งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 441
บทที่441 คลอดลูกสาว
โล่เฟยเอ๋อผ่านการอดทนความเจ็บปวดมาถึงแปดชั่วโมง ถึงจะได้คลอดลูกสาวที่หนักสี่กิโลออกมา
เพราะว่าเหนื่อยมาก เธอเลยไม่ได้ดูลูกสาว ก่อนจะหลับไป……
ตอนที่โล่เฟยเอ๋อตื่นขึ้นมา ก็เห็นซูซีมู่ที่นั่งอยู่ข้างเตียง จึงรีบถาม “ลูกล่ะ?”
“กำลังหลับอยู่” ซูซีมู่ชี้ไปทางเปลสานข้างกายก่อนจะตอบ
โล่เฟยเอ๋อเพิ่งจะสังเกตเห็นทางซ้ายของซูซีมู่ ว่ามีเปลที่ใช้ในโรงพยาบาลโดยเฉพาะอยู่
เธอเงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย พลางมองไปที่เปลสาน ก็เห็นว่ามีเด็กน้อยผิวแดง หน้าย่น นอนหลับตาอยู่ในเปล
“ทำไมถึงแดง?แถมยังมีรอยย่นอีก?” โล่เฟยเอ๋อขมวดคิ้วถาม
ซูซีมู่จับมือของโล่เฟยเอ๋อ ก่อนจะพูดอย่างอ่อนโยน “เพิ่งจะคลอดออกมา ก็ยังเป็นแบบนี้แหละ เดี๋ยวอีกสักพักก็ไม่เป็นแบบนี้แล้ว”
“งั้นก็ดี” โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า ก่อนจะมองไปที่ชายคนนี้สักพัก ก่อนจะถามว่า “เธอจะตื่นเมื่อไหร่?”
“เพิ่งจะนอนเอง คงต้องรออีกสักพัก” ซูซีมู่กุมมือของโล่เฟยเอ๋อ ก่อนจะดึงมือมาประทับรอยจูบ พลางพูดว่า: “เฟยเอ๋อ คุณเหนื่อยมากแล้ว ต้องขอบคุณคุณด้วยนะ”
“ยัยบ๊อง เพื่อลูกของพวกเรา อะไรก็คุ้มที่จะทำทั้งนั้น……”
หลังจากนั้นสามวัน โล่เฟยเอ๋อก็ออกจากโรงพยาบาล
หลังจากออกจากโรงพยาบาล ก็ตรงกลับไปที่คฤหาสน์ตระกูลซู
คุณท่านร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง ตอนนี้อยากจะเจอหลานสาว โล่เฟยเอ๋อกับซูซีมู่เลยตกลงที่จะกลับไปอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลซู
คฤหาสน์ตระกูลซูครึกครื้นขึ้นมา คนที่มาดูลูกกับโล่เฟยเอ๋อ ไม่น้อยเลยทีเดียว
เมื่อกลับมาที่คฤหาสน์ตระกูลซูวันที่สอง เหซิงโม่มีสีหน้าซีดเซียวเหนื่อยอ่อน
เมื่อรู้ว่าเหซิงโม่ยังหาซือจิ้งสวนไม่เจอ โล่เฟยเอ๋อเลยทำท่าทีไม่ดีต่อเหซิงโม่ “คุณมาที่นี่ทำไม?”
เหซิงโม่รู้ว่าเขาต้องรับกรรมไป เลยไม่กล้าพูดอะไร ก่อนจะมองดูเด็กน้อยอย่างเงียบเชียบ จากนั้นจึงเดินจากไป
หลังจากที่เขาออกไป โล่เฟยเอ๋อถึงจะถามซูซีมู่ “ไม่เจอแม้แต่เงาเลยเหรอ?”
