งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 422
บทที่ 422 โจวเฉิงบังคับซูซีมู่ไปตรวจบาดแผล
พอเข้ามาในห้องสมุดปุ๊บ ใบหน้าที่เคารพของโจวเฉิงมองไปที่ซูซีมู่แล้วพูด “ประธานซู คุณให้หมอเฉิงมาตรวจแผลหน่อยเถอะนะครับ”
“ไม่ต้อง”ซูซีมู่ไม่คิดใดๆ ก็ตอบทันที
โจวเฉิงขมวดคิ้ว พูด”ประธานซู หากคุณไม่ยอม ผมจะบอกเรื่องที่คุณได้รับบาดเจ็บ ให้คุณนายรู้”
เมื่อได้ยินที่โจวเฉิงพูด นัยน์ตาซูซีมู่ก็หรี่ตามองด้วยความอันตราย
โจวเฉิงมองอย่างไม่กะพริบตา ราวกับ ไม่ว่าซูซีมู่จะโกรธยังไง เขาก็จะรับไว้
สุดท้ายซูซีมู่ก็พูดอย่างเบาๆ “ให้หมอเฉิงรออยู่ที่พักนาย ตอนค่ำฉันจะไป”
“แต่ว่าประธานซู ตอนนี้คุณ……”โจวเฉิงยังพูดไม่จบ ซูซีมู่ก็พูดแทรกเขาขึ้นมาทันที “แผลของฉันเย็บมาแล้ว”
สายตาโจวเฉิงกวาดมองแขนของซูซีมู่ เมื่อแน่ใจว่าไม่เห็นคราบเลือดแล้ว จึงวางใจลง “งั้นผมจะให้หมอเฉิงรออยู่ที่พักผมนะครับ”
ซูซีมู่’อือ’ตอบทีหนึ่ง ก็หมุนตัวเดินออกไปนอกห้องสมุดทันที
เพิ่งไปสองก้าว เขาก็หยุดก้าวเดิน จากนั้นหันไปมองโจวเฉิง โจวเฉิงรับรู้ความหมายของซูซีมู่ พูดด้วยความเคารพ”ผมจะไม่บอกคุณนายอย่างแน่นอนครับ”
ซูซีมู่ถึงจะ จากไปด้วยความพอใจ
โจวเฉิงลูบจมูก แล้วตามออกไป
โล่เฟยเอ๋อไม่รู้เลยสักนิด ว่าซูซีมู่กับโจวเฉิงอยู่ในห้องสมุดได้ตกลงกันอย่างลงตัวเรื่องที่จะปิดบังเธอ
เมื่อเธอเห็นโจวเฉิงกับซูซีมู่พูดคุยกันเสร็จแล้ว ก็รีบเดินออกไปทันที ก็ถามซูซีมู่อย่างสงสัย “โจวเฉิงรีบกลับไปแบบนี้ เป็นอะไรรึเปล่า”
“เขารีบกลับไปเพราะมีเรื่องเล็กน้อย”ซูซีมู่ตอบยังไม่กะพริบตา
โล่เฟยเอ๋อ’อ๋อ’อย่างไม่สงสัยเลยสักนิด
จากนั้นก็จูงมือซูซีมู่อย่างดีใจ “คุณนั่งเร็ว ถึงตอนที่พระนางอยู่ด้วยกันแล้ว”
การดึงของเธอนั้นมันโดนมือที่เป็นแผลซูซีมู่พอดี
มือของเขาสั่น ฉะนั้นก็ยื่นมืออีกข้างออกอย่างระงับสีหน้าอารมณ์ใดๆ ให้ปกติ ดึงมือโล่เฟยเอ๋อไว้ และดึงมือที่รับบาดเจ็บออกมา
เพียงแค่แป๊บเดียวเท่านั้น กลับทำให้หัวคิ้วซูซีมู่มีเหงื่อผุดพรายขึ้น
สามารถเห็นได้ว่า อาการบาดเจ็บบนแขนซูซีมู่นั้นหนักมากขนาดไหน แม้แต่เขาก็ไม่สามารถจะอดเอาไว้ได้
โล่เฟยเอ๋อสังเกตไม่เห็นถึงความผิดปกติของซูซีมู่เลยสักนิด เธอพูดเนื้อหาในละครกับซูซีมู่อย่างมีความสุข
ซูซีมู่รวบเธอมาไว้ในอ้อมกอด หรือพยักหน้า หรืออือคำหนึ่งคล้อยตามเธอ
