งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 308
บทที่ 308 การล้มลงของเธอ ในที่สุดก็ทำลายความมุ่งมั่นทั้งหมดของเขา
ไม่รู้ว่าบังเอิญหรืออย่างไร โล่เฟยเอ๋อตามมาทันซูซีมู่ตลอด แม้กระทั่งตอนอยู่บนแท็กซี่ เธอตามหลังซูซีมู่อยู่ไม่กี่นาที ซึ่งพอให้เธอตามทันซูซีมู่
ชั่วโมงกว่าต่อมา รถแท็กซี่ก็มาถึงบริเวณที่พักของคุณท่านในเวลาไล่เลี่ยกัน
ตอนที่โล่เฟยเอ๋อจ่ายค่าโดยสาร ซูซีมู่สีหน้าเย็นชา ยืนรอเธออยู่นอกรถ
“ซูซีมู่…..” โล่เฟยเอ๋อเรียกชื่อเขาออกมาไม่เต็มเสียง
ซูซีมู่เม้มริมฝีปากแน่น ดวงตาฉายถึงความรู้สึกซับซ้อน ผ่านไปสักพัก เขาเอ่ยถามเสียงเย็น “คุณตามมาที่นี่ทำไม?”
โล่เฟยเอ๋อขยับริมฝีปากของเธอ พูด: “ฉันมาเยี่ยมคุณปู่กับคุณ”
“คุณปู่ คุณมีสิทธิ์เรียกเหรอ?” ซูซีมู่พูดอย่างเย็นชา ทำร้ายความรู้คน โล่เฟยเอ๋อหน้าซีดอยู่แล้วยิ่งซีดลงไปอีก
แต่ซูซีมู่ทำเหมือนกับมองไม่เห็น พูดต่ออย่างใจดำ: “ไสหัวไปซะ! ที่นี่ไม่ต้อนรับคุณ”
พูดจบซูซีมู่ก็หมุนตัวเดินกลับเข้าวิลล่าไป
โล่เฟยเอ๋ออุตส่าห์ตามมาจากฝรั่งเศสแล้ว แน่นอนว่าไม่ไป เธอรอซูซีมู่เข้าไปในวิลล่าแล้ว หยิบกระจกออกมาจากกระเป๋า จัดสภาพเสื้อผ้าตนเอง
จากนั้นคลี่รอยยิ้ม เดินเข้าวิลล่าไป
ตอนที่เธอเข้ามา ซูซีมู่กำลังคุยอยู่กับคุณท่านที่ห้องรับแขก
เห็นเธอเข้ามา คุณท่านก็ดีใจมาก ทักทายโล่เฟยเอ๋อไปพลางจ้องซูซีมู่ไป “ทำไมนายไม่บอกฉัน เฟยเอ๋อมากับนายด้วย?”
ซูซีมู่ไม่พูดอะไร ลุกยืนขึ้น เดินไปทางบันได
เดิมทีโล่เฟยเอ๋อกลัวว่าซูซีมู่จะขับไล่เธอต่อหน้าคุณท่าน ตอนนี้เห็นซูซีมู่ไม่ได้พูดอะไรก็ลุกออกไป จึงเข้าใจว่าซูซีมู่ไม่อยากให้คุณท่านรู้เรื่องระหว่างพวกเขาสองคน ก็เบาใจลง
จากนั้นเดินเข้าไปหาคุณท่านด้วยรอยยิ้ม “คุณปู่ หนูเมื่อกี้ลืมกระเป๋าไว้ที่รถ เลยเข้ามาช้า”
“ต่อให้เป็นอย่างนั้น เขาก็ควรรอหนูเข้ามาพร้อมกัน…..” คุณท่านยังไม่ทันพูดจบ อยู่ ๆ ก็สังเกตเห็นโล่เฟยเอ๋อขากะเผลก ถามขึ้นทันที “เฟยเอ๋อ เท้าหนูเป็นอะไร?”
