งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 290
บทที่ 290 ต่างฝ่ายต่างไม่รู้ว่ารักกันมาก
ดวงตาของโล่เฟยเอ๋อพร่ามัวไปด้วยน้ำตา แต่เธอกลับไม่กล้ากะพริบตา เพราะกลัวว่าถ้ากะพริบตาแล้ว กระดาษในมือจะหายสาบสูญไป
“ความหวังสูงสุดในชีวิตก็คือ ผมได้ยืนอยู่ข้างๆคุณ ในฐานะของสามีที่แท้จริง
ความหวังที่สองคือ ได้กอดคุณ เรียกคุณว่าภรรยา
เฟยเอ๋อ คุณสามารถให้ความหวังสองข้อนี้กลายเป็นจริงได้ไหม?
เมื่ออ่านถึงประโยคสุดท้าย โล่เฟยเอ๋ออดไม่ได้ที่จะร้องไห้เสียงดังออกมา
ตุ๊กตาไม้ตัวนี้เขามอบให้เธอ ในวันแห่งความรักวันนั้น
เธอเชื่อในสิ่งที่เขาพูดอย่างโง่เขลา มันเป็นเพียงของขวัญที่เขาอยากมอบให้เธอมานานแล้ว
แต่กลับไม่รู้ว่า ในตุ๊กตาไม้ข้างในนี้ มีจดหมายที่เขาจะสารภาพกับเธอไว้ข้างใน
เธอเคยวาดฝันไว้นับครั้งไม่ถ้วน ว่าคงจะมีสักวันที่ซูซีมู่จะบอกรักเธอ
เมื่อถึงเวลานั้นเธอ ไม่รู้จะดีใจขนาดไหน มีความสุขขนาดไหน
แต่ในเวลานี้ โล่เฟยเอ๋อมีเพียงน้ำตา
เธออยากตอบเขา ฉันไม่เพียงชอบคุณ ฉันยังรักคุณอีกด้วย
และฉันรักคุณมาเป็นเวลานานแล้ว
เห็นได้ชัดว่าทั้งคู่รักกัน แต่เพราะความเข้าใจผิดที่มีมากมาย จึงทำให้ต่างฝ่ายต่างไม่รู้
ครั้งแรกที่เห็น เธอก็รู้สึกชอบเขา
หลังจากนั้นระหว่างที่อยู่ด้วยกัน ก็เริ่มตกหลุมรัก
เนื่องจากรักมาก จึงเลือกที่จะเดินจากไป
ได้แต่งงานกับเขาเป็นสิ่งที่ไม่คาดคิด แต่เธอแอบดีใจ เพราะจะไดเมีโอกาสได้ใกล้ชิดเขา
หลังแต่งานที่ระมัดระวังขนาดนั้น เป็นเพราะกลัวว่าการแต่งงานครั้งนี้จะหายไป
สิ่งที่เธอคิดมาโดยตลอดคือ เขาไม่รักเธอก็ได้ แค่เธอได้รักเขาอย่างสุดหัวใจก็พอ
แต่กลับไม่รู้ แท้จริงแล้วเขาก็รักเธอเหมือนกัน เพียงแค่เธอไม่รู้เท่านั้นเอง
เนื่องจากต่างฝ่ายต่างไม่เคยพูดออกมา พวกเขาจึงคลาดกันมาตลอด
โล่เฟยเอ๋อกำกระดาษไว้ในมือ แล้วร้องไห้โหออกมา
เธอร้องไห้เสียใจมาก ร้องไห้เสียใจเหมือนใจจะขาด ทำให้คนรับใช้และโจวเฉิงตกใจจนไม่กล้าเข้าใกล้
โล่เฟยเอ๋อร้องไห้อยู่อย่างนั้น แต่แล้วจู่ๆเธอก็ลุกขึ้นยืน
แล้วพูดกับโจวเฉิงอย่างร้อนรนว่า:“คุณโจว คุณพาฉันไปหาซูซีมู่ได้ไหม?”
