งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 321
บทที่ 321ส้ายหลินน่ามาหาถึงบ้าน
เสียงโทรศัพท์ดังรบกวนจนทำให้ซูซีมู่ตื่น
เขาก้มมองโล่เฟยเอ๋อที่อยู่ในอ้อมกอดของเขา แล้วรับโทรศัพท์ขึ้นมา
คนที่โทรศัพท์มาคือโจวเฉิง แจ้งเขาให้ไปประชุมที่บริษัท
หลังจากที่สั่งให้โจวเฉิงเลื่อนเวลาประชุมไปอีกหนึ่งชั่วโมงแล้ว ซูซีมู่ได้วางสายลง จากนั้นเลื่อนสายตามองไปที่โล่เฟยเอ๋อ
เดือนกว่าที่ผ่านมา เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลย ว่าจะมีโอกาสได้นอนกอดเธอและตื่นมาพร้อมกันในตอนเช้า
เวลานั้น เขารู้สึกสิ้นหวังต่อความรัก
และรู้สึกไม่พอใจที่เธอตัดขาดกับเขาอย่างไร้เยื่อใย
เขาเดินไปจากชีวิตเธอ เพราะต้องการลืมเธอ แต่ทำยังไงก็ลืมไม่ได้
ได้แต่คิด อยู่ลำพังในห้องทั้งวันทั้งคืน คิดว่าตัวเขานั้นจะต้องอยู่โดดเดี่ยวแบบนี้ไปตลอดชีวิตหรือไม่
ตอนนั้นแม่ของเขาได้ทิ้งเขาไป ผ่านมาไม่นานพ่อก็ทิ้งเขาไปอีกคน มาตอนนี้โล่เฟยเอ๋อก็จะทิ้งเขาไปอีกคนเหมือนกัน
เวลานั้นเขามีความคิดอย่างหนึ่งเกิดขึ้นในความคิดคงจะเป็นการดีถ้าปล่อยให้ตัวเองตายไปอย่างหงอยเหงาเช่นนี้
เวลานี้ เขาได้หลุดพ้นจากความหงอยเหงานั้นแล้ว และเธอเป็นคนที่นำพาให้เขาออกมาจากสภาพนั้นเอง
ที่ผ่านมาเธอเป็นคนที่ดันเขาให้อยู่กับหงอยเหงา และเป็นคนที่ดึงเขาให้ออกจากความหงอยเหงา
เธอสามารถทำให้เขาสิ้นหวังได้ และสามารถทำให้เขามีความหวังได้ เธอควบคุมทุกอย่างเกี่ยวกับเขา แต่เขาก็เต็มใจยอมรับในสภาพแบบนี้
ซูซีมู่ใช้มือไปลูบไล้ที่แก้มของโล่เฟยเอ๋อเบาๆ ก้มลงไปจูบที่หน้าผากเธอ จากนั้นค่อยๆลุกออกจากเตียงนอนเบาๆ
เข้าไปอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า เสร็จแล้วลงไปชั้นล่าง เมื่อสั่งแม่บ้านเรียบร้อยแล้ว จึงขับรถไปบริษัท
ระหว่างทาง เขานึกขึ้นได้เมื่อวันส้ายหลินน่าทำให้โล่เฟยเอ๋อมีเรื่องเข้าใจผิด จึงโทรศัพท์ไปหาส้ายหลินน่า
“ซู วันนี้ไม่อยู่เป็นเพื่อนภรรยาเหรอ ทำไมถึงมีเวลาโทรหาฉันได้?”เสียงแซวเล่นของส้ายหลินน่าดังขึ้นมาจากโทรศัพท์อีกด้าน
ซูซีมู่พูดขึ้นเบาๆ:“ เดี๋ยวเธอมาที่นี่ มาขอโทษเฟยเอ๋อ”
ส้ายหลินน่าเมื่อได้ยินคำพูดของซูซีมู่ เกือบร้องไห้ออกมา“ ซู ไม่ต้องทำถึงอย่างนั้นมั้ง ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยจริงๆ”
“ผมน่าจะกลับถึงบ้านก่อนเที่ยง”
ความหมายคือ ต้องไปขอโทษโล่เฟยเอ๋อที่บ้านก่อนเที่ยง มิฉะนั้นผลที่ตามมาต้องรับผิดชอบเอง
ส้ายหลินน่าอ่อนแรงไปทันที “ฉันรู้แล้ว”
ซูซีมู่ตอบรับ ‘อืม’ แล้ววางสายลง
โล่เฟยเอ๋อตื่นมาอีกทีตอนเก้าโมงครึ่ง ด้วยความเคยชินเมื่อลืมตาขึ้นได้หันไปมองข้างๆ ไม่เห็นซูซีมู่แล้ว
เธอแปลกใจเล็กน้อย นึกว่าซูซีมู่ลงไปข้างล่างแล้ว จึงไม่ได้ใส่ใจมาก ลุกขึ้นจากเตียง เข้าไปอาบน้ำ และเปลี่ยนเสื้อผ้า เสร็จแล้วก็ลงไปชั้นล่าง
แม่บ้านกำลังยุ่งอยู่ในห้องครัว เมื่อเห็นเธอเดินลงมาข้างล่าง จึงรีบทักทาย “สวัสดีตอนเช้าค่ะคุณนาย”
“สวัสดีตอนเช้า”โล่เฟยเอ๋อหันมองไปรอบๆ “ซูซีมู่หล่ะ?”
