งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 452
บทที่ 452 เจตนาแอบแฝง
ถูกตีสนิทกะทันหันแบบนี้แน่นอนว่าโล่เฟยเอ๋อต้องรู้สึกทำตัวไม่ถูก เธอยิ้มตอบอย่างกระอักกระอ่วนว่า “รู้จักมาค่อนข้างนานแล้วค่ะ”
“จิ้งสวนก็จริงๆ เลย มีเพื่อนที่ดูดีขนาดนี้ก็ไม่แนะนำให้พี่รู้จักบ้าง……”
ยังพูดไม่ทันจบคำก็ถูกซือจิ้งสวนแย่งพูดขึ้นมาว่า:” ทำไมต้องแนะนำให้เธอรู้จัก?”
คำพูดนี้ทำให้ซือเหม่ยหยวนพูดต่อไม่ออก เธอมองซือจิ้งสวนด้วยความกระอักกระอ่วน ในตาก็แอบซ่อนความโกรธที่ไม่ง่ายต่อการสังเกตเห็น
“นี่ ทำไมแกยังอยู่ที่บ้าน? ซือเจิ้งหัวไม่ใช่ให้งานแกไปอยู่อย่างหนึ่งหรือไง แกคงไม่ใช่ตอบตกลงไปอย่างนั้นแต่ไม่ทำหรอกนะ”
แม่ซือถามอย่างไม่สบอารมณ์
ทั้งสองคนโจมตีตอกกลับซือเหม่ยหยวน ซือเหม่ยหยวนก็ไม่มีอะไรจะพูดจริงๆ
“คุณพ่อให้งานกับเธออย่างหนึ่งหรอคะ?” ซือจิ้งสวนพูดออกมาด้วยความรู้สึกตกใจเล็กน้อย ซือเหม่ยหยวนไม่มีความสามารถอันนี้เธอรู้แก่ใจดี
แม้แต่ใบรับรองมหาวิทยาลัยเธอก็ยังซื้อมาด้วยเงิน คนที่วันๆ ไม่ทำอะไร ไม่เอาถ่านแบบนี้จะมีความสามารถดูแลเรื่องของบริษัทได้ยังไง นี่ไม่ใช่หลอกบ้านตัวเองหรือไงกัน?
พอคิดถึงตรงนี้ ซือจิ้งสวนก็หัวเราะออกมาอย่างเย็นชา เธอพูดในเชิงซักถามว่า:” รับช่วงต่อเรื่องของบริษัท เธอคิดว่าเธอมีความสามารถนั้นหรอ?”
ซือเหม่ยหยวนถูกถามจนพูดไม่อะไรออก เธอเริ่มหลบสายตา เธอรู้ดีว่าซือจิ้งสวนรู้เรื่องของเธอทั้งหมด
แต่มาถึงจุดนี้แล้วเธอก็ได้แต่ต้องตีเนียนไปก่อน!
“เธอพูดอะไรฉันไม่เห็นจะเข้าใจ ฉันจบมาจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง ทำไมจะรับช่วงต่อไม่ได้!”
จนถึงตอนนี้แล้วเธอยังจะปากแข็งอีก เธอทำให้ซือจิ้งสวนรู้สึกอยากจะอ้วกเลย เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของบริษัทบ้านตัวเอง
ซือจิ้งสวนไม่ยุ่งไม่ได้ “ฉันจะบอกคุณพ่อให้เปลี่ยนคนรับช่วงต่อ”
“เธอมีสิทธิ์อะไร? เปลี่ยนเป็นใคร? เปลี่ยนเป็นเธอหรอ ต่อให้ฉันไม่มีความสามารถ แล้วเธอมีความสามารถรึไง?” ซือเหม่ยหยวนร้อนใจแล้ว ถ้าครั้งนี้เปลี่ยนเธอออก โอกาสที่เธอจะเข้าใกล้ซูซีมู่ได้ก็แทบจะไม่มีแล้วน่ะสิ
“ฉันก็ไม่ได้บอกว่าฉันมีความสามารถนั้น แต่ฉันก็ไม่เหมือนใครบางคน ไม่มีความสามารถก็ยังดื้อด้านจะไปรับช่วงต่อ ฉันไม่อยากให้บริษัทที่คุณพ่อสร้างขึ้นมาต้องมาจบลงที่เธอ!” ซือจิ้งสวนตอกกลับอย่างไม่ไว้หน้าเลยแม้แต่น้อย。
เพราะว่าซือเหม่ยหยวนอย่างไรก็เป็นแค่เด็กใหม่ บวกกับก็เป็นแค่ลูกสาวบุญธรรมของบ้านซือ ถ้าเกิดว่าไปพูดอะไรกับพ่อซืออีกล่ะก็มีความเป็นไปได้สูงมากว่าตัวเองจะถูกเปลี่ยน
นึกถึงตรงนี้ ซือเหม่ยหยวนก็ร้อนใจขึ้นมา สิ่งที่เธอถนัดที่สุดก็คือการแสร้งทำให้ดูน่าสงสาร แกล้งทำเป็นน่าสงสารแล้วพูดว่า “พวกเธอทำเกินไปแล้ว! ใครไม่ใช่เริ่มจากการเป็นเด็กใหม่กัน ฉันรู้ว่าเธอกับแม่เธอไม่ต้อนรับฉันมาตลอด แต่ก็ไม่ควรกีดกันความต้องการก้าวหน้าของฉัน!”
