งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 325
บทที่ 325 ลางานไปเยี่ยมโล่ชิงไป๋
หลังจากที่เคยมีประสบการณ์ทำกับข้าวกินกันที่วิลล่าหลันถิงแล้ว เมื่อโล่เฟยเอ๋อมีเวลาว่าง ก็จะฝึกทำอาหารกับแม่บ้าน หลังจากทำเป็นแล้วก็จะทำให้ซูซีมู่กิน ส่วนซูซีมู่นั้นถ้าอยู่บ้าน ก็จะอยู่เป็นเพื่อนเธอที่ห้องครัวตลอด
ในคืนวันนั้น โล่เฟยเอ๋ออยู่ห้องครัวกับซูซีมู่ ปรากฏว่าโล่ชิงไป๋ได้โทรศัพท์มาหา
เมื่อโล่เฟยเอ๋อเห็นเบอร์โทรที่ขึ้นโชว์หน้าจอของโทรศัพท์ รีบส่งตะหลิวในมือไปให้ซูซีมู่ จากนั้นเดินออกไปที่ห้องครัว เพื่อรับโทรศัพท์
หลังจากที่โล่เฟยเอ๋อรับโทรศัพท์ขึ้นมาแล้ว ถามออกมาทันที“ พ่อโทรศัพท์หาหนู มีธุระอะไรเหรอ?”
“เฟยเอ๋อ ลูกกลับประเทศแล้วหรือยัง?”โล่ชิงไป๋ถาม
โล่เฟยเอ๋อตอบขึ้นด้วยเสียงเบาว่า“กลับมาแล้วค่ะ”
เมื่อได้ยินเธอตอบว่ากลับมาแล้ว แต่กลับไม่มาเยี่ยมเขา โล่ชิงไป๋โกรธจนด่าออกมาว่า“ เธอมันลูกอกตัญญู กลับมาแล้ว ทำไมไม่มาเยี่ยมพ่อที่โรงพยาบาลเลย?”
โล่เฟยเอ๋อจ้องมองซูซีมู่ที่กำลังยุ่งอยู่ในห้องครัวอย่างไม่กะพริบตา และไม่พูดอะไร
โล่ชิงไป๋เห็นโล่เฟยเอ๋อไม่พูดอะไร น้ำเสียงจึงเปลี่ยนเป็นอ่อนโยน พูดขึ้นว่า :“เฟยเอ๋อ ตอนนี้พ่อนอกจากลูก พ่อไม่เหลืออะไรแล้ว ถ้าลูกยังไม่……”
โล่เฟยเอ๋อไม่รอให้เขาพูดจบ รีบพูดแทรกขึ้นมาทันที“ หนูรู้แล้ว งั้นแค่นี้ก่อนนะคะ”
โล่ชิงไป๋ถามขึ้นอีก“พรุ่งนี้ลูกจะมาเยี่ยมพ่อไหม?”
โล่เฟยเอ๋อไม่ตอบ วางสายทิ้งทันที
หลังจากวางสายลงแล้ว เธอนั่งเหม่อลอยอยู่บนโซฟา กำลังคิดอยู่ว่าจะไปเยี่ยมโล่ชิงไป๋ดีไหม
เธอโกรธเขา โกรธที่เขาตามใจเห้อจิ้นเหยา จนทำให้เห้อจิ้นเหยามีโอกาสทำให้เธอกับซูซีมู่เข้าใจผิดกันจนเกือบจะไม่ได้คืนดีกัน และโกรธเขาที่หลังจากรู้ว่าเห้อจิ้นเหยาทำเรื่องไม่ดีมากมายขนาดนี้แล้ว ยังจะให้เธอยกโทษให้เห้อจิ้นเหยาอีก
แต่ในเวลาเดียวกันเธอก็รู้สึกสงสารโล่ชิงไป๋ ที่ต้องอยู่โรงพยาบาลคนเดียว……
ซูซีมู่ออกมาจากห้องครัว เห็นโล่เฟยเอ๋อนั่งเหม่อลอยอยู่บนโซฟา จึงรีบเดินเข้าไปหาแล้วถามว่า“เกิดอะไรขึ้น?”
โล่เฟยเอ๋อรีบดึงสติกลับมา มองไปที่ซูซีมู่ ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ถามขึ้นว่า “ไม่มีอะไร กับข้าวเสร็จหรือยัง?”