โล่เฟยเอ๋อชะงักไป ถึงนึกได้ว่าเธอจัดการสภาพเสื้อผ้าแล้วก็จริง แต่ลืมข้อเท้าที่บาดเจ็บไป
เงียบไปไม่กี่วินาที โล่เฟยเอ๋อตอบอย่างยิ้มแย้ม: “คุณปู่ เท้าของหนู…..สะดุดตอนเดินเข้าประตูมา ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”
“ไม่เป็นไรจริงเหรอ? ให้หมอเฉิงมาดูหน่อยไหม?” คุณท่านขมวดคิ้ว มองเท้าของโล่เฟยเอ๋อ
“คุณปู่ ไม่เป็นไรจริง ๆ ” โล่เฟยเอ๋อกลัวคุณท่านไม่เชื่อ ยังยกเท้าขวาขึ้นมาขยับไปมา
มีแค่เธอเท่านั้นที่เข้าใจ ข้อเท้านั้นเจ็บแค่ไหน
คุณท่านเห็นโล่เฟยเอ๋อข้อเท้าขวาโล่เฟยเอ๋อยังเคลื่นไหวได้ปกติ จึงไม่ติดใจอะไรอีก หัวเราะฮาเข้าห้องครัวไปสั่งคนรับใช้ให้เตรียมอาหารที่โล่เฟยเอ๋อกับซูซีมู่ชอบทาน
คุณท่านเดินไปแล้ว โล่เฟยเอ๋อถอนลมหายใจเบา ๆ จากนั้นทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างไม่มีแรง
เธอไม่ได้สังเกตเห็น ที่มุมบันไดชั้นสอง ซูซีมู่ยืนอยู่ตรงนั้นไม่ขยับ
หลังทานมื้อเย็น คุณท่านก็สั่งให้คนรับใช้เตรียมห้องให้พวกเขา
ผลสุดท้ายคุณท่านพึ่งพูดจบ ซูซีมู่ก็บอก: “ไม่ต้องแล้ว เดี๋ยวก็ผมจะไปแล้ว”
ซูซีมู่เดิมกะจะพักที่นี่ แต่โล่เฟยเอ๋ออยู่ที่นี่ เขาก็ต้องไปเอง
ได้ยินที่ซูซีมู่พูด แววตาโล่เฟยเอ๋อมืดสลดลง จากนั้นคลี่ยิ้มพูดกับคุณท่าน: “คุณปู่ พวกหนูมีธุระ ไม่ค้างแล้วค่ะ”
คุณท่านรู้สึกไม่พอใจแล้ว “พึ่งมาก็รีบไปแล้ว พวกเธอไม่มาเลยยังจะดีกว่า”
โล่เฟยเอ๋อมองซูซีมู่ จากนั้นพูดกับคุณท่านอย่างรู้สึกผิด: “คุณปู่ ขอโทษจริง ๆ ค่ะ โทษการแข่งขันนั้นหนูที่ฝรั่งเศสยังไม่เสร็จ”
ได้ยินโล่เฟยเอ๋อพูดถึงการแข่งขันที่ฝรั่งเศสยังไม่จบ ท่าทางไม่มีความสุขของคุณท่านก็หายไปทันที “ในเมื่อเป็นเรื่องการแข่งขัน ฉันก็ไม่รั้งพวกเธอแล้ว ฉันจะให้อาผิงไปส่งพวกเธอ”
“ไม่ต้องหรอกครับ ผมจะขับรถเอง” ซูซีมู่บอกเสียงต่ำ ลุกขึ้นยืน ลากกระเป๋าเดินทางที่เขาเอามาด้วยก่อนหน้านี้ออกไป
โล่เฟยเอ๋อมองตามหลังเขา หลังจากบอกลาคุณท่านอย่างเรียบร้อยแล้ว ก็ลุกขึ้นตาม
ตอนเธอออกมา ซูซีมู่กำลังขับรถออกไปพอดี
มองตามถนนที่ว่างเปล่า โล่เฟยเอ๋อก็ขมขื่นในใจจนแทบทนไม่ไหว
หันกลับไปมองวิลล่าที่ไฟส่องสว่างอยู่ไม่ไกล โล่เฟยเอ๋อเลือกที่จะไปกลับเข้าไป แต่ลากขาเดินกะเผลกจากมา…..