พูดอย่างกับภาษาคนอย่างงั้นแหละ……
ซือจิ้งสวนกลอกตามองบนสุดๆ คุณพ่อก็ไม่ได้อยู่ตรงหน้า ยัยซือเหม่ยหยวนจะมาแสดงละครอะไรต่อหน้าฉันกับแม่เนี่ย
“คุณซือคะ ในเมื่อพวกคุณเป็นครอบครัวเดียวกัน ฉันคิดว่าการอัดเสียงมันไม่สมควรเลยนะคะ” จู่ๆ โล่เฟยเอ๋อก็พูดออกมา
อัดเสียง!?
แม่ซือกับซือจิ้งสวนสะดุ้งตกใจพร้อมกัน ไม่นึกเลยว่ายัยซือจิ้งสวนจะอัดเสียง
จู่ๆ สีหน้าของซือเหม่ยหยวนก็ดูแย่ขึ้น แต่เธอก็ยังแกล้งโง่ เถียงกลับว่า:” อัดเสียง……อัดเสียงอะไร……ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอพูดถึงอะไร!”
คนอย่างซือเหม่ยหยวนจะอัดเสียงแล้วเอาไปให้คุณพ่อแล้วแสร้งทำเป็นน่าสงสาร เธอทำได้จริงๆ
พ่อซือก็เป็นคนดื้อรั้น แบบนี้มีแต่จะทำให้เคลือบแคลงใจว่าตัวเองกับแม่ซือรวมหัวกันกลั่นแกล้งซือเหม่ยหยวน ก็จะไม่เปลี่ยนเธอแล้ว
ซือจิ้งสวนค้นกระเป๋าเสื้อของซือเหม่ยหยวนอย่างหยาบคาย แน่นอนว่าซือเหม่ยหยวนไม่มีทางยอมเลยเอาแต่ถอยหนี
สุดท้ายยังคิดที่จะผลักซือจิ้งสวนอีก “เธอลองผลักฉันดูสิ! ตอนนี้ฉันเป็นผู้หญิงตั้งครรภ์ ถ้าฉันเป็นอะไรไป บ้านซือไม่ปล่อยเธอไว้แน่! บ้านเหซิงก็จะไม่ปล่อยเธอไว้ด้วย!”
ซือเหม่ยหยวนตกใจ เธอคิดไม่ถึงว่าซือจิ้งสวนออกไปครั้งนี้จะปากเก่งขึ้นขนาดนี้
สุดท้าย ซือจิ้งสวนก็ค้นเจอปากกาบันทึกเสียงบนตัวของซือเหม่ยหยวน
“แค่เรื่องที่เธอเป็นคนชอบใช้เล่ห์กลอุบาย ก็สามารถเปลี่ยนเธอออกได้แล้ว! จริงสิ แม่คะ ครั้งนี้คือร่วมมือกับบริษัทอะไรหรอคะ ซือเหม่ยหยวนถึงได้ลงทุนขนาดนี้ อย่าบอกนะว่าคือเล็งประธานของบริษัทนั้นไว้น่ะ!”
ถึงแม้คำพูดของซือจิ้งสวนจะไม่น่าฟังแต่ก็พูดแทงใจดำของซือเหม่ยหยวน ซือเหม่ยหยวนรีบเถียงกลับ:” เธออย่ามาใส่ร้ายฉันนะ! ถ้าเธอยังพูดอย่างงี้อีกฉันจะฟ้องคุณพ่อ!”