โล่เฟยเอ๋อไม่อยากพูด ซูซีมู่จึงไม่คิดที่ถามต่ออีก พูดแค่ว่า:“ ใส่จานเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้รอแม่บ้านตักน้ำซุปอยู่”
“ถ้าอย่างนั้นเราไปกินข้าวกันดีกว่า” โล่เฟยเอ๋อพูดเสร็จก็ลุกขึ้นยืน และดึงซูซีมู่เข้าไปที่ห้องครัวพร้อมกัน
สุดท้ายแล้วโล่เฟยเอ๋อก็ตัดสินใจไปเยี่ยมโล่ชิงไป๋จนได้ แต่เธอไม่ต้องการให้ซูซีมู่รู้เรื่องนี้ และก็ละอายใจที่จะให้ซูซีมู่รู้ด้วย สาเหตุเป็นเพราะว่าเห้อจิ้นเหยาใช้ประโยชน์จากการที่โล่ชิงไป๋เป็นอัมพาต สร้างเรื่องทำให้เธอกับซูซีมู่เกือบจะไม่ได้คืนดีกัน
ดังนั้นวันต่อมาเวลาบ่ายสองโมง โล่เฟยเอ๋อจึงไปหาคาริน่าเพื่อลางาน
นึกไม่ถึงว่าผู้อำนวยฝ่ายครีเอทีฟ จะอยู่ในออฟฟิศทำงานของคาริน่าพอดี
โดยส่วนตัวแล้วผู้อำนวยฝ่ายครีเอทีฟไม่ชอบคาริน่าอยู่แล้ว แต่เนื่องจากคาริน่ามีความสามารถทำให้เธอทำอะไรคาริน่าไม่ได้ ดังนั้นจึงอารมณ์เสียใส่โล่เฟยเอ๋อ“ เธอเป็นลูกน้องของดีไซเนอร์คนไหน ถ้าจะลางานต้องผ่านผู้อำนวยการก่อนไม่รู้เหรอ?”
โล่เฟยเอ๋อหันไปมองคาริน่าด้วยสีหน้าที่สงสัย แล้วตอบว่า“ ขอโทษค่ะ ฉันไม่รู้”
“เธอ……” ในขณะที่ผู้อำนวยฝ่ายครีเอทีฟกำลังเตรียมจะพูดโล่เฟยเอ๋อนั้น คาริน่ารีบพูดขึ้นมา เพื่อช่วยโล่เฟยเอ๋อ “ผู้อำนวยการ เธอเป็นลูกน้องใหม่ของฉัน ยังไม่เข้าใจข้อกำหนดพวกนี้ คุณอย่าได้ถือสาเลย”
ผู้อำนวยฝ่ายครีเอทีฟไม่สามารถหักหน้าคาริน่าอย่างโจ่งแจ้งได้ จึงไม่เอาเรื่อง “ในเมื่อเป็นลูกน้องของคาริน่า ฉันก็จะไม่เอาเรื่อง”
โล่เฟยเอ๋อรีบเดินลงไปด้านล่าง “ขอบคุณพูดจัดการค่ะ”
หลังจากที่ผู้อำนวยการเดินออกไปแล้วคาริน่าพูดกับโล่เฟยเอ๋อด้วยสีหน้าขอโทษ:“คุณโล่ เรื่องเมื่อกี้ผู้อำนวยฝ่ายครีเอทีฟต้องการจะหาเรื่องฉัน คุณอย่าได้ติดใจอะไร”
“หาเรื่องคุณ?”โล่เฟยเอ๋อขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ใช่ เพราะเรื่องเล็กน้อย” คาริน่าไม่ได้อยากที่จะพูดถึงเรื่องขัดแย้งระหว่างเธอกับผู้อำนวยการ จึงรีบเปลี่ยนเรื่อง “ใช่แล้ว คุณต้องการลางานกี่วันเหรอ?”
ดูแล้วคาริน่าและหัวหน้าเย่ทั้งสองคนเหมือนกัน ถูกเธอลางานบ่อยจนกลัว
โล่เฟยเอ๋อกระแอมออกมาครั้งหนึ่งอย่างลำบากใจ แล้วตอบว่า “ลาเย็นวันนี้แค่นั้นค่ะ”
“ได้”คาริน่าพยักหน้า แล้วพูดขึ้นว่า:“ฉันได้ภาพการออกแบบของลูกค้ามา ฉันรู้สึกว่ามันเหมาะกับสไตล์ของคุณ คุณจะลองดูหน่อยไหม?”
โล่เฟยเอ๋อตกตะลึงเล็กน้อย แล้วพยักหน้า“ อืม ได้”
คาริน่าตอบ ‘อืม ’แล้วหยิบเอกสารออกมาจากลิ้นชักโต๊ะ ยื่นให้กับโล่เฟยเอ่อ
“คุณลองดูก่อน”
โล่เฟยเอ๋อเปิดเอกสาร ดูแล้วหนึ่งรอบ แล้วถามขึ้นว่า “จะให้ฉันทำใช่ไหม?”
“ถ้าคุณอยากทำนะ。” สีหน้าของคาริน่าที่แสดงออกมา ‘ แล้วแต่คุณตัดสินใจเลย ’
กลับทำให้โล่เฟยเอ๋อรู้สึกเกรงใจขึ้นมาเล็กน้อย “ต้องส่งภาพออกแบบเมื่อไหร่คะ?นอกเหนือจากข้อเรียกร้องในข้อมูลแล้ว ยังมีข้อกำหนดอื่น ๆ อีกหรือไม่?
