งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 414
บทที่ 414 ความสิ้นหวังของ บริษัทนานาชาติหยุนหลง
หลังจากที่ทั้งสี่คนได้คุยหารือกันแล้ว ต่างก็แยกย้ายกันไป
อยู่กับภรรยา เล่นกับลูกเมีย แสดงความรักที่หวานซึ้ง เหลือเพียงเหซิงโม่โดดเดี่ยวเดียวดาย ยืนอยู่ในห้องนั่งเล่นตัวคนเดียว
“ฉันก็อยากจะมีความรัก ฉันก็อยากจะแต่งงาน……”
น่าเสียดาย ทุกคนต่างแสดงความรักกับคนรักของตัวเอง ไม่มีใครสนใจเขาเลย
บริษัทนานาชาติหยุนหลงเป็นบริษัทเก่าแก่ในเมืองA และมีฐานะทางการตลาดในเมือง A มาโดยตลอด
ช่วงก่อนหน้านี้ ยังมีรายงานว่า บริษัทนานาชาติหยุนหลง ได้ร่วมมือกับบริษัทลู่ซื่อกรุ้ปบริษัทยักษ์ใหญ่ของเมืองหลวง ในโครงการมูลค่ากว่าห้าพันล้าน ยิ่งทำให้ข้างนอกมีข่าวลือว่า ครั้งนี้บริษัทนานาชาติหยุนหลง ได้ทะยานพุ่งสู่ฟ้าแล้ว
ทางบริษัทนานาชาติหยุนหลงเอง ก็รู้สึกภาคภูมิใจกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก แต่ว่า ภูมิใจได้แค่ไม่กี่วัน
มีกองกำลังลึกลับ เริ่มครอบครองอุตสาหกรรมในเครือบริษัทนานาชาติหยุนหลง
ในตอนแรก ไม่ได้ดึงดูดความสนใจของบริษัทนานาชาติหยุนหลง เพราะยังไงพวกนั้นเป็นเพียงอุตสาหกรรมเสริม หนึ่งหรือสองแห่งได้รับการครอบครอง ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร
แต่แล้ว เมื่อพวกเขาให้ความสนใจ มันก็สายเกินไปแล้ว อุตสาหกรรมย่อยเหล่านั้น ก็ถูกครอบครองจนเกินหมดแล้ว
ขณะที่พวกเขากำลังเตรียมจะตรวจสอบ ว่าคือใครที่เข้ามาครอบครองอุตสาหกรรมเหล่านี้ ตลาดหุ้นของ บริษัทนานาชาติหยุนหลง ก็ถูกโจมตี
ภายในหนึ่งวัน หุ้นของบริษัทนานาชาติหยุนหลง ลดลงห้าสิบดัชนี
นักลงทุนของ บริษัทนานาชาติหยุนหลงคลั่งไคล้ในทันที จากนั้นก็ขายทิ้งกันยกใหญ่
เพื่อไม่ให้ตลาดหุ้นล่ม บริษัทนานาชาติหยุนหลงพยายามกู้อย่างเต็มที่
หาเงินทุนทั้งหมด ลงทุนในตลาดหุ้น
ตลาดหุ้นเริ่มฟื้นตัวอย่างช้าๆ บริษัทนานาชาติหยุนหลงเพิ่งจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก
แต่ตลาดหุ้นที่เพิ่งจะฟื้นตัว ก็เริ่มร่วงลงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งร่วงถึงจุดต่ำสุดในประวัติศาสตร์ ถึงจะหยุดลง
ด้วยการร่วงนี้ บริษัทนานาชาติหยุนหลงซึ่งถือหกสิบเปอร์เซ็นต์ของหุ้น ขาดทุนพันกว่าล้าน
ขาดทุนยังไม่พอ ยิ่งแย่ไปกว่านั้น หากพวกเขาไม่คิดหาวิธี ตลาดหุ้นของ บริษัทนานาชาติหยุนหลง ท้ายที่สุดแล้ว มีเพียงตลาดหุ้นตกเป็นผลลัพธ์เดียว
และในเวลานี้ บริษัทนานาชาติหยุนหลง ก็จำเป็นต้องจัดประชุมผู้ถือหุ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ที่ประชุมผู้ถือหุ้น ทะเลาะกันอย่างโกลาหลอลหม่าน ส่วนท่านประธานบริษัทหมินหลง มีสีหน้าที่เหนื่อยล้า ไม่ได้พูดอะไรมาโดยตลอด
จนกระทั่งในหมู่คน มีคนพูดขึ้นมากะทันหัน “ตลาดหุ้นของบริษัทถูกโจมตี น่าจะมีคนกระทำโดยเจตนา”
เดิมทีการประชุมผู้ถือหุ้นที่โกลาหลอลหม่าน ก็เงียบลงในทันที
จากนั้นความสนใจทั้งหมด ก็หันไปทางคนที่พูดคนนั้น ซึ่งก็คือหลินต้ง ผู้ถือหุ้นอาวุโสของ บริษัทนานาชาติหยุนหลง
“คุณท่านหลิน ความหมายของท่านคือ?”
