งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 62
บทที่ 62 ภาพสเก็ตซ์รูปผู้ชาย
ตอนที่โล่เฟยเอ๋อกับหซิวหชูเฉียวมาถึงสถานีตำรวจ ตำรวจที่ดำเนินคดีก็กำลังรอพวกเธออยู่แล้ว
หลังจากทำการแนะนำตัวเสร็จ ตำรวจก็พาพวกเธอไปดูทรัพย์สินของโล่เฟยเอ๋อ
“ พวกเราหากระเป๋าเจอจากที่ที่คนร้ายอยู่ครับ เดิมในกระเป๋ามีโทรศัพท์ เงินสด พวกบัตรต่างๆ แล้วก็ไม่มีแล้วครับ ตามที่คนร้ายให้สารภาพ โทรศัพท์ได้นำไปขายต่อแล้ว เงินสดก็ใช้หมดแล้ว บัตรธนาคารถูกอายัด จึงกดเงินออกมาไม่ได้ จึงทิ้งไป ของที่เหลือก็มีแค่หลักฐานพวกนี้ครับ ยังมีสมุดเล่มนี้อีกอย่าง ” ตำรวจพูดไปด้วยและส่งของให้โล่เฟยเอ๋อไปด้วย
โล่เฟยเอ๋อรับของมา และพูดขอบคุณตำรวจ “ ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะคุณตำรวจ ”
เดิมทีโล่เฟยเอ๋อนึกไม่ถึงว่าจะสามารถได้กระเป๋าคืนมา ถึงแม้ว่าเงินสดกับโทรศัพท์จะหายไปแล้ว แต่หลักฐานสำคัญของเธอยังอยู่ จึงไม่ต้องไปทำใหม่ ยังมีหนังสือภาพของเธออีกอัน ด้านในมีต้นฉบับการออกแบบที่เธอวาดด้วยตัวเองมาตลอดหลายปี
โล่เฟยเอ๋อเปิดหนังสือภาพออกมา พลิกไปมา พลิกจนถึงหน้าสุดท้าย คือภาพสเก็ตซ์รูปซูซีมู่
นี่เป็นภาพที่เธอไม่ได้ตั้งใจจะวาดขึ้นมา เดิมทีคิดจะโยนทิ้ง ต่อมาก็ไม่ได้ทิ้ง จึงสอดไว้ในสมุดภาพ
โล่เฟยเอ๋อยื่นมือออกมาลูบคนที่อยู่บนภาพเบาๆ มุมปากค่อยๆยกขึ้น
“ เฟยเอ๋อ เธอกำลังดูอะไรน่ะ…… ” หซิวหชูเฉียวที่นั่งอยู่ข้างๆโล่เฟยเอ๋อ อยู่ๆก็เห็นโล่เฟยเอ๋อมองสิ่งของบนมือยิ้มๆ จึงยื่นหัวออกมาดูด้วยความสงสัย
“ ไม่มีอะไร ” ได้ยินคำถามของหซิวหชูเฉียว โล่เฟยเอ๋อก็รีบปิดสมุดภาพบนมืออย่างรวดเร็ว แต่ก็สายไปเสียแล้ว เพราะหซิวหชูเฉียวเห็นภาพสเก็ตซ์ด้านในแล้ว “ เฟยเอ๋อ ฉันเห็นแล้วแหละ……ภาพสเก็ตซ์ของผู้ชายคนหนึ่ง…… ”
เพราะว่าโล่เฟยเอ๋อเก็บอย่างรวดเร็ว หซิวหชูเฉียวจึงไม่ทันได้เห็นหน้าตาของคนที่อยู่บนภาพอย่างชัดเจน รู้แค่ว่าเป็นผู้ชาย
คำพูดของหซิวหชูเฉียวยังพูดไม่เสร็จ ก็ถูกโล่เฟยเอ๋อปิดปากเธอไว้เสียก่อน
บนมือของผู้หญิงคนนึง มีภาพสเก็ตซ์ของผู้ชาย ประโยคนี้ทำไมฟังแล้วยิ่งชวนให้เข้าใจผิดละ!