ซูซีมู่ทนความเจ็บแปลบบนมือมาตลอด ดูทีวีเป็นเพื่อนโล่เฟยเอ๋อชั่วโมงหนึ่ง จากนั้นก็ทานข้าวมื้อค่ำเป็นเพื่อนโล่เฟยเอ๋อจนเสร็จ จนกระทั่งโล่เฟยเอ๋อหลับไปแล้ว ซูซีมู่จึงได้แอบลุกขึ้นออกไป
เขาไปห้องน้ำถอดเสื้อคลุมออกก่อน ผ้าก๊อซบนแขนเสื้อที่พับขึ้นข้างในเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดไม่น้อย
ซูซีมู่ขมวดคิ้วสักพัก จากนั้นก็ใส่เสื้อคลุมไว้เช่นเดิม ออกไปจากห้องนอน
ตอนลงไปข้างล่าง โจวเฉิงกับซูยุ่นกำลังนั่งรออยู่ในห้องรับแขก
มองสภาพเช่นนั้นของพวกเขาแล้ว น่าจะมารอได้สักพัก
และจุดประสงค์ที่มานั้น ไม่พูดก็รู้ ว่าเป็นเพราะซูซีมู่
“พี่ชาย (ประธานซู) “เมื่อเห็นซูซีมู่เข้ามา ทั้งสองก็รีบลุกขึ้น
ซูซีมู่เหลือบมองพวกเขาเบา ๆ จากนั้นเดินตรงออกไปด้านนอก
ทั้งสองประสานตากัน จากนั้นก็รีบตามออกไป
เมื่อถึงที่อยู่ของโจวเฉิงกับซูยุ่น หมอเฉิงก็ได้รออยู่ตรงนั้นแล้ว เมื่อเห็นซูซีมู่เดินเข้ามา ก็รีบลุกขึ้นมาทักทาย “ประธานซู”
ซูซีมู่’อือ’ตอบเบาๆ จากนั้นก็พูด”รบกวนด้วย”
หมอเฉิงพยักหน้าพลางพูด”ไม่รบกวนเลยครับ ประธานซูขอผมดูแผลสักนิดนะครับ”
ซูซีมู่ไม่ได้ทำให้หมอเฉิงลำบากใจ โดยถอดเสื้อคลุมออกไปทันที
ผ้าพันแผลที่เปื้อนคราบเลือดวงใหญ่ภายใต้เสื้อคลุมของซูซีมู่นั้น ทำให้โจวเฉิงกับซูยุ่นขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างตึงเครียด “หมอเฉิง แผลของประธานซูอาการหนักไหมครับ”
“ผมต้องดูแผลที่อยู่ข้างในผ้าก๊อซก่อนถึงจะทราบครับ”แม้หมอเฉิงจะพูดเช่นนี้ แต่ในใจเขากลับรู้สึกไม่ดีนัก
ถึงซูซีมู่พันแผลด้วยผ้าก๊อซแล้ว แต่เลือดก็ไหลออกมามากมาย บาดแผลจะเล็กได้ยังไงล่ะ
“ประธานซู ผมจำเป็นต้องตัดผ้าพันแผลของคุณออกนะครับ”
“ตัดเถอะ”ซูซีมู่ตอบอย่างแผ่วเบา
หมอเฉิงเปิดกล่องปฐมพยาบาลที่วางอยู่บนโต๊ะน้ำชาออก หยิบของที่เขาต้องการออกมาจากข้างใน วางให้เรียบร้อย จากนั้นก็ใช้กรรไกรทางการแพทย์ตัดผ้าก๊อซที่อยู่บนแขนซูซีมู่ เผยให้เห็นถึงแผลที่เย็บเสร็จแล้วในข้างล่าง
เป็นแผลยาวเต็มๆ ยี่สิบเซนติเมตร รอบมีเลือดซึมออกมาเล็กน้อย
แม้เตรียมใจไว้ตั้งนานแล้ว ว่าซูซีมู่ได้รับบาดเจ็บมาไม่น้อย แต่พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่า แผลซูซีมู่จะรุนแรงขนาดนี้
“ประธานซู……”โจวเฉิงอ้าปากอยากพูดอะไร แต่เขาเพิ่งพูดประธานซูสามคำ ก็ถูกซูยุ่นที่อยู่ข้างกายดึงห้ามไว้
โจวเฉิงหันหน้าไปมองซูยุ่น ซูยุ่นขยิบตาให้เขา