คุณท่านหลินตอบอย่างเรียบเฉย “อุตสาหกรรมในเครือถูกครอบครองก่อน หลังจากนั้นก็คือ ตลาดหุ้นถูกโจมตีทำให้บริษัทสูญเสียพันกว่าล้าน”
หมินหลงถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “ในเมื่อคุณท่านหลินรู้ ทำไมไม่พูดตั้งแต่แรก?”
เมื่อได้ยินการสอบถามของหมินหลง หลินต้งก็ส่งเสียงหัวเราะเยาะ “พูดออกไปตั้งแต่แรก ก็จะไม่สูญเสียหรือ?”
“นี่……” ทุกคนมองหน้ากันไปมา ไม่พูดอะไรอีก
หลินต้งถอนหายใจ แล้วพูดว่า “หาวิธีสืบหน่อยดีกว่า ไปทำให้อีกฝ่ายขุ่นเคืองได้อย่างไร ถึงให้อีกฝ่ายลงมือหนักเช่นนี้”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินต้ง ดวงตาของทุกคนก็สว่างขึ้น “ฟังความหมายของคุณท่านหลิน คือมีเบาะแสแล้ว?”
“มีเบาะแสนิดหน่อยจริงๆ” หลินต้งพยักหน้า
ทุกคนมองไปที่ หลินต้ง อย่างคาดหวัง “อีกฝ่ายเป็นใคร?”
หลินต้งไม่ได้ตอบกลับคำถามของพวกเขา แค่ถามว่า “ฉันไม่รู้ว่าพวกคุณได้สังเกตเห็นไหม ความแปลกประหลาดของบริษัทลู่ซื่อกรุ้ป?”
บริษัทลู่ซื่อกรุ้ปเป็นหุ้นส่วนรายใหญ่ที่สุดของ บริษัทนานาชาติหยุนหลง ในตอนนี้ เมื่อทุกคนได้ยินหลินต้งเชื่องโยงเรื่องราวมาที่ บริษัทลู่ซื่อกรุ้ป ต่างก็ไม่พอใจขึ้นมา
“คุณท่านหลิน ท่านสงสัยหุ้นส่วนที่ใหญ่ที่สุดของบริษัท ท่านบ้าไปแล้วหรือ?”
“ฉันบ้าไม่บ้า ไม่จำเป็นต้องให้พวกคุณกังวล ฉันแค่อยากจะถามพวกคุณ ทั้งๆ ที่บริษัทอยู่ในภาวะขั้นวิกฤติแล้ว ทำไม บริษัทลู่ซื่อกรุ้ป ไม่เพียงแต่ไม่ยกเลิกความร่วมมือกับบริษัท แต่ยังส่งคนมาคุยเรื่องความร่วมมือกับบริษัทอย่างกระตือรือร้น?”
ทุกคนไม่ใช่คนโง่ หลินต้ง วิเคราะห์เช่นนี้ ก็ได้สังเกตถึงความผิดปกติแล้ว
“แต่ บริษัทลู่ซื่อกรุ้ปทำแบบนี้ เพื่ออะไร?”
