งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 412
บทที่ 412 ซูยุ่นโจวเฉิง ความรักราบรื่น
เดิมทีตอนที่โจวเฉิงมาที่บ้านของซูยุ่น ก็ดึกแล้ว
และได้วุ่นวายมานานขนาดนี้ เวลาจึงดึกมากแล้ว
ทั้งสองคุยกันไปมา ก็เริ่มรู้สึกง่วงนอน
โจวเฉิงพูดอย่างเหนื่อยล้าเล็กน้อย “ดึกมากแล้ว นอนเถอะ”
ซูยุ่นส่งเสียง ‘อืม’ ดึงเขาขึ้นไปนอนบนเตียง
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขานอนด้วยกัน แต่เมื่อก่อนตอนที่พวกเขานอนด้วยกัน คือแบ่งอาณาเขตกันอย่างชัดเจน ในครั้งนี้ โจวเฉิงกอดซูยุ่นเข้านอน
หลังจากที่ซูซีมู่โทรหาเขา บอกกับเขาว่า เรื่องการแต่งงานปลอมของซูยุ่นถูกเปิดโปงแล้ว ถูกพ่อแม่บ้านซูพากลับไปเมืองหลวง โจวเฉิงก็รีบกลับมาในประเทศ จากนั้นก็รีบเดินทางจากเมือง A มาที่เมืองหลวง ไม่ได้พักผ่อนดีๆ เลย
ตอนนี้ซูยุ่นนอนอยู่ในอ้อมกอดของเขา ก็รู้สึกโล่งใจแล้ว ดังนั้นภายในไม่กี่นาที เขาก็หลับไปแล้ว
แต่ซูยุ่นไม่ได้หลับไป พิงอยู่ในอ้อมกอดของคนคุ้นเคย สูดกลิ่นกลิ่นของคนคุ้นเคย หัวใจเต็มเปี่ยม แต่เธอไม่ลืม เรื่องที่โจวเฉิงจะรับโทษการแต่งงานปลอม จากตระกูลซูเพียงลำพัง
เธอค่อยๆ เอามือของโจวเฉิง ที่วางไว้ตรงเอวเธอออกไป จากนั้นก็ลุกขึ้นลงจากเตียง สวมเสื้อผ้าเรียบร้อย แล้วก้มลงจูบที่มุมปากของโจวเฉิง ถึงได้ออกจากห้องนอน
หลังจากที่ออกมาจากห้องรับรอง ซูยุ่นก็ตรงไปที่ห้องของพ่อแม่
พ่อซูแม่ซูได้หลับไปแล้ว แต่ถูกลูกสาวของตัวเองปลุกให้ตื่น อยากจะระเบิดอารมณ์ ก็ระเบิดไม่ได้
“ซูยุ่น มีเรื่องอะไร? ”
ซูยุ่นตอบ “เกี่ยวกับการแต่งงานปลอมของฉัน ฉันอยากคุยกับพวกท่านหน่อย”
พ่อซูกับแม่ซูมองหน้ากันไปมา แล้วถามว่า “คุยอะไร?”
ซูยุ่นก็ไม่ได้พูดเรื่องไร้สาระ พูดตรงๆ “เรื่องการแต่งงานปลอม ไม่มีเกี่ยวข้องกับเขา ฉันจะรับโทษคนเดียว”
“โจวเฉิงต้องการรับผิดชอบคนเดียว เธอก็จะรับผิดชอบคนเดียว พวกเธอนึกว่า นี่เป็นการเล่นขายของกันหรือ?” พ่อซูถามด้วยสีหน้าบึ้งตึงเล็กน้อย
“ฉัน……” ซูยุ่นยังอยากจะพูดอะไรอีก แม่ซูก็ขัดจังหวะเธอ “เอาล่ะ พรุ่งนี้พวกเธอสองคนไปที่บ้านหลักด้วยกัน”
คุณแม่ได้พูดอย่างนี้แล้ว ซูยุ่นยังจะทำยังไงได้อีก? ทำได้เพียงยอมรับ “ค่ะ”
ตอนที่โจวเฉิงตื่นขึ้นมา ก้มหน้ามองเข้าไปในอ้อมกอดโดยสัญชาตญาณ
