งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 375
บทที่ 375 เธอเป็นลูกสาวของคุณป้า
พ่อบ้านกลับมาหลังผ่านไปสิบนาที แต่กลับไม่ได้พาโล่เฟยเอ๋อมาด้วย
“คนล่ะ ทำไมนายไม่พามาด้วย” ไอบุตถาม
พ่อบ้านเหลือบมองไปยังซูซีมู่อย่างระมัดระวัง จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “คุณผู้หญิงคนนั้นดูท่าไม่ดีเท่าไหร่”
ซูซีมู่ได้ยินพ่อบ้านบอกว่าไม่ดีเท่าไหร่ ก็พุ่งเข้าไปหา คว้าหมับเข้าที่คอเสื้อของพ่อบ้าน “เธอเป็นอะไร นายพาฉันไปเดี๋ยวนี้”
พ่อบ้านถูกการกระทำของซูซีมู่ทำเอาตกใจจนยืนบื้อไปแล้ว ตั้งนานก็ไม่พูดออกมาสักคำ
ในใจของไอบุตค่อยๆ เกิดความหวาดกลัวต่อความโกรธของซูซีมู่ “ผมพาคุณไปเอง”
ซูซีมู่สะบัดตัวพ่อบ้านออกไป จากนั้นก็เร่งฝีเท้าตามไอบุตไป
ไป๋หวนหยู่นิ่งคิด แล้วก็ตามออกไป
ไอบุตพาซูซีมู่และไป๋หวนหยู่เดินไปประมาณสิบนาที ก็มาถึงห้องใต้ดินของบ้านพักตากอากาศ
เปิดประตู ก็เห็นโล่เฟยเอ๋อสีหน้าขาวซีดนอนอยู่กับพื้น
สีหน้าของซูซีมู่ก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทันที จากนั้นก็ก้าวเข้าไปหาโล่เฟยเอ๋ออย่างรวดเร็ว กอดโล่เฟยเอ๋อไว้ในอ้อมอก “เฟยเอ๋อ……”
โล่เฟยเอ๋อฮึมฮัมหนึ่งเสียง ไม่ได้ลืมตาขึ้น
ตาของซูซีมู่เริ่มแดง มีไอความโกรธที่น่ากลัวกระจายออกมา
เห็นว่าเขากำลังจะปะทุแล้ว ไป๋หวนหยู่ที่เข้ามาจากข้างหลังก็เตือนขึ้นว่า “อาจเป็นเพราะว่าร้อนเกินไป รีบส่งเธอไปโรงพยาบาลก่อน”
ไอความโกรธจากร่างของซูซีมู่กระจายหายไป จากนั้นก็อุ้มโล่เฟยเอ๋อขึ้นจากพื้น ออกไปข้างนอกทันที
ไป๋หวนหยู่รีบตามออกไป ตอนที่ออกจากประตูกำลังจะผ่านร่างของไอบุต เขาเอ่ยเสียงต่ำว่า ‘คุณเตรียมตัวรับมือความโกรธของเขาเถอะ’
ตั้งแต่ที่ซูซีมู่ตรวจดูกล้องวงจรปิดที่บริษัทจิวเวลรี่นานาชาติไป๋ซื่อ จนถึงตอนนี้ ไป๋หวนหยู่ได้ข้อสรุปข้อหนึ่งว่า ซูซีมู่ใส่ใจโล่เฟยเอ๋อมาก
ระหว่างทางไปโรงพยาบาล โล่เฟยเอ๋อก็ฟื้นขึ้นมา
“เฟยเอ๋อ คุณฟื้นแล้ว”
โล่เฟยเอ๋อมองซูซีมู่อย่างอึ้งๆ ไปหลายวินาที จึงพูดขึ้นว่า “ซูซีมู่”
“ผมเอง” ซูซีมู่กุมมือของโล่เฟยเอ๋อไว้
โล่เฟยเอ๋อมองไปรอบๆ จากนั้นก็เอ่ยขึ้นว่า “ฉันอยู่ที่ ……ทำไมมาอยู่ในรถ”
“อืม พวกเราออกมาจากที่นั่นแล้ว กำลังจะไปโรงพยาบาล” ซูซีมู่ตอบ
“ไปโรงพยาบาลทำไม” โล่เฟยเอ๋อถามจบก็เหมือนจะนึกอะไรออก ลุกขึ้นนั่งอย่างตกใจ “ซูซีมู่คุณได้รับบาดเจ็บเหรอ”
ซูซีมู่กอดเธอเอาไว้ในอ้อมอก “ผมไม่เป็นไร ผมจะพาคุณไปตรวจร่างกาย”