“เจอว่าเธอไปที่เมืองS แต่ช่วงนี้เหซิงโม่ไปหาที่เมืองSทั่วแล้ว แต่ก็ไม่เจอเลย” ซูซีมู่ตอบ
“หึ เขาต้องรับสิ่งที่ทำ” โล่เฟยเอ๋อพูดแบบนั้น แต่ในใจกลับอดไม่ได้ที่จะกังวลกับซือจิ้งสวน
ถึงอย่างไรร่างกายของซือจิ้งสวนแบบนั้น ถ้าเกิดเธออยากจะซ่อนตัว แล้วคลอดลูก ตอนนี้มันอันตรายกับเธอมากเลย
ซูซีมู่รู้ว่าในใจเธอคิดอะไร เลยปลอบใจ: “วางใจเถอะ จะต้องหาเธอเจอแน่นอน”
คนทางเหนือต้องอยู่ไฟหนึ่งร้อยวัน คนแถวใต้อยู่เพียงหนึ่งเดือน แต่ปกติแล้ว ก็ต้องดูความเห็นของบ้าน
ระหว่างที่อยู่ไฟ มีเรื่องห้ามเยอะแยะมากมาย ทำให้โล่เฟยเอ๋อปวดหัวมาก ยังดีที่เธอเป็นคนแถบใต้ อยู่ไฟแค่เดือนเดียว ไม่ต้องอยู่ถึงหนึ่งร้อนวันเหมือนกับคนแถบเหนือ
ที่แท้คุณท่านก็อยากจะให้จัดงานครบหนึ่งเดือน แต่ว่าโล่เฟยเอ๋อไม่ค่อยชอบ
สำหรับเธอ ขอเพียงแค่คนในบ้านพอใจก็พอแล้ว จะให้จัดใหญ่โต เพื่อให้คนที่ไม่รู้จักมานั้น มันไม่จำเป็น
ซูซีมู่เคารพความเห็นของโล่เฟยเอ๋ออยู่แล้ว
ตอนที่ครบเดือน นอกจากคนบ้านซูเอง ก็มีเพียงพวกของลู่ยู่ไม่กี่คน
เหซิงโม่ไม่ได้มาร่วม เพราะว่าตอนนี้เขากำลังอยู่ที่ประเทศMอยู่กับซือจิ้งสวน
ใช่แล้ว เหซิงโม่หาซือจิ้งสวนเจอแล้ว
สถานการณ์ของซือจิ้งสวนนั้นหนักหน่วงมาก เหซิงโม่เลยทำได้แค่พาเธอไปที่ประเทศM ตอนนี้สถานการณ์ของทั้งสองคนนั้นไม่เลวเลย
หลังจากครบเดือน โล่เฟยเอ๋อที่ทนมาทั้งเดือน ก็ได้เวลาปลดปล่อยแล้ว
ซูซีมู่สงสารเธอ เลยพาเธอออกไปเที่ยวเล่นเป็นพิเศษ
หลังจากขึ้นรถ ซูซีมู่ก็ถาม “อยากไปไหน?”
“โรงแรมบั้นเต๋าละกัน” ที่นั่นเป็นที่แรกที่พวกเราเจอกัน และก็เป็นที่ที่บุพเพสันนิวาสของพวกเขาเริ่มต้นขึ้น
ซูซีมู่รู้ว่าทำไมโล่เฟยเอ๋อถึงอยากไปโรงแรมบั้นเต๋า เลยยิ้มมุมปากขึ้น “โอเค”
เมื่อจอดรถที่ลานจอดรถของโรงแรมบั้นเต๋า โล่เฟยเอ๋อกับซูซีมู่ก็จูงมือกัน ก่อนจะเดินไปบนถนนที่ตอนนั้นโล่เฟยเอ๋อยืนอยู่
“ตอนนั้น ทำไมคุณถึงได้ยอมให้ฉันขึ้นรถ?” อย่าโทษว่าโล่เฟยเอ๋อจะถามคำถามนี้ เพราะว่าการยอมจอดรถและให้คนอื่นขึ้นรถง่ายๆ นั้น ไม่ใช่สไตล์ของซูซีมู่เลย
“ความรู้สึกแรกพบ จะพูดอย่างไรดีนะ?” ซูซีมู่ตอบ
โล่เฟยเอ๋อมองซูซีมู่ด้วยความคาดหวัง “ห๊ะ?”
ซูซีมู่ขำเบาๆ พลางตอบ “ก็อยากจะเข้าหาคุณสักหน่อย”
“คุณมีความคิดแบบนี้ด้วยเหรอ?” โล่เฟยเอ๋อตกใจ เพราะใครให้ซูซีมู่ทำตัวเป็นคนเย็นชากันล่ะ
ตอนแรกโล่เฟยเอ๋อคิดว่า ความรู้สึกแรกนั้น ซูซีมู่ไม่เกลียดเธอ ก็ถือว่าไม่เลวแล้ว
ซูซีมู่ยกมือขึ้น ก่อนจะจิ้มไปที่จมูกของเธอ พลางถาม “ไม่อย่างนั้น คุณคิดว่าอย่างไรล่ะ?”
“ฉันคิดว่าอย่างมากคุณก็ไม่เกลียดฉันเท่านั้น” โล่เฟยเอ๋อแลบลิ้นก่อนจะตอบ
“ยัยบ๊อง……” ซูซีมู่ลูบหัวของโล่เฟยเอ๋ออย่างอ่อนโยน จากนั้นก็ถาม “ถ้าเกิดย้อนกลับไปตอนที่เราเจอกันตอนแรก คุณรู้ไหมว่าฉันจะทำอะไร?”
