งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 439
บทที่ 439 ซือจิ้งสวนจากไป
“ไม่ ฉันเอาเด็กออกไม่ได้ ฉันทำไม่ได้……” ซือจิ้งสวนพูดขึ้นมาพลางเดินตรงเข้าไปในห้องทำงาน
หมอเจ้าของไข้และหมอเฉิงเห็นซือจิ้งสวน ก็ตกใจมาก “คุณซือ?”
“ฉันจะเก็บเด็กเอาไว้” ซือจิ้งสวนพูดออกมาตรง ๆ
หมอเจ้าของไข้พูดอย่างจริงจัง : “คุณซือ สภาพร่างกายของคุณเป็นยังไง ตัวคุณรู้อยู่แก่ใจ ถ้าหากเก็บเด็กคนนี้เอาไว้ จะยิ่งทำให้หลอดลมคุณทำงานหนัก ถึงตอนนั้น โรคหอบหืดก็จะกำเริบ ทำให้คุณมีอันตรายได้นะ”
“ฉันต้องเก็บเขาไว้” ซือจิ้งสวนสีหน้ายืนหยัดมุ่งมั่น
หมอเจ้าของไข้และหมอเฉิงสบตากัน จากนั้นก็พูด : “คุณซือ โรงพยาบาลพวกเราทำแบบนั้นไม่ได้จริง ๆ ต่อให้เป็นโรงพยาบาลเมื่อก่อนที่รักษาคุณ ความเป็นไปได้ก็น้อยมาก”
ได้ยินคำพูดของหมอเจ้าของไข้และหมอเฉิงแล้ว ซือจิ้งสวนก็เงียบลง
ผ่านไปสักครู่ เธอก็เอ่ยพูด : “ฉันรู้แล้วค่ะ”
“คุณซือ?” หมอเจ้าของไข้และหมอเฉิงรู้สึกได้ว่าซือจิ้งสวนนิ่งเงียบผิดปกติ
ซือจิ้งสวนยิ้มแล้วพูดออกมา : “รบกวนพวกคุณทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลให้ฉันเถอะค่ะ”
ได้ยินที่ซือจิ้งสวนพูดว่าให้ทำเรื่องออกจากโรงพยาบาล หมอเจ้าของไข้ก็รีบพูด : “คุณซือ อาการคุณตอนนี้อาจจะ……คุณยังออกจากโรงพยาบาลไม่ได้นะ”
เทียบกับสีหน้าร้อนใจของหมอเจ้าของไข้แล้ว สีหน้าของซือจิ้งสวนนั้นดูมีรอยยิ้ม “คุณอย่าร้อนใจไปเลย ฉันเพียงเตรียมกลับไปผ่าตัด”
ได้ยินที่ซือจิ้งสวนพูด หมอเจ้าของไข้ก็ค่อยวางใจลงหน่อย
“คุณซือ สามารถกลับไปผ่าตัดได้ยิ่งดี”
“ค่ะ ขอบคุณพวกคุณมาก”
ขอบคุณพวกคุณที่เป็นห่วงสุขภาพของฉัน ขอบคุณพวกคุณที่ตักเตือนฉัน แต่เด็กคนนี้ ฉันจำเป็นต้องรักษาไว้……
หลังจากที่ซือจิ้งสวนออกจากโรงพยาบาล ก็กลับไปยังที่พักเพื่อเก็บของ
เก็บข้าวของเสร็จแล้ว เธอก็ใช้โทรศัพท์จองตั๋วเครื่องบินหนึ่งใบไปยังเมือง S แล้วโทรหาโล่เฟยเอ๋อ บอกเธอเรื่องที่ตัวเองจะไปจากที่นี่
โล่เฟยเอ๋อรู้เรื่องที่ซือจิ้งสวนจะกลับไปผ่าตัดจากหมอเฉิงแล้ว จึงได้สนับสนุนการตัดสินใจของซือจิ้งสวนอย่างเต็มที่
แต่เมื่อได้ยินที่ซือจิ้งสวนพูด ว่าเธอจะไปแล้ว โล่เฟยเอ๋อก็รู้สึกเหนือความคาดหมายมาก “เธอจะไปวันนี้เลยเหรอ?”