ซูซีมู่ขับรถออกมากว่าสิบนาที อยู่ ๆ ก็นึกอะไรบางอย่างได้ จึงเหยียบเบรกแล้วหยุดรถตรงกลางถนน
จากนั้นล้วงโทรศัพท์ขึ้นมา โทรกลับไปที่วิลล่า
“สวัสดีค่ะ” เสียงคนรับใช่ที่วิลล่าดังมาตามสาย
ซูซีมู่เม้มปาก ตอบ “ฉันเอง”
“คุณชาย?” คนรับใช้ชะงักไป จากนั้นเอ่ย: “คุณชาย คุณมีธุระกับคุณท่านเหรอคะ? คุณท่านเขาหลับไปแล้ว”
ซูซีมู่ ‘อ่อ’ รับ จากนั้นถาม “คุณโล่ก็นอนแล้วเหรอ?”
คนรับใช้แปลกใจ “คุณโล่? เธอไม่ได้ออกไปกับคุณชายหรอกเหรอคะ?”
เธอออกมากับเขา? เธอออกมาแล้ว ไม่ได้อยู่ที่วิลล่า? ซูซีมู่อึ้งไปทันที กระทั่งโทรศัพท์ในมือหล่นเขาก็ไม่รู้สึกตัว
เขาขับรถออกมาแล้ว ทิ้งเธอไว้ที่วิลล่าแล้วแท้ ๆ คนรับใช้บอกว่าโล่เฟยเอ๋อออกมาแล้ว เธอออกอย่างไร?
เขาขับมาบนถนนสายนี้ ไม่มีรถ ไม่มีคน เธอจะออกไป เหลือแค่วิธีเดียวคือเดิน
คิดถึงข้อเท้าบวมแดงของโล่เฟยเอ๋อ ซูซีมู่ตบลงพวงมาลัยอย่างแรง จากนั้นสตาร์ทรถ หันกลับขับไปตามทางเดิม
ขับมาใช้เวลาประมาณไม่ถึงห้านาที เขาก็เห็นโล่เฟยเอ๋อ
เธอเดินขากะเผลก เดินไปตามทาง แสงเหลืองนวลจากโคมไฟบนถนนส่องไปที่ร่างเธอดึงเงาของเธอให้ยาวมากขึ้น
ไม่รู้ว่าเขาที่รู้สึกนั้นผิดไหม เขารู้สึกว่าเธอเดินเซไปมา
น่าจะเป็นเป็นเจ็บข้อเท้า ถึงได้เดินแบบนี้! ซูซีมู่เดาไว้แบบนั้น แล้วหยุดรถ
อย่าเข้าไป รอให้เธอเดินมาแล้ว ค่อยให้เธอขึ้นรถก็ไม่สาย ซูซีมู่กดความรู้สึกเจ็บปวดใจไว้ลึก ๆ เลยบอกตัวเองไปแบบนี้
แต่คิดไม่ถึงว่า โล่เฟยเอ๋อจะล้มลงขณะที่เดินอยู่
เขาเพียงเฝ้ามองเธอเห็นเธอล้มลงไปต่อหน้าต่อตา
ในตอนนั้น ซูซีมู่คล้ายกับหัวใจหยุดเต้น จากนั้นร่างกายไปเร็วกว่าสมองก้าวหนึ่ง ผลักเปิดประตูรถ วิ่งไปหาโล่เฟยเอ๋อพลางตะโกนเรียกชื่อเธอ “เฟยเอ๋อ……”
โล่เฟยเอ๋อได้ยินเสียงซูซีมู่เบา ๆ ยกยิ้มมุมปากเย้ยหยันตัวเอง “ฝันอะไรอีก? ไม่อย่างนั้นจะได้ยินเสียงของซูซีมู่ได้อย่างไร…..”
วินาทีต่อมา โล่เฟยเอ๋อก็จมดิ่งสู่ความมืด