“คุณชายไปประชุมที่บริษัทแล้ว จะกลับมากินข้าวเป็นเพื่อนคุณตอนเที่ยงค่ะ” แม่บ้านตอบตามที่ซูซีมู่สั่งไว้ให้โล่เฟยเอ๋อฟัง
โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า“ออ”
แม่บ้านถามขึ้นว่า“ คุณนาย คุณชายสั่งให้ฉันเตรียมข้าวต้มโอ๊ตที่คุณชอบไว้ให้ คุณจะรับประทานหน่อยไหม?”
“อืม กินหน่อยก็ดี” โล่เฟยเอ๋อพูดขึ้น และเดินไปนั่งรอที่ห้องอาหาร
แม่บ้านรีบเข้าไปที่ห้องครัวเพื่อตักข้าวต้มให้โล่เฟยเอ๋อ
โล่เฟยเอ๋อกำลังจะยกถ้วยข้าวต้ม แต่ยังไม่ได้เริ่มกินเลย ก็ได้ยินเสียงกริ่งดังมาจากข้างนอก
“คุณนาย คุณค่อยๆกิน เดี๋ยวฉันไปเปิดประตูเอง” แม่บ้านพูดขึ้น
โล่เฟยเอ๋อตอบกลับ ‘อืม’ แล้วก้มลงกินข้าวต้มต่อ
ผ่านไปหนึ่งนาที คนรับใช้กลับเข้ามาแจ้งว่า “คุณนาย ข้างนอกมีคนต้องการพบคุณนายค่ะ”
“ใครเหรอ?”โล่เฟยเอ๋อคิ้วขมวดเข้าหากัน ลุกขึ้น แล้วเดินออกไปที่ประตู
ปรากฏว่าเห็นส้ายหลินน่ายืนอยู่หน้าประตู ยิ้มหวานๆมองมาที่เธอ
ภาพลักษณ์ของส้ายหลินน่าในสายตาของโล่เฟยเอ๋อไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ถึงแม้ครั้งแรกซูซีมู่เป็นคนชักชวนให้เธอมาแสดงละครให้ แต่คำพูดที่ส้ายหลินน่าพูดออกมาเมื่อวันนี้ เป็นคำพูดที่เธอพูดขึ้นมาเองทั้งนั้น
แต่ว่าโล่เฟยเอ๋อก็ยังรักษามารยาทอยู่ “คุณมาหาซูซีมู่เหรอ ?เขาไปประชุมที่บริษัทแล้ว”
“ฉันรู้ คนที่ฉันมาหาคือคุณ” ส้ายหลินน่ายิ้มอย่างไร้เดียงสาให้กับโล่เฟยเอ๋อ
หาเธอ?ส้ายหลินน่าหาเธอทำไมเหรอ?โล่เฟยเอ๋อมองส้ายหลินน่าด้วยสายตาที่แปลกใจเล็กน้อย จากนั้นก็ได้เชิญส้ายหลินน่าเข้าไปข้างใน
“เชิญนั่ง” โล่เฟยเอ๋อดูแลแขกให้นั่งลง และหันกลับไปสั่งให้แม่บ้านไปชงกาแฟ
“ขอบคุณมาก ” ส้ายหลินน่านั่งลงโซฟาตรงข้ามกับโล่เฟยเอ๋อ
“ไม่ต้องเกรงใจค่ะ”โล่เฟยเอ๋อส่ายหัว จากนั้นเข้าเรื่องทันที “ไม่ทราบว่าคุณส้ายหลินน่ามาหาฉันมีธุระอะไรเหรอ?”
