งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 456
บทที่456 แกล้งโง่จนถึงที่สุด
“อืม ฉันไม่เป็นไร ฉันอยู่ที่ร้านกาแฟนอร์ธัมในใจกลางเมือง รอคุณอยู่นะ” โล่เฟยเอ๋อพูดอย่างอ่อนหวาน จากนั้นก็วางสายไป
เธอยังแกล้งเปิดลำโพงอย่างตั้งใจ เพื่อให้ซือเหม่ยหยวนที่ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีได้ยิน
ฟังจากน้ำเสียงที่พูดคุยกันก็ฟังออกว่า ความสัมพันธ์ระหว่างซูซีมู่กับโล่เฟยเอ๋อนั้นดีมาก
ซือเหม่ยหยวนอิจฉาจนอยากจะบีบคอโล่เฟยเอ๋อให้ตาย เธอไม่แล้วใจ ที่ผู้ชายที่ดีพร้อมขนาดนี้มีภรรยาไปสักแล้ว เธอแอบสาบานในใจว่าจะต้องแย่งมาให้ได้!
ไม่นาน ซูซีมู่ก็มาถึง ทันทีที่เข้าร้านกาแฟมาก็มองเห็นโล่เฟยเอ๋อแล้ว
เพราะภาพลักษณ์ของเธอนั้นดูสะดุดมาก
“ที่รัก!”
ซูซีมู่ยังไม่ทันเดินไปถึงตรงหน้า โล่เฟยเอ๋อก็ร้องเรียกอย่างอ่อนหวาน
เขาเห็นว่าข้างๆ ของโล่เฟยเอ๋อยังมีซือเหม่ยหยวนที่นั่งอยู่ เขาขมวดคิ้ว เขารู้สึกเหมือนจะเคยผู้หญิงคนนี้มาก่อน แต่ก็นึกไม่ออกว่าเป็นใคร
เพราะว่าเขาไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนนอกจากโล่เฟยเอ๋อ
“มีอะไรเหรอ?” ซูซีมู่ไม่ได้สนใจซือเหม่ยหยวน พูดถามขึ้น
“ไม่มีอะไร ที่ฉันเรียกคุณเพราะอยากจะถามว่าคุณยินดีที่จะให้ฉันเป็นเพื่อนกับเธอไหม?” โล่เฟยเอ๋อเริ่มแกล้งทำเป็นไร้เลียงสา
เมื่อได้ยินโล่เฟยเอ๋อพูดถึงซือเหม่ยหยวน ซูซีมู่ถึงได้มองไปทางซือเหม่ยหยวนทีหนึ่ง
จากประสบการณ์ที่เจอคนมานับไม่ถ้วน แวบแรกที่เขาเห็นผู้หญิงคนนี้ ในใจก็รู้สึกไม่ค่อยถูกชะตาสักเท่าไร: “ห้ามคุณคบ ”
และท่าทางของโล่เฟยเอ๋อก็ดูแปลกๆ จากที่เขารู้จักโล่เฟยเอ๋อ ก็เดาได้เลยว่าโล่เฟยเอ๋อกำลังเล่นละครตบตาอยู่
“ทำไมล่ะที่รัก?แต่ว่าเธออยากเป็นเพื่อนกับฉันมากเลยนะ คุณไม่ลองคิดดูสักหน่อยเหรอ?” โล่เฟยเอ๋อยังคงพูดอย่างจริงจัง
“ผมบอกว่าห้ามคบ,ก็คือห้ามคบ ” ซูซีมู่พูดด้วยน้ำเสียงที่เข็มงวด
เมื่อได้ยินแบบนั้น โล่เฟยเอ๋อก็อดไม่ได้ที่ดีใจ ซูซีมู่นี้เข้าใจตัวเองจริงๆ ให้ความร่วมมือได้ดีเป็นอย่างมาก!