“ภาพออกแบบให้ส่งวันศุกร์นี้ คุณเจียงหมิ่นเป็นลูกค้าเก่าของบริษัท ข้อเรียกร้องไม่เยอะ ความต้องการทั้งหมดได้เขียนไว้ในเอกสารแล้ว ไม่มีอะไรเพิ่มเติมอีก” คาริน่าตอบออกมา
“ได้ ส่งงานให้คุณวันศุกร์นี้” โล่เฟยเอ๋อ พยักหน้า แล้วลุกขึ้น
คาริน่าก็ลุกขึ้นเหมือนกันพร้อมกับพูดขึ้นว่า :“ถ้าอย่างนั้นก็ฝากด้วยน่ะ”
โล่เฟยเอ๋อไม่พูดอะไร หยิบเอกสารในมือขึ้นโชว์ส่ายไปมา แล้วเดินออกไปจากออฟฟิศทำงานของคาริน่า
เนื่องจากได้ลางานแล้ว หลังจากที่โล่เฟยเอ๋อออกมาจากออฟฟิศของคาริน่า จึงเก็บของตัวเอง เพื่อเตรียมตัวไปโรงพยาบาล
ออฟฟิศของจางเจียเจียไม่ห่างจากออฟฟิศของเธอมากนัก เมื่อเห็นเธอเก็บของ จึงรีบเดินมาถาม“ เฟยเอ๋อ เธอเก็บของตอนนี้ทำไมเหรอ?”
“ฉันลางาน เพราะว่าฉันมีธุระเย็นนี้” โล่เฟยเอ๋อตอบออกมา
“ออ”จางเจียเจียพยักหน้า แล้วเหลือบไปดู เห็นเอกสารที่คาริน่าให้โล่เฟยเอ๋อเข้าพอดี “เออ อันนี้คืออะไรเหรอ?”
“อันนี้เป็นภาพออกแบบที่อาจารย์คาริน่าให้ฉันทำ” โล่เฟยเอ๋อตอบออกมาอย่างไม่ใส่ใจอะไรมากนัก
เมื่อได้ยินคำพูดของโล่เฟยเอ๋อ สายตาของจางเจียเจียมีความอิจฉาเกิดขึ้น แต่ความรู้สึกนั้นก็ได้หายไปอย่างรวดเร็ว
“เฟยเอ๋อ อาจารย์คาริน่าให้ความสำคัญกับคุณมาก”
“อืม”โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า แล้วพูดขึ้นว่า:“เจียเจีย ฉันรีบ ไปก่อนนะ”
“ได้ นี่เอกสารของคุณ” จางเจียเจียพูดขึ้นแล้วยื่นเอกสารในมือไปให้โล่เฟยเอ๋อ
โล่เฟยเอ๋อรับเอกสารมา แล้วใส่เข้าไปในกระเป๋า“ ขอบใจนะ ฉันเกือบลืมมันไปแล้ว”
ประกายตาของจางเจียเจียกะพริบเล็กน้อย แล้วพูดขึ้นว่า“ ความสัมพันธ์ระหว่างเรา ยังต้องเกรงใจอีกเหรอ?”
“อืม บ๊ายบาย……”
“บ๊ายบาย……”
หลังจากที่โล่เฟยเอ๋อออกมาจากบริษัทแล้ว ได้ไปที่ซุปเปอร์มาเก็ตก่อน หลังจากที่ซื้อผลไม้เสร็จแล้ว จากนั้นได้เรียกแท็กซี่ เพื่อไปที่โรงพยาบาลซื่อซาน
จ่ายเงินเสร็จ แล้วลงจากแท็กซี่ โล่เฟยเอ๋อเดินไปในห้องผู้ป่วยของโล่ชิงไป๋อย่างคุ้นเคย
ระหว่างทางเจอคุณหมอและ คุณพยาบาลไม่น้อย ทักทายกับเธอ
เมื่อโล่เฟยเอ๋อผลักประตูห้องของโล่ชิงไป๋เข้าไป เห็นโล่ชิงไป๋กำลังคุยโทรศัพท์อยู่ เมื่อโล่ชิงไป๋เห็นเธอเดินเข้ามา สายตาของเขามีความวิตกกังวลเล็กน้อย จึงรีบวางสายลง “เฟยเอ๋อ ลูกมาแล้วเหรอ?”
โล่เฟยเอ๋อไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปรกติของโล่ชิงไป๋ เธอตอบ‘อืม’ ออกมา นำผลไม้ที่ถือมา วางไว้บนโต๊ะชา
สายตาของโล่ชิงไป๋มองไปที่เธอ“ เฟยเอ๋อ ลูกมาเยี่ยมพ่อ ยังต้องเอาอะไรมาอีก?”
“หนูก็แค่ไม่อยากให้คนอื่นพูดว่าหนูเป็นลูกอกตัญญูเท่านั้นเอง” โล่เฟยเอ๋อตอบออกมาเบาๆ
โล่ชิงไป๋ถูกเธอดักคอแบบนี้ ก็พูดอะไรไม่ออก
โล่เฟยเอ๋อก็ไม่ได้สนใจเขา หลังจากที่วางผลไม้ลงแล้ว ก็เตรียมเดินไปข้างนอก “หนูยังมีธุระ กลับก่อนนะคะ”