ใช่ เธอจะไปหาซูซีมู่ เธอจะไปบอกเขา เธอก็รักเขาเหมือนกัน และรักเขามานานแล้ว
อย่างไรก็ตามโจวเฉิงไม่ได้คิดจะพาเธอไปหาซูซีมู่“ ต้องขอโทษด้วย ผมไม่รู้ว่าประธานซูอยู่ที่ไหน”
“คุณรู้ ในเมื่อคุณรู้ ทำไมถึงไม่ยอมบอกฉัน?ตอนแรกโล่เฟยเอ๋อร้อนรนกระวนกระวาย แต่ภายหลังก็เริ่มกลายเป็นขอร้อง“ฉันขอร้องคุณหล่ะ คุณพาฉันไปหาเขาได้ไหม? ได้โปรดเถอะคุณ”
เมื่อเห็นท่าทีของโล่เฟยเอ๋อที่ขอร้องตัวเอง โจวเฉิงใจอ่อนเล็กน้อย แต่เมื่อนึกถึงประธานซูที่เสียใจ สุดท้ายแล้วเขาก็ใจแข็งที่จะไม่ช่วย“คุณทำให้ประธานซูเสียใจขนาดนั้น คุณขอร้องผม ผมก็ไม่มีทางพาคุณไปหาเขาหรอก”
โล่เฟยเอ๋อมองไปที่โจวเฉิงอย่างตกใจ“เสียใจอย่างหนัก……เสียใจอย่างหนัก……”
เห็นโล่เฟยเอ๋อแสดงท่าทีที่ไม่เข้าใจออกมา ความโกรธของโจวเฉิงก็ระเบิดออกมาทันที
เขาเคยรับปากกับซูซีมู่ไว้ เรื่องเหล่านี้จะไม่มีวันบอกให้โล่เฟยเอ๋อรู้เด็ดขาด แต่ตอนนี้โจวเฉิงไม่สามารถควบคุมมันได้อีกต่อไป
“คุณไม่เชื่อประธานซู แต่เชื่อเห้อจิ้นเหยา คุณคิดว่าเห้อจิ้นเหยาดีกับคุณ เป็นห่วงคุณ รักและปกป้องคุณ แต่คุณรู้ไหมว่าประธานซูทุ่มแทห่วงใยคุณรักคุณมากแค่ไหน?”
“คุณถูกบริษัทดี้ก้วนใส่ร้ายว่าลอกเลียนแบบคนอื่น จากนั้นจู่ๆก็ถูกตรวจสอบชัดเจนว่าไม่ใช่ คุณคิดว่าเป็นเพราะผู้บริหารระดับสูงของบริษัทดี้ก้วนเป็นคนตรวจสอบชัดเจนเองอย่างนั้นเหรอ?
แท้จริงแล้วคือประธานซูโทรศัพท์หาผม ให้ผมไปตรวจสอบ หัวหน้าทีมและหัวหน้าแผนกออกแบบใส่ร้ายคุณ และถูกประธานซูขับไล่ออกจากวงการจิวเวลรี่
“คุณคิดว่าครั้งนั้นที่คุณถูกปล้นกลางถนน คือกู้ชิงหลันทำเหรอ?มันคือถังหซิวฉีว่าจ้างคนร้ายสามคน กะว่าจะทำลายคุณ แต่เป็นเพราะประธานซูใช้อำนาจบารมีของตระกูลซูถึงตามหาคุณเจอ คนร้ายตัวจริงอย่างถังหซิวฉีจึงได้รับบทเรียน ทำให้ตระกูลถังหายสาบสูญไปจากเมือง A ในชั่วค่ำคืน
เมื่อโล่เฟยเอ๋อได้ยินคำพูดของโจวเฉิง ดวงตายิ่งเบิกกว้างไปอีก เธอไม่รู้จริงว่ๆเบื้องหลังที่แท้จริงของเรื่องทั้งหมดเป็นแบบนี้นี่เอง
จากนั้นเธอก็ได้ยินอีกข่าวหนึ่ง ซึ่งร้ายแรงกว่าข่าวแรกอีก
