งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 408
บทที่408 โจวเฉิงตัดสินใจจากไป
ตอนที่โจวเฉิงตื่นขึ้น เป็นเวลากลางดึก
ในห้องมีเพียงแสงไฟสลัวๆ แม้จะไม่ได้สว่างมาก แต่ก็มองเห็นทุกอย่างได้อย่างชัดเจน
เฟอร์นิเจอร์สีขาว เตียงสีขาว…อื่นๆ ทำไมที่นี่มันคุ้นๆ?
ใช่ ห้องนี้เป็นห้องที่เขาจับตาดูทุกความคืบหน้าจนมันเสร็จ
นี่เป็นห้องนอนในวิลล่าของท่านประธานเขา
เขามาอยู่ที่วิลล่าท่านประธานได้ยังไง?
โจวเฉิงขมวดคิ้ว พยายามรื้อฟื้นความทรงจำ
หลังจากที่ได้ยินที่ซูยุ่นกับคุณชายเหซิงคุยกัน เขาก็ออกมาจากงานเลี้ยงวันเกิด
จากนั้นก็ไปดื่มเหล้าในผับแห่งหนึ่ง
จากนั้นท่านประธานก็ตามหาจนเจอ แล้วนั่งดื่มกับเขา จากนั้น…
เขาคงจะเมาสลบไป ท่านประธานก็เลยพาเขากลับมา
โจวเฉิงสะบัดศีรษะที่หนักอึ้ง แล้วลุกขึ้น
ก่อนจะเห็นซูยุ่นนอนพาดอยู่ข้างเตียง กำลังหลับสนิท
เธอมาได้ยังไง? แถมยังมานานอยู่ข้างเตียง?
สายตาของโจวเฉิงจ้องซูยุ่น แล้วต้องขมวดคิ้ว เมื่อเห็นบริเวณรอบดวงตาของเธอเป็นสีคล้ำ เนื่องจากไม่ได้พักผ่อน
เขายื่นมือออกไปลูบใบหน้าเล็กอย่างไม่รู้ตัว
แต่ขณะที่มือกำลังจะสัมผัสลงบนผิวหน้า จู่ๆ เขาก็หดมือกลับราวกับถูกน้ำร้อนลวกเข้าให้ก็ไม่ปาน
จริงสิ ทำไมเขาถึงลืมไปซะได้ ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นภรรยาในนามของเขา แต่ความจริงเขากับเธอไม่ได้เป็นอะไรกันมากมายด้วยซ้ำ อีกทั้งในใจของเธอมียังคุณชายเหซิงอยู่
โจวเฉิงจ้องใบหน้าของซูยุ่นได้สักพัก ก็ดึงผ้าห่มออก ลงจากเตียง
เขาอุ้มซูยุ่นขึ้นมานอนบนเตียงด้วยความแผ่วเบา นุ่มนวล อ่อนโยน เพราะกลัวจะทำเธอตื่น
หลังจากทำทุกอย่างเสร็จ โจวเฉิงเดินมาที่ระเบียง ล้วงเอาซองบุหรี่ออกจากกระเป๋า หยิบบุหรี่หนึ่งมวนออกมาจุดไฟสูบ
ลมยามกลางดึกพัดเข้ามาปะทะกับหน้า แต่ก็ไม่อาจพัดเอาความเจ็บปวดในใจของเขาไปได้…
โจวเฉิงยืนสูบบุหรี่อยู่ตรงระหว่างจนกระทั่งท้องฟ้าสว่าง ถึงเดินกลับห้อง
เดินมาถึงเตียงมองซูยุ่นเล็กน้อย โจวเฉิงก็ออกจากห้อง ไปเคาะประตูห้องซูซีมู่
ในห้องนอนใหญ่ โล่เฟยเอ๋อกำลังหลับสบายอยู่ในอ้อมกอดของซูซีมู่
จู่ๆ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
โล่เฟยเอ๋อขมวดคิ้ว พยายามเปิดเปลือกตาขึ้น “ใครเคาะประตูน่ะ?”
“เดี๋ยวฉันไปดู เธอนอนต่อเถอะ” ซูซีมู่ยื่นมือลูบผมของเธอ
โล่เฟยเอ๋อตอบ ‘อืม’ แล้วหลับตาลงอีกครั้ง
ซูซีมู่นำร่างของเธอย้ายไปนอนอีกฝั่งอย่างแผ่วเบา แล้วเลิกผ้าห่มออก ลงจากเตียง หยิบเสื้อผ้ามาสวม แล้วเปิดประตู
เปิดประตูออกมาก็เห็นโจวเฉิงยืนอยู่ เขาขมวดคิ้ว
“ฟื้นแล้วหรอ?”
