางบริษัทที่เข้าร่วมการประกวดแล้วได้รับสิทธิ์เข้าร่วมการประกวดเครื่องประดับระดับโลกต้องเรียนเต็มวันในห้องคลาสฝึกอบรมพิเศษ และโล่เฟยเอ๋อก็ไม่มีออฟฟิศ ก็เลยต้องเรียนรู้ร่วมกับพวกเขาไป
ตอนกลางวันก็เรียนทั้งวัน ฉันต้องการคืนก็ต้องรับไปเรียนภาษาฝรั่งเศส เรียนคาบเรียนของอาจารย์ไค่ตี้ โล่เฟยเอ๋อจะไม่ยุ่งได้ยังไงล่ะ?
เธอถึงกับอ่อนระโหยโรยแรง มีอาการเบื่ออาหารด้วย
โล่เฟยเอ๋อใช้ตะเกียบคีบกับข้าวในถ้วย ก็ไม่รู้สึกอยากอาหารเลยแม้แต่น้อย
ซูซีมู่ที่อยู่ด้านหน้าเธอได้แอบมองท่าทีของเธอ แล้วขมวดคิ้ว “เป็นอะไร?อาหารไม่อร่อยเหรอ?”
“ไม่เป็นไรค่ะ”โล่เฟยเอ๋อส่ายหน้า แล้วคีบข้าวเข้าปากตนเองเล็กน้อย
ซูซีมู่โค้งมุมปากเล็กน้อย แล้วจับตะเกียบกลางขึ้น คีบท้องปลาที่โล่เฟยเอ๋อชอบทานมาใส่ถ้วยใส่ข้าวของโล่เฟยเอ๋อ “อย่าเอาแต่ทานแต่ข้าวสิ ทานกับข้าวด้วย”
“ค่ะ”โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า คีบท้องปลาขึ้นใส่เข้าปาก
ท้องปลาที่โล่เฟยเอ๋อชอบมากที่สุด ทุกครั้งที่ทานข้าว ท้องปลาจะต้องเอาเข้าปากเธออย่างแน่นอน
แล้ววันนี้ไม่รู้ว่าทำไม หลังจากที่โล่เฟย์เอ๋อคีบท้องปลาเข้าปาก ก็รู้สึกไม่สบายกระเพาะเลย
หลังจากที่ฝืนกลืนท้องปลาเข้าไปแล้ว เธอรู้สึกคลื่นไส้อย่างหนัก
โล่เฟยเอ๋อรีบวางตะเกียบลง แล้ววิ่งไปยังห้องน้ำ
ซูซีมู่เห็นปฏิกิริยาการตอบสนองของเธอที่กะทันหันแบบนี้ ก็รู้สึกแปลกใจ รีบวางตะเกียบลง แล้วตามไปที่ห้องน้ำ
พอเข้าไปปุ๊บ ก็เห็นโล่เฟยเอ๋อกำลังอ้วกใส่อ่างล้างมือ
ซูซีมู่ขมวดคิ้วอย่างแรง แล้วเดินเข้าไป ลูบหลังให้โล่เฟยเอ๋อเบาๆ เพื่อให้เธอรู้สึกสบายขึ้น แล้วถามว่า “ทำไมถึงอ้วกล่ะ?”
โล่เฟยเอ๋ออ้วกน้ำเปรี้ยวๆในลำคอออกมาจนหมด เปิดก๊อกน้ำ ใช้มือตักน้ำบ้วนปากเสร็จ แล้วจึงตอบไปว่า” ไม่เป็นไร แค่ไม่สบายท้องนิดหน่อย ”
ซูซีมู่หยิบผ้าขนหนูจากราวแขวนมา1ผืนแล้วยื่นให้โล่เฟยเอ๋อ กล่าว”ไม่สบายท้อง?ผมให้หมอเฉิงมาดูอาการให้นะ
“อยากให้คุณหมอต้องลำบากมาที่นี่เลย เพราะช่วงนี้ฉันทำงานเหนื่อยเกินไป พักผ่อนก็ไม่เป็นไรแล้ว” โล่เฟยเอ๋อส่ายหน้าปฏิเสธ
ซูซีมู่คิดภาพเมื่อหลายวันมานี้ โล่เฟยเอ๋อยุ่งทั้งกลางวันกลางคืน คิดว่าน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้ ก็เลยกล่าวว่า:”งั้นเดี๋ยวคุณพักผ่อนดีๆล่ะ”
“โอเค ค่ะ”โล่เฟยเอ๋อพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
ซูซีมู่พยักหน้าอย่างพอใจ แล้วกล่าวเหมือนนึกอะไรขึ้นได้บางอย่าง:”และคาบเรียนทางวีดีโอกับอาจารย์ไค่ตี้ ก็หยุดสักพักก่อน
โล่เฟยเอ๋อลังเลแล้ว “เอ่อ…..”