“ฉันมาเพื่อจะมาขอโทษคุณ” ส้ายหลินน่าตอบ
“ขอโทษฉัน?”โล่เฟยเอ๋อตะลึงเล็กน้อย กำลังจะถามส้ายหลินน่าว่าขอโทษอะไรเหรอ แม่บ้านได้ถือถาดเข้ามาพอดี ในถาดมีกาแฟหนึ่งแก้ว และนมอีกหนึ่งแก้ว
เธอยกกาแฟไปวางตรงหน้าส้ายหลินน่า ส่วนนมไปวางไว้ตรงหน้าของโล่เฟยเอ๋อ
“คุณนาย อันนี้คือนมที่คุณชายสั่งให้ฉันเตรียมให้คุณ”
“อืม ฉันรู้แล้ว” โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า แล้วยกนมขึ้นมาดื่ม
ส้ายหลินน่าที่นั่งอยู่ตรงข้ามอมยิ้มออกมาแล้วพูดขึ้นว่า“ไม่อยากเชื่อว่าซูเป็นห่วงแม้กระทั่งเรื่องที่คุณจะดื่มนม”
“อื๋ม?”โล่เฟยเอ๋อยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
ส้ายหลินน่าริมฝีปากโค้งและยิ้มออกมา ถามขึ้นว่า “ซูคงเคยบอกคุณเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับเขาแล้ว?”
“อืม……” โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า “ เขาบอกว่าแม่ของคุณกับแม่ของเขาเป็นเพื่อนสนิทกัน ”
ส้ายหลินน่าหัวเราะเหอะๆ ออกมา แล้วพูดว่า:“เหอะๆ เป็นการแนะนำที่ง่ายมาก สมกับนิสัยของเขาจริงๆ”
โล่เฟยเอ๋อไม่พูดอะไร ได้แต่เงยหน้าจ้องมองไปที่ส้ายหลินน่า เพื่อรอให้เธอพูดต่อ
“แม่ของฉันกับแม่ของซูซีมู่เป็นเพื่อนสนิทกัน ดังนั้นพวกเราจึงรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก แต่หลังจากที่พ่อแม่ของซูซีมู่เสียชีวิตไปแล้ว พวกเราก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกันอีก”
พูดถึงเรื่องนี้ ส้ายหลินน่าหันไปมองโล่เฟยเอ๋อ“ คุณรู้เรื่อง ของพ่อแม่ซูไหม?”
“ฉันรู้แค่ว่าพ่อแม่ของเขาเสียชีวิตตอนที่เขาอายุสิบขวบ เสียชีวิตเนื่องจากอุบัติเหตุทางเครื่องบิน” โล่เฟยเอ๋อตอบตามที่เธอรู้มา
ส้ายหลินน่าเม้มปากเล็กน้อย แล้วถามขึ้นว่า“ คนที่บอกเรื่องนี้กับคุณคงจะพูดว่าเขารู้สึกผิดกับเรื่องการเสียชีวิตของพ่อแม่เขาใช่ไหม?”
“หยี……” โล่เฟยเอ๋อเงียบไปทันที
“ความจริงแล้วนั่นเป็นการพูดของตระกูลซูที่พูดกับคนนอก แต่ความจริงคือ ตอนที่ซูอายุสิบขวบ แม่ของเขาได้ทิ้งเขาและพ่อของเขาไป เพื่อที่จะหนีตามผู้ชายอีกคน ส่วนพ่อของเขาไปตาม สุดท้ายเกิดอุบัติเหตุรถชนกัน ทำให้พ่อแม่ของเขาเสียชีวิตในอุบัติเหตุครั้งนั้น”
โล่เฟยเอ๋อตกใจมาก เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้ยินเรื่องนี้จากปากของส้ายหลินน่า
“นี่เป็นสาเหตุที่ทำไมซูซีมู่เกลียดผู้หญิง”เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ส้ายหลินน่าเศร้าขึ้นมาทันที“เนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างแม่ฉันกับแม่ของเขา ตอนแรกเขาก็ไม่อยากเจอหน้าฉันหรอก แต่ช่วงก่อน เขาได้ติดต่อฉันมาด้วยตัวเอง ต้องการให้ฉันช่วยหาบัตรเชิญการแข่งขันจิวเวลรี่ระดับประเทศให้เขาหนึ่งใบ……”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ส้ายหลินน่าได้หยุดลง แล้วพูดกับโล่เฟยเอ๋อว่า:“ฉันไม่เคยบอกกับคุณ เกี่ยวกับฐานะของฉันใช่ไหม”ฉันเป็นประเจ้าของบริษัทเวินซา กรุ้ป การแข่งขันจิวเวลรี่ระดับโลก บริษัทเวินซา กรุ้ปเป็นผู้จัดงานในครั้งนี้”