“ก็ได้ คุณซือ ต้องขอโทษจริงๆ นะค่ะ สามีฉันไม่อนุญาตให้ฉันคบกับคุณ ” โล่เฟยเอ๋อก็ยังคงพูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง
หลังจากที่ซือเหม่ยหยวนได้เจอซูซีมู่อีกครั้ง ก็ไม่เคยละสายตาจากใบหน้าของเขาเลย และจมอยู่ในโลกแห่งจินตนาการของตัวเองตลอด
ทันใดนั้นคำพูดหนึ่งของโล่เฟยเอ๋อก็ได้ดึงเธอออกมาจากโลกแห่งจินตนาการนั้น ในใจเธอมีความไม่แล้วใจและไม่พอใจอยู่มากมายอย่างนับไม่ถ้วน
ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าคนนี้มีเพียงรูปลักษณ์ที่ดูดีเท่านั้นแท้ๆ ทั้งโง่ทั้งไม่ฉลาดทำไมถึงได้ผู้ชายที่ดีพร้อมอย่างซูซีมู่ไปนะ
“คุณซู ฉันเป็นคนที่รับผิดชอบการร่วมมือของบริษัทซือซื่อในครั้งนี้ เราเคยเจอกันเมื่อครั้งก่อน ฉันคิดว่าคุณน่าจะพอจำได้ ” ซือเหม่ยหยวนเริ่มที่จะแสดงตัวต่อหน้าซูซีมู่
“ผมจำไม่ได้ ” คำพูดของซูซีมู่ ทำให้เธอถึงกับไปไม่ถูก
โล่เฟยเอ๋อรู้สึกสะใจเป็นอย่างมาก ไม่เสียแรงที่เป็นสามีเธอ ฝีมือในการหักหน้าคนอื่น ดีเยี่ยม!
“เอ่อ……ไม่เป็นไรคุณต้องจัดการเรื่องมากมายในแต่ละวันคงจะยุ่งน่าดู?ฉันคิดว่าเรายังมีโอกาสที่จะได้ร่วมงานกันอีกเยอะ ” ซือเหม่ยหยวนฝืนทนความอับอายไว้แล้วหาเรื่องคุยต่อไป
ทำแบบนี้ต่อหน้าภรรยาเขาได้ก็ถือว่าเก่งเลยทีเดียว!
“การร่วมมือในครั้งนี้โจวเฉิงเป็นคนรับผิดชอบ คุณคอยประสานกับเขาก็พอแล้ว แต่ก็ต้องระวังการกระทำด้วย เขามีแฟนแล้ว ” ซูซีมู่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
แม้กระทั่งโล่เฟยเอ๋อยังดูออกว่าซือเหม่ยหยวนคนนี้ตั้งใจที่จะเข้าหาซูซีมู่ แล้วซูซีมู่จะดูไม่ออกได้ยังไง เขาพูดด้วยน้ำเสียที่ตักเตือน
“……”
ถูกซูซีมู่พูดไปแบบนั้น,ซือเหม่ยหยวนก็ถึงกับพูดอะไรไม่ออก
“ผมจำได้ว่าคุณน่าจะไม่ชอบอาหารร้านนี้นะ ไปเถอะ ผมพาคุณกลับบ้าน ผมจะทำให้คุณเอง ” ซูซีมู่จูงมือโล่เฟยเอ๋อเดินออกไปจากร้าน ด้วยไม่หันหลังมาเลยสักนิด
ซูซีมู่ชั่งรู้จักเธอมากจริงๆ การแสดงนี้ ให้คะแนนเต็มสิบเลย!
โล่เฟยเอ๋อยังแกล้งทำเป็นพูดอย่างเสียใจว่า: “ลาก่อนนะค่ะคุณซือ~”
ซือเหม่ยหยวนโกรธจนอกแทบจะระเบิด,หลังจากที่ทั้งสองเดินออกจากร้านไป เธอก็เขวี้ยงคาปูชิโน่แก้วหนึ่งลงพื้นอย่างลืมตัว
คนที่อยู่ในร้านกาแฟมีอยู่แค่ไม่กี่คน แต่ว่าทุกคนต่างมองมาทางเธอด้วยสายตาแปลกใจ
รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้เป็นบ้าอะไร
พนักงานก็ตกใจ การที่ลูกค้าโวยวายกะทันหันเป็นเรื่องที่พวกเธอกลัวมากที่สุด
เธอรีบเดินไปตรงหน้าซือเหม่ยหยวนแล้วพูดว่า: “คุณผู้หญิงเราทำอะไรให้ไม่พอใจหรือเปล่าค่ะ?คุณสามารถพูดออกมาได้ ”
ซือเหม่ยหยวนไม่พูดอะไรแค่ยื่นเงินให้กับพนักงาน แล้วเดินออกไปอย่างโมโห