“คุณรู้ไม่ว่าทำไมประธานซูไม่ชอบตระกูลโล่ ?เป็นเพราะโล่หยิวชิว โล่หยิวชิวครั้งแล้วครั้งเล่ากระตุ้นความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับท่านประธาน และยังให้คนติดตามพวกคุณอีก ที่สำคัญไปกว่านั้นคือยังโกหกพ่อของคุณว่า ประธานซูเป็นแฟนของเธอ และคุณเป็นคนแย่งแฟนของเธอไป ดังนั้นพ่อของคุณจึงได้บังคับให้คุณแต่งงาน ตอนแรกประธานซูคิดว่าไหนๆก็จะแต่งงานกับคุณแล้ว จึงไม่ถือสาอะไรกับเธอ แต่ในวันแต่งงานวันนั้น โล่หยิวชิวก่อเรื่องวุ่นวายให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ สุดท้ายทำให้ประธานซูไม่พอใจมาก เห้อจิ้นเหยากลัวว่าเธอจะถูกประธานซูจัดการ จึงรีบส่งเธอออกนอกประเทศ
เมื่อโล่เฟยเอ๋อได้ยินถึงตรงนี้ เอามือไปกุมที่อกไว้อย่างเจ็บปวด
ที่แท้เป็นแผนการของโล่หยิวชิวทั้งหมด เธอไม่เคยคบกับซูซีมู่มาก่อนเลย
ส่วนเธอก็เหมือนคนโง่มาตลอดที่คิดว่าโล่หยิวชิวเป็นแสงจันทร์สีขาวในดวงใจของซูซีมู่
โจวเฉิงไม่รู้ว่าความคิดของโล่เฟยเอ๋อตอนนี้เป็นยังไง เขาจึงพูดต่อไปอีกว่า:“คุณรู้หรือไม่ว่าตอนที่ประธานซูรู้ว่าเห้อจิ้นเหยาทำให้คุณแท้งลูก เสียใจมากแค่ไหน?ถึงแม้ว่าเขาจะเสียใจ แต่เขาก็ไม่แสดงออกมา และไม่อยากให้คุณได้รับผลกระทบอะไร สั่งทุกคนที่รู้เรื่องให้เก็บความลับไว้ แล้วคุณทำอะไร?เนื่องจากเห้อจิ้นเหยาใช้วิธีสกปรก หาคนที่ไหนมาไม่รู้ เอารูปถ่ายไม่กี่ใบให้คุณดู คุณก็เชื่อว่าประธานซูเป็นต้นเหตุทำให้คุณแท้งลูก ต้องการหย่าร้างกับประธานซู ?”
“การลงมือจัดการบริษัทโล่ซื่อและเห้อจิ้นเหยา คุณคิดว่าประธานซูจะทำลายบริษัทเล็กๆอย่างบริษัทโล่ซื่อเหรอ?บริษัทโล่ซื่อถือว่าตัวเองเป็นใครเหรอ?ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะคุณ บริษัทโล่ซื่อไม่ได้อยู่ในสายตาของประธานซูเลยด้วยซ้ำ ประธานซูทำทุกอย่างเพื่อแก้แค้นแทนลูก ส่วนคุณทำอะไร? ปกป้องคนร้าย เชื่อใจคนร้าย”
“สิ่งที่ประธานซูให้คุณคือสิ่งที่ดีที่สุด ส่วนคุณให้อะไรเขาบ้าง?อื๋อ?ไม่เชื่อใจเขา คุณยอมเชื่อคนที่ทำร้ายคุณมาโดยตลอด แต่กลับไม่ยอมเชื่อใจคนที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อคุณ ตอนที่ประธานซูได้ยินที่คุณคุยโทรศัพท์กับเห้อจิ้นเหยานั้นคุณบอกว่าคุณเชื่อใจเห้อจิ้นเหยา คุณรู้ไหมว่า ประธานซูเสียใจแค่ไหน?”