“แกฟ้องแล้วยังไง จิ้งสวนต่างหากที่เป็นลูกสาวแท้ๆ!” แม่ซือช่วยพูดอีกแรง
ซือเหม่ยหยวนโดนตอกกลับจนพูดไม่ออก เธอมองสองแม่ลูกคู่นี้แล้วถึงกับพูดต่อไม่ถูก
“ฉันจำได้ว่าครั้งนี้ที่ซีมู่ร่วมมือด้วยก็คือบริษัทซือซื่อ” โล่เฟยเอ๋อพูด
“อ๋า~ ฉันว่าละ มิน่าละเธอถึงรุกหนักขนาดนี้ ฉันจะบอกอะไรเธอให้นะ ภรรยาที่ประธานของบริษัทซูซื่อซูซีมู่แต่งโดยถูกต้องตามหลักประเพณีอยู่ตรงนี้!” ซือจิ้งสวนตบบ่าของโล่เฟยเอ๋อแล้วพูดเตือนว่า
“แล้วอีกอย่าง เธอก็ไม่ดูออร่ากับหน้าตาของเธอสองคนเลยนะ ต่างกันราวฟ้ากับเหว” ซือจิ้งสวนพูดต่อ
เหมือนที่เขาบอกว่า คู่ปรับด้านความรักมาเจอกันแล้วจะแสดงท่าทีโกรธแค้นใส่กัน โล่เฟยเอ๋อมองซือเหม่ยหยวน เธอไม่รู้ว่าจุดประสงค์ที่ซือเหม่ยหยวนทำโครงการนี้ก็เพราะอยากเข้าใกล้ซูซีมู่รึเปล่า แต่สามีของตัวเองโดนเล็งก็ต้องรู้สึกไม่ชอบใจอยู่แล้ว
ซูซีมู่แต่งงานแล้ว……มีภรรยาแล้ว……
ซือเหม่ยหยวนรู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่า ตั้งแต่ที่เธอเจอซูซีมู่ก็ไม่อาจลืมเลือนได้เลย เธอหวังมากขนาดไหนที่จะได้อยู่ร่วมกับผู้ชายที่ดีเลิศแบบนั้นได้
แต่เขาแต่งงานแล้ว กับผู้หญิงคนอื่น……
ความคิดวิปริตรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในจิตใจของซือเหม่ยหยวน เธอดูใบหน้าที่ประณีตของโล่เฟยเอ๋อก็มีความเคียดแค้นแวบเข้ามาในใจ
แต่เธอก็แสร้งทำเป็นไม่รู้สึกอะไร เพราะผู้ชายก็ชอบความรู้สึกแปลกใหม่กันทั้งนั้น ถ้าแย่งมาได้ก็ไม่แน่ว่าซูซีมู่จะเลือกใครหรอกนะ
“น้องก็รู้จักล้อเล่นนะ เธอมีความคิดแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าพี่จะมีความคิดแบบนี้ด้วยนะ แล้วอีกอย่าง เธอแต่งงานแล้วก็ไม่เป็นที่ชื่นชอบของเหซิงโม่ไม่ใช่หรอ? ไม่งั้นเธอจะหนีออกจากบ้านทำไม? กำลังจะเป็นแม่คนอยู่แล้วยังปัญญาอ่อนขนาดนี้อีก! แต่ก็บังเอิญจังเลยเนอะ ฉันกับพี่สาวคนนี้มีพรหมมีลิขิตต่อกัน ฉันร่วมมือกับบริษัทสามีคุณ แล้ววันนี้พวกเราก็มาเจอกันอีก นี่ไม่ใช่
พรหมลิขิตจะเป็นอะไรได้อีกล่ะจริงไหม?” ซือเหม่ยหยวนตอกกลับซือจิ้งสวนเสร็จก็หันไปเปลี่ยนเป็นหน้ายิ้มใส่โล่เฟยเอ๋อ
โล่เฟยเอ๋อเองยังรู้สึกอึดอัดใจ ซือเหม่ยหยวนชอบมาตีสนิทตัวเองทั้งต่อหน้าและลับหลัง……
“บังเอิญ……” โล่เฟยเอ๋อตอบกลับอย่างกระอักกระอ่วน และจากสนทนาของซือเหม่ยหยวนกับซือจิ้งสวน เธอก็รู้สึกได้ลางๆ ว่าซือเหม่ยหยวนไม่น่าไว้ใจ คำพูดทุกคำที่เธอพูดล้วนมีความหมายแฝงทั้งนั้น
ช่วงเวลาที่เธออยู่กับซือจิ้งสวนมานี้ก็รู้สึกได้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ดี สามารถทำให้ซือจิ้งสวนรู้สึกต่อต้านได้ขนาดนี้ คาดว่าซือเหม่ยหยวนจะต้องมีเจนตาแอบแฝงจริงๆ