“ค่ะ ใช่แล้ว”
“รีบกลับไป รีบผ่าตัดก็ดี” โล่เฟยเอ๋อถอนหายใจ จากนั้นก็ถาม “เครื่องออกกี่โมง? ให้พวกเราไปส่งเธอไหม?”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ แค่อยากรบกวนคุณนาย บอกลาคุณหซิวแทนฉันหน่อย” ซือจิ้งสวนตอบ
“ฉันจะบอกเฉียวเฉียวให้นะ” เงียบไปสักครู่ โล่เฟยเอ๋อก็พูดว่า : “เดินทางปลอดภัยนะ กลับไปแล้ว ก็โทรหาพวกเรานะ”
“ค่ะ……”
หลังจากวางสายไป โล่เฟยเอ๋อก็นั่งอยู่บนโซฟาเงียบ ๆ
ซูซีมู่เข้าใจดีว่าเธอเป็นห่วงซือจิ้งสวน ถึงได้เป็นแบบนี้ จึงรีบวางเอกสารในมือลง แล้วเข้าไปกอดเธอ “อย่าเป็นห่วงไปเลย หมอเจ้าของไข้บอกแล้วไม่ใช่เหรอ? เธอกลับไปผ่าตัดที่นั่นจะยิ่งดี”
“ฉันรู้ แต่ฉันรู้สึกเสียดายแทนเธอ เพื่อผู้ชายคนหนึ่ง เธอยอมเสียศักดิ์ศรีทิ้งทุกอย่างเพื่อตามเขามา แต่สิ่งที่เธอได้รับคืออะไรล่ะ? นอกจากการทำร้ายและทำร้าย ฉันเสียใจมากที่ตอนนั้นช่วยเธอให้ได้แต่งงานกับเหซิงโม่ ถ้าหากตอนนั้นฉันไม่ช่วยเธอ เธอก็คงถอดใจไปแล้ว ไม่ต้องมาพบกับสภาพแบบนี้……”
ซูซีมู่ฟังโล่เฟยเอ๋อระบายความในใจอยู่อย่างเงียบ ๆ ไม่ได้ส่งเสียงขัดเธอ
หลังจากรอจนโล่เฟยเอ๋อพูดจบ ก็ได้ยกน้ำให้เธอแก้วหนึ่งด้วยความอ่อนโยน
หลังจากเธอดื่มน้ำเสร็จ อารมณ์ก็ผ่อนคลายลงไปเยอะแล้ว “ฉันจะขึ้นข้างบนไปโทรหาเฉียวเฉียวนะ”
“ฉันไปเป็นเพื่อนเธอ” ซูซีมู่ลุกขึ้นตามไป
“ไม่ต้องหรอก นายอ่านเอกสารต่อเถอะ” พูดจบ โล่เฟยเอ๋อก็เดินขึ้นไปข้างบน
หลังจากที่มองโล่เฟยเอ๋อเดินไป ซูซีมู่ก็หยิบโทรศัพท์ออกมา กดโทรหาเหซิงโม่ บอกเรื่องที่ซือจิ้งสวนจะจากไป
ความคิดของซูซีมู่ก็คือ ถ้าหากเหซิงโม่ไปตามซือจิ้งสวน เขาก็จะบอกความจริงทุกอย่างของซือจิ้งสวนที่ปิดบังไว้ให้เหซิงโม่ฟัง แต่ถ้าเหซิงโม่ไม่รู้สึกอะไรกับการจากไปของซือจิ้งสวน งั้นความจริงพวกนั้น เขาก็จะไม่บอกให้เหซิงโม่รู้
เหซิงโม่เมื่อรู้จากซูซีมู่ว่าซือจิ้งสวนจะจากไปแล้ว ก็นิ่งอึ้งไปทั้งตัว
เธอต้องกลับไปแล้วเหรอ? จะเป็นไปได้ยังไง? เธอไม่ใช่อยากตามติดเขาตลอดหรอกเหรอ? ใช่ เธอต้องมีแผนร้ายอะไรแน่ ๆ ถึงได้พูดอย่างนี้
เหซิงโม่บอกกับตัวเองอย่างนี้ จากนั้นก็พูดใส่ในโทรศัพท์ว่า : “ซูซีมู่ แกอย่าให้เฟยเอ๋อเชื่อคำพูดของผู้หญิงคนนั้น เธอต้องมีแผนร้ายอะไรแน่นอน ถึงได้ตั้งใจหลอกลวงเฟยเอ๋อ”
“เธอมีเหตุผลสำคัญที่จำเป็นต้องจากไป จะไปหาเธอไหมก็แล้วแต่แกละกัน” ซูซีมู่พูดจบ ก็ไม่รอให้เหซิงโม่ตอบกลับ กดวางสายไปทันที
หลังจากคุยโทรศัพท์กับซูซีมู่เสร็จแล้ว เหซิงโม่ก็กลับไปยังห้องประชุมเพื่อประชุมต่อ
ถึงแม้ตัวเขาจะนั่งอยู่ที่นี่ แต่ใจเขาคิดถึงแต่คำพูดประโยคสุดท้ายของซูซีมู่ “เธอมีเหตุผลสำคัญที่จำเป็นต้องจากไป……เธอมีเหตุผลสำคัญที่จำเป็นต้องจากไป……”
เธอคิดว่าเธอเป็นใคร? คิดจะมาก็มา? คิดจะไปก็ไป?