“ฟื้นแล้วครับ” โจวเฉิงตอบ
ซูซีมู่พยักหน้า แล้วถาม “มีอะไร?”
โจวเฉิงเงียบไปแป๊บหนึ่ง แล้วถาม “ประธานซู ผมอยากย้ายไปดูงานที่อื่น”
ซูซีมู่ไม่ได้ตอบ แต่ถามกลับ “เพราะซูยุ่น?”
โจวเฉิงก้มหน้า ไม่ตอบ
ซูซีมู่มองเข้าเงียบอยู่สักพัก ก่อนจะพูดขึ้น “นายไปเคปทาวน์คุมโปรเจคที่ทำร่วมกับบริษัทจิวเวลรี่นานาชาติไป๋ซื่อ”
โจวเฉิงไม่คิดว่าซูซีมู่จะรับปากเขาจริงๆ จึงรีบพยักหน้า “ครับ ประธานซู”
ซูซีมู่ตอบ ‘อืม’ แล้วหมุนตัวเดินกลับห้อง…
ตอนที่ซูยุ่นตื่นขึ้นมา เป็นเวลาสายแล้ว
เธอลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะนึกได้ว่าเธอที่นอนพาดอยู่ข้างเตียง แต่กลับขึ้นมานอนบนเตียง
แถมในห้องก็โล่งโจ้ง มีเพียงแค่เธอ ไม่รู้ว่าโจวเฉิงไปไหน
“โจวเฉิงตื่นแล้วหรอ?” ซูยุ่นพึมพำ เลิกผ้าห่มออก ลงจากเตียง แล้วลงไปหาโจวเฉิง
แต่เมื่อลงมาเธอก็ไม่เจอโจวเฉิง เห็นแค่ซูซีมู่กับโล่เฟยเอ๋อกำลังนั่งกินอาหารเช้า…เอ่อ…อาหารเที่ยง
เห็นซูยุ่น โล่เฟยเอ๋อก็รีบเอ่ยทัก “ซูยุ่น ตื่นแล้วหรอ? มากินข้าวสิ”
ซูยุ่นไม่ได้ตอบโล่เฟยเอ๋อ แต่ถามกลับ “พี่สะใภ้ โจวเฉิงล่ะคะ?”
“โจวเฉิง? ฉันไม่เห็นนะ เขาไม่ได้อยู่ในห้องหรอ?” โล่เฟยเอ๋อรีบตอบ
“เขาตื่นแล้วค่ะ” ซูยุ่นตอบ
“ตื่นแล้วหรอ? ฉันไม่เห็นเขานะ” โล่เฟยเอ๋อพูดจบ ก็หันไปถามซูซีมู่ “คุณเห็นโจวเฉิงไหมคะ?”
ซูซีมู่พยักหน้า “อืม”
ซูยุ่นได้ยินดังนั้น ก็รีบถามอย่างรีบร้อน “พี่เห็นโจวเฉิงหรอคะ เขาไปไหน?”
“เขาไปแล้ว” โจวเฉิงตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ
พอได้ยินว่าซูซีมู่บอกว่าเขาไปแล้ว ซูยุ่นก็รู้สึกถึงลางสังหรณ์ไม่ค่อยดี
“เขาไปไหนคะ?”
ซูซีมู่ตอบ “เคปทาวน์”
“เคปทาวน์?” ซูยุ่นพูดชื่อซ้ำอีกครั้ง แล้วจู่โจมเข้าไปถามซูซีมู่ “ทำไมพี่ถึงให้เขาไปที่เคปทาวน์?”
ซูซีมู่เงยหน้ามองเธอเล็กน้อย ไม่ตอบ
แต่ซูยุ่นก็เข้าใจความหมายของเขา ที่โจวเฉิงไปเคปทาวน์เป็นเพราะเธอ
เขาไม่อยากเจอหน้าเธอ ถึงได้ไปเคปทาวน์ตั้งแต่เช้าตรู่
“เขาไปแล้ว…ไปเคปทาวน์แล้ว” ประโยคนี้วนอยู่ในสมองซ้ำๆ แล้วหมุนตัววิ่งออกจากวิลล่า
แม้แต่เสียงของโล่เฟยเอ๋อที่ตะโกนเรียก เธอก็ไม่ได้ยิน
“ซูยุ่น…”
โล่เฟยเอ๋อลุกขึ้นจะตามซูยุ่นไป แต่ถูกซูซีมู่ห้ามไว้ก่อน
โล่เฟยเอ๋อพยายามผลักเขาแล้วพูด “คุณรีบตามไป เธอวิ่งออกไปแบบนี้อาจจะเกิดอันตราย”
“ฉันส่งคนตามไปดูแล้ว” ซูซีมู่ตอบ
ได้ยินที่ซูซีมู่พูด โล่เฟยเอ๋อถึงได้วางใจ “โจวเฉิงอยากไปเคปทาวน์เองหรอคะ?”
