งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 239
บทที่ 239 มื้อค่ำที่สุดแสนโรแมนติกในวันแห่งความรัก
ซูซีมู่ออกมาจากลิฟต์ ก็เห็นโล่เฟยเอ๋อที่ก้มหน้าก้มตามองพื้นยืนอยู่ที่หน้าประตูใหญ่ของบริษัท
เขานิ่งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็เดินเข้าไปหาโล่เฟยเอ๋อ
เดินไปจนอยู่ห่างจากโล่เฟยเอ๋อประมาณหนึ่งเมตร เขาก็หยุดเดิน
รู้สึกได้ว่ามีเงาอะไรอยู่บนหัว โล่เฟยเอ๋อจึงได้เงยหน้าขึ้นมา สบตากับสายตาของซูซีมู่ที่จ้องมองอยู่พอดี
นัยน์ตาดำเข้มของซูซีมู่ สะกดให้โล่เฟยเอ๋อไร้ซึ่งแรงต้านทานใด ๆ
ราวกับวินาทีนั้น มองจนสติหลุดลอย
มองไปที่นัยน์ตาของคนรัก เห็นแต่ตัวเอง ไม่มีใครอื่น ซูซีมู่ก็รู้สึกเหมือนปวดท้องน้อยขึ้นมา
เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ จากนั้นก็ละสายตาไปทางอื่นอย่างไม่เป็นธรรมชาติ แล้วเอ่ยถาม “ทำไมถึงยืนอยู่ด้านนอก ไม่ขึ้นไปด้านบนล่ะ”
ได้ยินเสียงของซูซีมู่ โล่เฟยเอ๋อถึงมีสติขึ้นมาว่าตัวเองเผลอจ้องมองซูซีมู่อยู่ จึงลุกลี้ลุกลนหันสายตาไปทางอื่น
“เอ่อ…ฉันกลัวว่าเข้าไปด้านในแล้วจะรบกวนนายทำงาน”
“ไม่เลย” ซูซีมู่พูดออกมาได้สองคำ ก็คิดอะไรแล้วพูดเสริมขึ้น “ครั้งหน้า ฉันอาจจะไม่ได้ลงมาหาเร็วขนาดนี้ ถ้าเธอมาที่นี่ ก็ขึ้นไปด้านบนได้เลย”
เขาหันมามองโล่เฟยเอ๋อ แล้วพูดต่ออีกว่า “ฉันจะให้โจวเฉิงสั่งพนักงานต้อนรับไว้ ว่าให้เธอเข้าไปได้เลย”
เธอไปที่ห้องทำงานเขาแบบนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่หรอกมั้ง โล่เฟยเอ๋ออยากจะถามซูซีมู่แบบนี้ แต่คิดไปคิดมา ก็ไม่ได้เอ่ยถามออกไป ได้แต่พยักหน้า “ได้ค่ะ”
ซูซีมู่ตอบ “อืม” แล้วเดินไปทางประตูใหญ่
โล่เฟยเอ๋อถือกระเป๋าแล้วตามไป
คนขับรถหลี่กำลังรออยู่ที่รถ เมื่อซูซีมู่ออกมา ก็รีบทักทายด้วยความเคารพ “ประธานซูครับ”
“เอากุญแจให้ฉัน เดี๋ยวนายเรียกรถแท็กซี่กลับไปละกัน” ซูซีมู่กล่าว
“ครับ ประธานซู” คนขับรถหลี่ยื่นกุญแจรถให้อย่างนอบน้อม
ซูซีมู่รับกุญแจรถมา ปลดล็อครถ แล้วเปิดประตูด้านข้างคนขับออก
รอโล่เฟยเอ๋อขึ้นไปนั่งฝั่งข้างคนขับ เขาจึงเดินอ้อมรถ ไปนั่งที่คนขับ
จากนั้นก็สตาร์ทรถ หมุนพวงมาลัย ขับออกจากโรงจอดรถของบริษัทซูซื่อ
ฟ้ามืดแล้ว แสงนีออนสว่างไสว ค่ำคืนวันแห่งความรักเพิ่งเริ่มต้นขึ้น