จนในที่สุดโจวเฉิงก็พยักหน้า ปิดปากเอาไว้
ก่อนที่หมอเฉิงจะล้างแผล พูด “ประธานซู ผมต้องใช้แอลกอฮอล์ล้างแผลทำความสะอาดแผลของคุณ อาจจะเจ็บนิดหนึ่งนะครับ”
ซูซีมู่’อือ’อย่างเสียงเบา ถือว่าตกลงแล้ว เมื่อได้รับการตอบกลับของซูซีมู่แล้ว หมอเฉิงก็ใช้คีมคีบสำลี ชุบแอลกอฮอล์ล้างทำความสะอาดบาดแผลให้ซูซีมู่
ซูซีมู่แผลใหญ่ขนาดนี้ โดนแอลกอฮอล์กระตุ้น ก็ต้องเจ็บเป็นธรรมดาอยู่แล้ว แต่ซูซีมู่กลับไม่แสดงให้เห็นถึงความเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย ถึงขั้นพูดได้ว่า มือของเขาไม่สั่นเลยสักนิด
ก็เป็น ก่อนหน้านี้ที่ถูกโล่เฟยเอ๋อดึงแขนเช่นนั้น เขาเจ็บซะขนาดนั้น เลือดไหลออกมาเยอะขนาดนี้ เขาเพียงแค่มีเหงื่อซึมที่หน้าผากเท่านั้น อย่างอื่นนะไม่แสดงอะไรออกมาทั้งนั้น
เมื่อล้างทำความสะอาดบาดแผลเสร็จ หมอเฉิงก็ใส่ผงยาที่รักษาบาดแผลที่สืบทอดกันมาของบ้านเขาลงบนแผลซูซีมู่ ฉะนั้นก็ใช้ผ้าก๊อซที่สะอาด พันแผลให้ใหม่
หลังจากแผลให้เสร็จ หมอเฉิงก็ถามอย่างระมัดระวัง “ประธานซู สถานการณ์ของคุณ จำเป็นต้องให้น้ำเกลือนะครับ…… คุณดูสิว่า……”ที่จริงไม่เพียงหมอเฉิงที่กังวลว่าซูซีมู่จะไม่ยอมให้แขวนสายน้ำเกลือ แม้แต่โจวเฉิงกับซูยุ่นก็กังวลเช่นกัน
“ประธานซู วันนี้คุณยอมให้แขวนสายน้ำเกลือเถอะนะครับ แบบนี้แผลจะได้ฟื้นตัวเร็วหน่อยนะครับ”
ซูยุ่นพูดอย่างเห็นด้วย”ใช่ค่ะ พี่ชาย พี่ฟื้นตัวเร็ว ก็จะดูแลพี่สะใภ้ให้ดียิ่งขึ้นได้ไงคะ”
ทีแรกโจวเฉิงกับซูยุ่นคิดว่า การจะโน้มน้าวใจซูซีมู่นั้นคงไม่ง่าย
แต่กลับคิดไม่ถึงว่า พวกเขาเพิ่งพูดเสร็จ ซูซีมู่ก็พูดขึ้น “ซูยุ่นเดี๋ยวเธอไปอยู่เป็นเพื่อนเฟยเอ๋อ”
โจวเฉิงกับซูยุ่นชะงักนิ่งไปหลายนาที ถึงจะได้สติกลับมา
แปลว่าซูซีมู่รับปากจะแขวนน้ำเกลือแล้ว
ทั้งสองคนพยักหน้ารัวๆ “ได้เลย จะไปเดี๋ยวนี้เลยครับ”หมอเฉิงที่ได้ยินว่าซูซีมู่ยอมให้แขวนน้ำเกลือแล้ว ก็โล่งอกเบาๆ เพราะเขากังวลว่าบาดแผลซูซีมู่จะมีปัญหาจริงๆ ยังดี ยังดี……
เขาหยิบน้ำเกลือที่ต้องการออกมาจากกล่องปฐมพยาบาล เพิ่งเตรียมยา จู่ๆ หมอเฉิงก็นึกอะไรขึ้นมาได้เลยหันไปพูดกับโจวเฉิง “คุณโจว ผมต้องการเสาแขวนอันหนึ่ง เอาไว้แขวนขวดยา รบกวนคุณหาให้หน่อยนะครับ”
“ได้ครับ ผมจะรีบไปหา”โจวเฉิงพยักหน้า แล้วรีบเดินออกไปจากห้องรับแขก ไปหาเสาแขวน
ตอนที่โจวเฉิงหาเสาแขวนกลับมาได้นั้น หมอเฉิงก็เตรียมยาเสร็จพอดี จากนั้นก็เจาะสายน้ำเกลือให้กับซูซีมู่