“ทำอะไร?” โล่เฟยเอ๋อถามด้วยความสงสัย
ซูซีมู่ไม่ได้พูดอะไร เขาเดินนำขึ้นไป ก่อนจะหันมาหาโล่เฟยเอ๋อ
โล่เฟยเอ๋อมองเขาด้วยความไม่เข้าใจ “ทำไมเหรอ?”
ซูซีมู่ส่ายหัว จากนั้นก็ยื่นมือออกไปหาโล่เฟยเอ๋อด้วยความมีมารยาท “สวัสดี ฉันชื่อซูซีมู่ พวกเรามาเป็นเพื่อนกันได้ไหม?”
โล่เฟยเอ๋ออึ้งไป จากนั้นจึงเข้ามาเล่นบทของตัวเอง
เธอจับมือของซูซีมู่ ก่อนจะพูด: “สวัสดี ฉันชื่อโล่เฟยเอ๋อ ดีใจที่ได้เป็นเพื่อนของคุณ”
เมื่อพูดจบ ทั้งสองคนก็ยิ้มให้กัน แต่ไม่ได้พูดอะไรลงไป……
เมื่อเหม่ออยู่ที่ถนนสักพัก ซูซีมู่กับโล่เฟยเอ๋อก็ไปที่ลานจอดรถ
เพิ่งจะเดินไปถึงลานจอดรถ ก็ได้ยินเสียงทะเลาะกันดังขึ้นมา
“ทำคอตกต่อหน้าเพื่อนของฉัน คุณหมายความว่าอะไร?” ผู้หญิงคนหนึ่งที่หน้าตาธรรมดา กำลังระบายอารมณ์ใส่ชายที่อายุยังน้อยแต่กลับมีใบหน้าซีดเซียว
ผู้ชายคนนี้คุ้นเคยกับโล่เฟยเอ๋อกับซูซีมู่ดี ก็ได้ อันที่จริงพูดได้ว่าเคยเป็นศัตรูหัวใจของซูซีมู่——กู้ชิงหลัน
โล่เฟยเอ๋อคิดไม่ถึง ว่าคนที่ดูโดดเด่นดูดีอย่างกู้ชิงหลัน จะกลายมาเป็นแบบนี้ได้
“ไม่ได้หมายความว่าอะไร” กู้ชิงหลันตอบเบาๆ
หญิงคนนั้นได้ยินสิ่งที่กู้ชิงหลันพูด ก็รีบเปลี่ยนไปเป็นคนงี่เง่า ก่อนจะปรี่เข้าไปหากู้ชิงหลัน “ก็ดี กู้ชิงหลัน ฉันให้สินสอดเยอะแยะกับคุณ แต่ตอนนี้คุณรังควานฉัน ทำแบบนี้กับฉัน……”
กู้ชิงหลันหน้าเคร่งขรึม ก่อนจะตะโกน: “ต่อหน้าคนเยอะขนาดนี้ คุณจะทำอะไร?”
“ฉัน……” หญิงคนนั้นถูกเขาทำให้ตกใจ ก่อนจะหยุดท่าทีนั้นลง
“มีอะไร กลับไปคุยกันที่บ้าน” กู้ชิงหลันพูดจบ ก็มองคนที่อยู่รอบๆ “มองอะไร?ไม่เคยเห็นสามีภรรยาทะเลาะกันหรือไง……”
เมื่อเห็นโล่เฟยเอ๋อที่อยู่ทางนั้น กู้ชิงหลันก็หยุดพูด “เฟยเอ๋อเหรอ?”
ตอนแรกโล่เฟยเอ๋อไม่คิดจะทักกู้ชิงหลัน กลับคิดไม่ถึงเลยว่ากู้ชิงหลันจะสังเกตเห็นเธอ……
ทำอะไรไม่ได้ เธอทำได้แค่เดินจูงมือซูซีมู่เข้าไป
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ รุ่นพี่กู้” โล่เฟยเอ๋อทักทายกับกู้ชิงหลันเสร็จ ก็เดินเข้าไปก้มหน้าทักทายผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ เขา
“เธอไม่ใช่……” ผู้หญิงที่อยู่ข้างกายกู้ชิงหลันชี้ไปทางโล่เฟยเอ๋อ ตอนที่เหมือนจะพูดอะไรออกมานั้น ก็ถูกกู้ชิงหลันดึงเอาไว้ “เธอเป็นรุ่นน้องของฉันที่มหาลัย”
หญิงคนนั้นหันกลับมามองกู้ชิงหลัน จากนั้นจึงพยักหน้าทักทายโล่เฟยเอ๋อ “สวัสดี”
ถึงแม้ว่าโล่เฟยเอ๋อจะรู้สึกแปลกๆ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ก่อนจะตอบกลับไปว่า ‘สวัสดี’