เมื่อเห็นซูยุ่นกำลังนอนหลับสนิทในอ้อมกอดของเขา ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ในความเป็นจริง เขาไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ เวลาห่างกันเกือบหนึ่งเดือน หลังจากที่เขากลับมาจากเคปทาวน์ ได้รับเซอร์ไพรส์ที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ว่าซูยุ่นก็ชอบเขา
ไม่มีใครรู้ว่าในใจเขาหมดหวังแค่ไหน เมื่อเขาออกจากเมือง A ไปยังเมืองเคปทาวน์
ถึงอย่างนั้น เขาก็รักเธอ เขายังคงรักเธอมาก
ในช่วงเวลาที่อยู่ในเคปทาวน์ เขาคิดถึงเธอทุกวันคืนวัน
หลังจากรู้ว่า การแต่งงานปลอมของเธอถูกเปิดโปงถูกพ่อแม่พาตัวกลับไปที่เมืองหลวง เขาก็กังวลเป็นอย่างมาก
ดังนั้นเขาจึงรีบขึ้นไฟลท์บินเร็วที่สุดกลับประเทศ หาเธอเจอแล้ว
ในเวลานั้น เขามีแค่ความคิดเดียว ตามหาเธอ รับบทลงโทษทั้งหมดแทนเธอ แล้วก็ไล่ตามเธอกลับมา
ไม่คาดคิดว่า เธอจะบอกเขาว่า เธอชอบเขา
เมื่อโจวเฉิงนึกถึงตรงนี้ มุมปากก็ขึ้นโค้งเล็กน้อย
เขาหันหน้ามองซูยุ่น ที่กำลังนอนหลับอยู่ในอ้อมกอด อดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไป สัมผัสใบหน้าของเธอด้วยความรัก จากนั้นก้มหน้าลง จูบที่หว่างคิ้วของเธอ
เขาไม่ได้รบกวนเธอ แค่ดึงผ้าห่มออกเบาๆ ใส่เสื้อผ้าแล้วออกจากห้องนอนอย่างระมัดระวัง
หลังจากที่โจวเฉิงออกมาจากห้องนอน ก็ตรงไปที่คนรับใช้เลย ขอให้คนรับใช้ไปเชิญพ่อแม่ของซูยุ่น
สิบนาทีต่อมา พ่อซูและแม่ซู ก็ออกมาด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“คุณลุง คุณป้า” โจวเฉิง กล่าวทักทายอย่างสุภาพ
พ่อซูถาม “เช้าขนาดนี้ หาพวกเรามีเรื่องอะไร?”
“ฉันอยากขอให้คุณลุงกับคุณป้า พาฉันไปที่คฤหาสน์ตระกูลซู” โจวเฉิงไม่พูดเรื่องไร้สาระ อธิบายความตั้งใจในการมาหาของตัวเองโดยตรง
สองคนนี้สมเป็นคู่สามีภรรยาจริงๆ คนหนึ่งกลางค่ำกลางคืนรบกวนคุณอื่นนอน อีกคนรบกวนฝันหวานของคนอื่นตั้งแต่เช้า
พ่อแม่ตระกูลซูแอบบ่นในใจ แต่ภายนอกยังคงเรียบเฉย “นายไม่รอซูยุ่นเหรอ?”
“ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับซูยุ่น ฉันไปคนเดียวก็พอ” โจวเฉิงตอบ
พ่อซูและแม่ซูส่งเสียง ‘โอ้’ ก่อน จากนั้นก็ชี้ไปข้างหลังของโจวเฉิง แล้วพูดว่า “นายควรถามความคิดเห็นจากเธอหน่อย”
โจวเฉิงหันหน้ากลับ ก็เห็นซูยุ่นยืนอยู่ข้างหลังเขา “ซูยุ่น คุณตื่นแล้วเหรอ?”