ในที่สุดก็หาเหตุผลได้ เหซิงโม่ก็ถีบเก้าอี้ที่อยู่ด้านหลังออกไป แล้วทำเหมือนพวกผู้บริหารระดับสูงที่อยู่ในห้องนั้นเป็นอากาศที่โปร่งแสง ไม่เอ่ยพูดอะไรไว้สักนิด แล้วเดินออกไปด้วยความโกรธ
หลังออกมาจากบริษัทแล้ว เหซิงโม่ก็รีบไปสนามบินด้วยความเร็วราวกับพายุ
เขารู้ว่าซือจิ้งสวนเป็นลูกหลานชาวจีนที่อยู่นิวยอร์ก เธอบอกว่าจะกลับไป ต้องกลับนิวยอร์กแน่นอน
เหซิงโม่หาประตูขึ้นเครื่องไปนิวยอร์กจนเจอ พบว่าเที่ยวบินที่จะไปนิวยอร์กกำลังจะให้ผู้โดยสารขึ้นเครื่อง เขายืนอยู่ที่ทางเข้ากวาดสายตามองไปรอบทิศ เพื่อหาซือจิ้งสวน แต่น่าเสียดายที่บริเวณประตูขึ้นเครื่องไม่มีใครแล้ว เขาไม่เห็นซือจิ้งสวน
เขาร้อนใจอย่างมาก เลยจะเข้าไปในประตูขึ้นเครื่อง แต่ถูกเจ้าหน้าที่ที่อยู่บริเวณนั้นห้ามไว้
“คุณครับ คุณไม่มีบัตรขึ้นเครื่อง ไม่สามารถเข้าไปด้านในได้ครับ”
เหซิงโม่มองเข้าไปด้านใน แล้วพูดขึ้นว่า : “ฉันจะขึ้นไปหาคน หาเสร็จก็จะออกมา”
“ขอโทษครับ นี่ไม่เป็นไปตามกฎ อีกอย่างตอนนี้ประตูเครื่องก็ปิดลงแล้วครับ” เจ้าหน้าที่ตอบอย่างมีมารยาท
“Shit!” เหซิงโม่สบถออกมาคำหนึ่ง จากนั้นก็ตรงไปที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ “รบกวนคุณช่วยผมหาหน่อย ว่าเที่ยวบินที่ไปนิวยอร์ก มีคนที่ชื่อซือจิ้งสวนหรือเปล่า?”
“ขอโทษค่ะคุณผู้ชาย คุณไม่มีสิทธิ์ในการหา……” ครั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกเหซิงโม่ขัดขึ้นอย่างหยาบคาย “เรียกประธานสมิธของพวกเธอออกมา ให้เขามาดูสิว่าฉัน เหซิงโม่มีสิทธิ์นั้นไหม?”
เหซิงโม่ ประธานบริษัทบริษัทเหซิงซื่อกรุ้ปที่มีชื่อเสียงกึกก้องไปทั้งเมือง A เมื่อได้บอกชื่อตัวเองไปแล้ว เจ้าหน้าที่ที่ไหนจะยังกล้าเพิกเฉยใส่เขาอีกล่ะ? ดังนั้นจึงได้รีบเปิดคอมพิวเตอร์หาข้อมูลให้เขาทันที
หนึ่งนาทีผ่านไป เจ้าหน้าที่ก็ได้พูดกับเหซิงโม่อย่างมีมารยาท : “คุณเหซิงคะ ในเที่ยวบินนี้ไม่มีผู้โดยสารที่ชื่อซือจิ้งสวน
“เป็นไปไม่ได้ เธอหาดูอีกรอบสิ” เหซิงโม่ตอบออกไปอย่างไม่เชื่อ
เจ้าหน้าที่ไม่กล้าขัดเขา จึงหาข้อมูลอีกรอบ ผลที่ออกมาก็เหมือนเดิม
ได้ยินเจ้าหน้าที่พูดอีกครั้งว่าไม่มี สีหน้าเหซิงโม่ก็เย็นชาราวกับน้ำแข็ง
เจ้าหน้าที่คอหด ไม่กล้าพูดอะไรอีก กลัวว่าเขาจะโมโหใส่เธอ
หลังจากเงียบไปไม่กี่วินาที เหซิงโม่ก็พูดขึ้นว่า : “เธอหาให้ฉันหน่อย ว่าเที่ยวบินวันนี้ทั้งหมดของประเทศ M มีคนนี้หรือเปล่า”
เจ้าหน้าที่ทำตามที่เหซิงโม่บอก เริ่มหาอีกครั้ง ปรากฏว่าก็ไม่มีเหมือนเดิม
“ขอโทษค่ะ คุณเหซิง หาไม่เจอค่ะ”
ครั้งแล้วครั้งเล่าที่ไม่มีชื่อ เหซิงโม่จึงปักใจเชื่อว่าซือจิ้งสวนเป็นคนหลอกลวง
“เธอมันสมควรตาย ครั้งนี้ฉันจะดูสิว่าเธอจะปฏิเสธยังไง?” เหซิงโม่กัดฟันกรอดแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมา กดโทรไปหาซูซีมู่