มองสีหน้าแปลกประหลาดบนใบหน้าของตำรวจที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็รู้แล้ว
“ งั้น……พวกเรากลับก่อนนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ ” โล่เฟยเอ๋อพูดกับตำรวจคนนั้น
หลังจากที่ตำรวจคนนั้นใช้สายตาที่แปลกประหลาดมองโล่เฟยเอ๋อ และได้พูดตอบขึ้นมา “ ไม่เป็นไรครับ มันเป็นสิ่งที่พวกเราควรทำอยู่แล้ว ”
โล่เฟยเอ๋อหน้าร้อน และไม่อยู่นาน เธอดึงมือของหซิวหชูเฉียวเดินออกไปจากห้องทำงาน
จนมาถึงด้านนอกสถานีตำรวจ ในที่สุดหซิวหชูเฉียวก็ได้ถามขึ้นมาอย่างอดใจไม่ไหว “ คนคนนั้นคือใคร? ฉันเห็นไม่ชัด ”
โล่เฟยเอ๋อตอบอย่างรู้สึกเก้อเขินเล็กน้อย: “ ไม่มีใคร ”
หซิวหชูเฉียวยิ่งมองสีหน้าของโล่เฟยเอ๋อ ก็ยิ่งรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง ในตอนท้ายเธอก็ได้พูดถามขึ้นอย่างตกใจ: “ คงไม่ใช่คนที่อยู่ในใจเธอหรอกใช่ไหม? ”
โล่เฟยเอ๋อหน้าแดงนิดหน่อย และพยักหน้าขึ้นลง “ อือ ”
เห็นโล่เฟยเอ๋อยอมรับ ตาของหซิวหชูเฉียวก็เป็นประกายทันที “ ให้ฉันดูหน่อย ฉันยังไม่เคยเห็นหน้าตาของคนที่อยู่ในใจเธอเลยนะ ”
โล่เฟยเอ๋อพูดอย่างลังเลนิดหน่อย: “ อันนี้ ไม่ต้องดูหรอก ”
“ ดูหน่อยน่า ” หซิวหชูเฉียวกระพริบตาอย่างจริงใจ
เธอรู้ฝีมือด้านการวาดภาพของโล่เฟยเอ๋อ ภาพสเก็ตซ์นั้นคงต้องเหมือนกับคนจริงๆอย่างแน่นอน เธอไม่เคยเห็นคนจริงๆ ดังนั้น เธอจะต้องเห็นภาพสเก็ตซ์นี้ให้ได้
“ ก็ได้ ” สุดท้ายโล่เฟยเอ๋อก็เปิดสมุดภาพอย่างไม่ค่อยเต็มใจ
ตอนหซิวหชูเฉียวเห็นภาพสเก็ตซ์รูปซูซีมู่ที่อยู่ในสมุดภาพ ก็ตกใจไปทันที
“ เฟยเอ๋อ เธอคงไม่ได้วาดรูปของผู้ชายที่อยู่ในใจเธอออกมาใช่ไหม? ” อย่าโทษที่หซิวหชูเฉียวมีความคิดแบบนี้ ใบหน้าของผู้ชายที่อยู่บนภาพวาดนั้น ช่างประณีตและงดงามมากจริงๆ ค่อนข้างตกตะลึงมาก!
ได้ยินคำพูดของหซิวหชูเฉียว โล่เฟยเอ๋อก็มีสีหน้าเก้อเขิน “ ไม่ใช่สักหน่อย ตัวจริงดูดีกว่านี้ เพียงแต่ฝีมือการวาดภาพของฉันไม่ดี จึงวาดออกมาไม่เหมือนตัวจริง ”
หซิวหชูเฉียวเชื่อที่โล่เฟยเอ๋อบอกว่าคนที่อยู่บนภาพคือคนในใจของโล่เฟยเอ๋อ แต่ไม่เชื่อที่โล่เฟยเอ๋อบอกว่าเธอวาดไม่เหมือนตัวจริง ถึงอย่างไรคนบนภาพก็สมบูรณ์แบบแล้วจริงๆ เพียงแค่เย็นชาไปหน่อย
“ เขาเป็นคนเย็นชาใช่ไหม? ”
คนเย็นชาดีกับเธอมาก ดีมากๆ……แต่กลับไม่ใช่ความดีแบบที่เธอต้องการน่ะสิ!