“ฉันไม่ตื่น คุณก็จะทำเรื่องโง่อีกแล้ว” ซูยุ่นตอบ
โจวเฉิงไม่ได้พูดอะไร ถือเป็นการยอมรับโดยปริยาย
ซูยุ่นเดินเข้ามา จับมือของโจวเฉิงไว้ แล้วพูดกับพ่อแม่ “พ่อ แม่ เราทั้งคู่ตัดสินใจจะไปที่คฤหาสน์ตระกูลซูรับโทษด้วยกัน”
โจวเฉิงพยักหน้า “ใช่ เราไปด้วยกัน”
พ่อซูและแม่ซูมองทั้งสองที่สีหน้าจริงจัง สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะหลุดหัวเราะออกมา “ฮ่าๆ …..ถูกซูซีมู่เดาถูกจริงๆ ด้วย”
“อะไรอ่ะ?” ซูยุ่นและโจวเฉิงสับสนมึนงงไปหมด
แม่ซูพูดอธิบาย “ซีมู่บอกว่าพวกเธอสองคน มีความรู้สึกต่อกัน ดังนั้นใช้โอกาสที่ซูยุ่นได้รับบทลงโทษจากการละเมิดกฎของตระกูลซู ให้พวกเธอสองคนบอกความในใจซึ่งกันและกัน”
เมื่อได้ยินคำอธิบายของแม่ซู ซูยุ่นและโจวเฉิงก็อึ้งไปเลย
แม่ซูยังคงพูดต่อ “ซีมู่บอกว่า ถ้าพวกเธอทั้งสองไม่มีความรู้สึกต่อกัน ถ้าอย่างนั้นลงโทษประจำตระกูลซู ก็สั่งสอนให้พวกเธอได้รับบทเรียน แต่ถ้าพวกเธอสองคนมีความรู้สึกต่อกัน งั้นก็ให้เป็นกำไรของเธอทั้งคู่”
“อะไรคือให้เป็นกำไรของเราทั้งคู่?” ในที่สุดซูยุ่นก็พบประเด็นสำคัญ
แม่ซูไม่ได้ตอบคำพูดของซูยุ่น แต่ถามโจวเฉิงว่า “โจวเฉิง ตอนที่ซีมู่ “ให้ซองจดหมายนาย ได้พูดอะไร?”
“ประธานซูไม่ได้พูดอะไร” โจวเฉิงหยุดชั่วคราว แล้วพูดว่า “แต่คุณนายบอกว่า ซองจดหมายคือยันต์ป้องกันตัว”
“ใช่แล้ว นั่นคือยันต์ป้องกันตัว ซึ่งสามารถช่วยพวกเธอทั้งสองละเว้นจากการลงโทษครั้งนี้ได้” พ่อซูพยักหน้า
เมื่อได้ยินคำพูดของพ่อซู โจวเฉิงและซูยุ่น ทั้งสองก็ดีอกดีใจพร้อมกัน “พ่อ แม่ ขอบคุณค่ะ”
พ่อซูและแม่ซูพูดพร้อมเพรียงกัน “ถ้าอยากขอบคุณ ก็ขอบคุณพี่ชายพวกเธอเถอะ”
ในวันเดียวกัน ซูซีมู่ที่อยู่ในเมือง A ได้รับโทรศัพท์จากโจวเฉิง
หลังจากคุยกับโจวเฉิงเสร็จแล้ว ซูซีมู่ก็เก็บโทรศัพท์ลง แล้วพูดกับโล่เฟยเอ๋อ “พวกเขาดีกันแล้ว พรุ่งนี้ก็จะกลับมาเมืองA เลย”
“งั้นก็ดี” โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า
ซูซีมู่ส่งเสียง ‘อืม’ ทันใดนั้นก็เหมือนนึกอะไรออก จึงถามว่า “พรุ่งนี้พวกเขาจะกลับมา วันนี้เราไปที่บ้านพักตักอากาศกันไหม?”
โล่เฟยเอ๋อชอบบ้านพักตักอากาศมากจริงๆ แต่อย่างนี้จะดีไหม? และยังจะไปวันนี้เลย……
“ไม่ดีกว่ามั้ง?”
ซูซีมู่รู้ความคิดของโล่เฟยเอ๋อดี แววตาของเขาประกายรอยยิ้มแห่งความรัก แล้วตอบว่า “โจวเฉิงสามารถจัดการได้เอง”
ที่แท้ตัวคุณ ให้โจวเฉิงและซูยุ่น ทั้งสองเปิดเผยความรู้สึก ก็เพื่อที่จะให้โจวเฉิงกลับมาเป็นวัวเป็นม้าทำงานให้คุณ
คุณนี่มันหน้าเนื้อใจเสือจริงๆ!
โจวเฉิงผู้น่าสงสาร ยังทำงานอย่างมีความสุข อย่างกับทานของหวาน!
หลังจากที่โจวเฉิงและซูยุ่นกลับมาที่เมืองA ในวันรุ่งขึ้น ก็ได้รู้ว่าซูซีมู่และโล่เฟยเอ๋อไปที่บ้านพักตักอากาศแล้ว
เรื่องภายในทั้งหมดของบริษัท ก็มอบไว้ให้เขาหมด
โจวเฉิงผู้น่าสงสาร เดิมทียังคิดไว้ว่า หยุดพักสักสองสามวัน มีความสุขในความรักกับซูยุ่นเสียหน่อย
ผลก็คือทันทีที่กลับมาเมือง A ก็ถูกข่าวนี้ฟาดหัวจนวิงเวียนศีรษะ จากนั้นก็ถูกงานนับไม่ถ้วนทับถม