“ฉันไม่เป็นไร ไม่ต้องตรวจหรอก” โล่เฟยเอ๋อส่ายหัว
ซูซีมู่เอ่ยขึ้นอย่างไม่เห็นด้วย “ก่อนหน้านี้คุณร้อนจนเป็นลมไป ไปตรวจดูที่โรงพยาบาลสักหน่อยดีกว่า”
โล่เฟยเอ๋อรู้ว่าซูซีมู่เป็นห่วงเธอ จึงไม่ดึงดัน “ก็ได้ ไปก็ไป”
“อืม เด็กดี……” ซูซีมู่กิริยาอ่อนโยนกอดโล่เฟยเอ๋อไว้ในอ้อมอก ท่าทางราวกับปกป้องของมีค่า
ไป๋หวนหยู่คิดมาตลอดว่าซูซีมู่จะเป็นคนเลือดเย็น แต่กลับคิดไม่ถึงว่าซูซีมู่เมื่ออยู่ต่อหน้าโล่เฟยเอ๋อนั้น กลับอบอุ่นดุจสายน้ำ
หรือนี่จะเป็นที่ใครๆ ต่างบอกกันถึงสิทธิพิเศษของคนรัก
ถอนหายใจในใจ ไป๋หวนหยู่ยิ้มและพูดขึ้นว่า “ประธานซูและคุณผู้หญิงช่างรักกันจริง น่าอิจฉาจริงๆ”
โล่เฟยเอ๋อมองไปยังคนที่พูดก็พบวาเป็นชายอันธพาลคนนั้นที่เธอพบในงานเลี้ยงของบริษัทจิวเวลรี่นานาชาติไป๋ซื่อ ประหลาดใจมาก “เป็นคุณ”
“เขาเป็นประธานของบริษัทจิวเวลรี่นานาชาติไป๋ซื่อ เฟยเอ๋อรู้จักเขาเหรอ” ซูซีมู่ถาม ไป๋หวนหยู่กระแอมเบาเบา “อะแฮ่ม……ผมกับคุณผู้หญิงเข้าใจผิดกันนิดหน่อย”
“เข้าใจผิด เรื่องอะไร” สายตาคมปลาบของซูซีมู่มองไปยังไป๋หวนหยู่
ไป๋หวนหยู่ตัวสั่นสะท้าน กำลังเตรียมจะอธิบายเรื่องเข้าใจผิดกัน
แต่โล่เฟยเอ๋อกลับเร็วกว่าหนึ่งก้าวเปิดปากพูดขึ้นว่า “ก็คือว่าวันนั้นที่โถงงานเลี้ยงไม่ตั้งใจเหยียบเท้าคุณไป๋ไปหนึ่งที”
ซูซีมู่พยักหน้า ‘ออ’ หนึ่งเสียง แล้วก็พูดว่า “ครั้งนี้ที่หาคุณจนพบ ก็ต้องขอบคุณประธานไป๋”
“ขอบคุณประธานไป๋” โล่เฟยเอ๋อกล่าวขอบคุณอย่างมีมารยาทต่อไป๋หวนหยู่
บางที่ตอนที่เธอยังไม่รู้ว่าพวกเราเป็นญาติของเธอ จึงพูดคำว่า ‘ขอบคุณ’ ออกมา
ไป๋หวนหยู่จ้องมองโล่เฟยเอ๋อด้วยสายตาขรึมลง จากนั้นก็ส่ายหัว “ไม่ต้องขอบคุณ เรื่องเล็กน้อย”
ซูซีมู่สังเกตไป๋หวนหยู่ตลอด แน่นอนว่าต้องสังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงบนหน้าของเขาเมื่อกี้ด้วย
สายตาของเขามีแววสงสัย เอ่ยขึ้นโดยแฝงความนัยว่า “เรื่องเล็กน้อยของประธานไป๋ช่างหนักเสียจริง”
ได้ยินคำพูดของซูซีมู่ ปฏิกิริยาแรกของไป๋หวนหยู่คือคิดว่าซูซีมู่รู้แล้ว
ไม่ เขาคงยังไม่รู้ แต่แค่สงสัยเท่านั้น
ไป๋หวนหยู่ไม่กล้าพูดอะไรตามใจอีก เพียงแต่ยิ้ม หุบปาก ตั้งใจขับรถไป
หลังจากนั้นสิบกว่านาที รถก็มาถึงหลังโรงพยาบาล
ซูซีมู่รอให้รถจอดสนิทแล้ว จึงอุ้มโล่เฟยเอ๋อลงจากรถ จากนั้นก็วิ่งตรงไปยังโรงพยาบาล
ตอนที่ไป๋หวนหยู่เข้ามา หมอได้ทำการตรวจร่างกายให้โล่เฟยเอ๋อแล้ว ซูซีมู่เฝ้าอยู่ข้างกายโล่เฟยเอ๋อไม่ห่าง