“อึ๋ง? คุณยังคิดจะเรียนตรงกลางคืนด้วยหรอ?”ซูซีมู่มองโล่เฟยเอ๋ออย่างลึกซึ้ง
โล่เฟยเอ๋อรีบส่ายหน้า “ไม่ใช่ ไม่เลยค่ะ”
ทั้งสองคนกลับไปที่ห้องรับประทานอาหาร แล้วทานข้าวต่อ
พ่อทานข้าวเรียบร้อยแล้ว โล่เฟยเอ๋อก็ถูกซูซีมู่ส่งกลับเข้าห้องไปพักผ่อน
โล่เฟยเอ๋อยังคิดจะรอให้ซูซีมู่ออกไปก่อนแล้วแอบวีดีโอคอลล์เรียนกับอาจารย์ไค่ตี้
แต่นึกไม่ถึงว่า ซูซีมู่ยังจงใจโทรหาอาจารย์ไค่ตี้ต่อหน้าเธอโดยเฉพาะ แล้วช่วยเธอลาหยุด
ช่วยไม่ได้ โล่เฟยเอ๋อทำได้เพียงหลับตานอนแต่โดยดี
ทีแรกโล่เฟยเอ๋อยังคิดว่าเวลาเช้าขนาดนี้ ตนเองคงนอนไม่หลับแน่ๆ
จะคิดไม่ถึงว่า เธอเพิ่งหลับตาไปไม่นาน ก็หลับไปเลย
เช้าวันต่อมาก็เป็นคนใช้ที่มาเรียกให้เธอตื่น
ซูซีมู่มีประชุมเช้า ก็เลยไปบริษัทตั้งแต่เช้า บนโต๊ะอาหารมีแต่โล่เฟยเอ๋อคนเดียว
โล่เฟยเอ๋อฝืนดื่มโจ๊กไปได้ครึ่งถ้วย ส่วนเส้นหมี่และเกี๊ยวที่ปกติเธอชอบทานมาก เธอไม่ทานเลยแม้แต่คำเดียว
หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ โล่เฟยเอ๋อไปบริษัทอย่างมึนๆเบลอๆ
ซูซีมู่ไปทำงานที่บริษัทตั้งแต่เช้าแล้ว แต่ในใจกลับเป็นห่วงโล่เฟยเอ๋อตลอดเวลา
พอทำธุระเสร็จ เขาก็รีบใช้เวลาว่างโทรหาโล่เฟยเอ๋อทันที “เฟยเอ๋อ วันนี้รู้สึกสบายขึ้นหรือยัง?”
“ยังไม่สบายอยู่เลย เดี๋ยวหลังเลิกงาน ฉันค่อยไปซื้อยารักษาโรคกระเพาะมาลองกล่องนึงดูก่อน ” โล่เฟยเอ๋อนอนฟุบบนโต๊ะ ตอบอย่างอ่อนระโหยโรยแรง
เมื่อได้ยินเสียงที่อ่อนแรงของโล่เฟยเอ๋อ สีหน้าของซูซีมู่ก็เข้มขึ้นแล้วกล่าว:” งั้น ให้ผมไปรับคุณไปตรวจที่โรงพยาบาลดีกว่านะ”
“ไม่ต้องตรวจหรอก ฉันกินยาโรคกระเพาะก็ได้แล้ว” โล่เฟยเอ๋อปฏิเสธไปโดยไม่คิดอะไรเลย
ซูซีมู่รีบกล่าวว่า :”ผมช่วยคุณซื้อยารักษาโรคกระเพาะ แล้วไปส่งให้คุณนะ”
เมื่อได้ยินที่ซูซีมู่พูด โล่เฟยเอ๋อถึงกับพูดอะไรไม่ออก ” คุณไม่ต้องมาส่งให้ฉันหรอก เดี๋ยวหลังเลิกงานฉันไปซื้อเองดีกว่า”
ถึงแม้โล่เฟยเอ๋อจะเน้นย้ำว่าหลังเลิกงาน จะไปซื้อยารักษาโรคกระเพาะด้วยตนเอง แต่ตอนที่ซูซีมู่เลิกงาน แล้วผ่านร้านยา ก็ให้โจวเฉิงจอดรถเหมือนเดิม
ซูซีมู่เห็นป้ายร้านของร้านขายยา แล้วออกคำสั่ง:”จอดรถก่อน”
โจวเฉิงมองถนนการค้าที่อยู่ข้างๆ ความคิดแรกในสมองของเขาก็คือซูซีมู่ต้องการซื้อของอะไร
พอจอดรถ เขาถึงถาม” ประธานซู ท่านต้องการซื้ออะไร เดี๋ยวผมไปซื้อให้เองครับ”
“ผมไปเองดีกว่า”ซูซีมู่พูดคำนี้จบก็เปิดประตูรถ ลงจากรถ แล้วเดินไปยังร้านขายยาทันที
ยารักษาโรคกระเพาะมีหลายยี่ห้อ ซูซีมู่ไม่รู้ว่าควรซื้อแบบไหนดี สุดท้ายเขาก็เลยซื้อยี่ห้อละ1กล่องทุกอัน
แล้วจ่ายเงินกับพนักงานกำลังมองด้วยสายตาแปลกๆ หิ้วยารักษาโรคกระเพาะถุงใหญ่แล้วออกจากร้านขายยาไป