โล่เฟยเอ๋อนั่งพิงเบาะรถ มองไปที่นอกหน้าต่างเงียบ ๆ ราวกับกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ก็เหมือนเหม่อมองโดยไม่ได้คิดอะไร
จนเมื่อซูซีมู่จอดรถ เธอถึงหยุดเหม่อ
และเห็นป้ายโรงแรมบั้นเต๋า
สำหรับโล่เฟยเอ๋อนั้น โรงแรมบั้นเต๋าเป็นสถานที่ที่พิเศษมาก ที่นี่ เป็นที่ที่เธอกับซูซีมู่พบกันครั้งแรก
ทำไมซูซีมู่ถึงได้พาเธอมาที่นี่นะ มีธุระอะไรต้องทำเหรอ
“นายมาทำธุระที่นี่เหรอ”
ซูซีมู่ตอบกลับเพียง อืม แบบคลุมเครือ แล้วดับเครื่องยนต์ เปิดประตูลงจากรถ
โล่เฟยเอ๋องุนงงชั่วขณะ แล้วก็ตามลงไป
สองคนเดินตามกันเข้าไปในโถงของโรงแรมบั้นเต๋า เมื่อเข้าไป ผู้จัดการโรงแรมก็เข้ามาต้อนรับแล้วพาไปชั้นบน
“ประธานซู”
ซูซีมู่พยักหน้า แล้วถามว่า “เตรียมเรียบร้อยหรือยัง”
ผู้จัดการมองไปที่โล่เฟยเอ๋อที่อยู่ด้านหลังซูซีมู่ จากนั้นก็พยักหน้า “เรียบร้อยแล้วค่ะ”
“อืม นำทางไปได้เลย” ซูซีมู่พูดอย่างเรียบ ๆ
“ได้ค่ะ” ผู้จัดพยักหน้า แล้วเดินนำไปด้วยท่าทีสุภาพ
ซูซีมู่และโล่เฟยเอ๋อเดินถามผู้จัดการไป จนถึงชั้นบนสุดของโรงแรมบั้นเต๋า
เมื่อเทียบกับด้านล่างที่คึกคักแล้ว ชั้นบนสุดนี่ดูเงียบเหงาเป็นพิเศษ
ผู้จัดการนำทางซูซีมู่และโล่เฟยเอ๋อไปยังห้องชุดที่เขาจองเอาไว้ ผลักประตูไม้เปิดออก เดินเข้าไปเปิดไฟ ไฟประดับสว่างไสวขึ้นมาแลดูงดงามมาก
“เชิญค่ะ” ผู้จัดการผายมือเชิญซูซีมู่และโล่เฟยเอ๋อเข้าไปด้านใน
รอทั้งสองคนเข้าไปในห้องก่อน ผู้จัดการถึงเดินตามเข้าไป แล้วนำพวกเขาเดินต่อไปยังห้องอาหาร
โต๊ะหินอ่อนสไตล์ยุโรปในห้องอาหารนั้น มีอาหารค่ำมากมายหลายอย่างวางอยู่ อีกทั้งมีเทียนที่สว่างไสวด้วย
เมื่อผู้จัดการนำพวกเขามาถึงห้องอาหาร ก็ออกจากห้องชุดไป ตอนที่ออกจากห้อง ก็เปิดไฟหลากสีสันในห้องนั้นให้สว่างทุกดวง
ในขณะนี้ มีเพียงแสงสว่างจากเปลวเทียนบนโต๊ะที่กำลังปลิวไหว ดูโรแมนติกมากเป็นพิเศษ นั่นทำให้ใจของโล่เฟยเอ๋อเต้นแรงขึ้นมา
“นาย…” ขณะที่โล่เฟยเอ๋อกำลังจะเอ่ยปากถามว่าทำไมซูซีมู่ถึงทำอะไรแบบนี้เป็นด้วย ซูซีมู่ก็เอ่ยขึ้นมาก่อนว่า “มีอะไรจะให้เธอดู”
คำพูดของซูซีมู่ ทำให้โล่เฟยเอ๋ออยากรู้ขึ้นมาทันที “อะไรเหรอ”
ซูซีมู่ยิ้มออกมา จากนั้นก็เดินไปที่หน้าต่างที่เป็นกระจกทั้งบานยาวถึงพื้น กดสวิตช์ที่อยู่บนกำแพง
ไม่กี่วินาที เพดานที่อยู่ด้านบนก็หายไป กลายเป็นท้องฟ้าสดใส
โล่เฟยเอ๋ออึ้งจนอ้าปากค้าง “ท้องฟ้ายามค่ำคืนนี่ของจริงหรือของปลอมเนี่ย”