“เขาเกลียดทุกคนที่มีความสัมพันธ์กับแม่ของเขา แต่กลับมาพบฉัน ฉันคิดมาตลอด สาเหตุอะไรที่ทำให้เขาทำแบบนี้ หลังจากนั้น ตอนที่อยู่นอกสถานที่ของงาน เขาให้ฉันช่วยเล่นละครให้ เพื่อโกหกคุณ เวลานั้น ฉันก็รู้แล้วว่าคุณพิเศษกว่าคนอื่น”
“เขาเกลียดผู้หญิงขนาดนั้น แต่คุณคือคนเดียวที่เขายอมทำทุกอย่างให้ ถึงแม้จะทำทุกอย่างเพื่อให้คุณไปจากเขา แต่นั่นก็แสดงให้เห็นว่าเขาแคร์คุณมากแค่ไหน หลังจากนั้นฉันเคยตรวจสอบ คุณคือดีไซเนอร์ที่เข้าร่วมแข่งขันจิวเวลรี่ระดับประเทศคนนั้น ตอนนั้นฉันจึงแน่ใจว่าเป็นเพราะคุณ เขาถึงยอมมาพบฉัน”
ที่เขาไปฝรั่งเศสเพราะเธอ เพื่อเธอแล้วต้องไปเผชิญกับสถานที่ที่เคยทำให้เขาเจ็บปวด น้ำตาของโล่เฟยเอ๋อไหลออกมาเป็นทาง“ ใช่ก่อนที่ยังไม่เคยเจอคุณ ซูที่ฉันรู้จัก ดวงตาเขาไม่มีความอบอุ่นเลย หลังจากที่เจอคุณแล้ว ฉันรู้สึกว่าดวงตาของซูมีความอบอุ่นปนความทุกข์ใจในเวลาเดียวกัน”
“เขาเดินออกมาจากเรื่องราวไม่ดีในชีวิตได้เพราะคุณ แต่ฉันไม่เข้าใจว่าเขาทุกข์ใจอะไรเพราะคุณ” หลังจากนั้นเพราะเรื่องงานเขาให้ฉันมาที่หัวเซี่ย(ชื่อเรียกประเทศจีนในสมัยก่อน) เมื่อเจอกับเขาอีกครั้ง ฉันรู้สึกว่าเขาเปลี่ยนไปแล้ว ดังนั้นเมื่อวันตอนที่คุณมาหาฉันที่โรงแรม ฉันจึงพูดแบบนั้นออกมาเพื่อลองใจคุณ”
“ส่วนวันนี้ เขาโทรหาฉัน ให้ฉันมาขอโทษ สำหรับเรื่องที่ฉันพูดกับคุณเมื่อวัน วันนี้เขามีความสุขมาก มีความสุขมากจริงๆ ดังนั้น……”
สายตาของส้ายหลินน่าจ้องมองไปที่โล่เฟยเอ๋อ “ดังนั้นไม่ว่าคุณกับซูจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ขอให้จำคำพูดของฉันไว้ อย่าทอดทิ้งเขา เพราะว่าคุณมีผลต่ออารมณ์ของเขาทั้งหมด”
“อย่าทอดทิ้งเขา……” โล่เฟยเอ๋อพึมพำสี่คำนี้ออกมาเบาๆ จู่ๆก็นึกขึ้นได้ว่าเห้อจิ้นเหยาเคยส่งข้อความให้กับซูซีมู่ในนามของเธอ
ต่างคนต่างอยู่ไม่เกี่ยวข้องกันอีก คุณไม่ต้องมาหาฉันอีก จากนั้นโล่เฟยเอ๋อก็ลุกขึ้นจากโซฟาทันที
“คุณเป็นอะไรเหรอ?”ส้ายหลินน่าเห็นอาการที่ตื่นตระหนกของโล่เฟยเอ๋อแล้วรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ดูเหมือนเธอจะไม่ได้พูดอะไรที่ไม่ดีเกินไปกับเธอนะ?
“ส้ายหลินน่า ฉันมีธุระต้องออกไปก่อน คุณเล่นอยู่ที่นี่ก่อนนะ”เมื่อพูดจบ โล่เฟยเอ๋อก็ออกไปจากวิลล่าทันที ทิ้งส้ายหลินน่าอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้างุนงง
เขามาขอโทษกับโล่เฟยเอ๋อโดยเฉพาะ ปรากฏว่าคนที่เธอมาขอโทษกลับทิ้งเธอไว้คนเดียวแล้วเดินออกไป?
ไม่สนล่ะ ในเมื่อเธอได้มาขอโทษแล้ว ซูไม่สามารถหาเรื่องอะไรเธอได้อีก เธอสามารถกลับได้…