หซิวหชูเฉียวรอสักพัก ก็ไม่ได้ยินการเคลื่อนไหวใดๆของโล่เฟยเอ๋อ จึงหันหัวไปมองโล่เฟยเอ๋ออย่างอดไม่ได้
เห็นเด็กผู้หญิงเอียงหัวมองไปนอกหน้าต่าง ความโศกเศร้าที่อยู่ในตา ราวกับค่ำคืนที่กำจัดออกไปไม่ได้……
หลังจากที่ซูซีมู่เดินออกมาจากห้องอาหาร ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาโล่เฟยเอ๋ออย่างเคยชิน
กดโทรออก พบว่าเธอปิดเครื่อง ถึงได้นึกออกว่าโทรศัพท์ของโล่เฟยเอ๋อถูกขโมยไป ยังจัดการไม่เสร็จที
ซูซีมู่โยนโทรศัพท์ไปบนเบาะข้างคนขับ หลังจากนั้นก็หักพวงมาลัยไปทาง ห้างสรรพสินค้า อย่างชำนาญ
หลังจากที่ซูซีมู่ เดินเข้าไปใน ห้างสรรพสินค้า แล้ว ก็ได้เดินตรงไปที่แผนกเครื่องใช้ไฟฟ้าทันที
ซูซีมู่เลือกหน้าร้านที่ป้ายร้านค้าค่อนข้างใหญ่และเดินเข้าไป หลังจากนั้นก็ยืนมองหน้าตู้สินค้าช้าๆ
พนักงานผู้หญิงสองคนที่อยู่หน้าตู้สินค้า มีคนนึงเดินเข้ามาถามซูซีมู่อย่างมีมารยาท “ คุณผู้ชาย ไม่ทราบว่าคุณต้องการจะซื้อโทรศัพท์หรือเปล่าคะ? ”
ซูซีมู่ยังไม่ได้พูดตอบ เพื่อนร่วมงานที่ยืนอยู่ข้างพนักงานผู้หญิงคนนั้นได้ผลักเธอออกมา
เธอชายตามองซูซีมู่ไปด้วย และพูดถามไปด้วย “ คนหล่อ ต้องการซื้อโทรศัพท์หรอคะ? ”
ผู้ชายคนนี้ใส่เสื้อผ้ามีราคา แถมยังหล่อมากๆอีกด้วย ต้องต้อนรับให้ดีหน่อย
ซูซีมู่ขมวดคิ้ว ไม่พูดอะไร
พนักงานผู้หญิงคนนั้นทำเสียงออดอ้อน: “ คนหล่อ ดูสิ นี่เป็นโทรศัพท์สำหรับผู้ชายที่เพิ่งออกใหม่ของทางร้านเรา…… ” ครั้งนี้ พนักงานผู้หญิงคนนั้นยังพูดไม่เสร็จ ซูซีมู่ก็ได้พูดขัดจังหวะเธอเสียก่อน
“ หุบปาก ” ซูซีมู่มองเธอคนนั้นอย่างเยือกเย็น หลังจากนั้นก็เดินถอยห่าง และได้โบกมือเรียกพนักงานผู้หญิงคนก่อนหน้า
พนักงานผู้หญิงคนนั้นเดินมาหา และพูดถามอย่างมีมารยาท “ คุณผู้ชาย ต้องการให้ช่วยอะไรคะ ”
ซูซีมู่พูดนิ่งๆ: “ รุ่นสำหรับผู้หญิงที่ดีที่สุด ”
“ ได้ค่ะ ” พนักงานผู้หญิงพยักหน้า และหยิบโทรศัพท์สองสามเครื่องจากในตู้สินค้า ออกมาจัดวางบนตู้ “ สองสามยี่ห้อนี้คือโทรศัพท์สำหรับผู้หญิงที่ขายดีที่สุดในตอนนี้ค่ะ…… ”