“ของจริง” ซูซีมู่ยิ้มแล้วพูดว่า : “นี่เป็นทิวทัศน์สุดพิเศษของโรงแรมบั้นเต๋า ทั้งเมือง A มีเพียงโรงแรมบั้นเต๋าเท่านั้นที่มีแบบนี้”
ซูซีมู่ไม่ได้บอกโล่เฟยเอ๋อ ว่านี่คือความโรแมนติกของห้องคู่รักในโรงแรมบั้นเต๋า
“สวยจัง” โล่เฟยเอ๋อแหงนหน้าขึ้น มองไปยังท้องฟ้ายามค่ำคืน
ซูซีมู่เอ่ย “ถึงจะสวยขนาดไหน ก็ต้องทานข้าวก่อน ไว้ทานไปดูไป”
“ทราบแล้วค่ะ” โล่เฟยเอ๋อตอบอย่างเสียไม่ได้
ซูซีมู่ฉีกยิ้ม จากนั้นก็หยิบตะเกียบมาคีบอาหารให้โล่เฟยเอ๋อ
โล่เฟยเอ๋อก้มหน้าทานอาหารในถ้วย แววตาเป็นประกายแวววาว
เธอรู้ว่าซูซีมู่ทำแบบนี้ไม่ได้คิดอะไร เพียงแค่พาเธอมาทานข้าวเท่านั้น แต่เธอก็แกล้ง แกล้งทำเหมือนว่าซูซีมู่ตั้งใจเตรียมมื้อค่ำแสนโรแมนติกนี้เพื่อฉลองวันแห่งความรักกับเธอ
เมื่อทานมื้อค่ำเสร็จ โล่เฟยเอ๋อก็ดื่มนมพลาง มองท้องฟ้าพลาง
ซูซีมู่จ้องเธออยู่ค่อนข้างนาน จากนั้นก็หยิบเอาถุงที่เตรียมไว้อย่างดีออกมา ยื่นไปตรงหน้าโล่เฟยเอ๋อ พูดน้ำเสียงนุ่มนวลอ่อนหวาน “ให้เธอ”
ท่าทีของซูซีมู่นั้นนิ่งเฉยมาก แต่ที่จริงในใจเขาตื่นเต้นเป็นที่สุด
การฉลองนี้ ในช่วงสองวันมานี้ เขาตั้งใจเตรียมอย่างดี
ที่จริงแล้ว เขายังคงตื่นเต้นมาก
เขากังวลว่าโล่เฟยเอ๋อจะปฏิเสธของขวัญชิ้นนี้ นี่ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่เขาตั้งใจ ใช้หัวใจที่รักเธอ เตรียมของขวัญให้เธอ
โล่เฟยเอ๋อมองถุงกระดาษในมือซูซีมู่ สมองตื้อตึงไปหมด คนก็ดูเหม่อ ๆ ดูน่ารักน่าชังทีเดียว
ซูซีมู่มองท่าทางน่ารักน่าชังของโล่เฟยเอ๋อ ใจก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมา เอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “ตอนไปทำงานต่างถิ่นแล้วเห็นเข้าพอดี เลยซื้อมาให้เธอ”
“ขอบคุณนะ” โล่เฟยเอ๋อยื่นมือไปรับของขวัญจากมือซูซีมู่ แล้วค่อย ๆ แกะออกอย่างระมัดระวัง
แกะของขวัญต่อหน้าคนอื่น ที่จริงดูเสียมารยาทมาก
แต่โล่เฟยเอ๋อไม่สนเรื่องมารยาทแล้ว เธออยากดูว่าเป็นของขวัญอะไร
โล่เฟยเอ๋อแกะกล่องผ้าออก ทำให้เห็นของขวัญที่อยู่ด้านใน
เป็นไม้แกะสลักชิ้นหนึ่ง แกะสลักเหมือนคนมาก เหมือนโล่เฟยเอ๋อตัวจริงเลย
มองตุ๊กตาแกะสลักในมือที่แกะได้อย่างยอดเยี่ยมแล้ว โล่เฟยเอ๋อรู้สึกชอบเป็นอย่างมาก เธอยกมือขึ้นมาลูบผมตุ๊กตาเบา ๆ
ซูซีมู่มองโล่เฟยเอ๋อ เห็นเธอลูบคลำตุ๊กตาไม้ไม่ยอมวาง ก็รู้ได้ทันทีว่าเธอชอบมันมาก แต่ก็ยังถามออกไปว่า “ชอบไหม