หลินต้งพูดการคาดเดาของตัวเอง “น่าจะเพื่อถ่วงต้นทุนทางการเงินของบริษัท”
ก่อนหน้านี้ บริษัทนานาชาติหยุนหลงร่วมมือกับ บริษัทลู่ซื่อกรุ้ป อัดฉีดเงินทุนเองห้าพันล้าน บวกกับความสูญเสียของอุตสาหกรรมในเครือ ความสูญเสียจากการโจมตีตลาดหุ้น
ความกดดันหลายชั้น จึงได้กลายเป็นสถานการณ์ปัจจุบันของ บริษัทนานาชาติหยุนหลง
หาเจอสาเหตุแล้ว ต่อไปที่ควรจะหารือกัน คือจะแก้ไขปัญหายังไง
ตอนนี้ จุดสำคัญที่มีประโยชน์เพียงหนึ่งเดียว คือ บริษัทลู่ซื่อกรุ้ป
ปัญหาคือ ส่งใครไป บริษัทลู่ซื่อกรุ้ป
ทุกคนมองหน้ากันไปมา สุดท้ายก็หันสายตาไปที่ตัวของ หลินต้ง
“สมัยก่อน ฉันได้มีความสนิทกับเจ้าบ้านคนก่อนของบ้านลู่ ฉันไปถามหน่อยแล้วกัน”
“รบกวน คุณท่านหลินแล้ว ……”
หลังจากที่ลู่ยู่ได้รับภารกิจจากทางซูซีมู่ในวันนั้น ก็ยุ่งอยู่กับการพูดคุยความร่วมมือกับบริษัทนานาชาติหยุนหลง ยุ่งติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน
จนกระทั่งวันสองวันนี้ ซูซีมู่เริ่มโจมตีตลาดหุ้นของ บริษัทนานาชาติหยุนหลงเขาถึงได้หลุดตัวออกมาจากความยุ่ง
วันนี้ดูเอกสารในห้องทำงานครึ่งค่อนวัน ลู่ยู่กำลังจะสั่งงานให้เลขา จากนั้นก็กลับไปอยู่กับภรรยาและลูกชาย แต่แล้ว เลขาก็แจ้งเขาว่า หลินต้งผู้ถือหุ้นของ บริษัทนานาชาติหยุนหลงอยากจะเจอเขา
เดิมทีเมื่อได้ยินว่าอีกฝ่ายเป็นคนของ บริษัทนานาชาติหยุนหลง
ลู่ยู่ควรปฏิเสธในการพบหน้าโดยตรง แต่ หลินต้งคนนี้ทำไม่ได้ เพราะในเมื่อก่อน หลินต้งกับพ่อของเขา มีความสัมพันธ์ที่ดี ลู่ยู่ไม่สามารถทำให้อีกฝ่ายเสียหน้าได้
หลังจากคิดทบทวนแล้ว ลู่ยู่ก็ได้ให้เลขาปล่อยหลินต้งเข้ามา
หลังจากที่ หลินต้งเดินเข้ามา ลู่ยู่ก็ลุกขึ้นยืนทันที ขณะที่เชิญ หลินต้งนั่ง ก็สั่งให้เลขาไปชงชา
“ขอบคุณประธานลู่น้อย” หลินต้งไม่ได้ทำตัวเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ เพราะได้รู้จักกับพ่อของลู่ยู่เลย หลังจากกล่าวขอบคุณแล้ว ก็นั่งลงบนเก้าอี้ ตรงข้ามลู่ยู่
“คุณท่านหลิน อย่าเกรงใจกับฉันแบบนี้เลย ถ้าให้พ่อฉันรู้ เขาต้องด่าฉันแน่” ลู่ยู่ตอบด้วยรอยยิ้ม
หลินต้ง หัวเราะชอบใจ “ประธานลู่น้อยพูดเล่นแล้ว ประธานลู่ใหญ่ เห็นคุณเป็นความภาคภูมิใจอยู่เสมอ”