ซูซีมู่เพิ่งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจากตู้ โทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงของเขาก็ดังขึ้นมา
เขาฟังไปด้วย และรับโทรศัพท์อย่างลวกๆไปด้วย
“ อือ? ”
“ ประธานซู เกิดเรื่องที่สำนักงานใหญ่ คุณดูว่าจะประชุมวีดีโอหน่อยไหม? ”
ซูซีมู่หยิบโทรศัพท์ที่พนักงานผู้หญิงแนะนำขึ้นมาหนึ่งเครื่อง และส่งเสียงอือออกมา
โจวเฉิงคิดว่าซูซีมู่ขานตอบเขา จึงรีบถามอย่างรวดเร็ว “ งั้นผมจะรีบไปจัดการ คุณจะมาถึงบริษัทตอนไหน? ”
ซูซีมู่ไม่ได้ตอบคำถามของโจวเฉิง เขาทำเพียงถามพนักงานผู้หญิงนิ่งๆ “ รุ่นไหนดีที่สุด? ”
“ อะไรคือรุ่นไหนดีที่สุด? ” โจวเฉิงรู้สึกงงเล็กน้อย
มีเสียงเลือนรางของผู้หญิงดังมาจากโทรศัพท์ของซูซีมู่ตลอด “ เว็บไซต์ของทางราชการระดับสากลแสดงผลว่า AL กับ HW คือสินค้าชั้นบนสุดค่ะ ”
AL? กับ HW? ไม่ใช่ยี่ห้อโทรศัพท์หรอกหรอ? ประธานซูซื้อโทรศัพท์? โจวเฉิงตกตะลึงไปทันที!
เพราะเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องที่ผู้ช่วยอย่างเขาต้องทำ ทำไมประธานซูถึงได้ไปซื้อด้วยตัวเองละ?
หรือว่าประธานซูไม่พอใจโทรศัพท์รุ่นที่ตัวเองซื้อให้เขาเมื่อครั้งก่อน และอยากเปลี่ยน?
โจวเฉิงพูดถามอย่างระมัดระวัง “ ประธานซู คุณกำลังซื้อโทรศัพท์อยู่หรอ? ”
ซูซีมู่ไม่ได้ตอบคำถามของโจวเฉิง ทำเพียงแค่ถาม “ เลือกรุ่นไหนดี? ”
หลังจากที่โจวเฉิงลังเลใจอยู่สองวิ จึงพูดขึ้น: “ ประธานซู โทรศัพท์คุณรุ่น AL ถ้าอยากเปลี่ยน ก็เปลี่ยนเป็น HW …… ”
ซูซีมู่ไม่รอให้โจวเฉิงพูดเสร็จ ก็หันไปพูดกับพนักงานร้าน: “AL สีขาว ”
ไม่ใช่ว่าประธานซูจะเปลี่ยนโทรศัพท์หรอกหรอ? ทำไมยังเลือก AL สีขาวละ? โจวเฉิงชะงักไป หลังจากนั้นก็ได้พูดถามขึ้น “ ประธานซู คุณจะมาบริษัทตอนไหน? ”
“ ไม่ไป ” ซูซีมู่ตอบเขาไปตรงๆ
ได้ยินซูซีมู่พูดว่าไม่ไป โจวเฉิงก็ใกล้จะร้องแล้ว สุดท้ายเขาจึงใช้หลักการพูดให้เขาเข้าใจ และใช้อารมณ์ควบคู่ไปด้วย ในที่สุดซูซีมู่ก็ส่งเสียงอือออกมา