“เขาอยากโทรศัพท์หาคุณ อธิบายกับคุณ แต่คุณกลับปิดมือถือ วันนั้นเขาเฝ้าดูมือถือที่ออฟฟิศทั้งวัน กลัวว่าจะพลาดโทรศัพท์หรือข้อความของคุณ อย่างไรก็ตามไม่มีการติดต่อกลับของคุณเลย เขาจึงได้ส่งข้อความให้คุณ นัดคุณในวันที่สองให้ไปเจอกันที่วิลล่าหลันถิงเพื่อปรับความเข้าใจกัน
“ความจริงแล้ววันนั้นที่วิลล่าหลันถินประธานซูได้เตรียมไว้ตั้งนานแล้ว ตอนแรกเขาตั้งใจทำกับข้าวด้วยตัวเองเพื่อที่จะสารภาพรักกับคุณในวันนั้น เขาอย่างเล่าเรื่องทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเห้อจิ้นเหยาให้คุณฟัง และยังเป็นกังวลว่าหลังจากที่เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเห้อจิ้นเหยาให้คุณรู้แล้ว คุณจะเสียใจ คิดว่าถึงว่าเห้อจิ้นเหยาจะลงมือก่อน ส่วนคุณก็เลือกที่จะเชื่อใจเขา และทิ้งประธานซู
คุณรู้ไหมว่าวันนั้นประธานซูรอคุณเป็นเวลานานแค่ไหน?เขารอคุณสองวันหนึ่งคืนเต็มเลย
เริ่มจากที่มีความหวังรอจนสิ้นหวัง
สุดท้ายแล้วเขาเลือกที่จะจากไป
ถึงแม้ตัดสินใจจะจากไปแล้ว แต่เขาก็ยังกังวลกลัวเห้อจิ้นเหยาจะทำร้ายคุณอีก จึงให้ผมไปจัดการเห้อจิ้นเหยาให้เรียบร้อย
เมื่อโล่เฟยเอ๋อได้ยินถึงตรงนี้อ้าไปอยากพูดอะไร เธออยากพูดว่าเธอถูกเห้อจิ้นเหยาตีจนสลบไป ถูกฉีดยานอนหลับไปสองวัน เธอไม่ได้รับข้อความ เธอไม่รู้ว่าเขานัดเธอให้มาเจอกันที่วิลล่าหลันถิง อย่างไรก็ตามการพูดสิ่งเหล่านี้ ไม่จำเป็นอีกต่อไป
การไม่เชื่อใจของเธอ คือชนวนสำคัญของเรื่องนี้ทั้งหมด
โจวเฉิงหันกลับมา มองไปที่โล่เฟยเอ๋ออย่างตั้งใจแล้วพูดขึ้นว่า:“ ดังนั้น ขอร้องอย่าตามหาเขาอีกเลย ให้เขาได้พักผ่อนดีดีเถอะ!”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของโจวเฉิง ร่างกายของโล่เฟยเอ่อสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
อยากตอกกลับ แต่ก็ไม่สามารถหาคำพูดที่จะตอกกลับได้เลย
เธอคิดมมาตลอดว่าเธอรักเขามากและรักอย่างยากลำบาก แต่แท้จริงแล้วเธอไม่รู้เลย ว่าเขาลำบากกว่าเธอเป็นหลายเท่า
ความรักที่เธอมีต่อเขา เมื่อเทียบกับความรักที่เขามีต่อเธอแล้วเทียบอะไรไม่ได้เลย?
ตอนที่เห็นจดหมายที่ใส่ไว้ในตุ๊กตาไม้นั้น เธอวู่วาม อยากรีบตามหาเขาให้เจอ บอกกับเขาว่าเธอรักเขา
แต่มาตอนนี้ โล่เฟยเอ๋อรู้สึกเริ่มกลัว
ก็เหมือนอย่างที่โจวเฉิงพูด เธอทำร้ายเขาขนาดนั้น ไม่สมควรที่จะตามหาเขาอีก
“ซูซีมู่ ปล่อยให้ความรักของเราต่างฝ่ายต่างไม่รู้ว่ารักกันมากแบบนี้ดีกว่า……”
โล่เฟยเอ๋อยิ้มออกมาที่มุมปากเล็กน้อย จากนั้นเหมือนหน้ามืด แล้วเป็นลมหมดสติไป……