และโล่เฟยเอ๋อก็ยิ้มไม่หยุดตลอดระหว่างทางกลับบ้าน แต่ซูซีมู่กลับบึ้งตึงตลอดทาง แล้วพูดว่า: “คราวหน้าไม่เล่นเกมแบบนี้เป็นเพื่อนคุณแล้ว ”
“ก็ได้~เลิกโกรธได้แล้ว มีคนเฝ้าคิดถึงสามีฉัน ฉันก็ต้องรีบแสดงความเป็นเจ้าของสิ ถูกไหม?” โล่เฟยเอ๋อที่นั่งอยู่บนบ่อข้างคนขับก็แกล้งขยับเข้าใกล้ซูซีมู่แล้วพูด
ถึงแม้ว่าวันนี้ซูซีมู่จะค่อนข้างอึดอัดใจ แต่ความจริงแล้วในใจเขาก็รู้สึกดีมาก
“ผมไม่มีทางนอกใจคุณหรอก ” ซูซีมู่ตอบกลับเพียงประโยคสั้นๆ เพื่อแสดงความจริงใจที่มีต่อโล่เฟยเอ๋อ
“เห่อ~ฉันรู้ว่าไม่มีทางทำแบบนั้น แต่ว่า คนที่ฉันชอบถูกคนอื่นเฝ้าคิดถึง ฉันก็ต้องรู้สึกไม่สบายใจอยู่แล้ว!” โล่เฟยเอ๋อพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวาน
หลังจากที่คลอดลูกสาว โล่เฟยเอ๋อก็ยิ่งติดซูซีมู่มากขึ้น
ความรักความเอ็นดูที่ซูซีมู่มีให้ฉิงฉิง โล่เฟยเอ๋อเห็นอยู่กับตา ในใจเธอถึงขั้นหึงลูกสาวของตัวเองบาปกรรมจริงๆ
จะว่าไป ตัวซูซีมู่เองก็ชอบที่โล่เฟยเอ๋อติดตัวเองแบบนี้มากเหมือนกัน
“ใช่แล้ว ถ้ามีเวลาคุณก็ให้โจวเฉิงหยุดหน่อย ตอนนี้เขากับยุ่นเอ๋ออยู่ด้วยกันแล้ว ทางด้านยุ่นเอ๋อก็มาร้องเรียนกับฉันทุกวันว่าคุณใช้โจวเฉิงหนักไป!”
ฟังจบ ซูซีมู่เงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น: “ผมจะเพิ่มเงินเดือนให้เขา ”
“นี้มันไม่เกี่ยวกับเรื่องของเงินเดือน ยุ่นเอ๋ออยากให้โจวเฉิงมีเวลาอยู่เป็นเพื่อน ” โล่เฟยเอ๋อพูดเน้นย้ำ
“แต่ถ้าเป็นแบบนั้น ผมก็อยู่เป็นเพื่อนคุณไม่ได้นะสิ ” ยังไงประธานซูก็คือประธานซู พูดจาเอาแต่ใจเหมือนเดิม แค่สั้นๆ ไม่มีเหตุผลมากไปกว่านั้น
คำที่โต้กลับมานั้นทำให้โล่เฟยเอ๋อถึงกับพูดไม่ออก ถ้าอย่างนั้นตอนนี้คงต้องลำบากยุ่นเอ๋อกับโจวเฉิงผู้น่าสงสารทั้งสองแล้ว เพราะยังไงลึกๆ แล้วโล่เฟยเอ๋อก็อยากให้ซูซีมู่อยู่เป็นเพื่อนตัวเองเยอะๆ
หลังจากนั้นไม่นาน ซูซีมู่ก็พูดเสริมขึ้น: “ผมจะส่งคนไปคอยช่วยงานโจวเฉิง แบบนั้นความกดดันของเขาก็จะลดน้อยลงไปบ้าง ”
ถึงแม้ว่าภายนอกซูซีมู่จะดูเย็นชา ไม่ชอบแสดงออก แต่ในใจของเขากลับเต็มไปด้วยความอบอุ่น คำพูดที่ช่วยเหลือคนเขามักพูดมันไม่ค่อยออก หลายปีมานี้โล่เฟยเอ๋อเข้าใจในจุดนี้ของเขามาก
“ตกลง ซูยุ่นจะต้องดีใจจนน้ำตาไหลแน่ๆ แบบนั้นฉันก็จะได้ไม่ต้องคอยฟังเสียงข้อความของเธอแล้ว ” โล่เฟยเอ๋อพูดอย่างหยอกล้อ
“ทางฝั่งเหซิงโม่เป็นยังไงบ้าแล้ว?” ในน้ำเสียงของซูซีมู่แสดงออกถึงความหวังใย
“เขาเหรอ,จิ้งสวนก็ถูกเขาตามกลับมาแล้ว และจากการช่วยเหลือที่กล้าหาญของเขาเลยทำให้จิ้งสวนยอมให้อภัย และดีใจมาก!” โล่เฟยเอ๋อพูดด้วยรอยยิ้ม