ลู่ยู่ยิ้มเล็กน้อย จากนั้นก็คุยกับหลินต้งไปเรื่อยเปื่อย พูดถึงประธานลู่ใหญ่ของบ้านเขา พูดถึงร่างกายของหลินต้งอะไรทำนองนั้น ยังไงก็ตาม ไม่ถามเลยว่า หลินต้ง มาหาเขาเพราะเรื่องอะไร
สุดท้ายแล้วก็ยังเป็นหลินต้งที่ทนไม่ไหวแล้ว
“ประธานลู่น้อย ไม่ปิดบังคุณ วันนี้ที่ฉันมา คือมีเรื่องอยากจะขอความช่วยเหลือจากคุณหน่อย”
ลู่ยู่ถามด้วยท่าทีประหลาดใจ “คุณท่านหลิน อยากจะให้ฉันช่วยเหลือ ? ”
“ใช่ อยากจะขอให้ประธานลู่น้อยโปรดประนีประนอมให้อภัย ไว้ชีวิต บริษัทนานาชาติหยุนหลง” หลินต้งพยักหน้า
หลังของลู่ยู่เอนพิงเก้าอี้ มอง หลินต้งด้วยสีหน้าที่สงบ พูดว่า “คุณท่านหลิน เข้าใจผิดแล้วมั้ง บริษัทลู่ซื่อกรุ้ปกับบริษัทนานาชาติหยุนหลง อยู่ในความสัมพันธ์ร่วมมือกันเสมอมา ขอปล่อยบริษัทนานาชาติหยุนหลง ไม่ควรมาหาฉัน”
หลินต้งยิ้มอย่างขมขื่น แล้วถามว่า “เหตุผลที่ประธานลู่น้อยร่วมมือกับบริษัทนานาชาติหยุนหลง ก็เพื่อที่จะถ่วงต้นทุนทางการเงินของ บริษัทนานาชาติหยุนหลงใช่ไหม?”
“ถูกต้อง” ลู่ยู่ไม่ปฏิเสธ แต่พยักหน้ายอมรับ
ในแววตาของหลินต้งประกายด้วยความประหลาดใจ จากนั้นก็ถามว่า “ถ้าอย่างนั้นไม่รู้ว่าประธานลู่น้อยต้องการข้อเสนออะไร ถึงสามารถให้อภัยได้?”
ลู่ยู่ส่ายหัวเบาๆ แล้วพูดว่า “คุณท่านหลินฉันบอกได้แค่ว่า ตอนนี้คุณยังมีเวลาที่จะถอนตัวจาก บริษัทนานาชาติหยุนหลง”
“หมายความว่าอย่างไร?” หลินต้งไม่ค่อยเข้าใจ
“คนในบริษัทนานาชาติหยุนหลง ไปล่วงเกินคนที่ไม่สมควรจะไปล่วงเกินได้ ดังนั้นบริษัทนานาชาติหยุนหลงมีทางเดียวเท่านั้น” ลู่ยู่ไม่ได้บอกว่า ทางนี้คืออะไร แต่หลินต้ง ฟังเข้าใจแล้ว
มีเพียงทางตายทางเดียว……
ถูกกำหนดไว้แล้วว่าเป็นทางตาย หลินต้งก็เปิดใจกว้างแล้ว แต่เขาอยากจะรู้มาก คือใครกันแน่ที่ลงมือกับบริษัทนานาชาติหยุนหลง
เพราะเขาเข้าใจจากบทสนทนากับลู่ยู่ ว่าไม่ใช่บริษัทลู่ซื่อกรุ้ปที่ลงมือทำบริษัทนานาชาติหยุนหลง บริษัทลู่ซื่อกรุ้ปเป็นเพียงผู้ช่วยเหลือเท่านั้น
“ไม่ทราบว่าประธานลู่น้อย สามารถเห็นแก่หน้าของประธานลู่ใหญ่ บอกฉันได้ไหม บริษัทนานาชาติหยุนหลงไปล่วงเกินใคร?”
ลู่ยู่จ้องมองไปที่หลินต้ง จากนั้นก็พูดสี่คำออกมา “บริษัทซูซื่อ”
บริษัทซูซื่อ……ที่แท้เป็นบริษัทซูซื่อ มิน่าล่ะ!
หลินต้งออกจาก บริษัทลู่ซื่อกรุ้ปอย่างหมดอาลัย