“อืม เมื่อเช้าเขามาหาฉัน” ซูซีมู่พยักหน้า
โล่เฟยเอ๋อถอนหายใจ แล้วว่า “คิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องแค่นี้จะทำให้เขาสองคนกลายเป็นแบบนี้ได้…”
ได้ยินโล่เฟยเอ๋อพูด จู่ๆ ซูซีมู่ก็นึกอะไรออก คิ้วหนาก็ขมวดเข้าหากัน
“มีอะไรคะ?” โล่เฟยเอ๋อถาม
“ไม่มีอะไร กินข้าวกันต่อเถอะ” ซูซีมู่พูดพร้อมกับหยิบตะเกียบขึ้นคีบกับข้าวให้โล่เฟยเอ๋อ
โล่เฟยเอ๋อไม่ได้สงสัยอะไร ตั้งหน้าตั้งตากิน
กินข้าวเสร็จ นั่งย่อยสักพัก ก็ถึงเวลานอนกลางวันของโล่เฟยเอ๋อ
หลังจากกล่อมโล่เฟยเอ๋อเข้านอนเสร็จ เขาก็ค่อยๆ ลงจากเตียง
แล้วลงมาข้างล่าง ขับรถออกจากวิลล่า
ซูซีมู่ขับรถไปที่บริษัทของเหซิงโม่
เมื่อเดินเข้าล็อบบี้ เขาจึงตรงเข้าลิฟต์สำหรับท่านประธาน
พนักงานในล็อบบี้ไม่รู้จักเขา เห็นร่างสูงเดินเข้าลิฟต์ก็รีบออกมาห้าม “คุณผู้ชาย นี่เป็นลิฟต์สำหรับท่านประธาน เข้าไปไม่ได้ค่ะ”
ซูซีมู่ไม่ตอบ เขากดปิดประลิฟต์
พนักงานสาวรีบกลับมาที่ฟร้อนท์ โทรศัพท์แจ้งเบื้องบน
ดังนั้นเมื่อซูซีมู่ออกจากลิฟต์มา คนจำนวนไม่น้อยยืนห้ามเขาอยู่หน้าประตู
“ขอโทษนะครับ แต่ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่คุณจะเข้ามาได้”
“ฉันมาหาเหซิงโม่” ซูซีมู่โยนคำพูดนี้เสร็จ ก็ตรงเข้าไปที่ห้องทำงานของเหซิงโม่
คนอื่นๆ พากันอึ้ง แล้วรีบตามไปรั้งเขาอีกครั้ง
“คุณผู้ชาย ถ้าคุณจะพบท่านประธานต้องนัดล่วงหน้า แต่ถ้าคุณยังดึงดันต่อแบบนี้ พวกเราจะเรียกรปภ.”
ซูซีมู่ขมวดคิ้วแน่น กำลังจะพูดอะไรสักอย่าง
ตอนนี้เอง เลขาของเหซิงโม่ออกมาจากห้องทำงานพอดี เมื่อเห็นซูซีมู่ เธอก็อึ้ง แล้วรีบตรงเข้ามาต้อนรับ “พวกเธอจะห้ามประธานซูทำไม? อยากโดนไล่ออกหรอ?”
คนพวกนั้นได้ยิน ก็รีบแยกย้ายเดินจากไป
เลขาจึงรีบฉีกยิ้มแห้งทักทายซูซีมู่ “ประธานซูมาพบประธานเหซิงใช่ไหมคะ?”
ซูซีมู่ไม่ตอบ แต่ถาม “เหซิงโม่อยู่ห้องทำงานหรือเปล่า?”
“อยู่ค่ะ ท่านประธานซู…” ไม่รอให้เลขาพูดจบ ซูซีมู่ก็เดินอ้อมไปจากเธอ ตรงเข้าไปในห้องทำงานของเหซิงโม่