รอจนหมอตรวจเสร็จแล้ว เขาก็อดรนทนรอไม่ไหวที่จะถามถึงอาการของโล่เฟยเอ๋อจากคุณหมอ
“คุณหมอ ก่อนหน้านี้เธอร้อนจนสลบไป ร่างกายมีปัญหาอะไรหรือเปล่า”
หมอตอบกลับว่า “เด็กในท้องของเธอได้รับผลกระทบนิดหน่อย อย่างอื่นก็ไม่มีปัญหา” ครั้งนี้ทั้งโล่เฟยเอ๋อและซูซีมู่ต่างเอ่ยขึ้นพร้อมกัน “ลูกเป็นยังไงบ้าง”
คุณหมอถูกท่าทีของทั้งสองทำให้ตกใจเล็กน้อย เอ่ยขึ้นอย่างอึกอักว่า “ก็……กระทบกับครรภ์……เล็กน้อย พักผ่อนดีๆ ……ก็พอ”
กระทบครรภ์……สมองของซูซีมู่อึ้งไปในพริบตา ความทรงจำเรื่องโล่เฟยเอ๋อแท้งก่อนหน้านี้ยังจำฝังใจ ขอบตาเขาแดงก่ำ จากนั้นก็พูดกับหมอเสียงเย็นว่า “คุณรีบรักษาให้เธอ”
“คุณผู้ชายครับ ภาวะของภรรยาคุณไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล กลับบ้านไปพักผ่อน……” หมอยังพูดไม่ทันจบ ซูซีมู่ก็ขัดขึ้นว่า “ให้เธอนอน คุณได้ยินไหม”
โล่เฟยเอ๋อรู้ทันความคิดของซูซีมู่ เธอกุมมือของซูซีมู่เอาไว้ เอ่ยเสียงต่ำ “ซูซีมู่ ฉันโอเค ลูกก็โอเค”
โล่เฟยเอ๋อเอ่ยเสียงเบา ปลอบซูซีมู่ “อืม ดีมาก……”
ไป๋หวนหยู่จ้องหลังของซูซีมู่และโล่เฟยเอ๋ออยู่หลายวินาที จากนั้นก็ค่อยๆ ถอยออกไปอย่างเงียบๆ
เพิ่งเดินออกไป มือถือของเขาก็ดังขึ้น
ไป๋หวนหยู่หยิบมือถือออกจากกระเป๋า เห็นว่าหน้าจอปรากฏเบอร์ของพ่อ
ทำไมพ่อถึงโทรหาเขา รู้สึกสงสัย ไป๋หวนหยู่กดปุ่มรับสาย
“คุณพ่อ”
“หวนหยู่ ตอนนี้แกอยู่ที่ไหน”
ไป๋หวนหยู่ตอบว่า “ผมอยู่โรงพยาบาล”
“แกไปทำอะไรที่โรงพยาบาล”
“มีเรื่องนิดหน่อย” ไป๋หวนหยู่หยุดไปสักพักก็ถามขึ้นว่า “คุณพ่อโทรหาผมมีเรื่องอะไร”
“หวนหยู่ แกรู้จักประธานของบริษัทซูซื่อด้วยเหรอ”
ไป๋หวนหยู่อึ้งไปสักพัก จากนั้นก็ถามว่า “คุณพ่อรู้ได้ยังไงว่าผมรู้จักประธานซู”
“เมื่อกี้ไอบุตโทรหาฉัน เขาอยากจะให้แกช่วยขอร้องประธานซู หากแกรู้จักประธานซู ก็ช่วยเขาหน่อยแล้วกัน”
ไป๋หวนหยู่ไม่ได้ตอบคำถามของพ่อ เพียงแต่ถามกลับไปว่า “คุณพ่อรู้หรือเปล่าทำไมผมถึงอยู่ที่โรงพยาบาล”
“เพราะอะไร แกได้รับบาดเจ็บเหรอ”
“ภรรยาของประธานซูเจ็บครรภ์ กำลังตรวจร่างกายอยู่ที่โรงพยาบาล และคนที่ทำให้เธอเจ็บครรภ์ ก็คือ ……” ไป๋หวนหยู่หยุดไปหลายวิ จึงเอ่ยขึ้นสามคำว่า “ไอบุต”
“อะไรนะ” คนที่อยู่ปลายสายทำเสียงประหลาดใจ
ไป๋หวนหยู่ไม่สนใจเสียงอุทานของพ่อ พูดต่อไปว่า “คุณพ่อ ภรรยาของประธานซูพ่อก็รู้จัก ไม่สิ พวกเราทุกคนในตระกูลไป๋ต่างก็รู้จัก”
“คนของบ้านตระกูลไป๋เรารู้จัก ใคร”
“ลูกสาวคุณป้า โล่เฟยเอ๋อ…